ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS] A M E R I C A - All x V

    ลำดับตอนที่ #3 : PART 3 - S O M E T H I N G I N E E D ☆

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 998
      2
      24 ก.พ. 57


    รูปประกอบการจินตนาการ
    นี่คือภาพของเยลโล่วสโตนที่พูดถึงในฟิคนะคะ
    สวยมากจริงๆเลยอยากให้หนุ่มๆได้ไปเที่ยวกันที่นี่ 55555
    คือมันไม่ได้เกี่ยวอะไรหรอก 555555 เอาเถอะ





    น้ำพุร้อน แคนยอน ลำธาร บ่อ บึง เขา ห้วย น้ำพุร้อนสีรุ้ง เขาหินปูน ควายป่า โยกี้แบร์(หมีกริซลี่ย์)  อะไรประมานนี้ค่ะ 555






    AMERICA – 3


    Part 3 Something i need

     

     

    Rating : PG ใสกิ๊งมั้ง

    Pairing : Jhope V

    Note : เต๊าะกันเข้าไป น้องน่ารักก็จงเต๊าะน้องไป ฉลองที่หนุ่มๆได้เข้าชิงแล้วได้ที่3มา
    snsเยอะสุดเลยนะ อีนี่ก็เทรนด์จนลิมิตเยยจ้ะ คิคิคิ เยี่ยมเลยอาร์มี่ทุกคน จังจังเกิล์ล ไปอ่านกันเถ้อะ! โฮปวีๆ

    ปล. ไม่เคยฟังเพลงก็ลองฟังดูกีดีน้ะจ้ะ เพลงเพราะ ท่องฮุคพีคดี จิ้มๆๆๆ

     

     

     

     

     

     

     

    แทฮยอง!!

     

    เฮือก!

     

     

    ลืมตาโพล่งขึ้นในความมืด เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก

    หันซ้ายหันขวามองหาเจ้าของชื่อที่โพล่งขึ้นมาในความฝัน

     

     

     

    ยังอยู่ ..

    ยังนอนผ่อนลมหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างๆ ..

     

     

    ฝันไปหรอกหรอ ..

     

     

    I had a dream the other night
    About how we only get one life

     

     

     

    ผมฝันร้าย ฝันว่าไปเดินเล่นดูน้ำพุร้อนสีรุ้งกับแทฮยองแล้วพลัดตกลงไป

    คือผมอะตก แต่ในฝันจับมือกับแทฮยองอยู่ เลยตื่นตกใจ กลัวว่าแทฮยองจะเป็นอะไรไป

    กลัวว่าผมในฝันจะดึงเอาคนตัวเล็กนี้ดิ่งลงบ่อน้ำพุร้อนนั่นไปด้วย ..

    แต่เท่าที่เห็นมันก็เป็นแค่เพียงความฝัน

    ผมกับแทฮยองยังปกติดี ยังอยู่ดี

     

    ตกใจหมดเลยแฮะ

    เล่นเอาตัวแทนแห่งความหวังอย่างผมคนนี้หมดหวังไปชั่วขณะเลยนะ!

    ร้ายจริงๆ

     

    Woke me up right after two
    Stayed awake and stared at you
    So I wouldn't lose my mind

     

    นี่ก็ตีสองกว่าแล้ว

    ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าคนตัวเล็กนี่กลับมาอยู่ข้างๆผมตั้งแต่ตอนไหน

    จำได้ว่าก่อนนอนออกไปเดินหาก็เห็นว่าไปนอนตากน้ำค้างดมยอดหญ้าดูดาวอยู่กับไอ้นัมจุน

    เห็นมันนิ่งๆ แต่ก็แอบทำคะแนนอยู่ตลอดนี่หว่าไอ้นี่ ต้องระวังซะแล้ว..

