sagime
ดู Blog ทั้งหมด

10 เรื่อง "ไม่ควรทำ" ในวันสงกรานต์

เขียนโดย sagime
 


           เรียกว่าคึกคักกันทุกปีกับการเวียนมาถึงของเทศกาลวันสงกรานต์ที่แต่ละบ้านต่างตระเตรียมอุปกรณ์เพื่อตระเวนสาดน้ำกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำ ปืนฉีดน้ำ รถกระบะ แต่ทั้งนี้ เราคงต้องยอมรับด้วยว่า ช่วงเวลาแห่งความสนุกยังคงมีภัย และอันตรายแฝงอยู่รอบด้าน ซึ่งมีทั้งที่คาดการณ์ได้ และไม่ได้ 
       
       10 เรื่อง "ไม่ควรทำ" ในวันสงกรานต์เพื่อให้ปีใหม่ไทยปีนี้เต็มไปด้วยภาพแห่งความสุข ปราศจากความเศร้า เริ่มจาก
       
       1. ไม่ดื่มเหล้า
       
       เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ และจิตใจ ทำให้คนกลายเป็นฆาตกรได้โดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเป็นสาเหตุทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ยานพาหนะลดลง ไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพข่าวอุบัติเหตุบนท้องถนนทุกปี และมีสถิติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ควรลด ละ และเลิก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวคุณเอง และครอบครัว โดยเฉพาะลูก ๆ ที่กำลังมองดูต้นแบบจากคุณอยู่

 2. ไม่สาดน้ำบนรถกระบะ
       
       ท้ายกระบะ ถือเป็นชัยภูมิที่ดี เพราะสามารถเคลื่อนที่ไปเล่นสนุกตามจุดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การเล่นบนรถกระบะเป็นเรื่องปกติไปแล้วในการเล่นน้ำสงกรานต์ กระนั้น คงต้องระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย เพราะการขนน้ำขนคนขึ้นกระบะอาจพลัดตกลงมาได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงที่ขัน หรืออุปกรณ์เล่นน้ำจะหลุดมือไปถูกผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในกรณีนี้เคยมีคนขับจักรยานยนต์ท่านหนึ่งต้องเย็บปากไป 6 เข็มเพราะขันสแตนเลสใบเดียวมาแล้ว
       
       3. ไม่สาดน้ำเย็น
       
       แม้ว่าวันนี้ "น้ำ" คือพระเอก แต่การเล่นน้ำควรมีมารยาทกันด้วย หลายคนเลือกสาดน้ำเย็นเพื่อความสนุก และความสะใจ แต่การสาดน้ำเย็นจัด ๆ อาจทำให้ผู้เล่นหนาวสั่น และไม่สบายกันได้ นอกจากนี้การสาดน้ำ ควรเล่นกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ควรสาดกันแรง ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหากับหูผู้เล่นท่านอื่น ๆ ทั้งหูอื้อและแก้วหูทะลุได้ โดยอันตรายจากเยื่อแก้วหูทะลุนั้น หากน้ำที่ใช้เล่นไม่สะอาด อาจมีเชื้อโรคเข้าไปในหูชั้นกลางผ่านทางเยื่อแก้วหูที่ทะลุ ทำให้เกิดการอักเสบ มีอาการหูน้ำหนวก และเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้
       
       4. ไม่เปิดเพลงเสียงดัง
       
       การเปิดเพลงจังหวะเร็ว ๆ เพื่อสร้างสีสันในการเล่นน้ำ เป็นอีกหนึ่งมารยาทที่ไม่ควรเปิดลำโพงเสียงดังจนรบกวนผู้อื่น โดยเฉพาะในยามวิกาล เพราะอาจเป็นการรบกวนบ้านใกล้เรือนเคียงได้ ซึ่งการเปิดเพลงเสียงดัง ๆ นี่เองที่เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการใช้ความรุนแรงกันขึ้น ดังนั้นควรดูถึงความเหมาะสมของสถานที่ด้วย หากจำเป็นต้องเปิดเพลง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดเสียงในระดับที่ไม่สร้างปัญหาให้แก่ผู้อื่น
       
       5. ไม่เล่นแป้ง
       
       การเล่นแป้งเป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะมีให้เห็นกันทุก ๆ ปี โดยตามปกติจะใช้น้ำอบไทยมาประพรมกัน แต่ปัจจุบันมีการนำแป้งดินสอพองมาใช้ ซึ่งบางชนิดเป็นดินสอพองที่ใช้ในอุตสาหกรรม มีส่วนผสมของสารโพรพีลีน ตะกั่ว ปรอท เป็นต้น หรือเป็นดินสอพองที่มีการผสมสี ล้วนมีอันตรายต่อร่างกายทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแป้งเย็นชนิดต่าง ๆ ด้วย ไม่ควรนำมาใช้ หากมีการเล่นที่รุนแรงหรือพลาดพลั้งเข้าตาเข้าปากก็อาจเกิดอันตรายได้

 

