Blue_Rapbit
ดู Blog ทั้งหมด

[1st Day] รด. ปี 2 เขาชนไก่... อยู่ อย่าง ชิล

เขียนโดย Blue_Rapbit

ดูเหมือนเยอะแต่อ่านแปปเดียวจบ           


            ผมตั้งใจจะตื่นตีสี่ครึ่งเพื่อมาเตรียมตัวเตรียมใจก็ออกเดินทางไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่ ปรากฏว่า... ชิบหาย ! กูตื่นตี 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 ไม่ตลก ! 

            ก่อนนอนผมตั้งปลุกเผื่อไว้เลย 4.15 น. เอาอีกเอาอีก 4.25 น. อันนี้ต้องตื่นนะเว๊ย 4.30 น. เผื่อไว้ ๆ กันพลาดเอาไปเลย 4.35 น. ถ้าพลาดอันนี้ต้องตื่นแน่ ๆ 4.45 น. 

            ครับ กูผ่านมาแม่งทั้ง 5 ด่านเลยแล้วมาตื่นตอนตีห้าเพราะเสียงโขกประตูอันทรงพลังของคุณพ่อ

            ผมวิ่งแหกขี้ตาไปล้างหน้าแปรงฟันและพยายามทำสิ่งที่สำคัญที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีผลต่ออนาคต นั่นก็คือ... ขี้ 

            ปรากฏว่าขี้ไม่ออกวะ ทั้งเบ่ง ทั้งกดท้อง ทั้งคำราม พยายามจะล้วงมือดึงมันออกมา... พอ พอ จะอ้วก ขี้มันซะตอนนี้เลยจะได้ไม่ต้องไปปล่อยที่นั่น ไม่ใช่เพราะว่ากลัวทำส้วมที่นั่นเขาเลอะหรือขี้ผมมันทำสิ่งแวดล้อมเป็นพิษหรอกนะ แต่ผมโดนสปอยล์มาว่าห้องน้ำที่นั่นแม่งโสโครกชิบหายเลยว่ะ ก็เลยตัดปัญหามันตั้งแต่ตอนนี้ซะ 

            เขาเรียกรวม 6 โมง กูออกจากบ้านตี 5 ครึ่ง อะไรของกูเนี่ย ! จะไปถึงม๊าย !? ผมต้องไปให้ถึงศูนย์การแพทย์กาญจนาให้ทันเวลา ขณะเดินทางเหมือนพระเจ้ากลั่นแกล้ว แม่งถึงกี่แยกก็ติดไฟแดงแม่งทุกย้าย ฝั่งนั่นรถก็มีแค่ 2 คัน เลขขึ้นตั้ง 90 ฟรรค ! แล้วผมก็ถึงที่หมายก่อนเวลา 3 นาที แล้วเราก็ยืนรอกันต่อไป 6 โมงกว่า ๆ แล้วรถก็ยังไม่มา จนอาจารย์ผู้กำกับขี่มอไซค์มาบอกว่า "เขารอกันตรงนั้น เดินไป ๆ" ซึ่งผมตีความจากน้ำเสียงที่แกพูดมันควรจะได้ความจริง ๆ เป็นแบบนี้ว่า "-ควาย ! ใครใช้ให้-มารอตรงนี้" ผมไม่ผิดนะ ก็บอกว่าที่ศูนย์การแพทย์ ผมจะไปยืนรอบนหลังคา ใต้บ่อปลา ข้างรากต้นมะขามของศูนย์การแพทย์ก็ได้ ก็ไม่ได้ชี้แจงก่อนมาให้เรียบร้อยนี่ แล้วพวกผมก็เดินไปถึงจุดที่เขานั่งรอกันแล้วความคิดก็ผุดขึ้นมาว่า "ทำไมกูโง่จังวะ ?" รถบัสที่มารับพวกเราเป็นรถแอร์ สบายแฮเลยยังงี้ เอาเข้าจริงนัด 6 โมง รถออกจริง ๆ 7 โมง รอเบื่อเลย อื้ม... วัฒนธรรมไทยครับนัดก่อนเปิดพิธีหลัง ๆ นาน ๆ แล้วผมก็หลับไปเลย เช้าเกิน เก็บแรงไว้ทำกิจกรรมที่นั่นด้วย

            เราแวะเข้าป่าเลไลย์เป็นจุดเสียเงิน เอ๊ย ! จุดหมายแรก...

