ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO]Lovely Manager รักสุดท้ายนายผู้จัดการ[KrisHo]

    ลำดับตอนที่ #3 : คุ ณ ผู้ จั ด ก า ร ll CHAPTER 2 [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 185
      3
      25 มี.ค. 57











    lCHAPTER 2l



    “ครับ~ คุณคริสรบกวนหันทางซ้ายอีกนิดนึงครับ”

    บรรยากาศในสตูดิโอถ่ายภาพสำหรับปกนิตยสาร Cool Guys ที่จะออกวางแผนในปลายเดือนหน้า  ดูเคร่งเครียดและจริงจังเสียเหลือเกินเมื่อวันนี้นายแบบที่มีคิวขึ้นปกคืออู๋อี้ฟาน  เจ้าชายหมาป่าสุดฮอตแห่งวงการ  อีกทั้งธีมปกหนังสือในครั้งนี้ก็คือ Chill สาวๆในออฟฟิศจึงพากันแวะเวียนมาส่งเสียงกรี๊ดเบาๆด้านบนสตูดิโอเพราะความหล่อกระชากใจของอู๋อี้ฟาน  บวกกับลุคส์ในแบบเสื้อยืดสบายๆกับกางเกงยีนส์  แล้วก็สลิปเปอร์กับตุ๊กตาอีกสองสามตัว  โชว์เสน่ห์แบบด้านที่กลบความเป็นแฟชั่นนิสต้าไปเสียจนมิด  ดูเป็นผู้ชายสบายๆขึ้นมาอีกโข  แต่ว่า...การจัดฉากมันก็คงเป็นการจัดฉากวันยังค่ำ

    “ถ่ายๆไปเถอะน่า! จะให้หันอะไรนักหนา เมื่อยคอ!

    คนที่เคยยืนส่งยิ้มอยู่กับตุ๊กตาน้องกระต่ายสีขาวน่ารักตีหน้ายุ่งใส่ตากล้องที่บังอาจจัดเขาเปลี่ยนท่านู้นทีท่านี้ทีมาเกือบสี่ชั่วโมงจนเริ่มทนไม่ไหว เอะอะอะไรก็จะให้เอียงซ้ายตลอดเลยเว้ย!  เมื่อยจะตายอยู่แล้ว  แล้วใครมันคิดเรื่องเอาเขามาใส่ลุคส์ Chill วะ  มุ้งมิ้งเหลือเกินเหมือนคุณชายจุฑาเทพในวันสบายๆหรือไง  ถ้าไม่ติดว่ามีตุ๊กตุ่นตุ๊กตาเยอะแยะนี่ก็สะบัดตูดหนีกลับนานแล้ว!

    “เอ่อ...แต่ว่า...”

    “อี้ฟาน! มีปัญหามากนักหรือไงห๊ะ!! กับอีแค่หันซ้ายเนี่ย!

    “อ๊ากก! เจ็บนะยัยบ้า! อยู่ดีๆมาจับคอคนเขาหมุนมั่วซั่ว! โอยย~เคล็ดมั้ยเนี่ย!

    ความจริงถ้าไม่ติดว่ามีแม่มดอย่างปาร์ค  ยูราเขาก็คงได้กลับไปนานแล้ว  บางทีอาจจะไม่ต้องมายืนทำหน้าแอ็บแบ้วอยู่ตรงนี้ก็ได้ TT  ฮืออออ...คนหล่ออยากจิคราย

    ช่วงชีวิตตกต่ำที่สุดของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรูหลังจากวันที่เขาได้ปาร์คยูรามาเป็นคุณแม่ทูนหัว  ตารางงานอัดแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างสำหรับเวลาหายใจ  ตื่นตั้งแต่ 6.00 โมงเช้าเพื่อโดนลากไปออกกำลังกาย  อาหารเช้าที่เต็มไปด้วยผักและไร้ไขมันเพื่อสุขภาพที่ดี  ตารางงานที่เริ่มต้นตั้งแต่ 8.00 โมงเช้า  ไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบ  ออกงานอีเว้นท์  สัมภาษณ์  รายการวิทยุ  พบสปอนเซอร์  เข้ากอง ฯลฯ สารพัดที่ยูราจะรับโทรศัพท์และบันทึกลงไปให้เขา  จบลงที่ 00.00 นาฬิกาเพื่อการพักผ่อนต้อนรับเช้าวันถัดไป

    วนเวียนอย่างนี้มาร่วม 1 อาทิตย์แล้ว  เขาอยู่กับปาร์คยูรา  กินข้าวกลางวัน-เย็นซึ่งเป็นของซับพอร์ตที่กองงานเตรียมไว้ให้  หรือบางทีก็เป็นขนมเล็กน้อยๆที่แอบรับมาจากแฟนคลับโดยไม่ให้ยูรารู้  ยัยนั่นเดินตามหลังเขา  ทำหน้านางพญาเสียจนแฟนคลับกลัวเป็นแถว  ก็อยากจะไปชี้แจงอะไรลงในโลกออนไลน์บ้าง  แต่หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีแม้ซักครั้งที่เขาจะได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้น  ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตังค์หรือแม้แต่โทรศัพท์  บางทีเขาก็คิดว่ามันเป็นการติดคุกที่มีผู้คุมสุดโหดเสียมากกว่า

    “เลิกกองครับเลิกกอง! วันนี้ขอบคุณทุกคนมาก  เอ่อ...ขอบคุณมากนะครับคุณคริสสำหรับวันนี้”

    “อือ  ยินดีที่ได้ร่วมงาน อ้ากก~

    “พูดดีๆหน่อย”

    น้ำตาเล็ดเมื่อเล็บสีแดงสดจิกเข้าที่กลางหลังจากฝีมือนางมารที่ปั้นหน้ายิ้มแย้มได้อย่างแนบเนียน  ปาร์คยูราน่ะปีศาจร้ายชัดๆ TT

    “ยินดีที่ได้ร่วมงานครับคุณลี”

    “อ่า...ครับๆๆ คุณคริสเนี่ยหล่อมากๆเลยนะครับ  แล้วก็มืออาชีพมากๆ  หวังว่าจะได้ร่วมงานอีกนะครับ”

    “อึ่ก...คะ...ครับๆ”  เลิกเอาเล็บจิกหลังฉันได้แล้วยัยบ้าเอ้ย!! เจ็บ!

    .........

