วิธีทำสวย 365 วัน

กิจวัตรประจำวัน
- ทำความสะอาดใบหนา  สำหรับคุณๆ ที่แต่งหน้าเป็นประจำต้องพยายามให้เครื่องสำอางตกค้างบนใบหน้าน้อยที่สุด โดยใช้แผ่นสำลีชุบคลีนเซอร์ลูบไล้ให้ทั่วหน้าในทิศทางที่ต้านแรงโน้มถ่วงของโลก บริเวณหน้าผาดลูบขึ้น-ลง รอบริมฝีปากและคางไล้ครีมตามขวาง รอบดวงตาและแก้มเริ่มจากด้านในสุดไล่ออกไป คือ จากขอบตาไปทางหางตา จากเนินแก้มไปจมูก  สันจมูกจรดหัวคิ้ว...การลูบไล้ตามทิศทางนี้ เป็นการหยุดยั้งริ้วรอยก่อนวัย   เช็ดหน้าอีกครั้งด้วยโทนเนอร์ เพื่อขจัดคราบไคลที่ตกค้าง และปิดกระชับรูขุมขน  ล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วตบท้ายด้วยน้ำเย็น
 -  อาบน้ำ  ตอนเช้าอาจเพียงแค่เลือกสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิวคุณ  เลือกกลิ่นที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าก็พอ  แต่สำหรับการอาบน้ำตอนเย็นควรมีเวลาขัดสีฉวีวรรณอย่างน้อยสัก 15-20 นาที เพราะหนึ่งวันที่ผ่านมาร่างกายต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก และมลพิษมากมายนับไม่ถ้วน ระหว่างอาบน้ำอย่าลืมทำความสะอาดเล็บไปด้วย โดยใช้แปรงขนนุ่มขัดใต้เล็บให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ และจำไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าคุณอาบน้ำอุ่น ควรจบการล้างตัวครั้งสุดท้ายด้วยน้ำเย็นเสมอ (โดยเฉพาะใบหน้า) เพื่อปิด กระชับรูขุมขน และคืนความกระฉับกระเฉงให้ร่างกาย
-  บำรุงผิวพรรณ  ควรทาครีมหรือโลชั่นทันทีหลังจากซับตัวหมาดๆ ไม่ต้องรอให้ตัวแห้ง จะทำให้ครีมซึมเข้าผิวได้ดีกว่า
-  นอน ก่อนเข้านอนนวดมือและเท้าด้วยครีมหรือน้ำมันบำรุง  อย่าลืมนวดบนแผ่นเล็บด้วยเนื่องจากเล็บมีรูพรุนมากมายให้ครีมซึมเข้าไปได้ ซึ่งจะช่วยให้เล็บแข็งแรงและยาวเร็วขึ้น  จากนั้นจุดตะเกียงน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ช่วยให้นอนหลับสบาย เช่น ลาเวนเดอร์ล่วงหน้าสัก 1 ชั่วโมง ถึงเวลานอนจริงดับตะเกียงให้เรียบร้อย  กลิ่นจะยังอวลอยู่อีกนานค่ะ
 จบกระบวนการด้วยการทาลิปมัน  ริมฝีปากจะชุ่มชื่น เต่งตึง ไม่แห้งผากขาดน้ำเหมือนผิวดินที่แตกระแหง

ทุกสองถึงสามวัน   
-  สระผม ปกติคุณผู้หญิงที่ทำงานนอกบ้านมักชอบสระผมทุกวัน  เพราะรู้สึกว่ามีฝุ่นละอองและควันพิษทำให้ผมสกปรกตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมมากขึ้นด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่มีผมมันจริงๆ หรือออกกำลังกายหนักๆ ทุกวันเท่านั้นที่ควรสระผมทุกวัน  แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ พยายามเลือกแชมพูอ่อนๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้นและน้ำมันธรรมชาติไปมากเกินไป
และเลือกแชมพูให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเอง  ก่อนสระควรหวีผมเพื่อขจัดฝุ่นละอองและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากหนังศีรษะ ในระหว่างสระผมให้ใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะและรากผม (ห้ามใช้เล็บเกา) ใช้ฝ่ามือคลึงเพื่อให้แชมพูทำความสะอาดเส้นผมอย่างทั่วถึง  ก่อนล้างแชมพูให้สะอาดหมดจด  สำหรับครีมนวดผมช่วยเคลือบเส้นผมทำให้ผมไม่แห้ง  แต่ควรใช้เพียงเล็กน้อย ลูบผมให้ทั่ว นวดเบาๆ ทิ้งไว้สักครู่ค่อยล้างออก ถ้าใช้ครีมมากเกินไปหรือล้างครีมออกไม่หมด จะทำให้ผมกระด้าง ในกรณีที่ผมแห้งมาก ให้ชะโลมครีมนวดเพิ่มเฉพาะส่วนปลายผมเท่านั้น ที่สำคัญควรใช้ครีมนวดชนิดเดียวกับแชมพูเท่านั้น
- ออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์  เลือกให้ครบวงจร ทั้งการกระตุ้นการทำงานของหัวใจและปอด  และการคลายกล้ามเนื้อ

