Sanestra
ดู Blog ทั้งหมด

[Diary] โดดติวมาม่าอยู่บ้าน

เขียนโดย Sanestra


สวัสดีครับ เนสหายไปหลายวันอีกแล้วเนาะ
มันเหนื่อยน่ะครับ เลยไม่มีแรงมาอัพบล็อกทุกวัน
จริงๆ เนสชอบเขียนบล็อกมากเลยนะ
เขียนแล้วสนุกดี
ได้ระบายอะไรหลายๆอย่าง ได้เล่าสิ่งที่เราเจอให้ทุกคนฟัง
ก็เป็นเหมือนการแชร์ความรู้สึกให้คนอื่นได้รับรู้
อีกอย่างนา...ถึงเนสจะชอบเขียน
แต่ถ้าให้เขียนยาวๆแบบนี้ เมื่อยมือมากเลย =="

วันนี้ จริงๆเนสต้องไปติวมาม่าวันสุดท้าย
แต่เนสโดด ฮะๆ ชั่วร้ายจริง
วันนี้รู้สึกจะเป็น PAT2 น่ะครับ เนสไม่ได้สอบก็เลยปล่อยมันไป
ลอยลำๆๆ
แต่คิดอีกทีก็น่าไปอยู่นา มันอาจจะมีข้อสอบคล้ายๆ ONET
=o="
วันก่อนๆก็ติวสนุกมากเลยล่ะ
อย่าง วิทย์ อันนี้ฮากระจายครับ
อาจารย์เข้ามาแบบไฟแรง เริ่มต้นทันที ดูแล้วน่าชื่นชม
พอไปเรื่อยๆ พี่แกเริ่มเผยถึงความจริงที่ซ่อนเร้น
จาก แมน กลายเป็น แม๊นแมน เน่อ ฮะๆ
ทะลึ่งติดเกียร์แต่เบาสมองได้ที่ ไม่เครียดดีครับ
สอนสนุกมากเลย เข้าใจได้ดีด้วยล่ะ
สังคม อันนี้ก็ไม่ถึงกับฮามาก แต่ก็โอเคครับ
ความรู้อัดแน่นเพียบ แถมข้อสอบ เนสเองก็เพิ่งเคยเห็น
นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลย เป็นบุญของเด็กน้อยตาดำๆ
คิดแล้วอยากให้อาจารย์มาสอนที่โรงเรียนมั่งจัง ชักจะเบื่ออาจารย์ที่สอนซะแล้ว
สอนไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะ ถึงข้อสอบออกมาจะง่ายก็ตามเถอะ
แบบนี้ความรู้ที่จะเอาไปใช้ก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
(เนสหมายถึงที่โรงเรียนนะครับ ไม่เกี่ยวกับมาม่านะ อย่างเพิ่งเข้าใจผิดเน่อ)
คณิต อันนี้ เนสเฉยๆครับ
คงเป็นเพราะไม่ค่อยชอบคณิต การติวคณิตจึงเป็นเรื่องที่เนสเฉยมาก
ไม่ถึงกับไม่ค่อยใส่ใจหรอก แต่จะว่าน่าเบื่อก็ไม่ใช่
พี่ๆเขาก็สอนดี แต่เนสอยากกลับบ้าน
ก็เลยเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง
(ขอโทษครับ อาจารย์ พี่เอ๋ พี่กอล์ฟ แหะๆ)
เมื่อติวอังกฤษครับ สนุกมากเลย
คงเพราะเนสชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกเบื่อ
แม้ว่าจะนั่งจนเมื่อยก้นก็ตาม ฮะๆ
พี่แนน สอนให้ร้องเพลงคำศัพท์ แตกศัพท์ให้เยอะแยะมากเลย
แต่คงต้องไปท่องๆอีกที เนสเป็นประเภทความจำ (เกือบ) สั้นน่ะครับ
ที่เนสชอบมากที่สุดคงจะเป็น พี่นิสชิน ล่ะครับ
ฮาได้ใจจนเขียนไม่ออกเลยล่ะ
ถ้าใครได้ดูวีดีโอของการติวละก็ คงรู้สึกไม่ต่างจากเนสล่ะครับ อิอิ
(อีกไม่นานคงออกมาแล้วล่ะครับ พร้อมกับเฉลยของชีทติว)
เรื่องการออกเสียงคงต้องยกให้ พี่ริซ่า
ออกเสียงได้ใจมากเลย ฮะๆ
ฮา ระดับปานกลาง ไม่มากเท่าสองคนแรก
แต่สรุปแล้ว การติวแต่ละวันก็ได้ความรู้มากเลยล่ะครับ
ทั้งสนุกสนานและวิชาการ
แต่ที่เนสจะติหน่อย ก็คงเป็นเสียงที่ดังเกินเหตุของพี่พิธีกรทั้งสอง
อาจจะเป็นเพราะเขาปรับเสียงไมค์ดังล่ะมั้งครับ
เวลาพี่เค้า วี้ดว้าย มันก็เลยดังเอามากๆ
ยิ่งอยู่ในห้องปิดอย่างห้องโทรทัศน์ เสียงที่ออกมาก็จะสะท้อนอยู่ในห้อง
ทำให้เสียงดังจนปวดหัว เกือบเรียนไม่รู้เรื่องแน่ะครับ
เสียงดังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกทรมานหูมากเท่านั้น
บางทีเนสเลยต้องรอๆหน้าห้องก่อน หรือไม่ก็ไปเข้าห้องน้ำ
แล้วค่อยเข้าห้อง
=="
.............................................
