tgrjuyjyuk
ดู Blog ทั้งหมด

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นักการเมืองผู้เป็น “พ่อ” ด้วยดวงใจ

เขียนโดย tgrjuyjyuk
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นักการเมืองผู้เป็น “พ่อ” ด้วยดวงใจ
บทบาทของ คุณพ่อที่ใกล้ชิดกับลูกด้วยความรักเปี่ยมดวงใจ

            การ์ดสารพัดแบบมีใบปะหน้าเป็นรูปหัวใจ บ่งบอกถึงรักนิรันดร์ แทนความรู้สึกดีๆ สำหรับพ่อในหลายๆ ครอบครัว พร้อมด้วยการมอบของขวัญที่ถูกใจผู้รับ จากนั้นก็รับประทานอาหารร่วมกัน เป็นความสุขอีกแบบหนึ่งของครอบครัวไทย ที่พ่อแม่ลูกอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันในโอกาสวันพ่อของทุกปี

             วันพ่อ ของหัวหน้าครอบครัวที่มีอาชีพเป็นนักการเมือง ปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ บางยุคสมัยเป็นพรรครัฐบาล มีตำแหน่งหน้าที่เป็นรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล และบางยุคกลายเป็นฝ่ายค้านของรัฐบาล ในโอกาส วันพ่อปีนี้ เราขอเสนอโลกส่วนตัวของสุภาพบุรุษที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ คุณมาร์คเจ้าของบ้านแห่งความรัก ที่มี พิมพ์เพ็ญ (ศกุนตาภัย) เวชชาชีวะ หรือ คุณแตง (โม) เป็นคู่ชีวิตเคียงกายและเคียงใจตลอดมา พร้อมด้วยสายใยผูกพัน เด็กหญิงปราง และ เด็กชายปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ

             ผมกับแตงเป็นเพื่อนเรียนหนังสือ ตั้งแต่ชั้นประถม ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เราสองคนเกิดเดือนเดียวกันปีเดียวกัน ผมเกิดวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๐๗ ส่วนแตงเกิดวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๐๗ ผมเรียนถึงชั้นประถมปีที่ ๖ ก็ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ในขณะที่แตงเรียนอยู่เมืองไทยจนจบคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

            คุณอภิสิทธิ์เป็นบุตรชายของ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ และ ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสดใส เวชชาชีวะ ส่วน คุณพิมพ์เพ็ญ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย เป็นบุตรสาวของ ศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์เพ็ญ และ คุณประพาพิมพ์ ศกุนตาภัย อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

            ในช่วงที่ คุณอภิสิทธิ์ อายุ ๑๘ ปี ก็ได้มีโอกาสพบกับ คุณพิมพ์เพ็ญ อีกครั้งหนึ่งในเมืองไทย จากนั้นก็คบหาเป็นเพื่อนและเป็นคนที่รู้ใจกันเป็นเวลา ๖ ปี ระหว่างนั้น คุณอภิสิทธิ์ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด จนจบมาแล้วทำงานในเมืองไทย ๒ ปี เพื่อรอคุณพิมพ์เพ็ญเรียนจบทันตแพทย์ จึงแต่งงานแล้วไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ประเทศอังกฤษ ขณะที่คุณอภิสิทธิ์เรียนปริญญาโท

             เราเข้าพิธีสมรสพระราชทาน เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๑ ตอนนั้นเราอายุ ๒๔ ปี เป็นการเริ่มต้นชีวิตครอบครัว พร้อมๆ กับการเรียนต่อปริญญาโทของผม

            ทั้งสองมีบุตรคนแรกคือ มะปราง (ปราง) วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ ขณะนั้น คุณอภิสิทธิ์เรียนจบปริญญาโทแล้ว และเพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตการทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ครอบครัวอบอุ่นของ อภิสิทธิ์ และ พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ พร้อมบุตรหญิงชาย ปราง และ ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ไปพักผ่อนกับครอบครัวในวันหยุด เรามีบ้านอยู่ที่หัวหิน ทุกครั้งที่ไปเที่ยวทะเล ผมจะขับรถเอง