     

     

     

    มือเรียวเอื้อมไปสัมผัสแก้มคนหลับปุ๋ยแผ่วเบา ลูบไล้ไปตามผิวนุ่มอย่างทะนุถนอม

    ปัดผมที่ตกลงมาปรกหน้าออก จ้องมองใบหน้าน่ารักที่เขาชอบนักชอบหนาไม่วางตา

    ถึงแม้ตอนนี้จะมีเพียงแค่แสงจากพระจันทร์ที่ส่องผ่านรูเต็นท์เข้ามาแค่พอให้มองเห็นได้สลัวๆ

    แต่คนตรงหน้านี้กลับดูสว่างไสวเหลือเกินในสายตาผม

     

    น่ารักจริงๆ

     

     

     

    มันไม่ง่ายเลยนะครับการที่จะได้มานอนข้างๆแทฮยองแบบนี้ในเต็นท์แคบๆนี่

    พวกเรามีเต็นท์กันสองอัน อันนึงเป็นเต็นท์ใหญ่สำหรับ5คน อีกอันคือเต็นท์เล็กๆแคบๆที่ผมอยู่นี่แหละครับ

    แต่ใช่ว่าเต็นท์แคบจะแย่นะ มันดีซะอีก เพราะยิ่งแคบผมก็ยิ่งได้ใกล้ชิดแทฮยอง ถูกมั้ยล่า? ฮี่ฮี่

     

    แล้วเลือกเต้นท์กันยังไงน่ะหรอ?

     

    จับไม้สั้นไม้ยาวครับ

     

    ไม้สั้นห้าแท่งแห่งชัยชนะ ได้นอนเต็นท์ใหญ่สุดสบาย

    กับไม้ยาวสองแท่งแห่งความอัปยศที่ไม่มีผู้ใดอยากได้..

     

    แต่พอคิมแทฮยองผู้หยิบไม้หมายเลข1 จับได้ไม้ยาวเท่านั้นแหละ

    ลมเปลี่ยนทิศทันที

    ผู้หยิบไม้ที่เหลืออีกห้าชีวิตนี่เกิดมีจิตสาธารณะอยากอาสาไปนอนเต็นท์เล็กกันใหญ่

    หน้าตาอยากโดนเนรเทศกันจับใจ ปากขมุบขมิบๆสวดอ้อนวอนพระเจ้าเล่นของกันไปเป็นสิบคาถา

    แต่ชัยชนะก็ตกเป็นของบุรุษที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความหวังอย่างผม ! คึฮ่าๆๆๆ

    ไอ้ซอกจินนี่มองผมตาขวางเป็นหมาเลยครับ ฮิฮิ

    ช่วยไม่ได้นี่หว่า อย่างที่โบราณเค้าว่า

     

    คู่แล้ว ไม่แคล้วกัน ว้อย !

     

     

    And I had the week that came from hell
    And yes I know that you can tell
    But you're like the net under the ledge
    But I go flying off the edge
    You go flying off as well

     

    ผมค่อยๆล้มตัวลงนอนอีกครั้งอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้คนข้างๆตื่น

    แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เบาพอเพราะคนข้างๆที่ว่า ค่อยๆลืมตาขึ้นมามองผมซะแล้วดิ

     

    งือ .. ฮยอง ...งัวเงียเชียว

    ครับ?หันไปลูบหัวคนง่วง

    ไมไม่นอนอ่า .. ฝันร้ายหรอ..รู้ด้วย

    อือ รู้ได้ไงเนี่ยฝันเหมือนกันหรือไง?

    ไม่รู้ .. นอนกันเถอะไม่พูดเปล่า คนตัวเล็กขยับตัวเข้ามานอนซุกอกผมแน่น

    อย่างงี้ฮยองฝันดีแน่เลยวาดแขนโอบรอบคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ กอดไว้ กลัวหาย

    ฝันถึงผมด้วยนะ..ฮยองจะฝันไปทำไม ในเมื่อความเป็นจริงมีนายอยู่ใกล้ๆแบบนี้แล้วอะ

    โฮปไนท์นะครับกระซิบบอก

    อืออ..

    .

    .

    .

     

     

    ตามตรงนะ

     

    ใครมันจะไปหลับลงวะบ้าเอ๊ย!

