ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Silent's words ♥ เกิดอาการ "ปิ๊ง" เมื่อใกล้เธอ

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 12 : "มันคงจะไม่ผิดใช่มั้ย ถ้าฉันเลือกจะนั่งรอเธออยู่ตรงนี้" [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.27K
      4
      21 มี.ค. 53

     

    12

     

     

           หลังจากที่ยัยอาจารย์ห้องสมุดนั่นสั่งทำโทษฉันกับเพื่อน หล่อนก็ถอนหายใจและนั่งลงทำงานต่อไปอย่างคร่ำเคร่ง ส่วนฉันกับยัยบลูก็ย่องออกมาจากห้องสมุดโดยรอให้ถึงเวลาตอนเย็นเพื่อมาทำความสะอาดห้องสมุด ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากทำเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้าได้เจอพี่คนนั้นแล้วล่ะก็ ฉันเลยต้องทำยังไงล่ะ!

                ฉันกับบลูเดินขึ้นไปตามทางเดินหน้าห้องเรียนและพบว่าไซเลนท์กำลังจะเดินสวนทางกับพวกเรา ฉันเลยตะโกนเรียกเขาก่อน

                เฮ้ๆ~”

                ได้ผล! เขาหันมาทางฉันแล้ว

                “…”

                เย็นนี้ฉันโดนสั่งให้ทำความสะอาดห้องสมุดอ่ะ นายกลับไปก่อนนะ

                เขาไม่ได้พูดอะไรแต่กลับพยักหน้าหงึกหงักและเดินเลี้ยวลงบันไดไป

                แหม คนรู้จักแกเชื่องดีจังเลยนะบลูพูดพร้อมกับตบบ่าของฉันแล้วหัวเราะ

                เหอะ เชื่องยังไง ก็แค่พยักหน้าไปงั้นๆ ล่ะมั้ง ไม่รู้ว่าฟังเลยรึเปล่าฉันปฏิเสธพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็แน่ล่ะสิ หมอนี่น่ะเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะไม่พูดอะไรออกมาหรอก แต่ทีอยู่กับฉันล่ะกวนได้ใจ!

                ฉันอยากได้มาเป็นสุนัขเฝ้าบ้านว่ะ

                นี่แก พูดดีๆ หน่อย อีตานั่นอย่างน้อยมันก็ยังเป็นคนนะยะ =_=^”

                เออ ลืมไป

                หยาบคายจริงๆ ยัยบลู -_-“

                ก็พอๆ กับแกน่ะแหละ

                ฉันยังดีกว่าแกนะเว้ย!”

                ตรงไหนไม่ทราบ -_-“

                ตรงนั้นอ่ะ!”

                หยุดเพ้อแล้วเข้าห้องเรียนเถอะ

                ก็แกมาเถียงกับฉันก่อนเอง >O<”

                ฉันยอมแพ้ก็ได้ เข้าห้องเรียนไปก่อน จะออดแล้วเนี่ย เดี๋ยวตอนเย็นต้องไปทำความสะอาดอีก เซ็งจริงๆ ยัยอาจารย์นั่นบลูพูดแล้วถอนหายใจ

                มันไม่ดีสำหรับแก แต่มันดีสำหรับฉันว่ะ -O-^”

                เออ ลืมไปว่าอีตารุ่นพี่นั่นที่แกชอบก็เป็นเวรในห้องสมุดนี่นะ นี่คงเป็นโอกาสดีและโอกาสเดียวสำหรับแกแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆยัยเพื่อนของฉันพูดแล้วก็ปล่อยก๊ากออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้เด็กนักเรียนที่กำลังเดินอยู่รอบๆ หันมามองพวกเราเป็นตาเดียว -_-^

                จะขำอะไรมากมายยะ ไม่เห็นจะมีอะไรน่าขำสักหน่อย แล้วฉันไม่คิดด้วยว่ามันจะเป็นโอกาสสุดท้าย คนอย่างฉันน่ะอยากได้อะไรก็ต้องได้ ต่อให้ต้องสูญเสียหลายๆ สิ่งไปก็เถอะ!” ฉันเถียงพร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดด้วยความไม่พอใจ ก็แหงล่ะสิ ไม่รู้ซะแล้วว่าคนอย่างฉันน่ะมีความพยายามสูงขนาดไหน เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก!

