[ONE-SHOT: SNSD] ...เพื่อนสาว... (Yuri) [JeTi, JeNy] - [ONE-SHOT: SNSD] ...เพื่อนสาว... (Yuri) [JeTi, JeNy] นิยาย [ONE-SHOT: SNSD] ...เพื่อนสาว... (Yuri) [JeTi, JeNy] : Dek-D.com - Writer

    [ONE-SHOT: SNSD] ...เพื่อนสาว... (Yuri) [JeTi, JeNy]

    คุณว่าเส้นบางๆ ระหว่าง "เพื่อนสาว" กับ "แฟนสาว" มันอยู่ตรงไหนเหรอ? [JeTi, JeNy] - "บางที... ฉันก็อดคิดไม่ได้ ว่าเราเป็นอะไรกัน" (วันช็อตเจทิแบบ Rare Item ค่ะ) [The end!]

    ผู้เข้าชมรวม

    6,938

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    6.93K

    ความคิดเห็น


    67

    คนติดตาม


    42
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ค. 54 / 21:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้




    เพราะผจญกับสนามสอบหนักหน่วง

    บุงเลยอยากแต่งวันช็อตคลายเครียดตัวเองบ้างอะไรบ้าง

    แล้วที่อยู่ๆ เลือดกบฏพลุ่งพล่านไม่ใช่อะไร

    พอดีมีคนไซโคมาว่าอยากอ่านเจทิหน่อย

    (ซึ่งไอเรามันก็ไม่ได้จิ้นซะด้วย - -)

    และระหว่างนั่งเซ็งชีวิตอยู่กับ Sin Cos Tan

    มันก็เกิดอาการอยากเขียนวันช็อตเบาๆ สักเรื่อง

    เลยจับ เจทิ มาเป็นประเด็น

     

    หากคุณกำลังหาสาระอะไรจากวันช็อตเรื่องนี้

    คุณอาจจะต้องผิดหวัง... เพราะมันไม่มี

    หากคุณอยากหวังเห็นความแมนของสิก้าหรือฟานี่

    คุณอาจะต้องผิดหวัง... เพราะมันไม่มี

    หากทุกอยากเห็นฉากรักกุ๊กกิ๊กหวานปานน้ำตาลจะขึ้น

    คุณอาจจะต้องผิดหวัง... เพราะมันไม่มี

     

    (อ้าว?... แล้วมันจะมีอะไรเหลือวะบุง - -^)

     

    เรื่องนี้... อธิบายได้สั้นๆ คำเดียวว่าอารมณ์ เพื่อนสาว จริงๆ ^^

    ใครอยากรู้ว่า เพื่อนสาว เป็นยังไง

    ก็ตามไปอ่านได้โลดค่ะ >_<

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

      


     

    ฮวัง ทิฟฟานี่

     

    บางที... ฉันก็อดคิดไม่ได้ ว่าเราเป็นอะไรกัน

    มันเหมือนจะเป็นเพื่อน แต่มันก็ไม่ใช่ เป็นแฟนก็ไม่เชิง

     

     


    จอง ซูยอน

     

    เราเป็นเพื่อนกัน แล้วเธอจะคิดมากทำไม

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




       

       

      [One-Shot] เพื่อนสาว (JeTi)

       

       

       

      ...คุณเคยมี เพื่อนสาวบ้างมั้ย...

      ...เพื่อนที่ชวนกันไปช็อปปิ้ง ดูนิตยสาร เพ้อถึงรุ่นพี่หล่อๆ...

      ...เพื่อนที่นัวเนีย กอดแขน หอมแก้ม กันได้โดยไม่แคร์สายตาใคร...

       

       

       

      ...แล้วคุณว่า... เส้นบางๆ ระหว่าง...

      ... “เพื่อนสาว” กับ “แฟนสาว” มันอยู่ตรงไหนเหรอ?...

       

       

       

      - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

       

       

       

                ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายธรรมดา มีเพื่อนสาวเหมือนคนอื่นๆ

               

                เพื่อนสาวของฉันมีชื่อว่า จอง เจสสิก้า หรือที่ใครๆ ก็เรียกว่า สิก้า

               

       

                ...แต่ฉัน... ไม่เรียกเธอเหมือนคนอื่นหรอกนะ...

