Caravan
เขียนโดย
chevass
เต๊นท์หลังใหญ่หลังหนึ่งประกอบชายหญิงนอนเรียงกันด้านใน คนที่รับหน้าที่การแสดงโชว์หลักจะได้ใช้เต๊นท์นอนแยกต่างหาก มีความเป็นอิสระส่วนตัว เอเรียเป็นแค่คนขายบัตรเข้าชมจึงนอนร่วมกับคนงานของคาราวานทั้งคนทำความสะอาด คนประกอบเวที คนติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ คนครัว คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่น่าจะผ่านไปด้วยดีเหมือนเช่นเคย ทว่าในความเงียบสนิทนอกจากเสียงลมพัดด้านนอนเมื่อกระทบกับเต๊นท์แล้ว ยังมีเสียงคนสองคนพูดคุยกันในความมืด
“อย่าค่ะ”
“แค่คืนนี้จะเป็นอะไรไป ไม่มีใครตื่นขึ้นมาเวลานี้หรอก” เป็นเสียงของผู้ชายกับผู้หญิง เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกับผิวหนังทำให้เอเรียพยายามข่มตาหลับอยู่เป็นอันต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาทั้งที่ตั้งใจจะทำเป็นไม่สนใจเสียงพวกนั้น
กว่าเธอจะกลับมาถึงให้ทันรอบเวลาการแสดงใช้เวลาไปพักใหญ่ เพราะถูกทิ้งจากรถเมื่อตอนพักในเมืองที่คาราวานทางผ่าน เอเรียถูกใช้ให้ไปซื้อของเพื่อนำมาปรุงอาหารให้กับคนงานในเต๊นท์ เมื่อกลับมาอีกที ขบวนรถได้หายไปแล้ว ทิ้งเพียงฝุ่นตลบลอยตามหลังไกลๆ เอเรียรู้ว่าตัวเองถูกแกล้งแต่เลือกยอมที่จะทนต่อไป เพราะถ้าเธอออกไปเมื่อไหร่ ค่าแรงเงินไม่เพียงพอใช้สำหรับประทังชีวิตแน่แท้ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเรื่องการแจกจ่ายอาหารที่เธอได้รับแค่อาหารกระป๋อง เศษขนมปังแผ่น แทนที่จะเป็นน่องไก่หรือไข่ต้มเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ หน้าที่ขายบัตรเหมือนกันต่างกันแค่เธอประจบสอพลอเป็น เอเรียหิว รู้สึกปวดท้องจนทำให้นอนไม่หลับ ลืมตาโพลงในความมืด
เอเรียถูกช่วยเหลือจากกองเพลิงที่เผาไหม้บ้าน ทุกคนในครอบครัวตายหมดยกเว้นเธอ บางครั้งคิดว่าปล่อยให้เธอเหลือรอดมาทำไม หัวหน้าคาราวานที่ทุกคนเคารพนับถือ เรียก ‘พ่อ’ เขากำลังกอดจูบนัวเนียกับเด็กผู้หญิงที่ทำงานในแผนกอาหาร
นับหนึ่ง..สอง..สาม ถึงสิบ
ทนไม่ไหว
เอเรียลุกขึ้นยืน การที่ถูกบังคับให้ทำโดยไม่เต็มใจน่ะ โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ หลายครั้งที่พ่อทำแบบนี้กับเด็กผู้หญิงซื่อๆ เข้ามาหางานทำในคาราวาน เพื่อส่งเสียตัวเองบางคนส่งเสียครอบครัวที่รออยู่เบื้องหลัง ยิ่งรู้ว่าบริสุทธิ์ยิ่งดี และเมื่อสำเร็จตามต้องการ ผลักทิ้งส่ง แม้ว่าพวกหล่อนจะร้องไห้ปริ่มขาดใจแค่ไหนก็ตาม ทุกคนรู้แต่ทุกคนทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เรื่องแบบนี้เกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งรับไหว
“อะไร!”
