butabun
ดู Blog ทั้งหมด

ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียดเมื่อ รู้จักตนเอง รู้จักวางแผน

เขียนโดย butabun
สวัสดีครับ

น้องๆ และพี่ๆ หรือพี่แม่ผู้ปกตรองทุกท่านที่อ่านอยู่
ผมชื่อไต๋ครับ ปัจจุบัน เป็นติวเตอร์ เปิดสอนเองอยู่ที่สยามแสควร์ครับ ห้องเรียน meeting & learn ครับ

เรื่องที่ผมรู้สึกอยากเล่า เพราะหลังจากเป็นติวเตอร์มากว่า 5 ปี ทั้งตลอดเวลาที่เรียน และทำงานประจำ
ได้ฟังเรื่องกังวลใจของน้องๆ มาก็หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งที่ได้ยินบ่อยคือ

"พี่ครับ ผมเรียนเยอะมากเลย วิชาที่ต้องอ่านก็เยอะ จะทำไงครับไม่ทันแน่ๆ"
"พี่คะ เหนื่อยมากอ่ะค่ะ เรียนกันเช้ายันเย็นเลย"
"ไหนจะต้องเรียน ฟิสิกส์ เคมี แล้วยังต้องสังคม อีก บลาๆๆ"
"ตอนนี้หนังเรื่องอะไรเข้าหรอครับ ไม่มีเวลาดูเลยพี่ ได้แต่มาเรียน"

และอีกมากมาย ที่น้องๆรู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องยากและเยอะเหลือเกิน

พี่จึงลองนึกไปถึงสมัยของตัวเองครับ ผมเรียนที่กรุงเทพคริสเตียน สายวิทย์คณิต
และ เรียนที่ ม.เกษตร สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ครับ

สมัยนั้นพี่มีคะแนนราวๆ 80% กว่า ครับ
ซึ่งมากพอ ให้ติดได้ทุกคณะวิศวะ และทุกมหาลัยในสมัยนั้นครับ
อยู่ที่จะเลือกที่ไหน(น้องหลายคนบอกน่าหมั่นไส้มาก) ^_^

แต่ ผมเรียนพิเศษน้อยมาก เรียนเพียงวิชาเดียวคือวิชาฟิสิกส์ 
กับอาจารย์ที่เคราพท่านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ท่านเลิกสอนไปแล้ว
ท่านได้ให้แนวทาง การเรียน ที่เป็นกุญแจสำคัญ สู่ทุกการเรียนของผม
นับแต่ ม.ปลายจน มหาลัยเชียวครับ

อยากรู้ไหมครับ ทำอย่างไรเรียนไม่เหนื่อย เรียนไม่เครียด แถมสอบติดด้วยนะครับ ^ ^b

เคล็ดไม่ลับ 3 ข้อนี้ ผ่านเรื่องเล่าของพี่ อาจจะยาวหน่อย แต่มาลองดูกันเลยครับ

1. รู้จักตนเอง และรู้จักเป้าหมายของเรา

อ.ของพี่ กล่าวกันว่า
บนโลกนี้มีเพียง 2 อย่างคือ "ไม่ถึง" กับ "ถึง" ไม่มีเกือบถึง เพราะเกือบถึงก็คือไม่ถึง

สมัยนั้น พี่ต้องการจะสอบเข้า คือที่ วิศวะ คณะ ก็ยังลังเลว่าจะเป็นคอม หรือ เครื่องกลดี
แต่ตอนนั้น เป็น admission ระบบใหม่ปีแรกพอดี (ต้องเรียกว่าโชคดีนะครับ ได้ลองของรุ่นแรก)

การสอบต้องการ 5 วิชาเด่นๆ O-NET,A-NET(วิทย์,คณิต,ภาษาอังกฤษ) และ พื้นฐานวิศวกรรม

ลองดูดีๆนะครับ วิชาที่ว่ายากสุกๆ 3 วิชา ฟิสิกส์,เคมี,ชีวะ รวมเป็นวิชาเดียวครับ แปลว่า
ฟิสิกส์,เคมี,ชีวะ = 1/3 ของอังกฤษ และ อีกวิชาที่ใช้ฟิสิกส์คือ พื้นฐานวิศวะครับ

