คะแนน 5/5
นักวิจารณ์ กุมภ์กรณ์,หนามMelon
ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา ต่างบ้านต่างเมือง แม้กระทั่งเผ่าพันธุ์ก็ยังแตกต่าง แต่คำว่า... 'รัก' สามารถก่อเกิดและผลิบานขึ้นภายในหัวใจของเขาหรือเธอได้เสมอ ความรักอันเปราะบางระหว่างมนุษย์กับอสูรที่เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามของเหล่า อสูร เทพฯ ผี ปีศาจ และมนุษย์ จะลงเอยเช่นไร?
1. โครงเรื่อง : ขอพูดถึงชื่อเรื่องก่อนนะ ‘เจ้าสาวอสูร’ ชื่อนี้น่าสนใจก็จริง แต่เราคิดว่ามันน่าจะไปซ้ำหรือคล้ายคลึงกับชื่อนิยายเรื่องอื่นที่ได้รับการตีพิมพ์ไปแล้ว และถ้าคุณเขียนได้ไม่แตกต่างหรือไม่น่าสนใจเท่านิยายในชื่อเรื่องเดียวกัน มันอาจทำให้นิยายของคุณไม่น่าสนใจมากเท่าที่ควรหรืออาจเกิดข้อเปรียบเทียบได้ และข้อเปรียบเทียบที่ว่าย่อมเป็นลบมากกว่าบวก (ในความคิดนะ)
สิ่งที่เราแปลกใจไม่น้อยคือ แนวเรื่องที่คุณระบุไว้ว่าเป็นแฟนตาซี แต่พออ่านชื่อเรื่องกลับออกแนวซึ้งกินใจซะงั้น ซึ่งเรามองว่าชื่อเรื่องกับแนวนิยายมันออกจะสวนทางกันเหลือเกิน ขออธิบายในแง่ของนักอ่านส่วนใหญ่ที่มักจะอ่านชื่อเรื่องก่อนลงมืออ่านเนื้อหาของนิยายนั้นๆแบบจริงๆจังๆ เช่นนักอ่านที่ชื่นชอบนิยายรักหวานแหว ซึ้งกินใจ พอได้อ่านชื่อเรื่องของนิยายเรื่องนี้แล้ว น่าจะคิดไปทางเดียวกันว่า น่าอ่านมาก ต้องเป็นเนื้อหาตบจูบ ชวนทะเลาะ พระเอกร้ายยิ่งกว่าปีศาจแต่นางเอกก็รัก อะไรทำนองนี้ แต่พออ่านเนื้อหาจริงๆ คนชอบแนวตบจูบต้นร้ายปลายรักคงได้ร้องเสียงหลง เฮ้ย! นี่มันแฟนตาซีนี่ แถมยังมีอสูรตัวเป็นๆไม่ใช่การเปรียบเทียบอีกต่างหาก แบบนี้ไม่ใช่แนวฉันล่ะ ปิดดีกว่า! กลับกัน สำหรับนักอ่านที่ชื่นชอบแนวแฟนตาซี ก็เข้าใจตรงกันดีอยู่หรอกนะว่าคุณลงแนวนิยายว่าแฟนตาซีเอาไว้ แต่ก็ไม่กล้าเปิดเข้ามาอ่าน เพราะชื่อเรื่องมันออกแนวรักๆใคร่ๆซึ้งกินใจโรแมนติกดราม่าซะเหลือเกินนี่สิ ชื่อเรื่องไม่ใช่นักอ่านก็เลือกที่จะปิดหน้าต่างบทความได้เหมือนกัน บอกตรงๆ ขนาดเราเอง ตอนอ่านชื่อเรื่องครั้งแรกยังคิดไปไกลเลยว่า นิยายเรื่องนี้ต้องตบจูบ พระเอกมีปมที่ต้องร้าย ในขณะที่นางเอกต้องอ่อนแอไร้เดียงสา แต่พอได้อ่านจริงๆ นี่มันอสูรชัดๆ อสูรจริงๆ ไม่ใช่การเปรียบเปรย รู้ดังนั้นก็เลยลองเลื่อนดูแนวที่คุณระบุไว้ในบทความว่าแนวไหนกันแน่ อืม... กระจ่างจนต้องครางเบาๆ ‘แฟนตาซีจริงๆด้วย...’