     

    คิมแทฮยอง

    คิมแทฮยองตัวเป็นๆตัวอุ่นๆนี่กำลังนอนซุกตัวอยู่ในอ้อมอกผมนะเว่ย!

    นี่มันอเมซิ่งอินอเมริกา

     

    ดูแพขนตาเรียงสวยนี่สิ ดู

    จมูกเล็กนี่สิ

    ริมฝีปากจิ้มลิ้มนี่อีก

    ใบหน้าหน้ารักที่กำลังหลับพริ้มนิ่งสนิทอยู่ชิดอกผมเนี่ยอีก

    อย่าให้พูดถึงลมหายในอุ่นๆที่เป่ารดผิวผมอยู่

    กับกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาเตะจมูกเป็นพักๆ ..

     

    ตึกตักๆ

     

    สติจะแตก

    ผมใจเต้นขนาดนี้ ถ้าแทฮยองไม่หลับคงจะได้ยินเสียงหัวใจผมแน่ๆ

     

    ตึกตักๆ

     

     

    แล้วเมื่อไหร่จะสงบล่ะเนี่ย..

     

     

     

    ตึกๆๆๆ

     

     

     

    จะได้นอนมั้ยวะคืนนี้จองโฮซอก?!

     

     


     

    And if you only die once I wanna die with you

     

     

     

    ถ้าความฝันเกิดเป็นความจริงขึ้นมา ..

    ถ้าจะต้องตายจริงๆ ..

     

    ผมก็อยากตายไปพร้อมแทฮยองนะ

    ตายไปด้วยกัน...

     

     

    น่าจะโอเค

     

     

     

     

    **

     

     

     

     

    เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส

    เสียงนกร้อง กิ่งไม้พลิ้วไหว ลมโชยกำลังดี

     

    ฮ้าาาาาาา

    สูดกลิ่นสดชื่นจากธรรมชาติรอบตัวนี่สิ

    ฟอดดดดดด

    สูดกลิ่นหอมธรรมชาติจากคนข้างตัวนี่สิ

     

    “งือออ”

    ร้องประท้วง

     

    ฟอดดดดด

    สดชื่นมาก

     

    “งื้อ ฮยองง”

    ปัดป่าย

     

    ฟอ.. /พลั่ก!/

     

    “ฮยองแม่ง...”

     

     

     

    อูย

    เจ็บดิครับ

    เห็นตัวเล็กๆ หมัดหนักใช่เล่น เสยมาได้ กรามแทบเบี้ยว

    แถมไม่ทันจะได้เอาคืนเจ้าตัวแสบก็ตะกุยผ้าห่มหนีออกนอกเต็นท์ไปซะแล้วด้วยดิ

    ฮยองจะนับว่าเป็นการกระทำอันเนื่องมาจากอาการเขินละกันนะแทฮยอง คิคิคิคิ

     

     

     

    หลังจากตื่นนอนทุกคนก็ทำภารกิจล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนชุดกันไปตามระเบียบ

    เสร็จก็มาหาของกินที่โต๊ะกลางแล้วแยกย้ายกันไปตามอัธยาศัย

     

    มุมใต้ต้นไม้ก็มียุนกินั่งหลับตาเอามือร่างภาพในอากาศอยู่

    คงกำลังออกแบบอะไรเจ๋งๆอยู่นั่นแหละ

    อีกมุมข้างเต็นท์ก็มีนัมจุนนั่งใส่หูฟังอันเป้งโยกหัวไปตามจังหวะเพลง

    มือก็จดอะไรไม่รู้ยุกยิกๆ คงไม่พ้นการแต่งเพลง

     

    บรรยากาศมันดี ฟีลมันก็มาสินะ

    สองคนนี้นี่เท่จริงๆ

    ผิดกับใครบางคนที่ตอนนี้กำลังยืนทำพีนัทบัตเตอร์เจลลี่แซนวิชอยู่

     

    “แทแทจะกัดเอาทั้งชิ้นหรือจะให้ฮยองตัดให้เป็นคำๆดีครับ ชอบแบบไหนเอ่ย เอ้ะ หรือให้ฮยองป้อนดีครับ?”