            ลงรถ เดินฝ่ากลุ่มต้นไม้ ฮ่าห์ ~ อาหารขายเพียบ ห้องน้ำก็มีให้ใช้สะอาด โดยมีคำพูดของทหารตามมาว่า "นี่เป็นห้องน้ำที่สะอาดที่สุดที่พวกเธอจะได้เจอนับจากนี้" ของที่เห็นขายกันมากที่สุดก็เป็นไก่ย่างสีแดงสดใส แดงแจ๊ดแจ๋ แดงผสมอาหาร แดงเคมี เรทราคาก็ไม่เท่ากันตอนแรก 3 ไม้ 20 หลัง ๆ กลายเป็น 5 ไม้ 20 มีอยู่ร้านนึงทำเป็นบุฟเฟ่ต์ไปเลย หัวละ 20 ใจจริง ๆ

            ที่เขาเรียกรวมที่นี่ก็เพราะให้เรามาทำธุระส่วนตัว ซื้อของกิน แล้วก็มาฟังบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเขาชนไก่ครับ ก็เพลินดี แล้วก็โดนเรี่ยรายเงินทำบุญด้วย หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไปถึงกองพันของเราที่เป็นสถานที่ฝึกกับที่หลับนอนนั่นเอง กองพันกับวัดป่าเลไลย์อยู่ใกล้กันมากครับ นั่งรถแปปเดียวถึงละ 

            ถึงกองพัน ลงจากรถ คว้ากระเป๋า วิ่งเข้ากองพันที่ตอนนั้นยังมึน ๆ อยู่ไม่รู้ว่าไปทางไหนได้แต่วิ่งตามคนข้างหน้าไป เห็นกลุ่มคนเขียว ๆ นั่งอยู่เป็นมวลมหาเขียวอยู่ห่าง ๆ บวกด้วยเสียงตะโกนเสียงพูดผ่านไมค์กับนกหวีด นี่แหละใช่เลย เข้าไปนั่งรวมแล้วก็ไปเข้าแถวเซ็นชื่อเซ็ตละ 30 คนโดยที่ไม่รู้เลยว่าลำดับตัวเองอยู่เซ็ตไหนเพราะไม่ได้แจงมาก่อน เห็นเพื่อนที่ชื่อใกล้ ๆ ลุกก็ลุกตาม ใบเซ็นชื่อมีอยู่ 6 ใบ ซึ่งจริง ๆ แล้วแค่เซ็น-ใบพวกนี้ก็ผ่านแล้ว จะหนีออกไปเลยก็ได้ แต่ทำอย่างนั้นก็ทุเรศไป อยู่ฝึกละกัน เซ็นชื่อเสร็จก็กินข้าว พอได้ยินว่ากินข้าวเท่านั้นแหละ ผมนึกขึ้นมาได้เลยว่า กูลืมเอาช้อนมา ! แต่ไม่เป็นไรครูปกครองบอกว่าใครไม่ได้เอาช้อนมาไปเอาที่หน้ารถบรรทุกได้ แล้วครูแกก็บอกต่อว่าใครจะไปซื้อข้าวร้านค้าเชิญ ข้ามถนนไปก็มีร้านขายข้าวแล้ว กูไม่เอาช้อนแล้ว กูไปร้านค้าละ บรัยส์ ~ แต่ก่อนจะประกาศกินข้าว โดนบังคับซื้อเสื้อยืดกับผ้าพันคอซะนี่สิ

            อาหารการกินที่นั่นมี 2 แบบครับ แบบซื้อกินเองกับร้านค้า อันนี้นมีอะไรให้กินหลากหลายกว่า มีขนมขาย มีน้ำหวานขาย มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง (ถึงจะไม่พอก็เหอะ) มีหลังคากางบังร่มให้ ส่วนอีกแบบนึงคือที่เขาเรียกกันว่า "ข้าวหลวง" ครับ กินกับพื้น เลือกอาหารไม่ได้ ใช้ต้นไม้แถวนั้นเป็นที่บังแดด ภาชนะสกปรก ต้องล้างจานเอง แต่มันฟรีไง ผมเห็นแล้วผมรู้สึกสงสารเพื่อนที่กินเลยครับ มันคนละบรรยากาศเลย รู้สึกเหมือนแบ่งชนชั้นยังไงยังงั้น แต่ฝึกทหารจริง ๆ ก็ต้องแบบนี้แหละ ผมนับถือเลย แต่ข้าวหลวงก็ไม่ได้แย่นะครับ ได้กินในวันที่ 2 ก็โอเคอยู่ แต่หลายเสียงให้ความเห็นว่า ซื้อกินดีกว่าครับ 