“หยุดเถอะค่ะ”
“เธอนั่นแหละที่หยุด หรืออยากจะโดนกันล่ะ ฉันยังไม่ได้แอ้มเธอเลย เอเรีย” พ่อปล่อยแขนเธอคนนั้นไปแล้วและเดินตรงย่างสามขุมเข้ามาหา เอเรียก้าวถอยหลังจนแผ่นหลังชนกับโต๊ะเครื่องแป้ง ข้าวของเครื่องใช้ตกหล่นพื้น
“กำลังขึ้นเลย ขอดับกระหายแก่พ่อเถอะ”
“ขอโทษครับ”
“คาลวิน นายด้วยเหรอ” เอเรียหันไปมองผู้ชายอีกคนที่ลุกขึ้นนั่งท่ามกลางคนอื่นที่นอนอยู่ คาลวินปรายตามองเอเรีย เธอถูกจับให้ชันขาขึ้นครอบเอวของผู้ชายรุ่นพ่อ
“ถือว่าเป็นค่าปิดปาก ผมขอผู้หญิงตรงหน้าพ่อได้ไหม”
“หือ หลังจากนี้ไม่ได้หรือ”
“ถ้าพ่อยืนยันที่จะทำ ผมไม่รู้เห็นเรื่องคาราวานล่มเพราะมีเจ้าของหื่นกามไล่ข่มขืนเด็กหรอกนะครับ”
“อ้างมาซะใหญ่ พูดว่า ‘ขอ’ พ่อก็ให้แล้ว” เจ้าของคาราวานปล่อยขาของเอเดรียลงและเดินกลับไปหาเด็กหญิงคนเดิมก่อนหน้านี้ เอเดรียไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง เพราะถูกลากให้ออกมาข้างนอกและตรงไปที่เต๊นท์สีน้ำเงินหลังหนึ่ง เอเดรียถูกผลักอย่างแรง เธอล้มลงกับพื้นที่เย็นเยียบ มันไม่ใช่ฟูกนอนเตี้ยๆราคาถูกแต่ถึงอย่างนั้นให้ความอุ่นมากกว่าพื้นตอนนี้ เสื้อผ้าถูกถอดทิ้งออกจากร่างหมด ร่างกายเปลือยเปล่าอวดผิวขาวดั่งน้ำนม ต่างกับคาลวินเสื้อผ้ายังครบชิ้น แรงกระแทกกระทั้นจากร่างสูงถูกส่งมาอย่างไม่มีทีท่าว่าเหนื่อยแต่อย่างใด เอเดรียกำลังจะบ้าตายกับสิ่งที่คาลวินทำให้ ไม่เชิงทุกข์ไปเสียหมดความสุขในตอนท้ายต่างหาก อดคิดไม่ได้ว่าลึกๆตัวเองต้องการมันเช่นกัน
ก้อก ก้อก
ปุยเมฆสีขาวลอยบนท้องฟ้าพลันมลายหายไป เอเดรียถูกกระชากลงเบื้องล่างอย่างน่ากลัว เสียงเคาะประตูปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์นั่น
“เสร็จแล้วใช่ไหม แบ่งให้คนอื่นต่อบ้างสิ”
“เห็นทีคงจะไม่ได้ ขอเก็บไว้สักพัก”
“เอางั้นเหรอ”
“ถ้าอยากระบายความใคร่ เธออยู่ที่เต๊นท์นั้น” เสียงพูดคุยของผู้ชายสองคน เอเดรียได้ยินหมดทุกอย่าง ร่างเล็กกระชับผ้าคลุมร่างเมื่อรู้สึกว่าผ้ากำลังไหลลื่นหล่นเพราะเนื้อผ้าเป็นแบบดี ผิวเรียบลื่น เอเดรียตกใจเมื่อคาลวินกลับเข้ามาข้างในอีกครั้ง เงาดำร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเธอ
“สังคมนี้โหดร้ายนะว่าไหม เอเดรีย”
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
21 ม.ค. 62
33
0
ความคิดเห็น