             ชีวิตส่วนตัวเราเปลี่ยนไปมากเมื่อมีลูก เราให้เวลาดูแลมะปรางอย่างเต็มที่ ทั้งพ่อและแม่อยู่กับบ้านมากขึ้น เพื่อจะอยู่กับลูก ปรับสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมกับการมีเด็กอยู่ในครอบครัว เราตั้งชื่อ มะปราง เพราะแม่ชื่อ แตง(โม) ผลไม้ลูกใหญ่หน่อย ลูกสาวก็น่าจะชื่อเป็นผลไม้ ปราง ยังแปลว่า แก้ม ทั้ง มะปราง และ ปัณณ์ แก้มใหญ่อวบอิ่มทั้งสองคน ปัณณ์เกิดสามปีต่อมาเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๓๖ มีชื่อจริงว่า ปัณณสิทธิ์ ชื่อ ปัณณ์ แปลว่า หนังสือ

            เมื่อลูกทั้งสองเรียนหนังสือ คุณอภิสิทธิ์มีหน้าที่ประจำด้วยความรักคือ ไปส่ง มะปราง และ ปัณณ์ ที่โรงเรียนจิตรลดาตอนเช้า ตั้งแต่เล็กจนถึงทุกวันนี้

             มะปรางเห็นผมเป็นเพื่อนมากกว่า ชวนผมเล่นด้วยเป็นประจำ โดยเฉพาะเกมคอมพิวเตอร์ เราเป็นเพื่อนเล่นกันโดยตลอด มีเฉพาะช่วงคุมทำการบ้านหรือให้ดูหนังสือสอบ ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่เคยตีลูกทั้งสองคน ใช้วิธีการดุลูกมากกว่า คงบอกยากว่าดุแค่ไหน เพราะไม่มีเครื่องวัดความดุ แต่ก็เคยมีการต่อว่าต่อขานจนลูกร้องไห้มาแล้ว ลูกทั้งสองคนไม่ดื้อ เพียงแต่บางครั้งตั้งใจยังไม่มากอย่างที่พ่อต้องการ

            เท่าที่สังเกต ปัณณ์จะกลัวพี่มะปรางมากกว่ากลัวพ่อแม่ พี่คงจะดุเขา และเด็กๆ มักจะเชื่อกันเองมากกว่า...เป็นข้อสังเกตเพิ่มเติมของคุณอภิสิทธิ์

             ปกติผมกับแตงไม่ได้ใช้เวลากับงานสังสัรรค์งานสังคมอยู่แล้ว ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว วันหยุดสุดสัปดาห์ สถานที่พักผ่อนในกรุงเทพฯ มีอยู่จำกัด อยู่ในสภาวะแวดล้อมไม่ดีเท่าไหร่ ลูกทั้งสองก็เป็นภูมิแพ้ หอบหืดตั้งแต่เกิด คงเป็นปัญหาจากฝุ่นในเมือง เพราะฉะนั้นการพาลูกทั้งสองไปพักผ่อนชายทะเลเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์จึงเป็นเรื่องดี เราพาลูกไปเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย ดูจังหวะช่วงปิดเทอมหรือสุดสัปดาห์ เรามีบ้านอยู่ที่หัวหิน หรือบางครั้งก็ไปพักโรงแรม คอนโดมิเนียม บางครั้งก็ไปจังหวัดอื่นๆ เช่น ระยอง เป็นครั้งคราว

            เขาเล่าต่อไปว่า

             ทุกครั้งที่ไปเที่ยวทะเล ผมจะขับรถเอง แต่ต้องใช้รถที่พับเบาะข้างหลังให้ใส่ของได้เยอะ ของลูกเยอะเสียเหลือเกิน เสื้อผ้า ของกิน ของเล่นสารพัด