       

                 

       

                  “เจสซี่! วันนี้นิตยสารออกใหม่ด้วยล่ะ เลิกเรียนแล้วไปดูกันมั้ย” นัยน์ตาทำประกายวิบวับ ทั้งที่รอยยิ้มกว้างของฉันจะทำให้ดวงตาปิดจนเธออาจมองไม่เห็นก็ตามที มือเรียวฉวยเข้ากอดแขนเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอราบเรียบของโทรศัพท์มือถือราคาแพง

                 

       

                  ...ชิ... กล้าสนใจโทรศัพท์มากกว่าฉันเหรอเจสซี่!...

                 

       

                  “แป๊บนึงนะฟานี่ ฉันขออัพเดทสเตตัสก่อน” เพื่อนสาวของฉันยังคงตั้งหน้าตั้งตาพานิ้วเคลื่อนที่บนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเหลี่ยมๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะที่ฉันทำเพียงแต่ถอนหายใจ เมื่อทำใจยอมรับได้ตั้งนานแล้วว่าเพื่อนสาวคนดีติดสิ่งไร้ชีวิตที่เรียกว่า โทรศัพท์มือถือมากขนาดไหน ลองให้แม่คุณเลือกว่าจะอยู่ใกล้ฉันแล้วต้องห่างจากโทรศัพท์สิบวัน หรือเลือกอยู่กับโทรศัพท์แล้วห่างจากฉันเป็นเดือน คำตอบก็ลอยมาแบบไม่ต้องเดาว่ามันคือประโยคหลัง

                 

                  พยายามแก้นิสัยของเพื่อนสาวหลายต่อหลายครั้ง แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย

               

       

                จอง เจสสิก้าก็ยังคงเป็น เจสสิก้าคนเดิม

                 

       

                  สาวผมบลอนด์ที่ภายนอกเหมือนเย็นชา แต่ขี้อ้อนกับคนที่สนิท สาวสวยที่ชอบทำหน้านิ่งๆ มึนๆ หรือง่วงงุนอยู่เสมอ สาวสวยที่ว่างเมื่อไหร่ในมือก็ต้องหยิบเครื่องมือสื่อสารราคาแพงขึ้นมากดเล่น เนื่องด้วยกลัวไม่ทันโลกอินเตอร์เน็ตที่เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา

                 

                 

                  ...เธอก็ยังคงเป็น จอง เจสสิก้า... เพื่อนสาวคนเดิมของฉัน...

                 

       

                  “กรี๊ดด! ฟานี่ดูสิ!! พี่ฮยอนจุงเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ด้วยล่ะ หล่อโฮกอ่ะ!!” เพราะน้ำเสียงที่ดังเกินระดับปกติ กับรอยแดงๆ ยังแก้มใสปลุกให้ฉันสะดุ้งจากการลอบมองใบหน้าด้านข้างของเธอ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เล็กน้อยเพื่อให้สายตารับรู้ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ซึ่งเป็นภาพของรุ่นพี่ในโรงเรียนของเราเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยกับใบหน้าอันหล่อเหลา จะทำให้มีสาวรุมกรี๊ดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพี่เขาจะกระดิกตัวทำอะไรก็ตาม

                 

                  สาวๆ ที่ว่า... รวมถึง เราด้วยนะ

                 

                  “ฉันว่ารูปเมื่อวานหล่อกว่า เพิ่งเล่นบาสมา... เหงื่อซ่ก เซ็กซี่เป็นบ้า”

                 

                  “ฟานี่ชอบสไตล์นั้นนี่หน่า... ฉันว่ามาดเด็กเรียนเนิร์ดๆ แบบนี้ก็ดูดีเหมือนกันนะ”

                 

                  คงไม่แปลก ถ้าเราจะพูดถึงรุ่นพี่หล่อๆ สักคน...

                 

       

                  ...เพื่อนสาวเขาก็ทำกันอย่างนั้นสินะ?...

                 

       

                  เจสสิก้าจัดการโทรศัพท์ของตนเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมาพยักหน้าให้ฉัน เธอกระชับแขนเรียวของฉันที่เกี่ยวแขนเธออยู่ให้แน่นขึ้น จนตอนนี้เราแทบจะตัวติดกันเป็นแฝดสยามได้อยู่รอมร่อ

                 

                  ไม่ต้องมีคำพูดใดมากไปกว่าสายตาออดอ้อน ฉันก็เข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าเธอกำลังชวนฉันให้ลงไปกินข้าวกลางวัน อันที่จริงไม่ต้องทำสายตาแบบนั้นก็ได้... ในเมื่อฉันก็นั่งรอเธอมาราวๆ ห้านาทีได้ รวมถึงฉันคงไม่ไปกินข้าวกับคนอื่น นอกจากเธอด้วยเช่นกัน

                 

                  “เลิกเรียนแล้ว... ไปร้านหนังสือแล้วก็ไปร้านไอติมกันนะ” เจ้าของหัวทุยๆ ที่กำลังไซร้ไปมาบนไหล่ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแต่ฉันกลับได้ยินมันได้ชัดเจน

                 

                  “อื้ม...”

