sagime
ดู Blog ทั้งหมด

ที่ใดมีกิ๊ก ที่นั่นมีทุกข์

เขียนโดย sagime
 


ที่ใดมีกิ๊ก  ที่นั่นมีทุกข์


          “การมีกิ๊ก” ปัจจุบันเป็นที่นิยมสำหรับผู้ชายหลายคนที่อยากมีชีวิตที่กระชุ่มกระชวย แต่สำหรับผู้หญิงเรา สุดท้ายกลับกลายเป็นการนำมาซึ่งความหดหู่ และชีวิตคู่ที่ล้มเหลว ข้อแนะนำจากนายแพทย์กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล เกี่ยวกับทัศนะของการมีกิ๊กในสังคมปัจจุบันค่ะ


ผู้ชายที่แอบมีกิ๊กกับคนเจ้าชู้ต่างกันหรือไม่

          สองคำนี้ไม่ค่อยจะแตกต่างกันในทางพฤติกรรมสักเท่าไหร่ คนที่เคยมีประสบการณ์จะรู้ว่า เมื่อมี “กิ๊ก” ก็มักจะมีเรื่อง “เซ็กส์” เข้ามาเกี่ยวข้อง จนอาจใช้คำว่า “สำส่อน” เลยก็ว่าได้

          โดยทั่วไป ผู้หญิงเราเข้าใจความหมายของผู้ชายเจ้าชู้ว่าเป็นคนชอบหว่านเสน่ห์ ประมาณว่าหากได้แจกรักไปทั่วก็พอใจแล้ว ซึ่งคำว่า “รัก” ที่คนเหล่านี้มีมากมายนั้นเป็นแค่ “รักจอมปลอม” ที่ยกมาอ้างเพื่อหวังจะตอบสนองความพอใจของตนเอง หาใช่เป็นการมอบความรักให้แก่คนอื่นด้วยความจริงใจไม่

          ดังนั้น ผู้ชายที่ชอบมี “กิ๊ก” จึงไม่ต่างกับคน “เจ้าชู้” เพราะมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน ซึ่งชื่อว่าน่าจะไม่ใช่แค่มาจากค่านิยมทางสังคมแต่น่าจะมีสาเหตุด้านจิตวิทยาด้วย


4 สาเหตุด้านจิตวิทยาของการที่ผู้ชายมีกิ๊ก

     1. อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกับคนมีกิ๊ก
          เช่น คนในครอบครัวที่ทำตัวมากรักให้เห็นเป็นตัวอย่าง แม้ตอนเด็กๆ อาจไม่ชอบหรือถึงขั้นรังเกียจ แต่เมื่อโตขึ้นกลับทำตามเพราะเกิดการรับรู้และเรียนรู้ใหม่ว่าเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำกัน ซึ่งถือว่าเป็น “พฤติกรรมการเลียนแบบ” (Identify) อย่างหนึ่ง นอกจากนี้ การมีเพื่อนๆ นิยมมีกิ๊ก อาจทำให้รู้สึกว่าถ้าไม่ทำตามจะดูแปลกแยก ไม่เท่ห์ หรือทันสมัย จนไปถึงการไม่ได้รับการยอมรับ
     2. เป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร (แม้จะเป็นทางไม่สร้างสรรค์)
          ไม่กล้าปฏิเสธเมื่อมีคนมาหลงรัก ไม่สามารถแยกแยะระหว่างการช่วยเหลือแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน กับการยอมตามความต้องการของคนอื่นและตัวเอง จนต้องนอกใจคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า คล้ายพฤติกรรมเจ้าชู้

          คนแบบนี้มักเติบโตในครอบครัวที่เลี้ยงแบบไม่ให้กล้าตัดสินใจ เมื่อมีปัญหาจึงหนีปัญหาหรือเฉไฉไปเรื่อยจนกลายเป็นเรื่องคาราคาซัง

