sagime
ดู Blog ทั้งหมด

คู่มือ “หม่ำ” ขนมไหว้พระจันทร์

เขียนโดย sagime
 


  ทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ ชาวจีนทั่วโลกต่างร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ...สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ แต่จะทานขนมไหว้พระจันทร์ทั้งทีก็ต้องพิถีพิถันกันหน่อย
       
       ทานของใหม่ไม่ทานของเก่า – ขนมไหว้พระจันทร์นั้นประกอบไปด้วยไขมันจำนวนมาก หากเก็บดองเอาไว้นานก็ไม่ค่อยดีแน่ ไขมันในขนมไหว้พระจันทร์ "เก่า" จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจนกลายเป็นกรด ทำให้สูญเสียรสชาติดั้งเดิมไป ทางที่ดีซื้อแล้วทานเลยดีที่สุด
       
       ทานน้อยอย่าทานมาก – ขนมไหว้พระจันทร์มีทั้งไขมันและน้ำตาลไม่น้อย หากทานเยอะไปจะทำให้อิ่มเร็ว ท้องอืด ระบบย่อยไม่ดี ความอยากอาหารลดลง น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง เด็กและผู้สูงอายุไม่ควรทานเยอะ
       
       ทานเช้าไม่ทานเย็น – ทานขนมไหว้พระจันทร์ทางที่ดีควรทานตอนเช้าหรือกลางวัน ตอนเย็นอย่าทานมากหรือไม่ควรทานเลย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะตามหลักโภชนาการทั่วไป มื้อเย็นควรรับประทานอาหารเบา ย่อยง่าย ดังนั้นควรเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก เพราะไขมันจะตกค้างในกระเพาะอาหารนานกว่าอาหารหมู่อื่นๆ ทำให้ท้องอืด ยิ่งหากไขมันสะสมนานเข้า อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว ฯลฯ
       
       ทานเค็มก่อนทานหวาน – ขนมไหว้พระจันทร์โดยทั่วไปมีรสเค็มกับหวาน หากจะทานขนมที่มีรสแตกต่างในคราเดียวกัน แนะนำให้ทานเค็มก่อนทานหวาน เช่นนี้แล้วจะทำให้สามารถลิ้มรสชาติขนมได้อย่างเต็มที่ ไม่ผิดเพี้ยน หากมี 4 รส หวาน เค็ม คาว เผ็ด ควรทานไส้คาวก่อนแล้วค่อยตามด้วย เค็ม หวาน และเผ็ด
       
       ทานขนมร่วมจิบชา - การรับประทานขนมไหว้พระจันทร์รสหวานไปพลาง จิบชาดอกไม้ไปพลาง จะช่วยเพิ่มรสความหอมหวานเป็นเท่าตัว และสำหรับขนมไหว้พระจันทร์รสเค็ม เหมาะเจาะอย่างยิ่งกับชาอูหลง หรือชาเขียว เนื่องจากกลิ่นที่หอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนลิ้นนั่นเอง และไม่ควรดื่มคู่กับเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนมาก อย่าง ชาแก่ กาแฟ หรือเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม น้ำผลไม้ เพราะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย
       
       ผู้ป่วยไม่ควรทาน – เพราะขนมไหว้พระจันทร์เป็นขนมที่มีคอเลสเตอรอลสูง ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคตับแข็ง นิ่วในถุงน้ำดี และโรคแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น ไม่ควรรับประทาน

ที่มา
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9500000113059

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น