นิยายเรื่องนี้มีนักอ่านน้อยทั้งๆที่งานเขียนของคุณมีเนื้อหาแปลกใหม่ สนุก ครบรส และชวนติดตามอย่างมาก อาจเพราะชื่อกับแนวสวนทางกันอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้เปลี่ยนชื่อเรื่องหรือไม่ก็เปลี่ยนแนวเรื่องจะเหมาะกว่า หรืออาจจะเพิ่มชื่อภาษาอังกฤษเข้าไปก็น่าจะช่วยให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
โอ๊ะ! แค่ชื่อเรื่องกับแนวเรื่องก็ปาไปครึ่งหน้าเอสี่ล่ะ เข้าสู่การเกร่นนำเนื้อเรื่องย่อกันเลยดีกว่าค่ะ อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่ามันมีความนัยหลายๆอย่างแฝงอยู่ ซึ่งเรามองว่ามันเป็นอะไรที่ทั้งแปลกและน่าสนใจมาทีเดียว ให้ความรู้สึกโศกปนเศร้า แต่กลับมีกลิ่นไอของความรักละมุนละไมปะปนอยู่
ขอชื่นชมการเปิดเรื่องค่ะ ถือว่าทำได้ดีและน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ (แม้จะไม่ค่อยลงรายละเอียดมากนัก และเร่งจังหวะการเขียนมากพอสมควร แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี) พูดได้เลยว่า... มันเหมือนกับเรานั่งดูหนังมากกว่านั่งอ่านนิยายซะอีก สำหรับเนื้อเรื่องโดยรวมแล้ว เราคิดว่าการดำเนินเรื่องราวยังกระจัดกระจายอยู่มาก การลำดับเหตุการณ์ยังไม่ปะติดปะต่อ เหมือนกับมีการตัดฉับฉากเร็วเกินไป ส่งผลให้เนื้อหาสุดเข้มข้นชวนประทับใจขาดความต่อเนื่อง บอกตรงๆว่าเราเข้าใจเพียงส่วนเดียวเท่านั้น นั่นคือตอนเริ่มเรื่องที่สอดคล้องกับชื่อเรื่อง ‘ฉากแต่งงานสุดแสนจะเรียบง่ายและรวดเร็วยิ่งกว่าสายลมพัดผ่าน’ นอกนั้นเราก็ได้แต่อ่านไปงงไป โดยเฉพาะบทที่5 อ่านแล้วงงมากค่ะ ตอนเริ่มบทเป็นฉากความหลังเมื่อสองเดือนก่อน ยังพอเข้าใจ แต่การเปลี่ยนฉากปุปปัปของคุณ มันค่อนข้างรวดเร็วและตัดฉับเกินไปหน่อย ความจริงกับความหลังจึงตีกันมั่วไปหมด เราต้องกลับมาอ่านทำความเข้าใจอีกรอบถึงเข้าใจว่าท่อนไหนที่คุณเปลี่ยนฉากเข้าสู่ปัจจุบัน ช่วงไหนที่ย้อนไปสู่อดีตอีกครั้ง
2. ตัวละคร: ในที่นี้ขอพูดถึงตัวละครหลักๆสามตัวที่เราคิดว่าพอจะจับอารมณ์ของเขาและเธอเหล่านั้นได้
เอียน : พระเอกของเรื่อง เปิดตัวมาแบบนิ่งสงบ เงียบขรึม แข็งกระด้าง วางเฉย และไม่สนใจใยดีใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่จู่ๆอสูรนายนี้ก็เปลี่ยนไป พูดมาก ปากหวาน อ่อนโยน เผลอๆจะขี้อ้อนอีกต่างหาก ครั้งแรกที่อ่านเราเข้าใจว่าพระเอกคนนี้เก่งมากและฉลาดเกินใคร แต่พออ่านจนจบบทที่16 กลับพบว่าพระเอกคนนี้มีแต่ความลังแล และอ่อนไหวง่าย ส่วนเรื่องไหวพริบยังต้องดูกันต่อไปอีกหลายตอน