เนสแอบเคืองเพื่อนๆที่ไปติวด้วยกันนิดหน่อย
ทิ้งให้เนสไปคนเดียว ตั้งสองครั้ง
เซ็งนะเนี่ย
ไม่มีคนให้เสวนาด้วย อับเฉาชีวิตจริงๆ
(แต่จริงๆ เนสก็ไม่ใช่คนพูดมากหรอกครับ 
อย่างน้อยมีเพื่อนคุยก็ดีกว่านั่งเงียบคนเดียวทั้งวัน
สำหรับคนภายนอก อาจจะมองว่าเนสเป็นคนพูดน้อย และยิ้ม (หวาน) ให้อย่างเดียว
แต่ถ้าสนิทกันแล้ว เนสจะค่อนข้างพูดมาก รั่ว และนิสัยเหมือนเด็กมากเลย ฮะๆ)
ถึงจะมี แต่ความรู้สึกเนสบอกว่า ไม่ค่อยชอบ
เนสเลยได้แต่ยิ้มๆ คุยบ้างและเรียนต่อไป
เจอเขาสองครั้ง เหมือนจมอยู่ในความน่าเบื่อยังไงยังงั้น เฮ้อออ
เดี๋ยวคอยดูเถอะ เจ้าพวกเพื่อนตัวดี
เนสจะไม่ให้ยืมเอกสารเลย
(เพื่อน// ชั้นจะรอแกใจอ่อน เพราะชั้นรู้ว่าแกงอนไม่นานหรอก ฮ่าๆๆ)
ซะงั้น -_-"
................................
มาพูดเรื่อง เด็กดี หน่อยดีกว่า
กาลเวลาผ่านไป เด็กดีก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น
ชนรุ่นเก่าก็หายหน้าไป ชนรุ่นใหม่ก็ก้าวเข้ามาแทน ซึ่งล้วนแล้วแต่นำความเปลี่ยนแปลง
ค่านิยมแปลก ประเด็นประหลาด และเรื่องน่าเบื่อมาให้
หลายๆวันนี้ เนสเพิ่งกลับมาเล่นบอร์ดนักเขียนที่ห่างหายไปหลายปี
กระทู้แต่ละวันน้อยกว่ารุ่นก่อนๆเยอะ
แต่ที่เซ็งก็คือ สาระ มันก็น้อยตามลงไปด้วย
กระทู้ส่วนใหญ่ในบอร์ด อาจเทียบได้เป็น 75-80% เป็นกระทู้โฆษณา
(เนสว่า พี่เว็บฯ คงรู้เลยเป็นเซ็กชั่นสำหรับการโฆษณาไว้ให้)
ซึ่งน่าเบื่อมากนะ ที่เราตั้งใจจะดูว่า วงการนักเขียนของเด็กดี มีข่าวอะไรเคลื่อนไหวบ้าง
แต่กลับต้องมาเจอ กระทู้โฆษณานิยาย มากมาย
เนสไม่ได้ว่าอะไร การโฆษณาของพวกเขาไม่ผิดหรอกครับ
เนสรู้สึกเบื่อเองล่ะ
แต่ก่อน กระทู้ของบอร์ดก็มีทั้งสาระบ้าง รั่วบ้าง น่าเบื่อบ้าง เดือดบ้าง
ซึ่งก็เป็นหลากหลายอารมณ์ที่รวมแล้วก็เรียกว่า สนุกดีครับ
จนเนสเองก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เล่นบอร์ดจนไม่ได้แต่งนิยาย
ติดมาก เพราะสนุก และได้ประสบการณ์อะไรหลายๆอย่าง
นอกจากเรื่องโฆษณานิยาย กระทู้ชวนเปิดประเด็นและระบายความรู้สึก
(ที่เนสรู้สึกว่าเหมือนเปิดประเด็นสงครามอะไรอย่างนั้น)
เนสรู้สึกได้ว่า โลกนิยายของเด็กดีในตอนนี้ ได้แบ่งเป็นหลายพวกอย่างมากมาย
แต่ละฝ่ายก็โจมตีกันไปมา เมื่อมีโอกาส
ดูแล้วมันก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกเรื่องนะ ซึ่งเนสก็ได้แต่อ่านแล้วก็แสดงความคิดเห็นอย่างเฉยชา