    ร่างสูงโปร่งอุ้มตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวขนาดกำลังพอดีเดินโงนเงนไปทิ้งตัวนอนบนโซฟาอย่างหมดสภาพ  สองแขนกอดน้องหมีที่แอบขโมยมาไว้แนบอกแน่น  ผ่อนลมหายใจออกช้าๆด้วยความเหนื่อยอ่อน  กับหน้าที่การงานที่พึ่งรู้สึกว่ามันหนักหนาขนาดนี้เชียว  ไม่นับรอยเขียวๆแดงๆเป็นจ้ำเพราะฝีมือคนที่เดินปิดประตูตามหลังเข้ามาด้วยนะ

    “เป็นอะไร  เหนื่อยขนาดนั้นเชียว”

    “ฉันไม่อยากคุยกับเธอ  เสร็จก็กลับไปได้แล้ว! พรุ่งนี้ค่อยลากฉันลงจากเตียงนู่น!

    “โธ่~ เกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอน้องชาย”

    มือเรียวส่งไปขยี้กลุ่มผมสีทองสว่างที่ถูกตัดสั้นผิดหูผิดตาแบบคุณชายที่เธอมักเคยเห็นบ่อยๆ  เด็กน้อยที่ซุกหน้ากับตุ๊กตาที่เธอมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการขโมยมาอย่างน่ารัก  จนคุณพี่สาวอดจะขยี้ผมแรงๆอย่างเสียไม่ได้

    ก็เป็นซะอย่างนี้  ชอบทำเก๊กทำขรึมปากร้าย  ความจริงแอ็บเก่งยิ่งกว่าอะไร  ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าอู๋อี้ฟานชอบแอบบ่นๆพึมพำนู่นนี่กับกองทัพตุ๊กตาที่อยู่ในห้องนอน  อาจจะดูเหมือนเธอร้าย  แต่มันก็เป็นในแบบเธอที่ต้องดัดนิสัยให้คนเอาแต่ใจได้เข้ารูปเข้ารอยบ้าง  ไม่ใช่จะลอยไปลอยมาทำตามใจอยู่เรื่อย  แบบนี้มีหวังไม่แคล้วได้เมียเป็นตุ๊กตาแน่ๆ

    “นี่ไปอาบน้ำนอน  พรุ่งนี้ฉันจะเคลียร์วันหยุดให้เธอวันนึง  โอเคมั้ย”

    เด้งตัวขึ้นทำตามเหลือกใส่ยัยแม่มดร้ายทันทีที่จบคำ  ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มกว้างราวกับได้รับพรจากพระเจ้าเป็นอิสระภาพที่โหยหามาเนิ่นนาน  อยากจะโผไปกอดผู้หญิงคนที่เขาเดวิลหุบหายเข้าไปน้อยๆด้วยความปลาบปลื้มใจ  แต่ก็หยุดชะงักไว้ก่อนจะชักสีหน้ากลับมาเป็นเช่นเดิม  แถมด้วยการยกเจ้าตุ๊กตามาปิดบังใบหน้าที่แท้จริง  เหลือเพียงดวงตาคมที่โผล่พ้นจ้องมองอย่างไม่อยากไว้ใจ

    ...มีแผนใช่มั้ยปีศาจร้าย! เผยตัวตนมานะ!...

    “เธอหลอกให้ฉันดีใจเพื่อจะได้หัวเราะเยาะฉันทีหลังใช่มั้ย”

    ปาร์ค  ยูราที่เคยส่งยิ้มหวานคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำกล่าวหา  คนอุตส่าห์ใจดีจะได้ให้มีวันพัก  เพราะเห็นทำงานอย่างกับเครื่องจักรกับเธอมาเป็นอาทิตย์ๆแล้วเถอะ!  เธอไม่ได้เลวร้ายขนาดที่จะเห็นพี่น้องที่เธอรักแสนรัก! ต้องมาทรมานร่างกายขนาดนั้นหรอกน่ะ!!

    ถึงความจริงแล้วก็อยากแกล้งทรมานซะให้เข็ดจริงๆก็เถอะ!

    “ฉันพูดจริงๆ ก็ให้วันหยุดวันนึง เดี๋ยวเคลียร์คิวให้ ไม่เอาเหรอ”

    “ไม่เอาอ่ะ เธอหลอกฉันแน่ๆ ฉันไม่เชื่อเธอหรอกยัยบ้า!

    ว่าจบก็ทิ้งตัวนอน  หันตะแคงเข้ากับพนักโซฟาโดยไม่วายกอดเจ้าตุ๊กตาหมีน้อยไว้แน่น  ยูราหัวเราะคิกกับภาพเด็กตัวโข่งที่กำลังแสดงความตุ๊ดออกมาอย่างไม่ปิดบัง  มือเรียวสวยตบที่บั้นท้ายแน่นของน้องชายด้วยแรงที่ไม่เบานัก  คริสทำเป็นไม่สนใจจนได้ยินเสียงเธอทำอะไรกุกกักอยู่ซักก่อนจะได้ยินเสียงของปาร์ค  ยูราทิ้งท้ายกับเสียงประตูที่ปิดลง  และความอ่อนล้าที่เข้าเล่นงานอย่างไม่อาจฝืนลืมตาต่อสู้ได้

    .

    .

    .

    .

    “ถ้าเบื่อแม่มดอย่างฉัน...ก็หานางฟ้ามาดูแลให้ได้เร็วๆสิอู๋อี้ฟาน”
     

    ----- 15%-----

     

    .

    .

    .

    .

    “อึ้ยยยย~ยยย”

    ตัวที่โตเกินขนาดของโซฟาจนต้องคู้เข่าเข้าหาตัวสองแขนที่ยังโอบกระชับเจ้าตุ๊กตาหมีน้อยเข้ามากอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ  ตาที่หลับปี๋กับการหดคอน้อยๆเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยตัวเกินกว่าจะใช้เวลาหลับใหลอยู่บนโซฟาตัวที่ไม่สบายนักตัวนี้

    แสดงแดดอ่อนๆในยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างที่ถูกเปิดผ้าม่านไว้จนหมดกระทบเปลือกตาสีมุก  คริสค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ  ปรับโฟกัสให้เข้ากับแสงสว่างที่ยังไม่คุ้นเคย  ก่อนจะอ้าปากหาวกว้างขับไล่ความง่วงงุน  กวาดสายตามองไปยังห้องคอนโดที่ดูจะไม่คุ้นเคยนักกับการลืมตามาพบตั้งแต่ในยามเช้าแบบนี้  ปกติมันต้องเป็นเตียงนุ่มๆห้องมืดๆแล้วก็ตุ๊กตาน้อยๆลูกรักของเขาไม่ใช่เหรอ

    “โอยยยย~ยยย”