     

    ได้ยินเสียงแล้วอยากวิ่งเข้าไปกระโดดถีบขาคู่ซักที

    น้องมันมีมือมีฟันหยิบกัดหยิบกินเองได้ว้อยยย

    ถ้าจะเซอร์วิสกันขนาดนี้ เคี้ยวให้น้องด้วยเลยมั้ย?

     

     

    “โฮซอกฮยอง มองไรอะ หน้ามุ่ยเชียว” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะการจินตนาการท่ากระโดดขาคู่ผม

    “อ่อ เปล่าๆ มีไรหรอจีมินจองกุก?” ถามกลับไป

    “พวกผมว่าจะขี่จักรยานไปดูน้ำพุร้อนสีรุ้งกันอะ ฮยองไปด้วยกันปะ?” เดี๋ยวนะ น้ำพุร้อนที่ฝันเมื่อคืนน่ะหรอ

    “ไม่เอาอะ พวกนายไปเหอะ” ฮยองยังไม่อยากตายตอนนี้นะ ..

    “อ่า งั้นตามใจ อ้าว ไอ้แทมาพอดี! ไปดูน้ำพุร้อนกันปะ?” จีมินตะโกนถามแทฮยองที่กำลังเดินเข้ามาหา

    “ไปดิๆๆ” ห้ะ

    “ไม่ได้” ไม่ๆๆๆ

    “อ้าว ทำไมอะ” ประสานเสียงพร้อมกันสามคน

    “ก็ .. แทฮยองต้องอยู่ช่วยฮยองแต่งเพลง” สีข้างถลอกไปสามแถบ

    “ผมเนี่ยนะ? ให้นัมจุนฮยองช่วยดีกว่ามั้ยอะ ผมจะทำไรได้” เอียงคอถาม

    “นายนั่นแหละช่วยได้” ยืนกราน

    “งั้นพวกเราก็อยู่ช่วยด้วยดีมั้ย?” จีมินกับจองกุกบอก

    “ไม่ต้องๆ แค่แทฮยอง”

     

    “....”

     

    You got something I need
     

    “แค่แทฮยองคนเดียว..”

     

     

     

     

     

    .

    **

     

     

     

    แค่แทฮยองคนเดียว ..

     

    แค่แทฮยอง ..

     

    คนเดียว ..

     

    แทฮยองคนเดียว ..

     

     

     

    โอเค

    ประโยคนี้ชักจะวนเวียนอยู่ในหัวผมนานเกินไปแล้ว

    นานเกินความจำเป็นมากๆ

     

    ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมันที่แน่ชัดซักเท่าไหร่ แต่มันก็ฟังดูจั๊กจี้ไม่เบา

    คือทำไมต้องเป็นผม ?

     

    “ฮยองต้องแต่งท่อนแร็พของเพลงๆนึง”

     

    แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหน?

     

    “มันเป็นเพลงรัก”

     

     

     

     

    ว้อท เดอะ ฟัค

     

     

    คิดว่าผมควรจะทำตัวยังไงล่ะ

     

     

    “นายแค่นั่งนิ่งๆให้ฮยองมองหน้าก็พอ แต่มานั่งใกล้ๆฮยองก็ดีนะ”

     

     

     

    เออ ทำตัวไม่ถูกกว่าเดิมอีก

     

     

    ฟ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค

     

     

    เหลือบตามองไปยังแผ่นกระดาษที่มือเรียวถือดินสอเขียนคำพูดขยุกขยิกลงไปอยู่

    ก็คงเป็นเนื้อเพลงที่คล้องจองกันเป็นทำนองแร็พ อะไรเทือกนั้น ผมเองไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้

     

    แต่ที่รู้ๆคือแผ่นกระดาษที่ว่าอะมันวางอยู่ตรงหน้าผม

    แล้วโฮซอกฮยองยื่นมือมาเขียนจากทางด้านหลัง ..

