sagime
ดู Blog ทั้งหมด

เมื่อยังหลอกตัวเองอยู่ จะเดินถูกทางอย่างไร

เขียนโดย sagime


เมื่อไม่ชัดเจนในตนเอง จะพบตัวตนจริงแท้ที่เกิดมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนได้อย่างไร ผู้ที่ไม่หลอกตนได้ จึงไม่หลอกคนอื่น หมั่นฝึกการยอมรับ รัก และศรัทธา เมตตา ให้กำลังใจกับตนเอง ฝึกไม่พึ่งพิงผู้อื่น ฝึกเห็นจริง ก่อนการเห็นใจ

        เข้าใจชีวิตให้ครบทุกด้านว่าชีวิตจริงมีหนทางขรุขระ ล้มเหลว สะดุด เป็นธรรมดาเหมือนกับอีกด้านหนึ่ง คือ ความสุข ความสำเร็จ

        ทุกสิ่งเกิดได้ทั้งนั้น ในขณะที่เรายังมีชีวิต หลายสิ่งนั้นเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ตามเหตุที่แท้จริงทั้งหมดและทุกเหตุการณ์เกิดขึ้นเพื่อให้เราเรียนรู้และ ข้ามผ่าน คนจริง ทำจริง จะฝึกวางใจให้ถูกที่ คือ มีสติ คิด และเชื่อมั่นในแง่ดีว่าทุกสิ่ง ทุกเหตุการณ์ที่ต้องพบเจอในชีวิตคือครูทั้งนั้น ที่ควรกตัญญู จะดี หรือร้าย ผู้ที่ไม่หลอกตนเองและเข้าใจโลกอย่างครบถ้วนทุกด้านจะท่องไว้ในใจ

        ชีวิตครบรส คือ ขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะการเข้าถึง คือ ประสบการณ์ตรงที่ธรรมชาติมอบให้กับเจ้าของชีวิต

        บทเรียนต่างๆ ที่ธรรมชาติรอบตัวหมั่นสอน เพียงเพื่อให้เรารักและเมตตาต่อตนเองให้มาก ใช้ความเพียรชนะใจตนเองเพื่อสร้างสรรค์ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเหมือน เราทั้งหมดในจักรวาลนี้ หนึ่งคีย์เวิร์ดของการมีชีวิตที่รื่นรมย์ได้โดยง่าย คือ ความศรัทธาและตั้งใจในชีวิตว่าทุกก้าวที่เดินจนวันสุดท้าย แม้พบพานความไม่ได้ดั่งใจ รับรู้ให้ได้ว่าธรรมชาติ คือ ตำราเล่มใหญ่ บางครั้งฝนแรง แดดร้อน บางครั้งเย็นสบาย ทุกสรรพสิ่งต้องปรับเปลี่ยนเติบโต เพื่อสะสมความแข็งแรง เรียนรู้เพื่อไม่ให้ฤดูใดๆ ทำลายความสุขของตน

       คนที่ชีวิตมีพลังมาก เขาเหล่านั้นผ่านการทำความเข้าใจและเข้าถึงทั้งสองด้านที่เกิดขึ้นตาม ธรรมชาติในชีวิต พวกเขาตระหนักรู้ถึงความจริงข้อหนึ่งว่าพลังแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นมีอยู่ ในตัวเราทุกคน ไม่หลอกตนเองว่าทำไม่ได้ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยลองลงมือทำอย่างจริงจังอย่างต่อเนื่อง ผู้ชนะใจตนได้เท่านั้นจึงเรียนรู้เพื่อสอบผ่าน ไม่ยึดติดหนักใจกับความสุขใจ หรือทุกข์ร้าย เพียงด้านใดด้านหนึ่ง

        แม้การออกจากความเคยชิน อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนคนหนึ่งจะยอมเปลี่ยนชีวิตเข้าสู่ชีวิตใหม่ที่ไม่ คุ้นเคย ทางออกง่ายๆ คือหมั่นสร้างแรงบันดาลใจและอนุญาตให้ใจตนเองยอมทำพฤติกรรมใหม่ หรือคิดแบบใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง

        ทว่าแรงบันดาลใจ หรือความฝันใดๆ ก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตมีความสุขแท้จริงได้ หากเจ้าของหัวใจไม่อนุญาตตนเองพบความจริงในตนเองเสียก่อน โดยการลอกเปลือกที่ห่อหุ้มตนออก เช่น นายกรัฐมนตรี พฤติกรรมภายนอกเก่ง ฉลาด เข้มแข็ง ตลอดเวลาในที่ทำงาน แต่ในความเป็นจริงทุกขณะจิตที่เขาทำเพียงเพื่อได้มาซึ่งการยอมรับจากผู้ร่วม งาน เงินเดือนที่เขายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นสิ่งเดียวที่เรียกว่าความมั่นคง วันเวลาผ่านไปช่องโหว่ในใจกลับใหญ่ทวีคูณมากขึ้น ความเก่งกล้าที่แสดงออกมาในที่ทำงาน กลับกลายเป็นความเบื่อหน่าย หมดไฟ หมดฝัน เพราะเรื่องจริงที่ซ่อนอยู่นั้น คือ ใจที่ไม่เบิกบานในการทำงานมานานแล้ว