    ขยับยันตัวไม่ทันลุกขึ้นนั่งก็มีอันให้ต้องร้องโอยเมื่อรู้สึกถึงความปวดเมื่อยที่เข้าหาเยี่ยมเยือนในทันที  ทั้งที่ทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์แล้วยังมานอนอยู่บนโซฟาแข็งๆนี่ทั้งคืนอีก

    โอยยย~ ปวดหลังชะมัดเลย

    พิงตัวลงกับพนักโซฟา  ยอมปล่อยเจ้าหมีที่ถูกกอดจนเหมือนตัวจะลีบไปนิดหน่อยลงข้างตัว  หลับตาปี๋เมื่อพยายามจะปรับตัวเข้ากับการปรับเปลี่ยนท่าทาง  ด้วยความเคยชินขายาวๆก็ยกขึ้นพาดกับโต๊ะกระจกหน้าโซฟาในทันที

    กริ๊ก~

    “โอย~ อะไรวะ”

    สถบออกมาเมื่อตวัดขาไปโดนเอาบางอย่างลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้นพรม  ขยับตัวอีกสองสามทีพร้อมกับเอาหมอนมาอิงหลังเพื่อให้ปรับท่าได้สบายขึ้น  ก่อนดวงตาคมจะเบิกกว้างเมื่อก้มลงไปมองเห็นสิ่งที่ตกอยู่บนพื้น

    ฉับพลันความปวดเมื่อยก็จางหายพร้อมกับเรี่ยวแรงที่กลับเข้ามาแทนที่  เอี้ยวตัวลงไปหยิบโลหะสีเงินวาวกับรีโมทตัวเล็กสีดำที่ถูกคล้องอยู่ในพวงเดียวกัน  เงยหน้าขึ้นมาก็ป๊ะเข้ากับกระเป๋าหนังใบสีน้ำตาลที่คุ้นเคยพร้อมกับเครื่องมือสื่อสารยี่ห้อหรูที่ห่างร้างจากกันไปนาน

    “อ๊ากกกก~ กุญแจรถ  กระเป๋าตังค์  โทรศัพท์! เย้~ กลับมาหาป๋าซักทีนะหนูนะ”

    ไม่รอช้าที่จะผุดลุกขึ้นพร้อมกับเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความรวดเร็ว  สองขาก้าวพรวดๆขึ้นไปชั้นสองที่ห้องนอน  ห้องน้ำ  หรือแม้แต่ห้องสำหรับกิจกรรมอย่างว่าที่ถูกยกเลิกชั่วคราว  เดินลงบันไดกลับมาสำรวจห้องน้ำชั้นล่าง  ห้องครัว หรือแม้แต่ห้องเก็บของ  แทบจะเรียกได้ว่าทุกตารางนิ้วของห้องแห่งนี้เลยทีเดียว  และที่สุดท้ายก็คือประตูหน้าห้องบานใหญ่  ปราการแหล่งสุดท้ายที่หากเขาสามารถป้องกันได้เขาก็จะปลอดภัยจากนางมารร้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    แอ๊ดดด~

    ฟึ่บ~! ฟึ่บ~!

    เปิดประตูขวับเหลียวซ้ายแลขวาตรวจสอบด้วยเรดาห์ระดับสิบไปทั่วทั้งโถงทางเดิน  เมื่อเห็นว่าปลอดแม้แต่แมลงซักตัวก็ไม่มีมือใหญ่ดึงประตูปิดปัง พร้อมกับปิดล็อกลงก่อนอย่างแน่นหนาด้วยความรวดเร็ว

    ห้องนอนที่ดูกว้างขึ้นอีกโข  กับมือไม้แขนขาที่ราวกับได้กลับเข้าร่างมาเป็นของเขาเองอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อกับพื้นที่ที่ไร้เงาของปาร์คยูรากำลังทำให้สีหน้าอิดโรยเปลี่ยนเป็นลิงโลดอย่างช้าๆโดยไม่อาจควบคุม

    “โว้ยยยย~ อ๊ากกก~ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ~

    นี่มันสวรรค์สวรรค์ชัดๆ  หมายความว่าไอ้วันหยุดหนึ่งวันที่เขาได้ยินแว่วๆจากนางฟ้าในฝันเมื่อคืนกลับกลายเป็นความจริงสินะ  เพราะฉะนั้นไม่มีเวลาจะมาปวดเนื้อปวดตัวสำออยเป็นคุณชายแล้ว  ตอนนี้ทุกวินาทีของเขามีค่าเสียยิ่งกว่าทอง  อะไรที่คิดต้องรีบทำ

    และสิ่งนั้นคือการกำจัดปาร์คยูรายังไงล่ะ! หึ! เธอพลาดแล้วยัยแม่มดเอ้ยยยย!!

    MY FREEDOM!!!!!! GO!

    ติดสปีดความเร็วสูงวิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยความเร็ว  สาบานว่าชีวิตนี้เขาจะอาบน้ำแต่งตัวในเวลารวมกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น!

    ประวัติศาสตร์จะต้องถูกเปลี่ยนแปลง  เขาจะต้องยกเลิกระบบทาสในเรือนเบี้ยนี้ให้ได้!

    อู๋อี้ฟานสู้ๆสู้ตายยยย!!!

    ........

    .

    .

    .
                     BMW คันหรูจอดเทียบตรงที่จอดรถประจำใต้ตึกบริษัท P.K.เอนเตอร์เทนเมนท์ที่ไม่ได้เยี่ยมเยียนมานาน  ปกติถ้าไม่ใช่รถปาร์คยูราก็รถเมล์แหล่ะครับพี่น้อง  ทำไมเกิดเป็นซุปตาร์ชีวิตมันลำบากลำบนแสนรันทดอย่างงี้วะครับ!

    ขนาดยามยังจะไม่ให้เข้าบริษัทเพราะจำหน้าไม่ได้  ก็คนที่ปกติมาแน่นทั้งชุดทั้งผมทั้งหน้า  วันนี้มาแค่ผมที่ไม่ได้ถูกเซทอะไรเลยซักอย่าง  หน้าก็เกลี้ยงเครื่องสำอางจะมีก็แค่บีบีครีมปิดริ้วรอยความอ่อนล้ามาหน่อย  เสื้อผ้าวันนี้ก็เสื้อยืดที่หยิบที่ความรวดเร็วโดยไม่ทันมองมาจากในตู้  กับกางเกงยีนส์สีซีดตัวที่เห็นง่ายหยิบง่ายที่สุดเท่านั้น  รองเท้าก็แค่ผ้าใบที่หยิบไปใส่ออกกำลังกายอยู่ทุกเช้า  แต่อย่างนั้นก็ยังคงดูดีสมกับเป็นอู๋อี้ฟานคนดังเสมอล่ะ

    แหม~ ก็นะ! เวลาที่จะฟรีได้แบบนี้หาได้ยากเสียยิ่งกว่าของแบรนด์เนมราคาถูก  จะให้มามัวพิถีพิถันจะไม่ทันการ 

    “อ่ะ...เอ่อ...คะ”

    พนักงานในบริษัทต่างก็อึ้งกันไปเป็นแถวๆกับร่างสูงในลุคส์ผิดหูผิดตาจนแทบจำไม่ได้  ขายาวก้าวฉับๆมุ่งตรงไปยังชั้นบนสุดของตึก  ห้องทำงานของคุณผู้บริหาร

    ตัวช่วยเดียวที่เขาคงพอจะขอให้จัดการอะไรๆให้ได้

    ...