                 

                  ไม่จำเป็นต้องมีบทสนทนายาวเหยียด เพราะรอยยิ้มที่ฉันส่งไปให้ คงแทนทุกคำตอบได้ดีอยู่แล้ว

               

       

                ...สถานที่เดิมๆ... กับคนข้างกายเดิมๆ...

                 

                  ...ก็เรา... เป็น เพื่อนสาวกันนี่นะ...

                 

               

       

       

       

       

                ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายธรรมดา มีเพื่อนสาวเหมือนคนอื่นๆ

               

                เพื่อนสาวของฉันมีชื่อว่า ฮวัง ทิฟฟานี่ หรือที่ใครๆ ก็เรียกว่า ฟานี่

               

       

                ...แต่ฟานี่ของฉัน... ไม่เหมือนที่ ใครๆรู้จักหรอกนะ...

       

                 

       

                  “เจสซี่... เธอว่ากระเป๋าสีดำหรือสีน้ำตาลสวยกว่ากันอ่ะ” เป็นรอบที่ร้อยกว่าๆ ที่ฉันได้ยินประโยคนี้จากคนๆ เดิม ในร้านละแวกเดิมๆ พร้อมด้วยสายตาเดิมๆ

                 

                  ใบหน้าที่จัดได้ว่ามีโครงหน้าเรียวสวยกำลังขมวดคิ้วย่น ดวงตาที่เรียวเล็กอยู่แล้วใกล้จะปิดจนแทบมองไม่เห็น ริมฝีปากบางเฉียบเบ้อย่างขัดใจ แต่ไม่ว่าอย่างไร... เธอก็ยังคงน่ารักในสายตาของผู้พบเห็นอยู่เสมอ

                 

                 

                  ...ใช่สิ... เพื่อนสาวของฉันน่ารักจะตายไป...

                 

       

                  “มันก็สวยทั้งคู่อ่ะนะ” ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องบ่น... ว่าอาทิตย์ก่อนเธอเพิ่งสอยกระเป๋าราคาแพงไปหมาดๆ เนื่องจากฉันเข้าใจเธอดีว่าผู้หญิงหลงใหลการช็อปปิ้งมากเพียงใด เราอาจจะละลายเอาง่ายๆ เมื่อเจอแบรนด์ยี่ห้อโปรด เราอาจจะตาวิบวับเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลเมื่อเดินผ่านป้ายแดงๆ ที่เขียนว่า ‘Sale’ และเราอาจจะพล่ามได้ไม่หยุดว่าไม่มีเสื้อผ้า หรือกระเป๋า ทั้งๆ ที่ตู้เสื้อผ้าของเราไม่เคยมีช่องว่าง

                 

                 

                  ...ซึ่งเราก็จะพากันไปซื้อใหม่อยู่บ่อยครั้ง...

                 

                  ...เราอาจจะตั้งคำถามเดิมๆ อยู่บ่อยครั้ง...

               

       

                ...แต่เราก็ไม่เคยเบื่อบทสนทนาเหล่านั้นเลยสักครั้ง...

                 

       

                  “ฉันว่าฉันเอาอีกแบบหนึ่งดีกว่า... แบบนี้มีสีฟ้าด้วย... เธอว่าไงอ่ะเจสซี่”

                 

                  ไม่ใช่กระเป๋าใบแรกที่หยิบแล้วจะถูกใจ

                 

       

                  ...นั่นคือเหตุผลที่เราอยู่ในร้านนี้มาราวๆ ครึ่งชั่วโมงได้...