        การที่เราอนุญาตตนเองให้แสดงออกถึงความทุกข์ใจบ้างอย่างเหมาะสม ในบางครั้งจึงเป็นการกระทำของผู้มีความแข้มแข็งในการยืนหยัดที่จะเรียนรู้ และทำความเข้าใจตนเองเพื่อการปรับตัวให้ได้รอบด้านในขณะที่อยู่ในสังคม อีกทั้งยังเป็นการเยียวยาตนเองในระดับการปลดปล่อยหรือคลายใจยึดมั่นกับ ทางออกเพียงทางเดียว

        ทว่าใจที่กล้าหาญเท่านั้นจะอนุญาตให้เจ้าของชีวิตเรียนรู้ที่จะสื่อสาร กับตนเองและผู้อื่น แทนที่จะต้องแสดงความเป็นผู้เก่งกล้าสามารถตลอดชีวิตและตลอดเวลา ในขณะที่เนื้อแท้หรือสิ่งที่อยู่ภายใน คือ เสียงตะโกนจากใจ ให้หันกลับมาดูแลความต้องการที่จริงแท้ในใจตนเอง

       มนุษย์จึงต้องชนะความหลอกลวงในจิตใจมากพอ กล้าที่จะเข้าไปรับรู้ความไม่สบายใจ ความอ่อนแอด้วยสติ โดยการอนุญาตให้ตนเองได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในทุกด้าน

 

        เรื่องที่ควรทำความเข้าใจประการแรก คือ ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เริ่มต้นโดยการทำลายโปรแกรมว่าเราต้องเป็นคนอื่น เพราะผู้อื่นดีกว่าเราและหันมาจิกกัดตัวเองว่าเราไม่ดีพอ

        การอนุญาตตนให้มองดูตนเองด้วยสายตาแห่งการรู้ค่า และมองผู้อื่นด้วยแววตาแห่งความชื่นชม เป็นทางออกที่สามารถทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเราและผู้อื่นใน แง่มุมที่เบิกบาน แม้ในธรรมชาติของความขัดแย้งหากเราแยกแยกระหว่างความจริงและความจริงเสมือน ให้ได้ โดยเริ่มต้นที่การฝึกเป็นผู้สังเกตตนเองและผู้อื่นอย่างละวาง ไม่ตัดสิน ไม่ยึดทุกอย่างมาเป็นตัวเรา เพราะเมื่อเราไม่รู้จักตนเอง เราจึงไม่รู้จักผู้อื่นจริงๆ เช่นกัน การตระหนักรับรู้ความจริงทุกด้านของชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นก้าวแรกของการทำความรู้จักตนเอง

       การตั้งสติและใช้คำถาม เช่น ใช้คำถามที่ว่า อะไรคือสิ่งที่เราเชื่อว่าเราเป็น? นี่คือเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง? เราหรือผู้อื่นเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ? หรือถูกครอบงำด้วยภาพที่บิดเบือนของตัวเรา คำตอบที่ฉลาดล้ำมักออกมาจากหัวใจ ไม่เปลืองสมองให้หมดกับการคิดเองปรุงเอาเอง

       เราสามารถเป็นผู้เห็นมุมมองใหม่จากคำถามง่ายๆ เหล่านี้ทำให้ชีวิตจะมีความสุขง่ายขึ้น เพราะความจริงพึงนำมาซึ่งความอิสระในใจ ต่างกับการหลอกตัวเองที่ยิ่งทำจะทำให้เราห่างไกลจากตัวตนที่แท้จริง ที่เราเกิดมาเพื่อจุดหมายปลายทางที่งดงาม คือ “เราเกิดมาเพื่อเป็นตัวเองให้งดงามที่สุด”

       มาช่วยกันเปลี่ยนแปลงโลกด้วยการทำความรู้จักตนเอง โดยเริ่มต้นจากการมีความสุขกับตัวเองจริงๆ ให้ได้เป็นอันดับแรก! ด้วยมิตรภาพ

ที่มา 
http://www.thaihealth.or.th/Content/23765-เมื่อยังหลอกตัวเองอยู่%20จะเดินถูกทางอย่างไร.html
 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น