เมื่อสวมบทบาทนักการเมือง ขณะไปงานสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาลกับภริยา

มะปราง กับ ปัณณ์

            ลูกสองคนเป็นโรคภูมิแพ้ ดังนั้น คุณแม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา โดยเฉพาะการเลือกใช้สบู่ ผงซักฟอก ต้องคอยสังเกตว่าจะแพ้ เป็นผดผื่นหรือไม่ ธรรมชาติของเด็กก็ชอบเกา ยิ่งทำให้เป็นแผลมากขึ้น คุณแม่ก็ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

             เรื่องเสื้อผ้าของลูก ผมไม่เคยซื้อให้ลูกทั้งสอง เพราะไม่ได้ซื้อให้ตัวเองเลย เนื่องจากไม่ค่อยได้สนใจสิ่งเหล่านี้ แม่จะเป็นคนจัดการให้ลูกทั้งหมด เวลาไปซื้อของ ผมก็ไปด้วย แต่ก็ช่วยเลือกซื้อพวกเสื้อผ้าให้ไม่ได้ จะแยกไปซื้ออย่างอื่น

            เมื่อคุณอภิสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตมาเป็นนักการเมือง ก็ไม่สามารถแบ่งเบาภาระในบ้าน หรือช่วยคุณพิมพ์เพ็ญได้อย่างเต็มที่ ไม่เหมือนช่วงเป็นอาจารย์ ที่มีเวลาดูแลมะปรางได้เต็มที่กว่าตอนที่เป็นนักการเมือง ซึ่งตอนนั้นมีปัณณ์แล้ว ความเป็นบุคคลของสาธารณะของชาติบ้านเมือง ย่อมกระทบเรื่องเวลา การบริหารเวลา และสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เวลาพาครอบครัวไปพักผ่อนก็เป็นเป้าสายตา

             สำหรับผมแล้ว ความเป็นคนสาธารณะนั้นมากับอาชีพของผม แต่สำหรับครอบครัวแล้ว อาจจะไม่เป็นธรรมกับเขาคุณอภิสิทธิ์กล่าว

            คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๓ ปี เป็นโฆษกรัฐบาล ๒ ปี รวมที่เข้ามาการเมืองเป็นเวลา ๑๐ ปีแล้ว ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ๕ ครั้ง ครั้งแรกได้ที่ ๓ ฟันฝ่าเข้ามา ต่อมาได้เป็นที่ ๑ ในเขต ๓ ครั้ง ครั้งสุดท้ายเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่มีคะแนนของตัวเอง เป็นคะแนนของพรรค ขณะนี้มีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

             ผมสนใจการเมือง ตั้งแต่อายุ ๙ ขวบ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นนักการเมืองตลอดชั่วชีวิตการทำงาน ต่อไปอาจกลับไปทำงานด้านวิชาการ ปัจจุบันเวลาที่เอื้ออำนวยก็จะรับงานบรรยายพิเศษ อภิปราย สัมมนา ซึ่งเป็นงานที่ชอบ

            คุณอภิสิทธิ์ให้ข้อคิดว่า การพูดเป็นการถ่ายทอดความคิด จะพูดได้ดีต้องมีความคิดที่ชัดเจน คุณอภิสิทธิ์ไม่เชื่อว่าคนที่มีความคิดสับสนจะพูดได้ดี การที่คนเราจะทำอะไรได้ดีนั้น ต้องมีความรัก ความชอบที่จะทำด้วย การพูดได้ดีคือการพูดในสิ่งที่เราเชื่อ การเป็นนักการเมืองเป็นเรื่องที่จะต้องสื่อสารให้คนเข้าใจเหตุผล ต้องฝึกและเรียนรู้จากคนอื่นด้วย

             ผมชอบฟังการประชุมสภาตั้งแต่เด็กๆ ต้องการเรียนรู้ว่าคนพูดดีเป็นเพราะอะไร ศึกษาจุดดีจากผู้มีประสบการณ์มาก่อน