เมล : นางเอกของเรื่อง เปิดตัวครั้งแรก ทั้งอ่อนแอ หวาดกลัว และหวาดระแวง แต่พอได้ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองต่างภาษาได้ไม่กี่วัน กลับมีความกล้าบ้าบิ่นซะจนไม่เหลือเค้าของคนอ่อนต่อโลกให้เห็น หนำซ้ำยังฉลาดเป็นกรด ทั้งที่มีข้อมูลเพียงน้อยนิด และยังเก่งกล้าขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว จริงๆก็พอเข้าใจนะว่า... แรงกดดันจากอะไรหลายๆอย่างสามารถผลักดันให้คนๆนึงเปลี่ยนแปลงตัวเองจากอ่อนเป็นแข็ง แต่ยังไงล่ะ เรามองว่ามันเร็วเกินไปสักนิดสำหรับความเก่งและความกล้าที่เกิดขึ้น นอกจากนี้เราคิดว่าคำพูดคำจาและพฤติกรรมของนางเอกมันออกแนวน่ารักสดใส เป็นห่วงเป็นใยและเป็นมิตรกับทุกคน แต่คุณกลับบรรยายใบหน้าที่แสดงออกเป็น เรียบเฉยบ้าง สงบนิ่งบ้าง ไม่ใส่ใจบ้าง เราว่ามันขัดๆกันไงไม่รู้สิ (หรือเราคิดไปเอง?)
ดันแคน : จะเรียกว่าเพื่อนนางเอกก็ไม่ใช่ ผู้ช่วยพระเอกก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าผู้ชายคนนี้มีนิสัยใจคอตรงไปตรงมา มีชีวิตชีวา และตรงประเด็น เป็นธรรมชาติที่สุด เป็นตัวละครที่มีลักษณะทางอารมณ์คงที่และเป็นเอกลักษณ์น่าจดจำ เหมาะมากกับนิสัยนี้ ‘ขี้โวยวาย’
3. การใช้ภาษา: หลังจากที่ได้อ่านตั้งแต่บทที่1จนถึงบทที่16 ขอบอกเลยว่าสำนวนภาษาและการบรรยายของคุณดีมาก เขียนเข้าใจง่าย ไม่ยืดเยื้อ ไม่วกวน สามารถอ่านได้เรื่อยๆ เพราะสนุก ตื่นเต้น และต้องคอยลุ้นระทึกไปพร้อมๆบตัวละครเสมอ บางทีอ่านๆไปยังคิดไปตลอดเลยว่า นี่มันนิยายแปลหรือเปล่า บอกตรงๆ อ่านเรื่องนี้แล้ว เราแอบจินตนาการไปถึงเรื่องแวมไพร์ทไวไลท์ได้ไงไม่รู้
แม้ว่าการดำเนินเรื่องราวทั้งหมดจะกระชับ ฉับไว และรวดเร็วจนคนอ่านบางคนอาจจะงงๆบ้าง เข้าใจบ้างก็เถอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การบรรยายแต่ละฉากแต่ละตอนก็สอดคล้องกับบทสนทนาของตัวละครอย่างเห็นได้ชัด นักอ่าน(อย่างเรา)สามารถจินตนาการตามเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆได้ราวกับว่าตัวเองกำลังนั่งดูหนังแฟนตาซีสามมิติสักเรื่องก็มิปาน
คำผิด มีบ้างเป็นบางตอนค่ะ แต่อ่านๆไปแล้วลื่นไหลไม่สะดุดเราเลยไม่ได้หาให้ แต่มีคำนึงที่เราคิดว่าคุณน่าจะเขียนผิด และผิดทุกครั้งที่เขียนคำนี้ พรั้นพรึง น่าจะใส่ไม้เอกมากกว่า พรั่นพรึง นอกจากนี้ยังมีประโยคที่ตกคำเชื่อมในบางบทด้วยค่ะ ยังไงก็ลองกลับไปอ่านทวนดูอีกสักรอบสองรอบนะ
อ่อ มีอีกอย่างที่เราอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ นั่นคือการแทนตัว คุณมักแทนว่า ‘ผมกับเธอ’ อ่านแล้วเรารู้สึกว่ามันแปลกๆไงไม่รู้สิ ควรใช้ ‘ผมกับคุณ’ หรือ ‘ฉันกับเธอ’ หรือ ‘คุณกับฉัน’ ในการเรียกขานจะเหมาะกว่ามั้ย?