     

    คือเรานั่งซ้อนกันอยู่อะเก็ทปะ

     

    “นายตัวหอมจัง”

     

     

     

    ทีนี้เก็ทฟีลรึยังว่าผมรู้สึกยังไงจากทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นนี่ ...

     

     

     

     

     

    โฮซอกฮยองแม่ง ..

     

    บ้าที่สุดเลย!

     

     

     

     

    “อะ เสร็จละ นายว่าไง?”

    โฮซอกฮยองถามขึ้นพลางเอาคางมาเกยไหล่ผมแล้วชูแผ่นกระดาษขึ้นมาระดับสายตา

    แล้วเริ่มร้องแร็พตามเนื้อเพลงที่เขียนอยู่บนแผ่นกระดาษ

     

     

    24Hours 너와단 둘이 있다면 아침부터 입맞춤 .

    24ชั่วโมง ถ้าคุณกับผมอยู่กันสองคน ผมจะจูบคุณตั้งแต่เช้า.

    빠질수 없는 브런치도 한입해 손잡고 너와 햇빛에 담글래(Yes)

    ทานอาหารมื้อสายๆที่ไม่ทานก็ไม่ได้สักหนึ่งคำ มือก็จับกันไว้ อาบแสงแดดไปกับคุณ (Yes)

    안끝내. 아름다운 밤중에 너에게 고백해 조명은 달로 .

    ยังไม่จบแค่นั้น. ในระหว่างคืนอันสวยงามผมจะสารภาพกับคุณภายใต้แสงจันทร์.

    수많은일들이 내게 말을 . (단하루만 있으면 가능해.)

    สิ่งต่างๆต่างบอกกับผมว่า. (มันเป็นไปได้ถ้าหากมีเพียงวันเดียว. ) 

     

    “ก็ .. ดีครับฮยอง” อ้อมแอ้มตอบ

    “หืม? ยังไม่ดีหรอ ทำไมนายดูลังเล” ยื่นหน้ามามองผม

    คือแค่นี้ก็ใกล้กันจะตายอยู่แล้ว จะมาใกล้ขึ้นอีกทำม๊ายย

     

    “ป่าวครับฮยอง น่ารักดี” หลบหน้าหนี

    “งั้นหรอ แล้วชอบรึเปล่า?” จ้อง

    จ้องทำม๊ายยยย

     

    “ชอบ” ชอบก็ชอบวะ โอ้ย ออกห่างซะทีเถอะ

    “ฮยองแต่งให้นาย”

    “....”

    “ถ้าฮยองมีโอกาสได้ใช้เวลา 1 วันกับนาย นี่คือสิ่งที่จะทำ”

    “....”

    “งั้น .. ขอจูบหน่อยสิ ..”

    “....”

     

    ใบหน้าเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่จะ..

    /เคร้งงง/

     

    In this world full of people there's one killing me

     

    “เฮ้ย ขอโทษทีเว้ย โยนพลาดไปหน่อย!

     

    ตะหลิวบินมาตกลงกลางหัวโฮซอกฮยองพอดีเป๊ะ

    ขัดจังหวะนาทีชีวิตผมพอดี

    ไหนๆก็ได้จังหวะแล้ว

    ขอเผ่นล่ะครับ   วิ่ง//

     

     

     

     

     

    **

     

     

     

     

    ไอ้ซอกจิน ..

    ไอ้นายแบบตกอับ ..

    ไอ้ไหล่กว้างหัวเล็กสมองแคบใจมาร ..

    ไอ้มารผจญ ..

     

    ไอ้ตะหลิวเวรรรรรรรรรร

    ขอสัญญาว่าตลอดชีวิตนี้ถ้าไม่ได้แทฮยองมาเป็นแฟนกูจะไม่ใช้ตะหลิวอีกเลย!

     

    เกือบแล้วเชียว

    เกือบได้จูบแทฮยองแล้วแท้ๆ

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก#!*&+0&^5%$#@ !!

     

     

    คิมซอกจิน

    ต้องชดใช้ ...