                 

       

                  “ฉันว่าสีฟ้าก็ดีนะ สีน้ำตาลกับดำเธอมีเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ”

                 

                  “อืม... ก็จริงอ่ะ” ทิฟฟานี่ทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “แต่ฉันว่าฉันเอากระเป๋าสีขาวนี่ดีกว่า เข้ากับชุดที่ซื้อเมื่อวันก่อนพอดีเลย!” เมื่อหาบทสรุปให้ตนเองได้ เพื่อนสาวก็ฉวยกระเป๋าใบข้างๆ กันนั้นไปจ่ายตังค์โดยไม่เสียเวลาพิรี้พิไรอีก

                 

                  ไม่ใช่เรื่องแปลก... แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ฉันอารมณ์เสียได้

               

       

                ...ก็ใบหน้าที่เหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจของเธอนั้น...

                 

                  ...มันน่ารักจะตายได้นี่หน่า...

                 

       

                  “ฮือ~ เจสซี่! สีขาวรุ่นนี้มันไม่มีใบใหม่แล้วอ่า... ใบนี้ก็มีรอยด้วย” เธอโวยวายเข้ามาบอกฉัน ขณะที่ฉันได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แล้วยิ้มให้

                 

                  “ไว้วันหลังค่อยมาดูก็ได้ อยากกินไอติมแล้วล่ะ”

                 

                  เธอไม่เสียเวลากับการคร่ำครวญกระเป๋าเท่าไหร่นัก ทิฟฟานี่พยักหน้ารับแต่โดยดี มืออุ่นๆ เลื่อนมากุมมือของฉันไว้แน่น

                 

                 

                  ...สัมผัสอุ่นๆ จากคนๆ เดิม...

                 

                  ...แม้ฉันจะเป็นคนเบื่อง่าย... แต่ฉันกลับไม่เคยเบื่อเธอ...

                 

       

                  ทิฟฟานี่เป็นเพื่อนที่ดีในหลายๆ ด้าน เธอสามารถช่วยฉันในการเข้าหาผู้คน เธอเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยมากที่สุด เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก... เรามีความชอบคล้ายกัน รสนิยมคล้ายกัน เธอเป็นคนเดียวที่สามารถทนฟังเพื่อนอย่างฉันพูดพล่ามอะไรได้โดยไม่ปริปากบ่น แม้บางเรื่องฉันคิดว่ามันออกจะไร้สาระไปหน่อยก็ตาม

                 

       

                  ...เธอ...ที่รับฟังทุกอย่าง...

                 

                  ...คอยปลอบใจเมื่อฉันทุกข์ และยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน เมื่อฉันมีความสุข...

                 

       

                  รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่พิงมายังหัวไหล่ แม้ไม่ต้องหันไปมองก็คาดเดาได้ว่าสาวเจ้าทำหน้าเช่นใด

                 

       

                  ...ใครก็ว่าทิฟฟานี่เป็นสาวช่างเข้าสังคม...

                 

                  ...บางมุม... เธอก็ขี้อ้อนกว่าฉันเสียอีก...

                 

       

                  กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ สัมผัสปลายจมูก พาลให้รู้สึกผ่อนคลาย

                 

                  อย่าให้ตอบเลยว่าน้ำหอมที่เธอใช้ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน

                 

       

                  ...ไม่แปลกที่ฉันจะรู้... ก็ฉันเป็นคนช่วยเธอเลือกนี่หน่า...

                 

       

                  “เจสซี่หอมจัง” คนที่คลอเคลียอยู่ข้างกายพึมพำให้ต้องหน้าแดงกับประโยคแปลกๆ ซึ่งฉันคาดว่าเจ้าตัวคงพูดออกมาด้วยความรู้สึกมากกว่าจะผ่านกระบวนการกรองจากสมอง

                 

       

                  ...ไม่หอมได้ไง... ก็เธอเลือกน้ำหอมให้ฉันเองไม่ใช่หรือ?...

                 

                  ...ตอนเราไปซื้อของด้วยกันประสา เพื่อนสาวเมื่อเดือนก่อนนั่นน่ะ...

       

               

       

       

       

       

                ...คุณเคยมี เพื่อนสาวบ้างมั้ย...

               

                ... เพื่อนสาวที่เราอาจทำกับเขาไม่ต่างจาก คนรัก...

               

       

                ... แต่ เพื่อนสาวก็ยังคงไม่ใช่ แฟนสาวอยู่ดี...