 6. ไม่ตั้งวงพนัน
       
       เทศกาลดี ๆ แบบนี้ หลาย ๆ บ้านเลือกที่จะนั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันที่บ้าน เป็นความน่ารักที่ฉายภาพความสุขออกมาได้อย่างดี แต่บ้านที่ล้อมวงนั่งเล่นการพนันโดยไม่สนใจเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่น หรือกำลังมองพฤติกรรมการเล่นของผู้ใหญ่อยู่ ถือเป็นภาพที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย โดยการเล่นพนัน นอกจากจะดูดเงินจากกระเป๋าแล้ว ยังนำไปสู่การก่ออาชญากรรมประเภทต่าง ๆ เช่น ลักขโมย ได้อีกด้วย ที่สำคัญ ทำให้ความสุขในวันรวมญาติค่อย ๆ หายไป เพราะต่างฝ่ายต่างวุ่นอยู่กับวงพนันจนลืมที่จะหันมาพูดคุยหรือนั่งกินข้าวพร้อมหน้าลูกหลาน
       
       7. ไม่แต่งตัวยั่วตัณหา
       
       ถึงแม้จะมีหลาย ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมานำเสนอแนวคิดต่าง ๆ รวมถึงการห้ามแต่งตัวชะเวิ้บชะว้าบล่อแหลมในบางเขต แต่เรื่องเสื้อผ้าในการเล่นน้ำ โดยเฉพาะผู้หญิง ความบาง รัดรูป และนุ่งสั้น ยังคงเป็นภาพที่มีให้เห็นกันอยู่มาก และกลายเป็นภาพชินตาในวันสาดน้ำไปแล้ว และแค่เรื่องเสื้อผ้านี่เองที่เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมายทั้งการถูกลวนลาม หรือแม้แต่การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้น เพื่อเซฟความปลอดภัย เสื้อผ้าควรจะมีสีเข้ม ๆ เช่น สีดำ สีน้ำเงิน เพราะสีเหล่านี้เมื่อโดนน้ำแล้วจะไม่ทำให้ดูโป๊ หรือมองเห็นรูปร่างภายในของผู้หญิงได้อย่างชัดเจน
       
       8. ไม่พูดคำหยาบ
       
       คำหยาบ เป็นคำที่สื่อถึงความไม่สุภาพ สื่อความความหมายในแง่ที่ไม่ดี หรือฟังไม่ไพเราะ ซึ่งรวมถึงคำที่สื่อเรื่องเพศ การด่าทอ การดูหมิ่น โดยคำเหล่านี้ นอกจากไม่น่าฟังแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทตามมาอีกด้วย ทางที่ดี การเล่นน้ำควรเล่นกันอย่างสุภาพ ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกด้วย เพราะบางคนอาจเผลอพูดคำหยาบออกไปโดยไม่รู้ตัว เช่น หลุดพูดคำไม่สุภาพกับผู้เล่นน้ำ หรือตะโกนด่าทอรถที่ปาดหน้า เป็นต้น
       
       9. ไม่ฉวยโอกาส
       
       การเล่นสาดน้ำในเทศกาลวันสงกรานต์ นอกจากจะเล่นกันเพื่อความสนุกสนานคลายร้อนแล้ว ยังถือเป็นวันฉวยโอกาสของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่มักจะเล่นแป้งโดยพุ่งเป้าไปที่แก้มของสาว ๆ หรือบางคนเข้าข่ายลูบคลำทำอนาจาร ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเข้าข่ายทำอนาจารมีความผิดปรับ 500 บาท ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นด้วย ดังนั้น ควรเล่นกันพองาม เพราะบางคนก็ไม่ชอบให้เล่นในลักษณะดังกล่าวนี้
       
       10. ไม่เต้นโชว์
       
       ปฏิเสธไม่ได้ว่า บ้านคือฐานที่มั่นที่คนจำนวนไม่น้อยใช้เล่นน้ำสงกรานต์ และมักจะมีการเปิดเพลงกระหึ่มเพิ่มความมันส์ในการเล่นด้วย ไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพผู้ใหญ่ และเด็ก ๆ ลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างสนุกสนาน แต่ที่น่าห่วงคือ ภาพเด็กสาวตัวเล็ก ๆ นุ่งน้อยห่มน้อยอวดลีลาโยกย้ายส่ายสะโพกโดยที่พ่อแม่ก็สนุกไปกับลูกด้วย แต่นั่นหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมดังกล่าวได้กลายเป็นความเคยชิน และไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเกลียด ซึ่งเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ควรใส่ใจ และควรปลูกฝังค่านิยมการแสดงออกที่เหมาะสมให้แก่ลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพราะไม่เช่นนั้น อาจส่งผลให้เด็กเติบโตเป็นวัยรุ่นที่ไม่อาย และชอบโชว์ดังที่เห็นตามข่าวได้
       
       ทั้ง 10 เรื่อง "ไม่ควรทำ" ในข้างต้น เราคงไม่มีสิทธิ์ไปห้ามหรือออกคำสั่งให้ต้องปฏิบัติตาม แต่อย่างน้อย ๆ หากตระหนักกันสักนิด เราเชื่อว่า วันสงกรานต์ปีนี้คงจะเต็มไปด้วยภาพแห่งความสนุก และความสงบสุขอย่างแน่นอน

ที่มา
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000045653


ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น