                เอาล่ะ ฉันเข้าใจและพร้อมจะช่วยแกเสมอนะไอ้เพื่อนยาก

                บลูตบไหล่ฉันสองสามทีแล้วเดินเข้าไปในห้องเรียนโดยมีฉันเดินตามเข้าไปติดๆ

                เมื่อไหร่จะถึงตอนเย็นไวๆ นะ ฉันจะได้เจอรุ่นพี่คนนั้นแล้ว >O<

     

                เวลาในช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็วจนฉันแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองที่คอยนั่งมองนาฬิกาและเหม่อถึงหน้ารุ่นพี่คนนั้นเหมือนคนโรคจิตจนในวิชาคณิตศาสตร์ที่มีการทำโจทย์ อาจารย์เห็นฉันนั่งมองออกไปนอกห้องจึงเรียกให้ลุกขึ้นยืนและตอบคำถาม แน่นอนว่าฉันไม่ได้ฟังอะไรเธอเลยจึงได้แต่ให้ยัยบลูคอยเป็นพรายกระซิบอยู่ข้างๆ -_-^ แต่ในที่สุดก็ตอบผิด ส่งผลให้ฉันได้รับเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ เป็นการใหญ่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาเปิดเวทีเดี่ยวเจ็ดเดี่ยวแปดในห้องเรียน =_=

                ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงเย็น นักเรียนเริ่มทยอยกันกลับบ้าน ฉันที่กำลังมุ่นอยู่กับการเก็บกระเป๋าก็ได้ยินเสียงเรียกของยัยเพื่อนสนิท จึงหันไปมองหน้าเธอ และพบว่ายัยบลูกำลังยืนชี้ออกไปนอกห้องเพื่อให้ฉันเห็นอีตานั่นหรือไซเลนท์ที่กำลังยืนรออยู่

                นายจะมารอฉันทำไมเนี่ย! ก็บอกไปแล้วเมื่อกลางวันไม่ใช่เหรอว่าให้กลับไปก่อนไงเล่า!

                ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปหาไซเลนท์ด้วยความไม่สบอารมณ์ เขาเปลี่ยนท่าเป็นยืนหันหลังยืนพิงกำแพง

                นี่! ฉันบอกว่าให้กลับไปก่อนไม่ใช่เหรอเพราะว่าเย็นนี้ฉันโดนทำโทษที่ห้องสมุด

                เขาไม่ได้พูดอะไรแต่กลับจ้องหน้าฉันแทน

                นายจะตอบหรือไม่ตอบ

                “…”

                ฉันถามดีๆ จะตอบหรือไม่ตอบ

                “…”

                แน่นอนว่าหมอนี่กำลังกวนโอ๊ยฉันอยู่ และสิ่งที่เขาทำลงไปมันทำให้ฉันฟิวส์ขาด!

                นายจะทำบ้าอะไรก็เชิญไปเถอะ! ฉันไม่อยากยุ่งกับนายแล้ว!”

                ฉันขึ้นเสียงใส่เขาและเดินปึงปังกลับเข้ามาในห้อง ยัยบลูรีบกุลีกุจอเข้ามาหาและถามด้วยความเป็นห่วง

                แก มีอะไรกันเนี่ย ทะเลาะกับคนรู้จักมาเหรอไง

                เปล่า แค่รำคาญหมอนั่น

                เอ้อ มีอะไรก็พูดคุยกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องทะเลาะกันหรอกนะ

                แก ฉันน่ะพูดดีแล้ว แต่หมอนั่นมันไม่ยอมพูด ไม่ยอมปริปากคุยกับฉันตั้งแต่แรกเลยน่ะสิ!”

                หลังจากที่ฉันบอกออกไป ทำเอายัยบลูหน้าซีดไปเลยทีเดียว

                อะไรนะ! ไม่พูดกับแก?”

                ก็ใช่น่ะสิ ก็เหมือนกับที่ไม่ยอมพูดกับแกด้วยน่ะแหละ

                ใช่คนรึเปล่าวะ

                แกเห็นมันเป็นอสุรกายเหรอไง

                เปล่า

                งั้นมันก็ยังเป็นคนอ่ะ

                เออ -_-^”

                ฉันหันกลับไปมองนอกห้อง ไซเลนท์ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว หมอนั่นคงจะถอดใจกลับไปแล้วล่ะมั้ง

                แก ไปห้องสมุดกันเหอะบลูพูดขึ้น

                เออ สายแล้วๆ

                หลังจากนั้นฉันกับเพื่อนก็รีบคว้ากระเป๋าและสัมภาระต่างๆ นานาและวิ่งออกจากห้องเรียนไป ใครๆ ก็รู้อยู่ว่ายัยอาจารย์ประจำห้องสมุดนั่นโหดและน่ากลัวขนาดไหน ถ้าไปช้าสายกว่าเวลาเพียงเสี้ยววินาที หล่อนอาจจะนึกคึกและสั่งให้พวกเราทำความสะอาดทั้งโรงเรียนเลยก็ได้

                พวกเราวิ่งมาจนถึงหน้าห้องสมุดและพร้อมใจกันถอดรองเท้า วางกระเป๋าเก็บไว้ในล็อกเกอร์ด้านหน้า ยัยบลูกับฉันยืนเถียงกันว่าใครจะเป็นคนเปิดประตูเข้าไปก่อน

                แกเปิดสิ

                แกน่ะแหละเปิด

                แกก็เปิดๆ ไปเหอะ

                ไม่เอา แกเปิดสิ

                แกปะ…”

                ก่อนที่ยัยบลูจะได้พูดต่อไป ฉันก็รีบผลักเจ้าหล่อนเข้าไปข้างในทันที ฮ่าๆ ในที่สุดแกก็กลายเป็นคนเปิดประตูไปโดยปริยาย

                หน็อย ยัยเชียร์!”