               

       

                  “เจสซี่! นายแบบคนนี้ที่เธอชอบถ่ายนิตยสารอีกแล้วล่ะ” ทิฟฟานี่พูดเสียงระรื่นพลางยื่นนิตยสารวัยรุ่นให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

                             

                  “แอร๊ยย! ก็ถ้าจะหล่อขนาดนี้!!” เจสสิก้ากรี๊ดกร๊าดไปตามประสา สาวเจ้าพลัดกันดูนิตยสารวัยรุ่นรายเดือน ที่แน่นอนว่าเนื้อหาทุกเดือนก็แทบไม่ต่างกันเท่าไหร่ หากพวกเธอก็ยังคงมีความสุขทุกครั้ง ยามที่นั่งดูดวงด้วยกัน อ่านบทกลอนรักชวนหวานเลี่ยน หรือกรี๊ดนายแบบหน้าตาหล่อเหลาที่ปรากฏอยู่ในหน้ากระดาษ

                 

                 

                  ...สถานที่เดิม... นิตยสารชื่อเดิม...

                 

                  ...เพื่อนคนเดิม...

                 

       

                  “ฟานี่ เธอกินเลอะอีกแล้วนะ” สาวผมบลอนด์เอ่ยเตือนด้วยประโยคเดิมๆ รอบที่ล้านแปด เมื่อทิฟฟานี่ยังคงความเป็นเด็กไว้อยู่เต็มเปี่ยม กินอะไรไม่เคยตรงปากตนเอง ต้องมีเลอะมุมปากตลอด

                 

                  แล้วภาพเดิมๆ ที่เธอเคยเห็นก็ฉายซ้อนขึ้นอีกครั้ง

                 

       

                  ...สาวเจ้าไม่เคยเช็ดได้ตรงจุดเลยเสียที...

                 

       

                  “เจสซี่ เช็ดให้ฉันหน่อยสิ”

                 

       

                  ...แล้วก็ประโยคร้องขอแบบเดิมๆ...

                 

       

                  “รู้แล้วน่ายัยหมี! คราวหน้าคราวหลังหัดกินให้มันเหมือนชาวบ้านเขาบ้างสิ”

                 

                  “กล้าเรียกฉันว่าหมีเหรอ ยัยเป็ด!

                 

                  “แล้วทำไมฉันจะเรียกไม่ได้ห๊ะ! ยัยหมีเปิ่นเอ๊ย!!” แม้ปากจะเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ด้วยหัวข้อเดิมๆ... แต่เจสสิก้าก็ยังคงทำเรื่องเดิมๆ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่เช็ดไปตามมุมปากของทิฟฟานี่อย่างอ่อนโยนราวกับเกรงกว่าอีกคนจะเจ็บอย่างไรอย่างนั้น

               

               

                ...สัมผัสเดิมๆ ที่เหมือนจะคุ้นเคย... แต่ไม่คุ้นชิน...

                 

       

                  อาจไม่มีใบหน้าที่แดงเรื่อประหนึ่งหนุ่มสาวแรกรัก อาจไม่มีอาการสั่นสะท้านในหัวใจเหมือนใกล้ชิดรุ่นพี่ที่ตนเองแอบปลื้ม

               

               

                ...มีเพียงอาการหวิวๆ...

                 

                  ...แผ่วเบา... จนแทบไม่รู้สึก...

                 

       

                  “โทษฐานที่เรียกฉันว่าหมี... กินเสร็จแล้วไปส่งฉันด้วยเลย”

                 

                  “รู้แล้วล่ะย่ะ! ก็บ้านฉันมันต้องผ่านบ้านเธออยู่แล้วนี่!!

                 

                  รู้อยู่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร เพียงแต่หาอะไรพูดแก้บรรยากาศเก้อเขินที่เกิดจากความเงียบเข้าปกคลุมก็เท่านั้น อาจจะจริงที่ไม่ใช่เรื่องของเจสสิก้าที่ต้องทำหน้าที่ไปส่งเพื่อนสาวให้ถึงบ้าน ถ้าเพียงแต่บ้านของหล่อนจะไม่ได้อยู่เลยบ้านทิฟฟานี่ไปอีกซอยหนึ่ง

                 

                  นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเธอต้องไปโรงเรียนด้วยกัน และกลับบ้านพร้อมกันอยู่เสมอ

                 

       

                  ...เส้นทางเดิม จุดมุ่งหมายเดิม กับคนๆ เดิม...

                 

                  ...ที่เราเรียกใครคนนั้นว่า เพื่อนสาว...