ตอนนั้น พี่เรียนฟิสิกส์กลางๆครับ แต่ชอบมาก เกลียดเคมีอย่างมากมาย เรียกว่าผ่านแบบทุลักทุเล
และชีวะ กลางๆพอใช้ได้ เลขกลางๆ และ ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆครับ ดูไม่น่ารอดใช่ไหมครับ
 แถมติดเกมติดการ์ดเกม งอมแงม (น้องบางคนบอกหนูยังเก่งกว่าพี่อีก ฮา)
 
พี่จึงเน้นจุดเด่นครับ เมื่อเราทำได้ดี ก็จัดหนัก ไปเรียนติวฟิสิกส์ จน ได้อันดับ 1 ของชั้นปีครับ
เคมีไม่ชอบไม่ไหว ก็เรียนเอาพอผ่าน เอาเวลาเอาสมองไปลงวิชาภาษาอังกฤษ
และคณิตครับ

เพราะไม่ต้องทุ่มเทหมด ผลก็คือพี่ใช้ชีวิต ม.ปลายสนุกมากครับ เรียนไปทำกิจกรรมไป
เวลาที่เพื่อนๆ ต้องทุ่มอ่านทุกวิชา ในขณะที่พี่อ่าน 3 วิชา ฟิสิกส์เลขอังกฤษ และเรียนพิเศษฟิสิกส์ 1 วิชา


ตอนสอบ admission เป็นแบบนี้ครับ
ฟิสิกส์ทำได้ทุกข้อ คะแนนน่าจะเกิน 90%
ชีวะ ทำได้ครึ่งๆ พอไหวตามที่อ่านไปน่าจะราวๆ 60%
เคมี ขอเรียกว่ามั่วๆแบบหลับตาทำ ไม่อาจคาดเดา ราวๆ 30%
ลองดูคะแนนรวมวิชาวิทย์นะครับ (90+60+30)/3 = 60%

คณิตศาสตร์ ได้ราวๆ 70% ภาษาอังกฤษ ได้ราวๆ 70%
และพื้นฐานวิศวะ ตอนนั้นติด Top 2000 คนของการสอบทั้งประเทศครับ
ทีนี้พอเอามาคิดตามสูตรการคิดคะแนน ของการจะเข้าวิศวกรรม รวมกับคะแนน O-NET พี่จึงสอบติด
และได้ คณะ อันดับ 1 ที่เลือกไว้คือ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม.เกษตรครับ

น้องๆสังเกตอะไรไหมครับ พี่อ่าน 3 วิชาใน 12 เดือน ทำไมจะอ่านไม่ทันล่ะครับ
ตัวเองถนัดอะไรไม่ถนัดอะไร ตัวไหนสำคัญ ต่อคณะที่เราจะเข้าจึงวางแผนผ่อนแรงได้
แล้วน้องๆล่ะครับ รู้ข้อมูลพวกนี้ สำหรับคณะของน้องๆหรือยัง ครับ

2.เตรียมตัวให้พร้อม และทำให้ถึง
"เธอไม่สงสัยหรอ คนสอบต่อปีเป็นแสน คนติดมันก็เท่าเดิมทุกปี คนไม่ติดก็ไม่ติดเหมือนเดิม ทำไมล่ะ?"
อ. พี่บอกว่า เพราะ "บางคนไม่เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ดูให้ดี และไม่ฝึกฝน"

"ทำให้ดีที่สุด"...ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ต้องเปลี่ยนเป็น "ทำให้ถึงให้ได้" ต่างหาก
หากน้อง ปักธงจะไปอเมริกา แต่เตรียมสเบียง(คะแนนสอบ) มาแค่พอเดินเรือถึง ญี่ปุ่น
แล้ว ก็บอกกับพระเจ้าว่า ท่านได้โปรด วาร์ปพาเรือข้าไป อเมริกา ด้วย แล้วจะบนด้วยหัวหมู....หรอครับ

น้องๆมากต่อมากครับ ทำแบบนี้ สอบแบบพยายามทำดีที่สุด คะแนนออกมาเฉี่ยวๆ ติดมิติดแหล่
แล้วก็บนครับ สุดท้ายมากมาย แน่นอนครับว่าไม่ติด