     3. มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต

          ข้อนี้น่าจะสำคัญที่สุด เพราะถือว่าเป็นต้นตอของพฤติกรรมการชอบมีกิ๊ก มักเป็นคนขาดความภาคภูมิใจในตนเอง ต้องรอคอยการยอมรับจากผู้อื่น และมองว่าคุณค่าของตนเองขึ้นอยู่กับการที่มีคนให้ความสนใจเท่านั้น

 
 
 วิธีพิสูจน์คุณค่าของตนเองของผู้ชายแบบนี้ คือ การหว่านเสน่ห์ไปเรื่อยๆ เพื่อเช็คเรตติ้งตนเองอยู่เสมอ เรียกคนเหล่านี้ว่าเป็นกลุ่มที่มีปัญหาทางด้านบุคลิกภาพ (Personality Disorder) มักจะมีลักษณะดังนี้ คือ เป็นพวกหลงตนเอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกคน บางคนก็รู้สึกขาดความรักต้องพึ่งพิงผู้อื่นตลอดเวลา มีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ เป็นต้น
 
4. สื่อต่าง ๆ นำเสนอเรื่องกิ๊กให้เป็นเรื่องยอมรับได้

          เช่น ในละคร ภาพยนตร์ บทเพลงต่าง ๆ ที่มีเนื้อเกี่ยวกับการแย่งคู่ครอง หรือพฤติกรรมเจ้าชู้ว่าเป็นความทันสมัย โก้เก๋ หรือเป็นเพียงเรื่องสนุกสนาน บันเทิง


แนวทางรับมือสำหรับผู้หญิงเมื่อแฟนมีกิ๊ก

     1. ทบทวนสาเหตุ

          ว่ามาจากสิ่งที่กล่าวข้างต้นหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ การมีสติ ควบคุมอารมณ์ โดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือ การหาข้อมูล หรือข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนว่าความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเรากับกิ๊กไปถึงไหน อย่าคิดเอง เออเอง หรือฟังคนอื่นเล่ามา

     2. คิดเสมอว่า ไม่ควรสนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ในครอบครัว ชีวิตคู่ หรือในสังคม โดยแสดงให้คนในครอบครัวเห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่สมาชิกในครอบครัวและสังคมไม่ยอมรับ โดยไม่แสดงออกแบบก้าวร้าว กระฟัตกระเฟียต หรืออารมณ์โกรธซึ่งไม่เกิดประโยชน์แต่อาจเป็นผลเสีย แต่ควรมีจุดยืนที่ชัดเจน

     3. ปรับใจยอมรับคนแบบนี้ไว้ส่วนหนึ่ง

          เนื่องจากพื้นฐานของคนกลุ่มนี้ มักเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้น ส่วนหนึ่งอาจต้องใช้ความเข้าใจโดยพยายามให้คนเหล่านี้ตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมา รวมถึงการสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจในตัวเองให้กับคนเหล่านั้น

          บางรายที่ปัญหาเริ่มซับซ้อนและแก้ไขได้ยาก อาจแนะนำให้มาพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อทำการบำบัดร่วมกัน

     4. หากสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการที่คู่ของเราเป็นคนเห็นแก่ตัวและขาดศีลธรรม

          กรณีนี้ ผู้หญิงเราคงต้องตัดใจเลิกราดีกว่าที่จะทนอยู่ต่อไป เพราะความเจ้าชู้หรือการมีกิ๊กจะแลกมาซึ่งปัญหาอีกมากมายที่จะทำให้คุณเสียสุขภาพจิต


คนชอบมีกิ๊ก ไม่ใช่คนโหดร้าย แต่มีที่มาที่ไป อย่างไรก็ตาม การยอมใจอ่อน ทนอยู่กับคนเหล่านี้อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม ควรทำความเข้าใจเพื่อเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา จะช่วยให้ยอมรับและให้อภัยได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะให้อภัยได้มากน้อยแค่ไหน

          แต่หากทำเต็มที่แล้วเขายังไม่เลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ หรือมีกิ๊กไปทั่วเหล่านั้น เห็นทีว่า “ทางใครทางมัน” และหันไปหาความสุขให้ตัวเอง น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ

ที่มา http://new.goosiam.com/variety/html/0024395.html

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น