       

                 

       

       

       

       

                  “กลับบ้านดีๆ นะ อย่าไปทำอะไรใครเขาล่ะ” สาวตายิ้มพูดพลางโบกมือให้เพื่อนเมื่อถึงหน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่เจสสิก้าย่นจมูกใส่กับประโยคเตือนที่แฝงความล้อเล่นอยู่ในที

                 

                  “ย่ะ!” สะบัดเสียงใส่ ตามด้วยจมูกโด่งรั้นที่แนบผิวแก้มเนียนใสของเพื่อนพลางสูดกลิ่นกายหอมๆ เข้าเต็มปอดทำเอาคนถูกหอมไม่ได้ตั้งใจสะดุ้งเฮือก

                 

                  “เจสซี่~”

                 

                  “อะไรเหรอ”

                 

                 

                  ...นั่น!... ยังมาทำเป็นถามหน้าเรียบเฉยอีก...

                 

       

                  อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เพื่อนสาวจะหอมแก้มกัน ในเมื่อเธอกับเจสสิก้าก็หอมแก้มกันเป็นปกติ เพียงแต่เมื่อเช้าเพิ่งมีรุ่นน้องเข้ามาถามคำถามประหลาดๆ พอมาเจออะไรเดิมๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นชินก็เลยเกิดอาการเขินอายขึ้นมาบ้าง ซึ่งอาการนั้นมันก็ไม่พ้นไปจากแก้มใสที่ขึ้นรอยแดงเรื่อฉาบบางๆ

                 

                  “ก็เธอ...”

                 

                  “ทำไมอ่ะ... ฉันก็หอมแก้มเธอบ่อยไป”

                 

       

                  ...ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ... เพียงแต่...

                 

                  ...ฉันเองก็อยากรู้ว่า จุดยืนของเราอยู่ตรงไหน...

                 

       

                  “ก็... ไม่ทำไมหรอก” ตอบกลับด้วยเสียงเบาหวิว หลบหน้าอีกฝ่าย ทว่าดูเหมือนเพื่อนสนิทจะเดาใจเธอได้ถูก สัมผัสได้ถึงมือเรียวที่เอื้อมมาฉวยมือตนเองไว้พลางบีบเบาๆ

                 

                 

                  ...เป็นเหมือนเดิม... เหมือนทุกครั้งที่เธอไม่สบายใจ...

                 

       

                  “ฟานี่... เธอมีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า”

                 

                  “ก็มัน...” ปิดก็เท่านั้น แค่มองตา เจสสิก้าก็รู้แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทิฟฟานี่ถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจตอบอีกคนโดยไม่กล้าสบนัยน์ตาสีอัลมอนด์คู่คุ้นเคย “เมื่อเช้า... มีรุ่นน้องคนหนึ่ง ถามว่าพี่สิก้ากับพี่ฟานี่เป็นแฟนกันรึเปล่า” น้ำเสียงอ้อมแอ้มดูลังเลที่จะพูด ขณะที่คนฟังใช้เวลาคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะร่า

                 

                  “งั้นเหรอ?... แล้วเธอตอบไปว่าไง”

                 

                  “ก็ตอบว่า... จะบ้าเหรอ! เป็นเพื่อนกัน”

                 

                  “ใช่ไง?... เราเป็นเพื่อนกัน แล้วเธอจะเก็บมาคิดมากทำไม”

                 

                  “เจสซี่” ไม่บ่อยครั้งนักที่ทิฟฟานี่จะเรียกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นนั้น ถ้ามองไม่ผิด เหมือนเธอจะเห็นรอยวูบไหวในแววตาอีกคน พร้อมหยาดน้ำใสที่คลอเอ่อเหมือนพร้อมทักทายผิวแก้มได้ทุกเมื่อ

               

       

                ...ใครว่าเจสสิก้าเป็นคนคิดมาก...

               

                ...ทิฟฟานี่ก็คิดมากเหมือนกัน...

                 

       

                  ... ก็ผู้หญิง... เป็นเพศที่คิดมาก ...

                 

       

                “บางที... ฉันก็อดคิดไม่ได้ ว่าเราเป็นอะไรกัน มันเหมือนจะเป็นเพื่อน แต่มันก็ไม่ใช่ เป็นแฟนก็ไม่เชิง”

               

                  ไม่เคยรู้มาก่อน...ว่าเพื่อนจะคิดมากได้ถึงขนาดนี้

                 

       

                  ...อย่างน้อย... เธอก็ไม่คิดว่าเพื่อนคนเดิม...