อย่างเรื่อง NC 
อันนี้เป็นประเด็นที่เห็นได้ชัดมากว่า มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ
คนที่ชอบก็แต่งไป คนที่ไม่ชอบก็คัดค้านและเเจ้งแบนต่อไป
ดูแล้วเหมือนวัฏจักรที่น่า... 
สำหรับตัวเนสแล้ว ถ้าทั้งสองฝ่ายจะอยู่เฉยๆ ไม่ต้องยุ่งกับอีกฝ่าย
ก็คงไม่เกิดประเด็นหรือเรื่องต่างๆที่ยกมาเดือดกันในบอร์ด
แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ คนที่แต่ง NC 
ถ้าแต่งอย่างมีขอบเขต และรู้ว่านี่คือสังคมออนไลน์ของเยาวชน 
เป็นแหล่งรวมของเด็กวัยรุ่นมากมาย
เขาควรจะสำนึกและรู้ได้ว่า ถ้าฉากมันแรงเกินหรืออะไรๆมากเกินไป
ควรจะแยกลิงค์เป็นที่อื่น หรือโพสต์ที่อื่นจะดีกว่า
และถ้าเรทแรงมากขั้น 18+ หรือ20+ หรือที่เรียกว่า อีโรติก
ถ้าเป็นนักเขียนที่ดีมีจรรยาบรรณพอ น่าจะสำนึกได้นะครับ
สังคมออนไลน์เด็กดี ไม่ใช่ แหล่งมั่ว 
(แม้ว่าผมจะชื่นชมการใช่ภาษาที่ไหลลื่นก็ตามทีเถอะครับ)
หรือไม่ก็ ทางเว็บเด็กดีน่าจะจัดส่วนที่เป็นเรื่องของ อะไรแบบนี้
แต่ก็อย่างว่าแหละครับ พอใช้วิธีนึงไป ย่อมเกิดทางเลี่ยงวิธีนั้น 
และกลายเป็นปัญหาที่บานปลายมากขึ้น
ซึ่งเป็นเรื่องน่าเบื่อ สำหรับความพยายามอันแสนงี่เง่า
อีกหัวข้อหนึ่งที่แรงไม่แพ้กัน คือ คำวิจารณ์
วันนี้ (และวันอื่นๆ) ที่เนสได้อ่านกระทู้
ซึ่งเกี่ยวกับคำวิจารณ์ เช่น
นักเขียนที่บอกว่าอยากได้คำติชม แต่พอเขาติมากลับด่าว่ากระจาย กลายเป็นประเด็น
คนสับนิยาย หรือ นักวิจารณ์ (เนสว่ามันข่ายเดียวกันน่ะ) 
ใช้คำวิจารณ์แรงเกิน อาจเป็นเพราะใส่อารมณ์ส่วนตัวมากเกิน ก็เกิดเป็นประเด็นอีก
เรื่องเหล่านี้เป็นอีกปัญหาที่น่าปวดหัวและเอือมระอาเอามากๆ
เนสขอพูดถึงนักเขียนก่อนนะครับ
ช่วงเวลาที่เนสเป็นนักเขียนของเด็กดีมา ราวๆ 5 ปีได้มั้ง
ทำให้เนสได้พบเจอคนมากมาย
การที่นักเขียนจะขอคำติชม ข้อเสนอแนะ ก็เป็นเรื่องธรรมดา
เพราะเขาแต่งแล้ว ก็ย่อมอยากรู้ว่าคนอื่นมองนิยายเขาอย่างไร 
มีข้อผิดพลาดอะไรที่มองข้ามไปหรือเปล่า มีอะไรที่ต้องแก้ไหม รู้สึกอย่างไรกับนิยายเขา
สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของนักเขียน
สิ่งที่นักเขียนพึงกระทำคือ รับฟังและแก้ไข พร้อมขอบคุณที่ติชม