            ชื่อเสียงของคุณอภิสิทธิ์เคยปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ โดยเฉพาะได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทมส์ว่าติดอันดับ ๑ ใน ๕ ของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่จะเป็นผู้นำในอนาคตของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และยังมีหลายสำนักวิเคราะห์ว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต

            เรื่องนี้ คุณอภิสิทธิ์บอกเล่าความรู้สึกว่า

             การเมืองเป็นเรื่องที่มีความไม่แน่นอนสูง ผมตั้งใจที่จะทำงานการเมือง แต่จะนั่งในตำแหน่งใดนั้นอยู่ที่ระบบ ประชาชนเป็นผู้เลือก ตัดสินใจและมอบหมายให้ทำงาน เพราะงานการเมืองเป็นงานอาสาสมัคร เราเป็นทางเลือก และต้องประเมินตัวเองเสมอว่า อยู่ตรงจุดไหน แต่ไม่ว่าผมจะเป็นอะไร ความผูกพันกับครอบครัวและลูกๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ความรักอยากให้ลูกมีความสุข เป็นคนดีของสังคม อยากจะเป็นอะไร ก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งคู่ดูจะชอบศิลปะ ปัณณ์ชอบดนตรี ส่วนปรางชอบวาดรูปจนขอไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีก็สนับสนุน

            คุณอภิสิทธิ์ยังให้ข้อคิดถึงบทบาทของพ่อในปัจจุบันนั้นต้องมีการปรับตัวกันอย่างมาก สังคมเมือง สังคมอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปมาก การงาน การแข่งขันเป็นเรื่องที่ครอบงำอยู่ ทำให้ปัญหาการมองบทบาทแต่ละคนในครอบครัวถูกมองข้ามไป ถ้าสถาบันสังคม เช่น สถาบันครอบครัวอ่อนแอ สังคมก็อ่อนแอด้วย ในโอกาสวันพ่อ พ่อทุกคนควรจะเตือนตัวเองในความเป็นมนุษย์ที่ต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่แห่งความเป็นพ่อที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าเรื่องหน้าที่การงาน โดยเฉพาะครอบครัวปัจจุบันที่แม่ก็ต้องทำงานหนักด้วย พ่อและแม่ต้องร่วมรับผิดชอบครอบครัวร่วมกันอย่างดีด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 41
พิมพ์เพ็ญ มีสามีเป็นไอ้ฆาตรกร!!! หนูปรางกับหนูปัณณสิทธิ์ มีพ่อเป็นไอ้ฆาตรกร!!
ความคิดเห็นที่ 42
คิดว่าปิดสื่อ ปิดข่าวทางฝ่ายตรงข้ามและแถมยังใส่ร้ายป้ายสีสร้างสถานการณืทำร้ายทำลายประชาชนคนไทยอีก แล้วชาวโลกเขาจะหลงเชื่อหรือ "อภิสิทธิ์ ธิลิ้ม สาทิตย์พวกลิ่วล้อทั้งหมด" คนไทยเขารู้ความจริงหมดแล้ว 55555555++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็นที่ 43
อัย "ฆาตร" หน้าตัวผู้หญิง พ่อแม่ลูกเมีย มรึงไม่สั่งสอน รึงัย สั่งทำร้ายประชาชนไทยมือเปล่า ยังตอแหลสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายประชาชนไทยอีก
ความคิดเห็นที่ 44
อภิสิทธิ์ขอจงเชื่อฟังคำสั่งสนธิลิ้มต่อไปถะ แล้วได้ดีเอง ที่ผ่านมาก็ได้เป็นนายกแล้วเนี่ย ครั้งต่อไปก็ได้เป็น"อัยฆาตรกรกระหายเลือดประชาชนไทย อัยปีศาจโกเต็กซ์ลิ้ม" สมใจนึกแต่ไร้จิตสำนึกของความเป็นคน!!!!!
ความคิดเห็นที่ 45
อภิสิทธิ์ขอจงเชื่อฟังคำสั่งสนธิลิ้มต่อไปถะ แล้วได้ดีเอง ที่ผ่านมาก็ได้เป็นนายกแล้วเนี่ย ครั้งต่อไปก็ได้เป็น\"อัยฆาตรกรกระหายเลือดประชาชนไทย อัยปีศาจโกเต็กซ์ลิ้ม\" สมใจนึกแต่ไร้จิตสำนึกของความเป็นคน!!!!! เห็นด้วยครับผม
ความคิดเห็นที่ 46
ถ้านายกสั่งฆ่าจิงก้อไม่เหนเป็นไร ก้อพวกควายหน้าโง่มาก่อกวน
อยู่ได้ ได้วันละเท่าไรกันล่ะ ตายๆกานได้มั่งก้อดี ประเทศไทยจาได้สูงขึ้น โดนไอแม้วมานสนตะพายแร้วยังมาปากเก่งอีก ไอพวกหน้า ห.
ว่าเค้าเปนทรราช แร้วไอที่โฟนอินมามันเปนอารัยร๋อ แผ่นดินก้อมะมีจาอยู่แร้วยังไปอาศัยประเทศเค้าอยู่อีก ไอ้พวกนปช สมควรที่จาไปตกนรก 100000 ขุมมันก้อไม่สำนึกหรอก สมองหมาปัญญาควายกานจิง นั่งตากแดแตกลมได้กันแค่วันละ 400-500 เอง สู้กลับไปบ้านทามนาค้าขายพัฒนาบ้านเมืองดีกว่า มานั่งให้คนเค้าสาปแช่ง
ความคิดเห็นที่ 47
รักนายกอภิสิทธิ์ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้