    “คะ...คุณครับ...เข้าไปไม่ได้นะครับ!

    เลขาตาหวานหน้าห้องกระวีกระวาดลุกขึ้นมาห้ามปรามคนที่ถือวิสาสะจะเปิดประตูเข้าไปในห้องคุณผู้บริหารสุดหล่อ  ด้วยความคิดว่าเป็นคนอื่นคนไกลที่ไม่มีสิทธิ์จะเปิดประตูแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหาเจ้านายของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการติดต่อล่วงหน้าเสียก่อนถึงได้รีบร้อนไปยืนขวางประตูไว้ด้วยท่าทางเอาเรื่องไม่ยอม  แต่พอเพ่งพินิจใบหน้าเรียวคมสมบูรณ์แบบกับรูปร่างสูงในชุดเสื้อผ้าดูแปลกตาแล้วก็กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

    “หลบไปน่า! ฉันรีบอยู่นะ!!

    “โธ่~ คุณคริสนี่เอง  ผมก็นึกว่าใครที่ไหน”

    “ฉันแล้วมันแปลกตรงไหน  ถอยไปน่าแทมิน  ฉันเป็นซินเดอเรล่าได้แค่วันเดียวนะ”

    ลี แทมินหัวเราะน้อยๆก่อนจะเบี่ยงตัวให้คนตัวสูงกว่าได้เข้าไปในห้องของเจ้านายด้วยดี  คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะวันนี้คุณปาร์คก็ไม่ได้มีงานสำคัญเคร่งเครียด  นึกตลกกับคนตัวโตที่บอกว่าตัวเองเป็นซินเดอเรล่า 

    สงสัยวันนี้จะมีอะไรฝนอาจจะตกพร้อมพายุหิมะถล่มก็ได้  คุณคริสถึงได้แปลกไปขนาดนี้

    ....

    .

    “ไอ้ชาน!!!

    “ครับผม  ครับๆตกลงครับผม  ครับผมเดี๋ยวผมจะนัดวันเซ็นต์สัญญาไปอีกครั้งนะครับ  สวัสดีครับ”

    หันจากหน้าต่างกระจกที่เหม่อมองมาเป็นสายตาที่ส่งไปปรามคนไร้มารยาทเบาๆ  คริสเงียบไปเมื่อเห็นน้องชายกำลังคุยธุระสำคัญผ่านสายโทรศัพท์อยู่  แต่ความร้อนอกร้อนใจก็ไม่ทำให้เขาสามารถทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟารับร้องแขก  หรือเก้าสำหรับแขกที่หน้าโต๊ะของชานยอลได้เลย  เขายืนอยู่ที่เดิมย่ำเท้าเล็กๆเหมือนเด็กที่กำลังรีบร้อนและกระวนกระวาย

    “ไอ้ชาน”

    “อะไรของพี่เนี่ย  มาหาผมทำไมแต่เช้า  แล้วทำไมแต่งตัว...”

    “ทำไมสนใจเรื่องเสื้อผ้าฉันกันจังเฮ้ย!  นี่มันวันหยุดๆๆๆแล้วฉันก็มีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงจะให้มามัวแต่เลือกเสื้อผ้านานๆไม่ได้หรอก หยิบอะไรก็ใส่ๆมาแหล่ะ”

    “โอ้ว! นับเป็นพัฒนาการที่ดีนะพี่  การตระหนักถึงเวลาที่มีน้อยในชีวิตคนเรา  ผมว่าผมคิดถูกแล้วล่ะที่ส่งพี่ไปอยู่กับพี่ยูรา”

    ปาร์คชานยอลในชุดสูทเนี้ยบเรียบร้อยเหมือนทุกวันส่งยิ้มขำพลางเดินกลับมานั่งด้านหลังโต๊ะทำงานเช่นเดิม  เขาหัวเราะกับพี่ชายที่ดูแปลกหูแปลกตาไปมาก  ความจริงพี่ยูราบอกเขาแล้วว่าวันนี้เธอมีธุระต้องจัดการเรื่องธุรกิจที่ต่างประเทศของเธอนิดหน่อย  ก็แคนเซิลงานแล้วก็ยกยอดผลประโยชน์ให้คุณดาราที่ดูจะมีความประพฤติดีขึ้นมากโข 

    “ไม่ๆๆ แกคิดผิดอย่างแรงเลยไอ้ชาน! ผิดมหันต์มากด้วย! แกรู้มั้ยว่ายัยนั่นจะฆ่าฉันอยู่แล้ว”

    ทิ้งตัวลงนั่งกับชุดโซฟารับร้องแขก  ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อนี่ถ้าไม่แกล้งใจว่ายังเห็นอีกคนเป็นน้อง  คงได้มีการดีดดิ้นโชว์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

    “ฆ่าอะไรที่ไหน  ผมก็ยังเห็นพี่อยู่ดีมีสุขครบ 32 ประการทุกอย่างเลย”

    “เออ! พูดเข้าไป  สติฉันจะแตกตายอยู่แล้ว  คนนะไม่ใช่เครื่องจักร  ทำงานอย่างกับทาส  ไอ้ลำพังทำงานฉันก็ไม่เท่าไหร่  แต่ยัยนั่นทั้งเผด็จการทั้งทำร้ายร่างกายฉันด้วยนะเว้ย! เนี่ยๆๆ ตัวฉันมีแต่รอยจิกรอยข่วนของยัยนั่นเต็มไปหมดเลย”

    ลุกพรวดขึ้นถลกแขนเสื้อยืดตรงไปโชว์น้องชายที่กำลังกลั้นขำสุดพลัง  ต้นแขนขาวที่มีรอยสักแบบแบดๆตามประสาคนติสท์ชอบศิลปะมีรอยแดงๆประดับแต่งแต้มเพิ่มให้รอยสักดูดุดันน้อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ  เพราะที่ดุกว่าคือปาร์คยูรายังไงล่ะ