จริงๆแล้วน้องควรลองทำข้อสอบดูก่อนครับ ข้อสอบเก่าๆโจทย์เก่าๆ แล้วจับเวลา
ทำเหมือนในห้องสอบจริงๆ แล้ววัดคะแนนดูเลยครับ
ตอนพี่นั้น พี่ลองทำแล้ว หนแรกๆ ฟิสิกส์ ทำผิดบ้าง วิชาอื่นๆ ก็ยังไม่ดีนัก ได้ราวๆ 70%
เอาตารางคะแนนสอบติดปีก่อนๆมาดู อืมมันก็มีนะคณะวิศวะที่คะแนนเท่านี้สอบติด
จะให้ชัวร์ต้องได้ 80% สิ อ้าวแล้วทำไงดี
พี่ก็เลือก ฝึกฝนครับ เพิ่มคะแนนฟิสิกส์ , เลข และ พื้นฐานวิศวะ เพราะพี่ทำได้ดีเข้าใจและคาดหวังได้

นี่แหละครับที่มาของแผน การเรียนที่พี่วางไว้ในข้อ 1 รู้ว่าต้องทำแค่ไหน
ถ้ารู้ว่าความสามารถเราตอนนี้ ถึงแค่นี้ ยังไม่พอก็ต้อง รีบเติมครับ
เติมระยะที่ยังห่างอยู่ ถ้าในสนามทดลองเราสอบได้
ก็มีโอกาสกว่า 70%-80% ที่เราจะสอบได้ ในสนามจริงครับ

น้องบางคนคาดหวังสูง สอบได้เท่านี้ ก็หวังไปว่าเฮ้ยเลือกอันที่คะแนนสูงๆ เผื่อฟลุ๊ก พระเจ้าช่วย
ไม่มีจริงหรอกครับ  เราต้องเอาธงปักเป้าหมายแล้วไปให้ถึงครับ

3.ไปแข่งวิ่งทุกวันต้องซ้อมวิ่ง
"ถ้าเธอจะต้องไปแข่งวิ่งมาราธอนสัปดาห์หน้า เธอจะไปฝึกวิ่งทุกเย็นไหมล่ะ?"
การสอบก็เช่นเดียวกันครับ เวลาน้อยนิดในห้องสอบ กับข้อสอบมหาศาล
คนที่เก่งๆ เขาทำแต่ละข้อด้วย"ความคุ้นเคยครับ"

โจทย์เลขแบบนี้เจอมา 10 รอบแล้ว นี่ไง ใส่สูตรนี้ก่อน แล้วก็สูตรนี้ อ๊ะ แอบพลิกแพลงตรงนี้หรอ
นี่ไง ทำแบบนี้วิธีนี้แก้เป็น ฉับฉับ ได้คำตอบ

แบบนี้จริงๆครับ ไม่ใช่ท่องโจทย์ไปสอบนะครับ แต่เพราะทำมาเยอะมากแล้ว
จึงเข้าใจแนวทางของโจทย์เป็นอย่างดี จากเข้าใจก็เป็นซึมซับ และแก้ได้ในทันทีครับ

ตอนนั้นพี่เองก็สมัครสอบทุกวิชา มีวิชาหนึ่งคือสังคม ไม่ได้ใช้หรอกครับแต่สอบเป็นเพื่อน ให้เพื่อนสนิท
ซื้อหนังสือ ย้อนหลัง 15 ปีข้อสอบสังคมมาทำ ทำวันละ 1 ชุดครับ และพี่ก็เจอว่า
เฮ้ย.....โจทย์นี้ ถามแบบนี้เลย เมื่อ 5 ปีที่แล้วก็ออกนิ สลับข้อแค่นั้นเอง
โจทย์เรื่องนี้ 2-3 ปีมาทีนึง ต้องไปอ่านรายละเอียดเพิ่มสินะ
อ๊ะ แหม ถามเหตุการณ์นี้อีกละ เบื่อแล้วนะ ถามบ๊อยบ่อย ^^

แบบนี้เลยครับ ฟิสิกส์ก็เหมือนกัน เนื้อหาก็เหลือนเดิมแหละครับ จำนวนบท เท่าเดิม
จะออกได้แค่ไหนเชียว อย่างมาก ก็ ตู้ เปลี่ยนเป็นโต๊ะ รถไต่ถังเปลี่ยนเป็นถามแมวไต่ถัง
ก็คำนวนแบบเดิมนั่นแหละครับ น้องล่ะครับ เคยฝึกเคยเจอมารึเปล่า