ส่วนคนที่มาโพสด่้าน่ะ สงสัยคงโดนพวกบ้าๆล้างหัวมา
โพสติดๆกันเลย คนเดียวกันรึเปล่าเนี่ย ชอบป่วน
ความคิดเห็นที่ 48
สมองคิดได้แค่นี้หรอ ?
ทำไมถึงคิดว่าเค้าโดนจ้างมาตลอด ?
หรือตอนที่พวกคุณไปชุมนุมที่สนามบินนั่นก็โดนจ้างมาเหมือนกันถึงคิดว่าคนอื่นก็โดนจ้างเหมือนพวกคุณ ?
จะพูดอะไรก็ให้ไปศึกษามาให้ดีๆก่อน
ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชื่อแต่ฟรีทีวี แล้วก็ astv
บอกว่าทักษิณโกง .. ใช่ ! เค้าโกง แล้วนักการเมืองที่ผ่านๆมาไม่ได้โกงหรอ
ปชป. เนี้ยแหละตัวดี ตัวพ่อของการโกง
แล้วก็นะ ..ถ้ามีเวลาว่างพอมาเม้นด่าคนอื่น
เอาเวลาไปศึกษาเรื่องเก่าเก็บซะดีกว่า
อย่ามัวแต่ทำตัว "ถ่วง" ความเจริญ
ความคิดเห็นที่ 49
พูดไปก้อเสียน้ำลาย คอยดูไอพวกรัฐบาล + ทหาร โดนละกัน แล้วจะรู้ว่ามันโหดแค่ไหน
ความคิดเห็นที่ 50
คำก็ โง่ สองคำก็ โง่
จริงๆแล้วคนที่พูดน่ะ โง่ กว่า
ความคิดเห็นที่ 51
มะปรางที่รัก เด็กสาวที่สวย นักศึกษาของจุฬาลงกรณ์ หน้าแอ๊บแบ๊วเหมือนปลาท้อง ถ้าพี่เจอพี่อยากจะถามหนูว่า รู้ศึกยังไงที่เป็นลูกทรราช ภูมิใจมั้ยที่มีพ่อเป็นทรราช
ความคิดเห็นที่ 52
คนที่เข้ามาประณามนายกไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้อ่ะตัวเองดีแล้วเหรอถึงไปตัดสินคนอื่น ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นของประเทศไทยไม่ใครผิดหรอกถ้าจะผิดก็พวกประชาชนแบบเราๆที่ไม่เปิดหูเปิดตารับความจริงต่างก็คิดว่าฝ่ายตัวเองถูก แล้วที่ไปแช่งให้เค้าเป็นนู่นเป็นนี่มันไม่ดีนะจะบอกให้กรรมใครคนนั้นเค้าก็รับไปเองอยู่แล้วจะไปสร้างกรรมใหม่ให้กับเค้าทำไม เข้ามาอ่านเรื่องดีๆแต่เจอความรู้สึกแย่ๆเซงงงงงจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 53
การได้ด่าว่าลูกเค้าเป็นความชอบธรรมทางการเมืองเหรอ นี่เป็นการสู้ตามแบบประชาธิปไตยฉบับไหนเหรอ เค้าต้องป่าวประกาศด้วยเหรอ ว่าลูกเค้าเป็นอะไร ... แม่คุณได้ประกาศบอกใครหรือเปล่า ว่าผ่านผู้ชายมากี่คน ... คิดว่าไม่