     

     

    ผลั่กก

    เคร้งงง

    โครมมม

    ตึงงง

    เป๊งงง

    เพล้งง

    #!*&+0&^5%$#@ !!

     

     

     

     

     

    **

     

     

    ไอ้พวกบ้านี่ ..

    ทำอะไรกันวะ

    สงครามเครื่องครัวรึไง?

    โฮซอกมันโกรธอะไรซอกจินนักหนา

    สองคนนี้ไปแค้นอะไรกันมา เล่นกันเป็นเด็กๆไปได้

    คนกำลังได้ฟีล เห็นละหมดอารมณ์

     

    อือ ...

    ชักจะขี้เกียจแล้วสิ ..

     

    ไม่อยากขยับตัวเลย ...

     

    ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนแผ่ใต้ต้นไม้ใหญ่

     

     

    “ยุนกิฮยอง”

     

    หืม?

     

    “ฮยอง”

     

    รู้สึกถึงแรงจิ้มที่แขน

     

     

    “อ่า .. แทฮยองงี่” มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

    “ฮี่ๆๆ ขอนั่งด้วยคนสิฮยอง” ยิ้มตาหยี

    “มานั่งอะไรกับฮยองล่ะ ไม่คิดไปห้ามศึกสองคนนั้นหน่อยหรอ?” ชี้ไปทางสงครามเครื่องครัว

    “ไม่เอาอะ ปล่อยเค้าเคลียร์ปัญหากันเองเหอะ” ส่ายหน้ารัวๆ

    “แต่ปัญหาที่ว่ามันก็คือนายไม่ใช่หรอ” เอานิ้วจิ้มหน้าผาก

    “ห้ะ?” งง

    “อ่อ เปล่าๆ”

     

    ไอ้เด็กนี่..

    นี่ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่นะ

    ทุกคนในบ้านรุมชอบตัวเอง แต่ละคนก็ตามตื๊อตามเต๊าะกันขนาดนี้

    ไม่รู้ตัวเลยหรอ .. จะเป็นไปได้ยังไง

     

     

    “เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยเนอะช่วงหลังๆนี่” แทฮยองพูดขึ้นทำลายความเงียบ

    “อือ ใช่ ไม่เหมือนสมัยก่อน..” ผมตอบ

    “ช่วงหลังๆมานี่ฮยองคงงานเยอะน่าดู เห็นหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงานทั้งวัน” ยิ้มหวาน

    “อือ ก็งานบ้าง นอนบ้างแหละ เบื่อๆน่ะ” เกาคอแก้เขิน แหม เจอยิ้มหวานขนาดนี้ใส่ ก็ใจสั่นดิครับ

     

     

    “คิดถึงสมัยก่อนจัง ..” เงยหน้ามองฟ้า

    “..?”

    “ตอนที่เราอยู่แดกูกันน่ะ ..”

    “อา ..”

    “ตอนนั้นฮยองยังฝันจะเป็นนักออกแบบอยู่เลย ภาวนาให้ได้ทำงานต่างประเทศ ฮยองทำได้จริงๆด้วยอะ เจ๋งโคตร” ยิ้มอีกแล้ว

    “อือใช่ นั่นสินะ ความจำดีนะเราเนี่ย” เอามือหยิกแก้ม หมั่นเขี้ยว

    “ก็มันเป็นความทรงจำดีๆหนิครับ คิคิคิ” หัวเราะคิกคัก

     

    ความทรงจำดีๆงั้นหรอ..

    แล้วในตอนนั้นนายรู้รึเปล่าว่าฮยองก็ตามจีบตามเต๊าะนาย

    เหมือนที่พวกคนในบ้านทุกวันนี้เค้าทำกันอยู่น่ะ ..

    ความทรงจำดีๆที่ว่านั่น

    นายหมายถึงอะไร ....