            กินข้าวเสร็จก็ฟังกำหนดการแล้วก็เดินไปเข้าสถานีฝึกครับ แล้วก็ต้องจำด้วยว่าเรากองพันไหน ฉายาอะไร ของผมอยู่กองพันที่ 22 ฉายา "ราชฤทธิ์" แล้วก็ต้องท่องว่า "พลังเงียบ เฉียบขาด ราชฤทธิ์ เอี๊ยะ ! เอี๊ยะ ! เอี๊ยะ !" ส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกเสียงว่า "เอี๊ยะ" นะ ออกเสียงเป็นอย่างอื่นที่ใกล้เคียงคำนั้นแทน

            สถานีฝึกกำลังใจ แต่ผมดูแล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร มันควรจะเอาไว้ฝึกกำลังกายมากกว่าอีกเพราะเครื่องเล่นเยอะ เหนื่อยใช้ได้ ถ้าไม่มีร้านขายน้ำที่เป็นเหมือนโอเอซิสเล็ก ๆ ปิดท้ายละก็ผมคงฟุบไปแล้ว สถานีก็เป็นพวกเดินสะพานเชือกสามเส้น สองเส้น เสียวสุดก็หนึ่งเส้น ไต่กำแพง เดินทรงตัวบนสะพานขอนไม้ บลา ๆ ๆ ๆ เหมือนที่ลูกเสือเขาเล่นอ่ะครับ วัดกำลังใจมากเบย ~ ใครขี้เกียจจะไม่เล่นก็ได้นะครับ ลุกไปอยู่กลุ่มไม่สบายเลย

            ก่อนที่จะเข้าสถานีฝึกก็ไปรวมพลที่จุดกันก่อนนะครับ ตรงนั้นโดนซื้อริสแบนด์ยี่ห้อเขาชนไก่ด้วย เขาว่ายิงไม่ตาย ฟันไม่เข้า โดนระเบิดแค่สะดุ้ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 40 บาทมั้ง 

            ฝึกเสร็จกลับมาที่กองพันก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ฟังกำหนดการ จับคู่เข้าเต๊นท์ ใครผมยาวไปตัวผม แม่บ้านที่มาตัดผมที่นี่ตัดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ บางคนก็ผมยาวอย่างไม่น่าเชื่อ โดนตัดจนสั้นจนไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่า-เป็นเพื่อนกูหรือเปล่าวะ ? -เปี๋ยนไป๋

            ตอนเข้าเต๊นท์นี่แบบว่า... เ-้ย ! แม่งเล็กเ-้ย ๆ เลย ! แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ 2 คน กระเป๋าก็จะกินไปครึ่งเต๊นท์แล้วครับ ตอนนอนนี่ขายื่นออกมานอกเต๊นท์ ขนาดผมตัวเตี้ยแล้วนะขาผมยังทะลุออกมาเลย

            เขาให้เวลาทำภารกิจส่วนตัวเยอะมากครับเป็นชั่วโมงเลยมั้ง จะทำอะไรก็ได้กลับมาให้ทัน แต่เต๊นท์ผมไม่อาบน้ำครับใช้ทิชชู่เปียกเช็ดตัวเอา มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมครับสะอาดใช้ได้ไม่ต้องพึงการอาบน้ำ (แต่คนรอบข้างก็อี๋เราอยู่ดี) (แต่น้ำมันก็ไม่ค่อยน่าอาน้ำ ขุ่นเชียว ยังเห็นซากธรรมชาติลอยอยู่กลางน้ำอยู่เลย) ทิชชู่เปียกถูตัว พลิกออกมาดู โอ้โฮ ! ดำปี๋เลยครับ ฝุ่นที่นี่แม่งอานุภาพร้ายกาจจริง

            เป่านอน 3 ทุ่ม ตื่นตี 5 มีเวลานอนเยอะกว่าตอนผมอยู่ที่บ้านอีก สวดมนต์ก่อนนอนก็ไม่ต้องสวด ค่ายลูกเสือเลยกลายเป็นนรกไปแทนเลย

            วันแรกเป็นวันแห่งการเสียตังค์ครับ แนะนำให้เอาเงินมาไม่ต้องถึง 1,000 ก็ได้ 500+ ก็พอ หรือใครจะไม่เอามาเลยก็ได้นะ อยู่ได้เหมือนกัน ผมนับถือจริง ๆ เลยนะ

 ปล. ไม่มีรูปนะครัช เอาโทรศัพท์ไปแต่ปิดไว้ เก็บไว้โทรบอกพ่อแม่วันกลับ

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น