                แบร่ๆ ~”

                ขณะที่ฉันกำลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อนอยู่นั่นเอง อาจารย์สุดโหดประจำห้องสมุดก็เดินออกมาพร้อมกับคำกล่าวเดิมๆ อย่าส่งเสียงดังจะได้มั้ย!” แต่เมื่อหล่อนพูดจบและเห็นว่าพวกเราคือคนที่โดนทำโทษ หล่อนก็เปลี่ยนไปทันที

                พวกเธอนี่เอง โดนทำโทษให้ขัดพื้นนี่มันยังไม่สาสมใช่มั้ย! โดนขัดโต๊ะอีกหน่อยจะเป็นไรไป

                และแน่นอน พวกเราโดนสองเด้ง ทั้งทำความสะอาดพื้นและขัดโต๊ะขัดเก้าอี้ T^T

                พวกเราสองคนนั่งรอเวลาอยู่ด้านหน้าจนถึงบ่ายสี่โมงที่ห้องสมุดปิดจึงค่อยๆ ลากสังขารของตัวเองเข้าไปรับเวรกรรมที่ได้ทำไว้ T_T

                ฉันล่ะเบื่อจริงๆ เลย

                เออ ฉันก็เบื่อเหมือนกับแก แต่ทำๆ ไปเหอะ วันเดียวเอง

                อือ T_T”

                ยัยบลูพูดให้กำลังใจพร้อมกับตบบ่าฉันอย่างแรง แกทำ ฉันก็ทำพร้อมกับแกเหมือนกัน!”

                “T^T”

                งั้นพวกเราต้องสู้ตาย!”

                เย้!”

                ฉันร้องตะโกนออกมาพร้อมกับชูมือขึ้นทำเป็นกำปั้นเพราะคำพูดปลุกใจของยัยเพื่อนคนนี้นี่เองที่ทำให้ฉันเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น

                และที่สำคัญแกจะได้เจอกับรุ่นพี่คนนั้นด้วย!”

                โอ้! เย้!”

                แขนทั้งสองข้างของฉันชูขึ้นเหนือหัวพร้อมกับเสียงดังที่ตามออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ แต่ฉันหารู้ไม่ว่ารุ่นพี่คนนั้นกำลังเดินลงมาจากบันไดที่อยู่ข้างๆ

                เฮ้ย! แก นั่นมันรุ่นพี่ที่แกชอบนี่หว่า กำลังยืนมองมาทางแกด้วยอ่ะ -_-^”

                ฉันรีบลดมือลงและหันไปมองบันได พี่กีต้าร์กำลังยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ และเขาหันมามองหน้าฉันด้วยความฉงน -_-

                กรรม

                พี่ต้าร์ค่อยๆ เดินลงมาจากบันไดและเข้าใกล้พวกเราขึ้นเรื่อยๆ เขาหยุดยืนข้างๆ ฉันและเอ่ยถามขึ้น

                น้องที่โดนทำโทษใช่มั้ย

                ค่ะ

                เย็นนี้พี่เป็นเวรเฝ้าห้องสมุดอ่ะ อาจารย์สั่งให้มาคุมน้องเพราะอาจารย์จะไปประชุม

                หา! O[]O หมายความว่ายังไง!
                อ่า ค่ะๆ

                รุ่นพี่ที่ฉันแอบปิ๊งยืนจ้องหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย น้องคนนี้ที่พี่ชนที่โรงอาหารนี่นา ใช่มั้ย

                เฮ้ย! ยังอุตส่าห์จำได้อีกเหรอเนี่ย นั่นมันเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่หนูแอบปิ๊งพี่เลยนะเนี่ย T_T

                เอ่อ ค่ะ

                ฮ่าๆ น้องนี่ก็ตลกดีนะ แล้วเมื่อกี้ทำท่าอะไรน่ะ

                -_- เขาคงหมายถึงท่าสู้ตายที่ฉันทำไปเพราะคำพูดปลุกใจของยัยบลูล่ะมั้ง

                อ่อ ให้กำลังใจตัวเองเล็กน้อยก่อนจะไปสู้ศึกค่ะ

                ฮ่าๆ เอาเถอะๆ เข้าไปข้างในได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปหาอาจารย์ก่อน

                พี่ต้าร์หัวเราะขึ้นและเดินแยกไปอีกทางหนึ่งโดยปล่อยให้พวกเรายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่อย่างนั้น