อย่าลืมนะครับ ต้องไปวิ่งอย่าลืมฝึกวิ่ง ต้องไปแข่งทำข้อสอบ อย่าลืมฝึกทำข้อสอบครับ

เขียนมาเสียยาว จะเบื่อกันไหมนะ หวังว่าจะได้ประโยชน์นะครับ
ปัจจุบัน พี่ไต๋ สอนฟิสิกส์สำหรับ กลุ่มเล็ก และตัวต่อตัว น้องคนไหนสนใจ ติดต่อมาได้นะครับ
หรือ อยากปรึกษาการวางแผนการเรียน ก็มาคุยกันได้นะครับ

ติดตามข่าวสารจากพี่ไต๋และคุยกันได้ที่

www.facebook.com/meetingandlearn
พี่ไต๋ 085-199-6142 เมล์ sukit.bj@gmail.com
หรือไปที่ ห้องเรียน meeting&learn ที่อาคารสยามกิตต์ ชั้น 6 สยามแสควร์ครับ


ตอนต่อไปครับ รู้เขารู้เรา รบร้อย ชนะ ร้อย การเตรียมตัวอ่านหนังสือครับ
http://my.dek-d.com/butabun/blog/?blog_id=10159459

ความคิดเห็น

med-medusawitch
med-medusawitch 1 พ.ค. 55 / 17:00
ขอบคุณมากค่ะ ...หนูอยากเรียนกับพี่นะคะ...แต่หนูอยู่เชียงราย ไกลจากกรุงเทพมาก
butabun
butabun 9 ก.ค. 55 / 00:17
 ตอนต่อไปมาแล้วนะครับ
http://my.dek-d.com/butabun/blog/?blog_id=10159459
ความคิดเห็นที่ 3
>>มองหา เตรียมสอบแพทย์ ทันตะ กสพท.....โดยเฉพาะ!! ตรง...
ตรงจุด ตรงประเด็นที่สุด!!

คอร์สความถนัด+วิชาสามัญ (กสพท.)

-ข้อสอบ(ลับ)ออกอะไรบ้าง --- > Top Secret
-สิ่งที่ต้องรู้ก่อนสอบ --- > Concept
-ทำอย่างไรให้ถูกและทัน --- > Hi-light�

**download ฟรี!��ระเบียบการ+ตย.ข้อสอบ(ลับ!)
http://tusmartlive.webs.com/freedownload.htm

"ไม่มีในตำรา ไม่มีใครเหมือน ไม่เหมือนใครมี จากประสบการณ์สอบจริง+นักเรียนสอบติดทุกๆปี....ที่ผ่านมา”

โอกาสสอบติดสูง(ดีกว่าอ่านหนังสือเอง)
ช่วยคนอ่อนให้สอบติดได้
ช่วยคนเก่งให้เก่งขึ้นอีก

http://tusmart.webs.com

แนะนำคอร์สอื่นๆ
-โควตารังสิต
-Nottingham�
-Newtract
อื่นๆ
ความคิดเห็นที่ 4
มีนักเรียนคนหนึ่งได้คะแนนวิชาสามัญ 58
เฮ้ย สอบติดแพทย์ธรรมศาสตร์แล้ว ไม่ต้องสอบความถนัดแพทย์ก็ได้!!


ลองดู
https://dl.dropbox.com/u/95072319/pdf/samund58.pdf
“…อ่านเยอะไม่เท่ากับ….อ่านตรง!!...”
ความคิดเห็นที่ 5
พี่เมย์ จบปริญญาตรี โท เอก การสอนภาษาอังกฤษ เป็นติวเตอร์ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย มีประสบการณ์การติวมากมาย มีน้องมาติวด้วยเกิน 200 คนแล้ว ทุกคนสอบได้คะแนนสูง ๆ และเข้ามหาวิทยาลัยได้ทุกคน พี่ไม่เพียงเป็นติวเตอร์เท่านั้น ยังเป็นที่ปรึกษาเสมือนเป็นโค๊ชให้น้อง เป้าหมายคือพัฒนาน้องให้สอบได้คะแนนสูง ๆ สามารถยื่นคณะที่เราต้องการได้ พี่สอนเดี่ยวหรือกลุ่มย่อยไม่เกินครั้งละ 4 คน น้องที่มองหาคนติวติดต่อพี่ด่วน ยังพอมีเวลาลงเรียน เบอร์พี่ 0915719824 ค่ะ โทรมาคุยกันก่อนได้ค่ะ โทรมาได้ตลอดเวลา หากพี่สอนอยู่หลังสอนเสร็จจะโทรกลับ
ramail
ramail 2 มี.ค. 56 / 11:21
    ขอบคุณค่ะ