คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Best Options ll (( 5 )) : Faerie
(( 5 ))
…faerie...
“คุณชายจะไปไหนครับ!!” เลขาของจองกกุกว่าเมื่อจู่ๆจองกุกก็เปิดประตูรถแล้วเดินออกไปอย่างเร่งรีบ
แต่จองกุกเหมือนจะไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเลขาเลย ได้แต่เดินมุ่งหน้าเข้าไปในร้านอาหารที่ยุนกิเพิ่งจะออกมา ซ่งมันเป็นร้านอาหารของจองกุกเอง!!
เมื่อจองกุกเปิดประตูร้านเข้าไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัวของพนักงานที่ร้ายอาหาร ทำให้บางคนยืนอึ้งอย่างตกใจ แต่บางคนยังพอมีสติรีบเดินไปแล้วทำความเคารพ บางคนก็กลัวจนตัวสั่นกลัวจะโดนไล่ออกเพราะเรื่องของยุนกิ
“ลูกค้าคนที่ออกไปเมื่อกี้….” ยังไม่ทันที่จองกุกจะพูดจบพนักงานชายคนหนึ่งก็พูดแทรกขึ้น
“อ่อ ไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นพนักงานครับ” พนักงานชายพูดโกหกจองกุกเพราะคิดว่าถ้าบอกไปอาจจะโดนไล่ออกยกร้านแน่ เพราะร้านแห่งนี้มีความสำคัญมากสำหรับการใส่ใจหรือบริการลูกค้า ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการแบบนี้มาก่อนเลย….จัดว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองนี้เลยก็ว่าได้
“ลูกค้า!! คนเมื่อกี้เป็นอะไร!!” จองกุกที่เห็นว่าพนักงานคนนี้โกหกก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ จึงตะคอกเสียงอย่างดัง จนทำเอาคนในร้านอาหารหันมามองเป็นตาเดียวกันหมด
“คะ คือ…ผะผม ไม่รู้ครับ ผมได้ยินแค่เสียงดังในครัวแล้วพอลูกค้าคนเมื่อกี้ออกมาก็ตัว ปะ….”
ยังทันที่พนักงานชายคนนี้จะพูดจบจองกุกก็เดินเข้าไปในครัวทันที เพราะคิดว่าคงจะได้คำตอบมากกว่านี้
:
:
:
:
:
:
:
“เจ็บใจนัก!! ถ้าไม่ติดว่าฉันมีคิวทำอาหารเยอะไม่งั้นฉันออกไปฆ่าพวกมันสองคนแล้ว” ชายร่างใหญ่ที่เป็นเชฟของร้ายอาหารแห่นี้ ที่เพิ่งจะทำร้ายยุนกิไปเมื่อกี้พูดด้วยความเจ็บใจ
“ใจเย็นๆน้า…..ช่างมันเหอะ ฉันว่ามันก็ดีเหมือนกันได้ตเงินมาฟรีๆโดยไม่ต้องทำอะไร กระเป๋าหนักแบบนี้เงินเยอะแน่ๆเลย” พนักงานหญิงที่เป็นตัวการของเรื่องนี้ว่าปลอบใจชายร่างใหญ่แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ของแทฮยองที่วางอยู่ที่พื้น
พลึ่บ!!
ยังไม่ทันที่พนักงานหญิงนิสัยเสียคนนี้จะได้หยิบกระเป๋า กระเป๋าก็โดนใครบางคนใช้เท้าเหยียบไว้เหมือนมันไม่ได้มีค่าอะไรเลย
“นี่!! แกกล้าดียะ…..” พนักงานหญิงเงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะต่อว่าคนที่เหยีบกระเป๋าไว้ แต่พอเห็นหน้าเจ้าของเท้า ก็ถึงกับหน้าเสียไปเลย
“คุณชาย!!” พนักงานหญิงว่าพร้อมกับเบิกตาโพรงอย่างตกใจ พนักงานทุกคนในห้องครัวก็ตกใจไม่แพ้กัน
“กระเป๋าเงินนี่ดูราคาสูงก็จริงน่ะ แต่อาจจะสกปกถ้ามันไปอยู่มือคนสกปก อืม…ขนาดฉันเหยียบมันมันยังดูดีกว่าโดนมือคนที่สกปกจับอีกน่ะเนี่ย!!” จองกุกว่าและมองกระเป๋าใบนั้นอย่างไม่สนใจว่ามันจะมีเงินกี่บาทหรือมีค่าเท่าไหร่
ครืดดดด.....