    “น่าๆพี่  พี่ทำตัวเองทั้งนั้นอ่ะ  พี่คิดดูนะถ้าผมไม่ตามพี่ยูรามา  ป่านนี้ข่าวหน้าหนึ่งไม่ได้มีช่องเว้นว่างให้ผมได้หายใจหายคอสะดวกได้ขนาดนี้หรอก  เนี่ยสปอนเซอร์เขาก็มาติดต่อเยอะแยะ  มีบริษัทเกมอยากได้พี่ไปเป็นกิมมิกตัวละครด้วยนะ  ชีวิตรุ่งโรจน์เหมือนตอนเข้าวงการใหม่ๆเลย”

    “ถามฉันซักคำมั้ยเล่า!  แกเปลี่ยนผู้จัดการให้ฉันเถอะไอ้ชาน  ขอร้องล่ะ  เอาคยองซูกลับมาหรือว่าเอาใครมาแทนก็ได้  เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ปาร์คยูราน่ะ!

    กุมมือแนบอกทำสายตาเว้าวอนรีดเค้นให้ดวงตาปริ่มน้ำน้อยๆอย่างน่าสงสาร  เบะปากออกเล็กน้อยพอเป็นพิธี  นี่ไม้ตายขั้นเด็ด  คิดเหรอว่าคนอย่างเขาถ้าไม่จนมุมจริงๆจะยอมลดมาทำตัวงุ้งงิ้งๆเหมือนไอ้ปัญญาอ่อนแบบนี้ 

    “อุ~! พี่...อย่า...อย่าทำแบบนี้...”

    “นะไอ้ชานนะ”

    “พี่...อย่า...”

    “นะๆ น้องรักของพี่”

    “พี่...ก๊ากๆๆๆๆๆ  ฮ่าๆๆๆ พี่อย่าทำอย่างงี้  โอ๊ย~ ผมฮาไม่ไหวแล้ววว ก๊ากๆๆ”

    “...”

    มันตลกมาสินะไอ้คุณชายปาร์คชานยอล  หน้าตาที่เคยส่งยิ้มหุบตึงจนแทบจะกลายเป็นคว่ำ  มือที่เคยกุมกลับปล่อยลงข้างตัวและอยากจะเอื้อมไปโบกกะบาลไอ้คนที่ขำลั่นเสียจนหัวสั่นหัวคลอนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง  ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกอดอกแน่นหันหนีไปทางอื่นอย่างนึกเสียหน้า

    ผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างอู๋อี้ฟานมาทำเหมือนเด็กสาวช่างออดอ้อนออเซาะจะไม่ให้หัวเราะได้ไงไหว! นี่ถ้าไม่เห็นเป็นพี่นะ  จะลงไปนอนหัวเราะชักดินชักงออยู่บนพื้นโชว์เลย!

    “เออๆๆ ขำอะไรนักหนาวะ! พี่กำลังลำบากทั้งคนนะเว้ย!

    “ฮ่าๆๆ โอเคๆเลิกแล้วๆๆ โอ๊ย~พี่อย่าได้ไปทำอย่างนั้นกับใครที่ไหนอีกนะ”

    - -*”  ถ้าแกไม่ใช่น้องนะไอ้ชาน  ฉันลุกไปกระชากแกเหวี่ยงลงหน้าต่างแน่! ฮึ่ยยย~หงุดหงิด!

    “ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก  มีแต่พี่นั่นแหล่ะที่ทำได้  ที่ผมให้พี่ยูรากลับมาเพราะเห็นว่าพี่ยูราเป็นคนเดียวที่ดูแลพี่ได้  เป็นคนเดียวที่พี่ยอมอยู่ในปกครอง  เข้าใจใช่มั้ย  ถ้าลองพี่ไม่เอาแต่ใจไม่ร้ายกาจตอนที่คยองซูยังดูแล  คิดเหรอว่าพี่จะได้เห็นหน้าพี่ยูราอีก”

    “...”

    “พี่น่ะต้องอยู่ในกำมือพี่ยูราเท่านั้นแหล่ะ”

    “เดี๋ยวๆนะ!  ถ้า...ถ้าสมมติฉันหาคนที่ดูแลฉันได้  คนที่ฉันยอมอยู่ในปกครอง  แบบใครก็ได้ที่ไม่ใช่ยูรา  ฉันจะไม่ได้เห็นหน้ายัยแม่มดนั่นอีกใช่มั้ย”

    ปาร์ค  ชานยอลจ้องมองดวงตาพราวระยับด้วยความเจ้าเล่ห์ของพี่ชายแล้วก็ได้แต่อมยิ้มขำ  คงคิดว่าตัวเองเจ้าแผนการฉลาดเฉลียวเสียเต็มที่แน่ๆ  คิดเหรอว่าซุปตาร์เจ้าอารมณ์โมโหร้ายเอาแต่ใจที่หนึ่งในโลกจะยอมสยบแทบเท้าใครง่ายๆ 

    แต่...ลองเล่นตามน้ำไป  อยากรู้ว่าคนฉลาดเขาจะฉลาดไปได้แค่ไหน

    ...ไม่ใช่ว่าสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นขุดหลุมฝังตัวเอง...

    “อืม...ก็คงเป็นอย่างงั้นมั้งพี่  พี่ยูราเขาก็มีธุรกิจเขามีอะไรที่เขาต้องจัดการเหมือนกันแหล่ะ  แต่เขาก็ไม่อยากให้พี่ทำตัวเหลวไหลไปกว่านี้เลยยอมกลับมา  ถ้าพี่จะมีผู้จัดการดีๆที่ดูแลพี่ได้พี่ยูราแกก็คงรีบบินกลับเลยล่ะมั้ง”

    “จริงดิ!

    เด้งตัวพรวดเท้าสองแขนเข้ากับโต๊ะทำงานตัวกว้าง  จ้องหน้าน้องชายด้วยดวงตาที่เป็นประกายไฟลุกโชน  ที่นี้แหล่ะ!หนทางที่เขาจะรอดพ้นเงื้อมมือมาร อุวะฮ่าๆๆๆๆ อิสระจ๋ารอป๋าก่อน...