4. แก่นเรื่อง: สารภาพเลยว่าเราไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหาที่แท้จริงของเรื่องสักเท่าไหร่ นอกจากประเด็นหลักที่ว่า นางเอกมีผลประโยชน์บางอย่างที่สามารถรักษาตำแหน่งและชีวิตของพระเอกให้มั่นคงได้ จึงเป็นเหตุผลหลักที่เธอต้องแต่งงานกับเขา แต่เรื่องราวต่อจากนั้นเราก็ไม่รู้เลยว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร ตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นเรื่องราวความรักต่างเผ่าพันธุ์ระหว่างมนุษย์ธรรมดา ซึ่งก็คือนางเอก กับอสูรที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังบางอย่าง ซึ่งก็คือพระเอก แต่ยิ่งอ่านลึกลงไปในตอนหลังๆ กลับพบว่า ไม่ใช่! นอกจากนางเอกจะจับพลัดจับพลูมาแต่งงานกับพระเอกแล้ว ชีวิตและจิตวิญญาณของเธอในเรื่องนี้ยังเกี่ยวพันกับสงครามของเทพเจ้ากับอสูรตั้งแต่ครั้งอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน แม้สงครามดังกล่าวจะจบสิ้นไปนานมากแล้ว แต่เทพฯ อสูร รวมถึงปีศาจ ซึ่งมีอำนาจมากมายพอๆกัน ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน และต่างฝ่ายต่างต้องการเป็นใหญ่เหนือกันและกัน จึงก่อเกิดเป็นการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ชิงอำนาจ และชิงไหวชิงพริบกันอีกครั้ง โดยมีนางเอกเป็นชนวนของเรื่องราวทั้งในอดีตและปัจจุบัน เด็กสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา จะมีชะตาชีวิตอย่างไร เมื่อต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และต่างเผ่าพันธุ์ สำหรับเธอแล้วมันคือเรื่องดีหรือร้ายที่ต้องกลายมาเป็น... เจ้าสาวอสูร
เราขอชื่นชมทัศนคติ และการมองโลกในแง่บวกของตัวเอกนะ นอกจากเธอจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีแล้ว เธอยังเลือกที่จะมองโลกในแง่ดี แง่ที่สวยงามอีกต่างหาก ไม่แปลกเลยที่นางเอกเรื่องนี้จะมีแต่คนรักคนหลง เชื่อว่านักอ่านหลายๆท่านที่กำลังติดตามนิยายเรื่องนี้อยู่ ก็คงเทจะใจรักนางเอกกันเป็นแถวๆเช่นกัน...
ปฐมบทใหม่ที่อยากให้นักอ่านได้ติดตาม... เหนือจินตนาการไปกับแฟนตาซีรักต่างเผ่าพันธุ์ เขาหรือเธอ ใครกัน?! ผู้ถูกพันธนาการหัวใจด้วย... 'พันธะอสูร'