     

     

     

     

    **

     

     

     

     

    งั้น .. ขอจูบได้ไหม

     

    ขอจูบได้ไหม

     

    จูบได้ไหม

     

    จูบ

     

    อีกครั้งที่หัวของผมก้องไปด้วยประโยคเดิมๆจากคนๆเดิม

     

    วันนี้โฮซอกฮยองเป็นอะไรไปนะ

    โฮปปี้ฮยองของเค้าหายไปไหน

    ทำไมเหลือแต่โฮซอกฮยองที่เอาแต่พูดเอาแต่ทำอะไรก็ไม่รู้ให้เขารู้สึกจั๊กจี้ประหลาดๆ

     

    แล้วเพลงนั่น ..

    24Hours 너와단 둘이 있다면 아침부터 입맞춤 .

    24ชั่วโมง ถ้าคุณกับผมอยู่กันสองคน ผมจะจูบคุณตั้งแต่เช้า.

    빠질수 없는 브런치도 한입해 손잡고 너와 햇빛에 담글래(Yes)

    ทานอาหารมื้อสายๆที่ไม่ทานก็ไม่ได้สักหนึ่งคำ มือก็จับกันไว้ อาบแสงแดดไปกับคุณ (Yes)

     

    ใครบอกว่าไม่ได้ทำกัน

    จะมาขอจูบทำไมในเมื่อเมื่อเช้าก็แอบจุ้บผมไปตั้งแต่แหกขี้ตาตื่นแล้ว

    มื้อสายถึงจะไม่ได้มานั่งกินด้วยกัน แต่โฮซอกฮยองก็จ้องอยู่ตลอดนี่นา

    ตอนนั่งแต่งไอ้เพลงนี่ก็ทั้งนั่งซ้อนกัน ทั้งโอบทั้งซุก อาบแสงแดด มากเกินเลยการจับมือแบบในเนื้อเพลงไปตั้งเยอะ

    อะไรก็ไม่รู้!

     

     

    안끝내. 아름다운 밤중에 너에게 고백해 조명은 달로 .

    ยังไม่จบแค่นั้น. ในระหว่างคืนอันสวยงามผมจะสารภาพกับคุณภายใต้แสงจันทร์.

    수많은일들이 내게 말을 . (단하루만 있으면 가능해.)

    สิ่งต่างๆต่างบอกกับผมว่า. (มันเป็นไปได้ถ้าหากมีเพียงวันเดียว. ) 

     

    คิดถึงเนื้อเพลงในส่วนที่เหลือแล้วก็ใจหวิวๆ

    รีบชิงนอนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินดีมั้ยนะ..

     

    จะขอแลกที่นอนกับจีมินก็กลัวว่าจะต้องไปนอนข้างจินฮยอง

    รายนั้นนี่น่าหวั่นใจกว่าโฮซอกฮยองอีก ฮ่าๆๆๆ

    ไว้ใจได้ที่ไหน

     

    โอ้ย เอาไงดี

     

     

    นี่ก็หนีจากสองคนนั้นมานั่งกับยุนกิฮยองมาซักพักแล้ว

    ยุนกิฮยองหลับปุ๋ยไปแล้วแหละ

    สองคนนั้นที่ก่อนหน้านี้ใช้เครื่องครัวสู้กันก็สงบศึก หมดแรงแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง

    จองกุกจีมินก็ไม่รู้ว่าไปดูน้ำพุร้อนกันถึงญี่ปุ่นรึไง หายไปตั้งนานแล้วยังไม่กลับมาเลย

    นัมจุนฮยองก็ยังคงขมักเขม้นกับการแต่งเพลงอยู่เหมือนเดิม

     

    งือ เบื่อจัง

    แต่อย่ารีบถึงตอนกลางคืนเลยนะ...

    ทำตัวไม่ถูกจริงๆ

     

     

     

    **

     

     

     

     

    ในที่สุดเวลานอนแห่งการรอคอยของผมก็มาถึง

    แทฮยองน่ะ หนีเข้าเต็นท์มาตั้งนานแล้ว

    ผมพึ่งจะตามเข้ามา

     

    แล้วนี่อะไร

    แกล้งหลับหรอ

    ฮยองรู้นะว่านายนอนดึกกว่านี้ ..