ไม่ใช่การโต้แย้งกลับไป ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว คุณจะเขียนมาเพื่อขอคำวิจารณ์ทำไมล่ะครับ
พอเขาวิจารณ์มาก็ตอกกลับไปอย่างแรง เช่น
ไม่ชอบแล้วมาอ่านทำไม ก็จะแต่งอย่างนี้ทำไมเหรอ แต่งตามใจนักเขียน เป็นต้น
ทั้งๆ ที่คุณเขียนว่า ต้องการ/อยากได้/ ฝากติชมด้วยนะ
เนสคงพูดได้เพียงว่า เขาคงก่งก๊ง หรือสับสนอะไรซักอย่างแน่ๆ (บ้าไปแล้ว...)
แต่อีกด้านหนึ่ง คนสับนิยาย หรือนักวิจารณ์
คนเหล่านี้ บางทีก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกับนักเขียน
สิ่งที่สรุปได้คือ คำวิจารณ์แรงเกิน ใช้คำไม่เหมาะสม
คนที่จะวิจารณ์งานเขียนได้ ก็ต้องมีความคิดที่เป็นกลาง ไม่เอียงเข้าหาด้านใดด้านหนึ่ง
แม้ว่าเขาจะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตามที
ใช้คำที่เหมาะสม สุภาพ และราบเรียบ
วิจารณ์ในมุมมองโดยรวม อย่ามองเจาะเป็นส่วนๆจนเรียกได้ว่า จี้เป็นจุด
(ถ้าเนสเป็นนักเขียนที่โดน ก็คงรู้สึกว่า งานเขียนเราไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหม)
ที่สำคัญ คงเป็นประสบการณ์ 
คนที่วิจารณ์ควรจะผ่านงานเขียนมาเยอะ เห็นข้อผิดพลาดมาเยอะ เจออะไรๆมามาก
เพราะเขาเหล่านั้นสามารถที่จะนำเอาความรู้เหล่านี้มาใช้เพื่อวิจารณ์
คนที่วิจารณ์ก็คือนักอ่านคนหนึ่งล่ะ หรือเป็นทั้งนักอ่านและนักเขียน
ไม่ใช่ว่า ฉันอยากจะวิจารณ์ก็วิจารณ์ โดยที่ไม่รู้อะไรเลย
วิจารณ์ไปโดยไม่แคร์อะไร วิจารณ์โดยที่อิงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือตามกระแส
(ที่มีช่วงหนึ่งของเด็กดี มีแต่คนออกมาสับนิยายกันอย่างมากมาย)
ควรจะมีจรรยาบรรณและความคิดที่คำนึงถึงอะไรมากๆ
คิดให้ดีก่อนวิจารณ์ คิดให้ดีก่อนที่จะกดโพส ทวนดูว่าสิ่งที่ทำเห็นควรหรือไม่

สำหรับที่เนสได้พูดมา (ระบายมากกว่าเนอะ) 
ก็คงเป็นแค่ความคิด ความรู้สึกส่วนตัว
ไม่ได้จงใจว่าฝ่ายไหนให้เสียหายนะครับ 
(อยากให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจน่ะครับ เนสกลัวนะ 
ถ้าต้องมารับมือกับคนที่ว่าร้าย มันเสียความรู้สึกน่ะ)
.........................................................................................................
เอาล่ะๆ นี่ก็เที่ยงแล้ว ท้องร้องแล้วสิ
เนสคงต้องขอตัวไปหาอะไรใส่ท้องก่อนนะครับ
(แต่ยังคงไม่ไปไหน ฮะๆ)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น