    “ไม่จริงหรอกพี่! หน้าอย่างพี่อ่ะนะจะยอมใครง่ายๆ  อย่ามาทำให้ผมขำอีกรอบน่า”

    ก้อนเมฆนุ่มฟูฟ่องแตกโป๊ะกลายเป็นฟองสบู่  จ้องหน้าคนที่แสร้งเป็นสนใจแฟ้มเอกสารที่ตกค้างจากเมื่อวานที่ยังไม่ได้สะสาง  ไม่สนใจคนที่ราวกับถูกมือมืดขว้างมีดมาปักปั่ก!เข้าที่กลางใจ  คำว่าอิสระค่อยๆลอยไกลออกไป  จางลงจนเหลือเป็นจุดเล็กๆ  แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ TT

    “มีดิ! เดี๋ยวจะหามาให้ดูเลย  แล้วถ้ามีแล้วไล่ยูรากลับไปเลยนะไอ้ชาน! โอเคป่ะ!

    “วันหยุดพี่มีวันเดียวไม่ใช่เหรอ  ไปหาเที่ยวเล่นอะไรที่อยากทำดีกว่ามั้ยพี่  นี่ก็เสียเวลากับผมมาเกือบชั่วโมงแล้วนะ”

    “แกก็ตกลงดิไอ้ชาน!  ถ้าฉันหาผู้จัดการคนใหม่ได้  แกไล่ยัยยูราไปนะๆๆ  ขอร้องงง~

    “มันขึ้นอยู่กับตัวพี่เองต่างหาก! ไปๆได้แล้วผมจะทำงาน  ผมไม่ได้ว่างแบบพี่นะ!

    ...ฮึ่ย! คอยดูเถอะ  จะหายากซักแค่ไหน  ไปจ้างมาก็ได้  ใครซักคนที่ดูซื่อๆโง่ๆหลอกง่ายๆ  ให้เขาแกล้งเล่นละครตบตาว่ายอมอ่อนให้  แต่สุดท้ายก็เอามาหลอกใช้เป็นทาส!  ว่ะฮ่าๆๆๆ มันต้องมีสิน่า...ต้องมี...

    .......

    ....

    ..

    .

    .

    .

    .

    “จะไปหาจากไหนวะไอ้กวาง!

    ไข่มุกลูกสีดำผ่านจากหลอดเข้าปากไปเต็มสองแก้ม  ลู่ฮานเคี้ยวชาไข่มุกที่เริ่มติดใจช่วงหลังๆมานี้ตุ้ยๆ  ตาก็มองไอ้คนที่ดูสภาพยิ่งนับวันยิ่งเข้าใกล้คำว่าบ้าเข้าไปทุกที  นั่งกอดตุ๊กตาไอ้ตัวเหมือนม้าผสมแพะแล้วก็ทึ้งหัวตัวเองไปพลาง

    ฟู่ดดด~

    ดูดชาไข่มุกใส่มันไปอีกที  ก็อยู่ดีๆมันก็โทรมาทั้งที่ความจริงมันยังน่าจะมีเวลาหรือแม้แต่โทรศัพท์มาติดต่อหาเขาเสียด้วยซ้ำ  สงสัยเจ๊ยูราจะปล่อยผี  ก็ดูคุณเขาแต่งตัวเข้าคาวาอี๊ซะไม่มีจะเซอร์ๆสบายๆแบบผิดหูผิดตา  จำได้ว่าตลอดเวลาที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัย  ชุดแบบที่ไม่มากไม่มายของอู๋อี้ฟานก็มีแค่ผ้าขนหนูพันตัวก่อนอาบน้ำเท่านั้นแหล่ะ  นอกนั้นพ่อคุณจัดเต็มไม่มีเว้นว่าง

    พอมาถึงก็เห็นคุณเข้าอยู่กับตุ๊กตาม้าผสมแพะ เห็นพะเน้าพะนอดูแลป้อนขนมนมเนยอย่างกับเป็นลูกก็ไม่ปาน  แต่พอเห็นหน้าเขาอารมณ์มุ้งมิ้งโลกสีชมพูก็สลายไปในฉับพลัน  ก่อนจะสาดเรื่องราวที่เจ้าตัวประสบพบเจอมาอย่างหนักหนาให้เขาฟังไม่มียั้ง

    พูดตอบไม่ทันจนต้องมานั่งดูดชาไข่มุกจ้องหน้ามันอย่างนี้ไง

    “เงียบไมเนี่ยไอ้กวาง! ดูดจนไข่มุกมันจะติดหลอดลมตายแล้วมั้ง!

    “เฮ้ย! ก็คนมันอร่อย แล้วแกถามว่าอะไรวะ นี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย”

    คนที่หวังเพื่อนเป็นที่ปรึกษาและที่พึ่งสุดท้ายถึงกับตบหน้าผากเสียป้าบใหญ่  เรานี่ก็หวังจะระบายหวังคำแนะนำจากมันเต็มที่  แต่นี่ดูมันคือนั่งดูดชาไข่มุกแบบปากไม่ปล่อยจากหลอดเลยแม้แต่น้อย  แถมยังมีหน้ามาให้เขาเล่าให้ฟังใหม่หมดอีก  โอยยย~ คนหล่ออยากจิครายยยย

    นี่ลองถ้าพูดกับมันแล้วเป็นอย่างนี้นะ  คุยกับเอชอัลปาก้าลูกรักที่พึ่งถอยมาก็ได้เถอะ!

    “ก็จะไปหาได้จากไหนวะ! คนแบบที่โง่ๆเอาแสดงละครหลอกไอ้ชาน”

    “ก็แกไงไอ้คริส”

    ฟู่ดดด~

    ว่าเข้าก็ดูดไข่มุกเข้าไปอีกจนเต็มแก้มเคี้ยวตุ้ยๆไม่วายส่งยิ้มกวนประสาท  ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนกำลังซีเรียสจนแทบจะหลั่งน้ำตา  นี่ก็บ่ายคล้อยจนเกือบจะเย็นย่ำแล้ว  เขายังคิดอะไรไม่ตกเลยซักอย่าง

    “เออๆๆ ว่ากันเข้าไป!  เครียดนะเนี่ยไอ้กวาง!  ไม่อยากอยู่กับยัยยูราแล้ว  โคตรเสียสุขภาพจิต!

    “โธ่~ พี่ยูราน่ะสวยที่หนึ่งที่เคยเจอเลย  ถ้าไม่ติดว่าโหดขนาดนั้น...”