เล่นอะไรไม่รู้จักกฎกติกา พอถูกด่าว่าเป็นควายยังจะโกรธอีก

ที่เข้าข้างไอทักษินกันเนี่ย ก็เพราะได้ผลประโยชน์ทั้งนั้น เพราะคิดว่ามันกลับมาแล้วชีวิตตัวเองจะดี ตื่นเถอะ มันกลับมาไม่ได้หรอก โจทย์เยอะ มาเมื่อไหร่คนก็แย่งกันสอยเมื่อนั้นแหละ
ความคิดเห็นที่ 54
ประเทศไทยโชคร้ายมากๆที่มีที่มีนายกชื่ออภิสิทธิ์ เป็นคนที่สวยแต่รูปจริงๆ ตอนเป็นฝ่านค้านพูดอย่างพอเป็นนายกพูดอีกอย่าง ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลย แค่เก้าอี้ตัวเดียวแลกกี่ศพก็ยอม ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า
ความคิดเห็นที่ 55
ทรราชจอมโกหกตัวจริงเลย
นักฆ่าเกินร้อยศพ
ภูมิใจไหมครอบครัว
ไอแอมป์
ไอแอมป์ 7 มิ.ย. 53 / 13:57

ไม่ว่าเสื้อแดงเสื้อเหลืองใครทำอะไรไว้ย่อมหนีไม่พ้นเวรกรรม

ไอแอมป์
ไอแอมป์ 7 มิ.ย. 53 / 13:59
ความจริงเป็นเช่นไรรู้อยู่แก่ใจแล้วจะรู้ว่าใครดีเลวอย่างไร
ความคิดเห็นที่ 58
ถ้าลูกเมียพ่อแม่ญาติพี่น้องโดนยิงตายบ้างแล้วจะรู้สึกกรรมเวรมีจริงนะ
ความคิดเห็นที่ 59
ถ้าผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นคนในครอบครัวคุณบ้างคุณจะรู้สึกเช่นไรไม่ว่าฝ่ายใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในฐานะคนด้วยกัน(คนไทย)ฉันรู้สึกสลดใจอย่างเหลือเกิน
ความคิดเห็นที่ 60
เขียนมาดีๆทั้งนั้น ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้ดี ทั้งเก่ง แต่เวรกรรมมีจริง สักวันจะตามสนองแน่ๆ ตอนนี้ก็ตอแหลไปวันวัน เพื่อยืดเวลาให้เป็นนายกนานที่สุด กำจัดพรรคใหญ่หมดแล้ว คู่แข่งเองก็มี ไอ้ห้อย กับบักใสขวัญใจแม่ยกแห่งพธม ขอให้ประเทศไทยจงเจริญ
< 1 2 3 4 5 >