ทุกสัปดาห์ 
-  ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ควรทำทุก 7 วัน ด้วยผลิตภัณฑ์สครับอ่อนๆ ไม่ทำลายผิวหน้า ถูเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า อาจเน้นที่ข้างจมูก และคางสำหรับคนที่เป็นสิวเสี้ยน ขั้นตอนนี้เป็นสิ่งต้องห้ามไม่ให้ทำเอง สำหรับคุณมีผิวหน้าบางมากๆ  และอาจยืดเวลาออกไปได้ถึง 1 เดือนถ้าผิวแพ้ง่าย ไม่แต่งหน้ามากนัก
- นวดหน้าเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งคุณสามารถนวดเองที่บ้านได้ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที  ก่อนนวดควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาทั่วหน้าและลำคอบางๆ เพื่อให้ปลายนิ้วลื่น นวดได้ง่ายขึ้น...ใช้ปลายนิ้วชี้และกลางตบขึ้นเบา ให้มือหนึ่งไล่ตามอีกมือหนึ่งสลับกันไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากลำคอขึ้นไปให้ทั่วใบหน้า
 ใช้ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้  หยิกรอบปากและแก้มเบาๆ   
 ใช้นิ้วชี้ซ้ายกดลงตรงเหนือคิ้ว และใช้นิ้วกลางขวานวดในลักษณะถูไปถูมาตามแนวนอนเบาๆ ให้ทั่วหน้าผาก
 ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางนวดแก้มทั้งสองข้าง พยายามนวดเป็นวงกลมเล็กๆ เคลื่อนเข้าหาจมูก
 ใช้เฉพาะนิ้วก้อยของมือแต่ละข้าง ลูบตั้งแต่กระดูกหัวคิ้วออกมาทางหางคิ้ว วนใต้ตา แล้วกลับไปหัวคิ้ว จากนั้นกดปลายนิ้วเบาๆ บริเวณขมับ เคลื่อนเป็นวงกลม เพื่อลดความเครียด
 ทำซ้ำทุกขั้นตอนอีกครั้ง แล้วหลับตาสักครู่ เป็นการผ่อนคลาย จะใช้แผ่นสำลีชุบน้ำเย็บปิดเปลือกตา ทิ้งไว้สัก 5 นาทีก็ได้
-  มาสท์หน้าเพิ่มความชุ่มชื้น คนที่ต้องทำงานหรือใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในห้องแอร์ทำให้ผิวขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว เพราะผิวคนเอเซียมักไม่ขาดน้ำมัน จึงรู้สึกเหมือนหน้าเหนอะหนะเสมอ   จึงควรเลือกมาสท์ที่ให้ความชุ่มชื้น
-  สครับมือ เท้า ด้วยสครับขัดตัว หรือน้ำตาลทรายเม็ดละเอียดผสมมะนาว ขัดให้ทั่วโดยเน้นบริเวณข้อนิ้ว หรือพอกด้วยไข่ขาว เป็นการเพิ่มความสดใสและนุ่มนวลให้ผิวมือและเท้าได้อย่างดี