    “เออ  แล้วจะทำไงดีวะ”

    ฟู่ดดด~

    เอื้อมไปดึงตุ๊กตาตัวใหม่ที่ไปเดินเลือกซื้อมาตอนรอลู่ฮานมากอดไว้  คิดไม่ตกกับปัญหาจนมาต้องมานั่งปรึกษากันอยู่ด้านในสุดของร้านที่ไม่ต้องใกล้ชิดกับกระจกให้ต้องเป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่านไปมา  ความจริงไม่ใช่เสมอไปที่ดาราจะต้องถูกรุมล้อมด้วยแฟนคลับเป็นสิบเป็นร้อยทุกครั้งที่ขยับตัว  บางทีแฟนคลับก็น่ารักพอที่จะเข้าใจว่าการที่พวกเขาออกมาเดินเที่ยวไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องปกปิดหน้าตาหรือทำตัวหลบซ่อน  มันก็คือการพักผ่อนในพื้นที่ส่วนตัวในเวลาเล็กๆน้อยๆของพวกเขา

    “ปัญหามันอยู่ที่ไอ้จอมวีนจอมเหวี่ยงแบบแกใช่มั้ย  เพราะฉะนั้นหมายความว่าพี่ยูราคือผู้จัดการดีๆคนที่ดูแลให้แกสยบอยู่แทบเท้าได้  ทางเดียวที่แกจะหลุดพ้นคือหาผู้จัดการดีๆคนที่ดูแลให้แกสยบอยู่แทบเท้าได้ยิ่งกว่าไง!

    “มันไม่มีคนนั้นหรอกบอกเลย”

    อยากจะยกมือสะบัดใส่หน้าให้ตีนกาตัวเองหลุด (เอ้ยๆๆ ไม่ได้ๆๆรักษาภาพลักษณ์หน่อย) คนตัวสูงเอนหลังพิงพนักโซฟาหยิบเอาไอ้ตัวแพะผสมมามากอดๆฟัดเล่นงุ้งงิ้งหลังจบคำที่สวนกลับทันควันแบบสุดจะมั่นอกมั่นใจ  หมั่นไส้จนต้องเอื้อมไปดึงไอ้แพะผสมม้าตัวขาวหน้าตาป่วยๆมาฟาดใส่กะบาลคนตัวสูงกว่าเสียจนผมกระจาย

    ปึ่ก~!

    “เฮ้ย! โอ๊ย! ไอ้กวาง! เล่นอย่างงี้นี่ยืนขึ้นเลยนะเว้ย!!

    “แหม~ ก็หมั่นไส้  ไอ้นี่มันตัวอะไรวะหน้าตาแบบ...”

    “อย่ามายุ่งเว้ย!  นี่เอชอัลปาก้าลูกรัก  เอาคืนมาเลย!!

    “นี่ไม่รู้บ้างเหรอว่าหน้าตาไม่ได้เหมาะกับถือตุ๊กตาเลยอ่ะ”

    ...

    แล้วสงครามก็สงบลงพร้อมกับชาไข่มุกที่หมดไปและหัวใจที่แหลกสลายของอู๋อี้ฟานเวลายังหมุนผ่านกับปัญาที่ยังคงไม่เห็นวิธีการแก้ไข  มือใหญ่ลูบหัวเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยในอ้อมกอดเหม่อมองเลยผ่านหน้าสวยๆของเพื่อนรักที่บังอาจพูดจาทำร้ายจิตใจ  เอาอะไรมาวัดว่าคนตัวใหญ่ใจหล่ออย่างเขาไม่เหมาะกับตุ๊กตาน้อยแสนน่ารักทั้งหลาย

    คนยิ่งหน้าตาดีแบบเขาถือตุ๊กตาน่ารักดีออก (._.)

    “เฮ้อ! ไอ้คริสเอ้ย! โอเคๆขอโทษที่ว่าแกแบบนั้น  แต่ว่านะ...ยังไงแกก็ต้องยอมสยบให้ใครซักคนที่ไม่ใช่ปาร์คยูรานะเว้ย  แกจะหาคนไปหลอกก็ได้ถ้าแกคิดว่าหาได้อ่ะนะ  แล้วก็อีกอย่างถ้าแกคิดว่าน้องชายแกมันจะโง่ยอมเชื่ออ่ะ  แต่ฉันไม่คิดว่าหน้าอย่างแกจะยอมให้ใครได้หรอก  ต่อให้จะเป็นแค่ทำหลอกๆก็เถอะ”

    “เฮ้ยๆเดี๋ยวๆ  ฉันเคยนะเว้ย!  เคยยอม...นึกก่อนนะ อืม...อ๋อ! จุ่นๆอ่ะ  ชื่ออะไรนะจุ่นๆ  คิม...คิม...คิม  จุนมยอน!!  ที่เทถาดอาหารทั้งถาดราดฉันไง!!  ฉันยอมให้หมอนั่นติดตังค์ฉันอยู่”

    พูดแล้วก็นึกถึงหน้าขาวๆกับท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมและความเจ็บแสบจากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดี  จริงสินะเขาลืมไปเลยเรื่องค่าเสียหายอะไรนี่  มัวแต่ยุ่งๆกับการตกเป็นทาสภายใต้อำนาจแม่มดยูราก็เลยไม่ได้ขยับตัวไปไหนทำอะไรเลย  เงินตั้งเยอะแยะไหนจะเสื้อผ้าข้าวของถึงจะกลับมาจากร้านซักรีดในสภาพเดิมทุกประการแล้วก็เถอะ

    “เฮ้ย!  น้องตัวขาวๆคนนั้นอ่ะนะ  เออใช่ๆๆ!  แกไม่ลองติดต่อไปดูอ่ะ  ฉันว่าเขาซื่อๆดีนะน่ารักด้วย  แล้วก็อีกอย่างเขาคงไม่มีเงินมาคืนแกหรอก  ถ้าแกลองไปขอให้เขาช่วยเป็นผู้จัดการใช้หนี้แทนล่ะ”

    “ห๊ะ!!

    RrrrRrrrr

    “เอ้ยๆ เดี๋ยวๆรับโทรศัพท์แป๊บ”

    ไม่ได้สนใจว่าลู่ฮานกำลังรับโทรศัพท์หรือกำลังคุยกับใคร  ในหัวมีเพียงคำพูดของเพื่อนและหน้าตาจิ้มลิ้มของลูกหนี้ตัวขาว  ถ้าสเป็คที่เขาตามหาล่ะก็หมอนี่ก็เช็คผ่านทุกอย่าง  ถึงในความจำเลือนรางที่เขาบันทึกไว้จะแอบวงเล็บคำว่าเถียงคำไม่ตกฟากตัวเล็กๆไว้ด้วยแต่จะปล่อยๆไปก็ได้  อีกอย่างเขาก็ไม่ต้องเสียเงินจ้างซักบาทเพราะหมอนั่นก็ติดเงินเขาอยู่ชนิดที่ว่าถ้าไม่รวยล้นฟ้าหามาใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด!  ดูหน่วยก้านก็น่าจะทำงานเก็บกวาดได้ไม่มีปัญหา  แถมจะหลอกใช้นานๆหน่อยจนกว่าจะใช้หนี้หมดกันก็ยังได้ 

    นับเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว...หึหึ

    “ไม่ผมไม่โอเคเลยนะจงแด  ผมไม่ใช่คนเรื่องมากอะไรคุณก็รู้!  แต่ถ้าร่วมงานกับเขาผมไม่โอเคเด็ดขาด!