     

    “แทฮยอง” เรียกเบาๆ

    “...” ไร้การตอบรับ

    “หลับแล้วหรอ..” ลองถาม

    “....” กริบ

    “แทฮยองครับ” อีกที

    “....” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก ..

    “หลับแล้วจริงๆอะ..” ก้มหน้าลงไปใกล้

    “.....” ยังนิ่ง

    “ง้า แย่จังยังไม่ได้สารภาพเลย” เอาจมูกไล้ไปบนไหล่เล็ก

    “....” ยังนิ่ง แต่แอบสั่นเล็กๆ

    “งั้นก็สารภาพมันทั้งๆที่นายหลับอยู่เลยละกัน ฮยองอยากให้มันเกิดขึ้นในวันเดียวเหมือนในเพลงที่แต่งจริงๆอะ”

    “.....” นิ่ง แต่แอบฟังอยู่ใช่มั้ย รู้นะๆๆๆๆๆ

    “แทฮยองอา..” ล้มตัวลงนอนข้างๆ รวบคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอด

     

    You got something I need

     

    “นายน่ะ .. น่ารักมากๆเลยนะรู้มั้ย ..”

    “....”

    “นายน่ะ ทั้งสดใส ตลก น่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีความสุขจริงๆ..”

    “....”

    “เวลาที่นายเข้ามากอด มาอ้อนฮยองน่ะ .. รู้ไหม ว่าฮยองชอบแค่ไหน ..”

    “....”

    “หลายครั้งที่ฮยองเหนื่อยหรือรู้สึกไม่ดี .. แค่นายเดินมาให้เห็นหน้าแล้วยิ้มให้ ..

    “....”

    แค่นั้นฮยองก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแล้ว ...”

    “....”

    “แทฮยองอา ... นายมี .. สิ่งนั้น ..”

    “....”

    “นายมีสิ่งนั้นที่ฮยองต้องการ .. รู้มั้ย?”

    “....”

    “ถ้าไม่มีนาย ไม่มีสิ่งนั้นของนาย ฮยองคง...”

    “....”

    “ไม่รู้สิ ..”

     

    You got something I need
    In this world full of people there's one killing me
    And if we only die once I wanna die with you (you, you, you)

     

    “จะพูดไงดีล่ะ .. คือถ้าคนเราตายได้ครั้งเดียว .. ฮยองก็อยากตายกับนาย”

    “....”

    “ฟังดูแปลกๆรึเปล่า ..คือหมายถึง ถ้านายตาย ฮยองก็อยากตายไปด้วยกันกับนาย .. ไม่อยากมีชีวิตโดยไม่มีนาย..”

    “....”

     

    If we only die once I wanna die with
    If we only live once I wanna live with you

     

    “แต่ถ้ามีชีวิตอยู่ .. ฮยองก็อยากใช้ชีวิตไปกับนาย ...” ก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็กในอ้อมกอด

    “....” ยังคงนอนนิ่งหลับตาสนิท

    “นายเท่านั้น ...” ก้มลงไป..

    “....” จนปลายจมูกแตะกัน ..

    “คิมแทฮยองกับจองโฮซอก ..” ประกบริมฝีปากลงเบาๆค้างไว้ซักพัก

    “....” แล้วผละออกช้าๆ

     

     

    “เพราะนายมีสิ่งนั้น .. สิ่งนั้นที่ฮยองต้องการ ...”

     

     

     

     

    TBC On Part4 : SugaV

    ใครบอกตอน3จะมาเร็ว 5555

    คือจริงๆมันต้องเสร็จตั้งแต่วันเกิดเจหวัง

    แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นทำให้ตอน3ที่แต่งมาครึ่งค่อนตอนหายวับไปในพริบตา ;__;

    แทนที่จะเสร็จวันเกิดหวัง กลายเป็นเริ่มแต่งใหม่วันนั้น 5555555

    แต่เอาน่า มันมาแล้ว หวังว่าจะชอบกันนะคะ

    ขอบคุณมากๆที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ ติชมได้โนะ <3

    รักทุกคนนะ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ

     



     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×