                 

                  ...จะคิดมากกับความสัมพันธ์เดิมๆ... ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง...

                 

                 

                  “แล้วฟานี่คิดว่าแฟนต้องทำยังไงกันบ้างเหรอ”

                 

                  “ก็... ไปซื้อของด้วยกัน ดูหนัง กินข้าว บอกรักกัน คิดถึงกัน”

                 

                  “แล้วฟานี่คิดว่าเพื่อนต้องทำไงบ้าง” ไม่ได้ถามเพราะไม่รู้ เพียงแต่เจสสิก้าเองก็ยังอดสงสัยไม่ได้ หลายครั้งหลายคราคำว่าเพื่อนกับคำว่าแฟน ก็ห่างกันเพียงแต่เส้นด้ายบางๆ ที่ขวางกั้น

                 

       

                  ...แล้วก็หลายครั้งที่เราเผลอก้าวข้ามมันไปโดยไม่รู้ตัว...

                 

       

                  “...” คนคิดมากได้แต่นิ่งเงียบ เธอกลัวที่จะพูดอะไรออกมา เนื่องด้วยคงไม่อาจกลั้นหยาดน้ำใสที่คลอเอ่อเต็มสองหน่วยไว้ได้ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของเจสสิก้าได้เช่นไร

                 

       

                  ...คำว่าแฟน... นิยามของเธอคืออะไร?...

                 

                  ...ต่างจากคำว่าเพื่อนแค่ไหนกันหนอ...

                 

       

                  เดิมทีทิฟฟานี่ก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยขั้นจะต้องมาเสียน้ำตากับเรื่องแบบนี้ หรืออึดอัดกับสถานะที่เป็น ทว่าเพราะมุมมองของคนภายนอก ทำให้เธอคิดไปว่าพวกเขาจะมองความสัมพันธ์ของพวกเธอเช่นใด จะมองว่าเป็น เพื่อนสาวที่แสนน่ารัก... คอยทำนู่นทำนี่ที่ชื่นชอบด้วยกัน หรือเป็น แฟนสาวที่ตัวติดกันตลอดเวลา

                 

       

                  ...ทำไมจะไม่คิดมากล่ะ... ก็เธอกับเจสสิก้าเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย...

               

                ...ผู้หญิง... หวั่นไหวกับทุกสิ่งที่ไม่มีเครื่องยืนยันเสมอ...

               

       

                “ฟานี่... เป็นเพื่อนแบบที่ฉันจะมีได้คนเดียวในโลก” อยู่ๆ สาวผมบลอนด์ก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ

                 

                  “...”

                 

                  “เป็นเพื่อนที่ฉันสามารถบอกรักได้ในทุกครั้งที่อยากบอก... บอกคิดถึงได้ทุกครั้งที่ห่างกัน... เพื่อนที่คุยเรื่องนายแบบหล่อๆ รุ่นพี่ที่ป็อบๆ ในโรงเรียน คอยฟังฉันเล่านู่นเล่านี้ได้ไม่มีบ่น คอยไปดูหนังรักเป็นเพื่อนฉัน ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนฉัน คอยอยู่ข้างๆ ทุกครั้งที่ฉันต้องการ”

                 

                  “...”

               

                “เธออาจจะไม่ใช่แฟนของฉัน แต่เธอไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นหรอกนะ”

               

               

                ...เพื่อน... ที่ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น...

               

       

                  “ไม่เหมือน...” ทวนประโยคเบาๆ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแต่อีกฝ่ายอธิบายมายาวเหยียด แม้อาจจะไม่มีคำตอบของคำถามที่เธออยากรู้ ทว่ากับแค่สิ่งที่อีกคนกล่าวมามันก็มาพอจะทำให้ม่านน้ำใสเลือนหายไปเหมือนไม่เคยมี เงยหน้ามองอีกคนยังคงเห็นรอยยิ้มบางๆ จากใครคนเดิมที่ชอบทำหน้าเรียบเฉย ซึ่งมันก็ทำให้เธออดยิ้มตาปิดตอบกลับไปไม่ได้       

               

                 

                  ...แล้วก็ยังคงเป็นรอยยิ้มเดิม ที่ทำให้เจ้าของใบหน้าง่วงงุนหัวเราะได้...

                 

       

                  “รู้แล้วก็เลิกคิดมากได้แล้ว ยัยหมีอ้วน!