ทุก 2 - 4 สัปดาห์ 
-  ขัดตัวด้วยเกลือ เลือกที่เหมาะกับสภาพผิว เป็นการทำความสะอาดพร้อมบำรุงอย่างลำล้ำในตัวเดียว...เพียงแค่ราดน้ำให้ตัวเปียก ถูเกลือเบาๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยไม่ต้องถูสบู่อีก เพราะเกลือประเภทนี้มักมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์อยู่แล้ว ถ้าถูสบู่ซ้ำจะทำให้ผิวแห้ง
-  ล้างผมด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู  แม้หลังจากสระผมทุกครั้ง คุณพยายามล้างผมให้สะอาดเพียงไร  ก็มักจะยังคงมีแชมพูตกค้างอยู่เสมอ วิธีขจัดสิ่งตกค้างสูตรประหยัดคือ การใช้น้ำส้มสายชูเล็กน้อยหยดลงในน้ำสุดท้ายของการล้างผม ช่วยให้ล้างแชมพูได้สะอาดหมดจด มิหนำซ้ำผมยังเป็นเงางามอีกด้วย ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ทุกครั้งหลังผม โดยเฉพาะคนที่มีผมแห้ง เพราะน้ำผมเป็นกรดจะทำให้ผมแห้งยิ่งขึ้น
-  หมักผม  อบไอน้ำ  เพื่อให้เส้นผมมีสุขภาพสมบูรณ์ตามธรรมชาติที่สุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณที่ไดร์และทำสีผมบ่อยๆ  เพียงใช้ครีมนวดปรับสภาพเส้นผมแบบ DEEP - CONDITION  นวดประมาณ 15-20 นาที บริเวณใดแห้งมากก็นวดมากเป็นพิเศษ ทิ้งไว้โดยใช้กระดาษฟอยล์ห่อเพื่อคงความร้อน  ล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด ล้างน้ำสุดท้ายด้วยน้ำเย็น  อีกวิธีหนึ่งสำหรับคนที่ผมแห้งมากๆ ใช้อัลมอนด์ ออยด์ ตั้งไฟให้อุ่น นำมานวดผม แล้วห่อด้วยเช็ดตัวอบความร้อน ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นคอยเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้ร้อนอยู่เสมอ  ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วสระด้วยแชมพูตามปกติ
-  ทำความสะอาดเล็บแบบครบขั้นตอน หากจะใช้บริการตามสถานบริการต้องเลือกร้านที่มีความรู้เรื่องเล็บ อุปกรณ์สะอาด ปลอดภัยจากการติดเชื้อ หรือถ้าจะทำเองต้องล้างสียาทาเล็บออกก่อน ถ้าเล็บเหลืองมากให้ใช้ตะไบขัดมัน ขัดแผ่นเล็บ ล้างมือและเล็บให้สะอาดด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง แช่เล็บในน้ำสบู่อ่อนๆ ใช้แปรงขัดบนแผ่นเล็บและซอกเล็บจนแน่ใจว่าสะอาด เช็ดให้แห้ง  ใช้กรรไกรคมๆ ตัดไล่ไปเรื่อยๆ ตะไบลบความคมไปในทางเดียวกัน ไม่ควรตะไลกลับไปกลับมาเพราะจะทำให้ชั้นเล็บเปิดได้ 
 แช่น้ำอุ่นประมาณ 5 นาที แล้วตัดหนังบริเวณรอบขอบเล็บเฉพาะที่เป็นผิวหนังส่วนเกินออก  นวดด้วยน้ำมันบำรุงบริเวณผิวหนังรอบขอบเล็บและแผ่นเล็บ เพื่อให้เลือดในต่อมสร้างเล็บไหลเวียนได้ดี เป็นการกระตุ้นการสร้างเล็บที่แข็งแรงและสุขภาพดี ช่วยให้แผ่นเล็บไม่แห้งหรือลอกเป็นชั้น  จบกระบวนการด้วยการใช้โลชั่นนวดเบาๆ ให้ทั่วมือ
 การทำความสะอาดเล็บเท้าก็มีขั้นตอนเช่นเดียวกันเล็บมือ เพียงแต่ควรใช้สครับขัดส้นเท้าและซอกนิ้วเท้าด้วย เพื่อให้เซลล์ที่ตายหลุดออกไป   ช่วงที่แช่น้ำอุ่น 5 นาทีควรตะไบส้นเท้าบริเวณที่มีปัญหา เช่น หนังด้านแข็ง หรือแตก

ทุก 4 - 6 สัปดาห์ 
-  เล็มปลายผม  ไม่ว่าคุณจะไว้ผมสั้นหรือผมยาว การเล็มปลายผมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผมแต่ละเส้นก็เหมือนต้นไม้ที่เจริญงอกงามไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยผมยาวไปเรื่อยๆ ทำให้ผมยาวบ้างสั้นบ้างไม่ได้ระดับเสมอกัน ปลายผมก็เรียวเล็กลง จนอาจแตกปลายในที่สุด
-  ขัดตัวด้วยสครับ เป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพ่อให้ผิวผ่องใสขึ้น  ถ้าจะทำเองที่บ้านควรเลือกสครับคุณภาพดี  เม็ดสครับไม่คมทำลายผิว
 
   อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามฤดูกาล เพราะฤดูร้อนผิวย่อมต้องการความแห้ง เบาสบาย ในขณะที่ฤดูหนาวผิวต้องการน้ำมันและความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ  สำหรับผู้ที่ค่อนข้างสูงวัย อาจพิจารณาเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหน้า จะทำเป็นคอร์สในสถาบันความวาม หรือทำเองที่บ้านก็ได้  ถ้าต้องการให้ดูสดใส อ่อนกว่าวัย  แต่ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ  ผิวพรรณที่ร่วงโรยไปตามวัยก็ทำให้ดูภูมิฐาน เพิ่มสง่าราศรีได้นะคะ

ที่มา :  นิตยสาร Health & Cuisine