    เบนสายตามองหน้าหวานๆที่เคยยิ้มแย้มกลับบูดบึ้ง  จากชื่อที่ได้ยินคงปลายสายก็คงเป็นคุณผู้จัดการผู้ฝักใฝ่เรื่องธรรมะของลู่ฮานเป็นแน่  ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลาเสียงหวานก็เรียกเด็กเสิร์ฟมารับออเดอร์เป็นชาไข่มุกอีกซักแก้วแบบไม่กลัวน้ำหนักจะขึ้น

    เห็นท่าทางไม่สบอารมณ์ของเพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวแล้วก็จะยอมเก็บปัญหาที่พอเห็นทางแก้ไขรางๆของตัวเองไว้ก่อนแป๊บนึงก็ได้  เป้าหมายถูกเปลี่ยนไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องเพื่อนแทน  เผื่อจะมีอะไรไว้เป็นข้อมูลจัดการให้มันเงิบได้บ้าง

    “เป็นไรวะ ผู้จัดการแกขอลางานไปบวชเหรอ”

    “ตลกมากเลยสินะครับไอ้คุณอู๋  เรื่องงานเว้ย”

    “เรื่องงานอะไรทำแกหงุดหงิดจนตีนกาจะโผล่ได้ขนาดนี้วะไอ้กวาง”

    ผงะถอยทัพเกือบไม่ทันเพราะเจ้าของใบหน้าอ่อนหวานแต่ฉายาแข้งทองคำจ้องเขม็งแถมส่งสายตาพิฆาตไม่ปิดบัง

    อะไรๆ...เรื่องตีนกามันน่าอ่อนไหวขนาดนั้นเชียว =  =

    “เรื่องงานกับไอ้เด็กตุ๊ดนั่นไง - - สปอนเซอร์อยากได้อิมเมจแบบไหนวะเนี่ย!

    “เขาอาจจะอยากได้แฝดผีก็ได้มั้ง~

    “ไอ้คริส!

    ทำเป็นไหวไหล่ไม่สนใจอารมณ์เดือดปุดๆของลู่ฮานที่ไม่บ่อยนักจะได้เห็น  ฟังคำเด็กตุ๊ดของเพื่อนแล้วก็นึกๆไปถึงเด็กปีหนึ่งตัวสูงๆขาวๆรูปร่างผอมบางที่เคยเดินตามลู่ฮานต้อยๆเขายังเคยจะเรียกผิดตอนมองจากข้างหลังถ้าส่วนสูงไม่ต่างกันก็คงต้องนึกกว่าจะรู้ว่าใครเป็นใคร  ตอนนั้นก็เห็นดีๆกันจนเขายังอดหมั่นไส้ไม่ได้  แต่ไปๆมาๆพอเข้าวงการก็กลายเป็นอย่างงี้กันไปหมด

    “มีแต่เรื่องน่าปวดสมองว่ะ!  พ้นวันแล้วฉันก็ต้องกลับไปเป็นทาสยัยยูราเหมือนเดิม”

    “เฮ้อ~ แยกย้ายนอนบ้านใครบ้านมันเหอะ  จะไปจัดการคุณผู้จัดการคนประเสริฐซักทีสองที  เอาหนังสือสวดมนต์ฟาดซะจะดีป่ะวะ”

    “เอ้ย! ใจเย็น หรือแกจะแลกผู้จัดการก็ได้นะ ฉันโคตรโอเคเลยว่ะ!

    “พอเลยๆๆ!  แกรีบติดต่อหาลูกหนี้ที่น่ารักของแกเกอะ  ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดี”

    “เออๆๆๆ ขอบใจมากสำหรับคำปรึกษา”

    พยักหน้าให้กันสองสามทีเป็นอันเข้าใจ  พากันไปรอชาไข่มุกลู่ฮานที่หน้าร้านแล้วก็ยังไม่ทิ้งหน้าที่ซุปตาร์โดยการแวะถ่ายรูปกับเซ็นต์ลายเซ็นต์เล็กๆน้อยๆไว้จนไปถึงลานจอดรถข้างล่าง  คนตัวสูงมีขนมเล็กๆน้อยจากแฟนคลับเต็มสองมือจนต้องวานให้เพื่อนเอาตุ๊กตาลูกรักที่ฝากถือเพราะกลัวเสียภาพพจน์มาใส่หลังรถให้ 

    นึกๆว่ากลับห้องไปเขาคงจะต้องรีบหาวิธีล็อคประตูให้แน่นหนาที่สุดเพื่อป้องกันยูรา  หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการออกมาเผชิญโลกกว้างอีกแล้วก็เป็นได้ 

    “สู้ๆเว้ยเพื่อน  เออ!  แล้วก็อย่าลืมที่บอกนะเว้ย!

    “บอกอะไรวะ  พอดีลืมแล้วว่ะ”

    “รีบๆนะเผื่อจะมีโปรโมชั่นซื้อผู้จัดการแถมภรรยา”

    “เออๆ รู้แล้ว สเป็กฉันมันอย่างสูงจะบอกเลย กลับห้องดีๆเว้ย! ไว้เจอกัน”

    ....

    ทำเป็นเล่นไป!  พี่หานคนแมนขอบอกนะ  รู้แล้วเหยียบไว้เลย...

    ....

    .

    .

    .

    .

     

    ขาวๆอย่างงั้นถ้าไอ้คุณอู๋ไม่ได้ฟันนี่ถือว่าพลาดนะครับ!













     

     

    .
    ...To Be Continued...

















    เย้ๆ ครบ 100% แล้ว 555
    แอบบอกว่าหมดสต็อก  จากนี้ก็อัพสดละ >3<
    ช้าหน่อยรอได้ใช่มั้ยคะ??
    พี่อู๋คือมุ้งมิ้งมาก 555 แล้วทุกคนก็น่ารักกับพี่อู๋มากค่ะ 
    เป็นกำลังใจให้พี่อู๋ด้วยนะคะ ^^
    ขอบคุณสำหรับวิว,เม้นท์และการแอด Fav.  ค่าาา

    *ฝากเล็งคำผิดด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ*


















    อย่าลืมมม!!!

              

















    #ฟิคเมเนเจอร์












     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×