                 

                  “เงียบไปเลยนะยัยเป็ด!! กลับบ้านไปเลยไป!!” แล้วก็เป็นอย่างทุกครั้ง กับฉายาเดิมๆ ที่เธอไม่ชอบ แต่เจสสิก้ามักจะใช้มักหยอกล้อเธออยู่เป็นประจำ

                 

                 

                  ...ซึ่งยังคงไม่ต่างจากทุกที... ที่เธอก็เรียกอีกฝ่ายว่า ยัยเป็ดเช่นกัน...

                 

       

                  “ไล่เชียวนะ ไปก็ได้ย่ะ” เจสสิก้าโบกมือให้สองสามทีก่อนจะหันหลังเดินไปตามถนนสายเดิม

                 

                 

                  เรียวปากเคยรอยยิ้มขึ้นจางๆ... ทิฟฟานี่ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับคำถามที่ไม่เป็นเรื่องของตนเองเมื่อครู่ เธอคงจะเดินเข้าบ้านไปเสียแล้ว ถ้าไม่มีเสียงเรียกชื่อดังลั่นมาจากทางด้านหลัง

                 

                  “ฟานี่!!

                 

                  “หืม?...” ยังไม่ทันจะตอบรับ สัมผัสนุ่มๆ ที่ก็ทาบทับลงบนผิวแก้ม คนฉวยหอมแก้มฟอดใหญ่ยิ้มระรื่นแล้วจึงวิ่งกลับไปทางเดิมพร้อมกับประโยคที่ทำให้เธอไม่อาจห้ามรอยยิ้มได้

               

       

                “ยัยหมีอ้วน... ฉันรักเธอนะ!

                 

       

                  “รู้แล้วน่า... ฉันก็รักเธอเหมือนกัน...” พูดเบาๆ กับตนเอง แม้อีกคนจะไม่ได้ยินด้วยใบหู หากทิฟฟานี่คิดว่าเจสสิก้าก็คงรู้ดีอยู่แล้ว

                 

                 

       

       

       

       

                  ...ไม่ต้องขีดเส้นอะไรวุ่นวาย ว่าระหว่างเราคือ เพื่อนสาวหรือ แฟนสาว...

               

                ให้พวกเราเป็นเพียง เพื่อนกัน

                 

       

                  ...เป็นเพื่อนพิเศษที่มีเพียงคนเดียวในโลกของกันและกัน...

               

                ...แค่นั้น...อะไรอื่นใดก็คงไม่สำคัญ...

       

       

       

       

      ...ว่าแต่คุณเถอะ...

      “เคยมี เพื่อนสาวบ้างมั้ย?”

       

       

       

      The end

       

       

       

       

      เป็นเรื่องน่าประหลาดที่อยู่ๆ มะบุงจะเขียน “เจทิ” หรือ “เจนี่”

      ซึ่งก็อย่างที่บอกไว้ว่าใครจะหวังเห็นสิก้าแมน หรือฟานี่แมน

      เห็นทีว่าเรื่องนี้คงไม่อาจตอบสนองได้จริงจัง - -”...

      เนื่องจากนอนตีลังกาตะแคงซ้ายแล้วก็พบว่าสองคนนี้เหมือนกันมาก

      เหมือนกันจนแบบเคะแตกเฉือนกันยากจริงๆ ฮ่าๆ

      บุงก็เลยอยากแต่งให้มันอารมณ์เพื่อนสาวนิดๆ คลุมเครือหน่อยๆ ไม่ต้องคิดมาก

      (บอกแล้วว่ามันไม่มีอะไรเลย อารมณ์เบาๆ พอให้หายเครียดจากสอบ ^^b)

       


      จะว่าไงดีล่ะ... วันช็อตนี้ก็ค่อนข้าง Rare Item อ่ะนะ

      ใครรักใครชอบก็เมนต์กันบ้างอะไรบ้าง

      เผื่อจะเห็นลุ้นมะบุงแต่งคู่อื่นนอกจากรอยัล กร๊ากก
      (ลุ้นให้ตายยังไง เรื่องยาวก็ยังคงอุดมการณ์เดิมอยู่ดี
      = =)



      ปล. แวบๆ ว่ามีคนยุแต่ง "แทงสิก"
      บุงเคยแต่งวันช็อตแทงสิกไปแล้วนะเออ! >///<
      (ไม่เชื่อลองคุ้ยๆ (?) หาในรายชื่อฟิคได้ -.,-)




      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×