                เป็นไงล่ะแก สู้ตายเลยสิทีนี้บลูพูดขึ้นแล้วขยิบตาให้ฉันหนึ่งที

                คงงั้นล่ะมั้ง

                จะยังไงก็ช่างเถอะ ฉันว่ารีบๆ เข้าไปทำให้เสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะ -_-^”

                เออ ไป

                พวกเราสองคนตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องสมุดที่ตอนนี้แทบจะไม่มีนักเรียนเหลือแล้ว หรือที่เหลืออยู่ก็กำลังเดินออกจากห้องสมุดไปเพื่อกลับบ้าน

                ฉันกับยัยบลูรีบไปหยิบไม้กวาด ไม้ถูกพื้น ผ้าขี้ริ้วและอุปกรณ์ขัดสีฉวีวรรณต่างๆ มากองรวมไว้ที่พื้นแล้วรีบลงมือปฏิบัติการแทบจะทันทีโดยมีสายตาของรุ่นพี่มองอยู่ห่างๆ

               

                เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง งานของพวกเราก็สิ้นสุดลง ฉันยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากให้หมดไปพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันกลับไปดูผลงานที่ได้ทำลงไป

                ห้องสมุดที่เคยสกปรกเละเทะยิ่งกว่ารังหนูเน่าๆ ตอนนี้กลับมีกลิ่นหอมของน้ำหอมที่ยัยบลูแอบฉีด พื้นที่สกปรกโสโครกเพราะรอยบาทาของนักเรียนกลับสะอาดเอี่ยมเดินแล้วแทบล้มหัวฟาดพื้น หรือแม้แต่โต๊ะเก้าอี้ที่พวกเราพร้อมใจกันขัดจนมันวาวนั่นก็ด้วย

                เย้! >O<”

                ฉันกับบลูตะโกนขึ้นมาพร้อมกันแล้วยกมือมาตบแปะหลายๆ ครั้งด้วยความดีใจ รุ่นพี่ที่กำลังยืนอยู่เห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาหาพวกเรา

                น้องๆ ทำได้ดีมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเป็นคนรายงานอาจารย์เอง

                เอ๋ ขอบคุณค่ะ

                ไม่เป็นไรครับ วันนี้กลับบ้านดีๆ แล้วกัน

                ค่ะ

                หลังจากนั้นฉันกับบลูก็เดินออกมาจากห้องสมุดและไปหยิบกระเป๋า ใส่รองเท้าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน เมื่อพวกเราเดินลงมาจากตึกได้ครึ่งทาง ฉันก็เอะใจขึ้น

                เฮ้ยแก! ฉันยังไม่ได้ทำความรู้จักกับพี่คนนั้นเลยอ่ะ

                อ้าว! ฉันก็ลืมเตือนแกเหมือนกัน มัวแต่ประทับใจ

                อ๊าก~ แง

                ฮ่าๆๆๆ ไว้วันอื่นแล้วกันนะ

                บุญมีแต่กรรมบังจริงๆ ฉัน T_T”

                ว่าแล้วฉันก็เดินคอตกไปข้างๆ เพื่อนสนิท ฉันกะว่าเย็นนี้จะกลับคอนโดด้วยรถแท็กซี่ แต่เมื่อเดินผ่านโรงจอดรถของโรงเรียนฉันก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าไซเลนท์กำลังนั่งรอฉันอยู่ในรถของเขา! ฉันจึงรีบบอกลายัยบลูและวิ่งเข้าไปที่รถของหมอนั่นแทบจะทันที ก็ฉันบอกแล้วว่าให้กลับบ้านไปก่อนยังไงเล่า!

                นี่นายทำไมถึงยังไม่กลับบ้านอีกล่ะ!”

                ฉันยื่นหน้าพูดกับเขาผ่านกระจกรถด้านคนขับ

                “…”

                ฉันบอกว่าให้นายกลับไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอไง

                “…”

                นี่! ตอบฉันหน่อยสิ

                “…”

                ช่วยตอบฉันทีนะ

                ไซเลนท์ถอนหายใจ มือของเขาย้ายไปจับที่พวงมาลัยรถ

                มันคงจะไม่ผิดใช่มั้ย ถ้าฉันเลือกจะไม่ฟังที่เธอสั่งและนั่งรออยู่ตรงนี้

     

     

     

     

     

    กรี๊ดดดดดดดด จบไปอีกตอนค่ะ

     

    ผ่านไปได้ด้วยดีเน่อ~~~~

     

    อย่าลืมเม้นทักทายกันด้วยนะจ๊ะ ฮ่าๆๆ

     

    ใครที่บอกนางเอกโชคดีเนี่ย มันอาจจะจริงก็ได้เนอะ อิอิ

                

     Loma_ p

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×