จองกุกใช้เท้าที่เหยียบกระเป๋าเมื่อกี้เปลี่ยนมาเป็นแต่มันแทน จองกุกแตะกระเป๋าเบาๆให้มันลากไปกับพื้นและไปหยุดอยู่ที่หน้าของพนักงานหญิงนิสัยเสียคนนั้น
พนักงานหญิงคนนั้นถอยหลังออกห่างจากกระเป๋าเงินที่มาหยุดต่อหน้า แล้วยืนก้มหน้าอย่างนอบน้อม
“ทำไมไม่หยิบมันขึ้นมาหละ….อยากได้นักไม่ใช่หรือไง” จองกุกว่าและยืนกอดอกมองไปยังพนักงานหญิงคนนั้นก่อนจะหันไปมองพนักงานคนอื่นๆด้วย ทำให้พนักงานในครัวทุกคนที่ถูกจองกุกมองมาเป็นอันต้องรีบหลบตาและก้มหน้านิ่งทันที
“หยิบมันไปสิเพราะนี่เป็นโอกาศสุดท้าย….เพราะถ้าไม่หยิบเธอจะไม่มีโอกาสได้มันอีก….” จองกุกหันกลับมามองพนักงานหญิงคนเดิม ในขณะที่พนักงานหญิงคนนี้กำลังก้มหน้ากลัว
“ตอบฉันมาว่าลูกค้าคนนั้นใครทำ….หรือ เป็นเธองั้นหรอ??” จองกุกว่าและถามพนักงานหญิงคนเดิม
“ไม่ใช่ดิฉันนะค่ะ ฉันไม่เกี่ยวค่ะ พ่อครัวต่างหาก…” พนักงานหญิงรีบปฏิเสธหน้าด้านและชี้ไปทางพ่อครัวที่ทำร้ายยุนกิ
“แก….นังนกสองหัว” พ่อครัวที่ทำร้ายยุนกิหันมาพูดกับพนักงานหญิงคนี้ด้วยความโกรธ
“ที่ฉันบอกว่าจะไม่มีโอกาสได้มันอีก เพราะนี่เป็นเงินเดือนก้อนสุดท้าย….เพราะฉันไล่เธอออก ถ้าไม่อยากได้ก็แค่เดินออกไปเฉยๆก็พอแล้ว…ส่วนเงินนี่ฉันยกให้กับคนที่ลากเธอออกไปได้!!” จองกุกว่าทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วเดินออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดอะไรบางอย่างกับเลขาของเค้าที่ยืนอยู่ด้านหลังเงียบๆ
“หาพ่อครัวคนใหม่ของท่นี่ด่วน!! และดีกว่านี้ รู้ใช่ไหมว่า ผมหมายถึงอะไร” จองกุกว่าทิ้งท้ายอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปและไม่คิดที่จะหันกลับมามองอีก
ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาและเดินผ่านยุนกิไปต่างพากันสงสัยว่าเกิดอะไรกับยุนกิทำไมตัวเปียกปอมขนาดนั้น
ยุนกิเดินก้มหน้านิ่งโดยที่มีแทฮยองเดินตามอยู่ด้านหลัง หลังจากที่ทั้งสองคนได้เดินออกมาจากร้านอาหารเฮงซวยนั่นไกลพอสมควร
แทฮยองมองไปที่แผ่นหลังของยุนกิที่มันสั่นสะเทือนขณะที่เขากำลังเดินตามยุนกิอยู่ด้านหลัง มันดูออกได้ง่ายเลยทีเดียวว่ายุนกิกำลังร้องไห้
พรึ่บ
แทฮยองเดินไปแต่บ่ายุนกิเบาๆ เพื่อปลอบใจ จึงทำให้ยุนกิหยุดเดินแล้วหันมาหาแทฮยองทั้งๆที่น้ำตาอาบแก้ม
“อยากจะร้องก็ร้องไปเลย ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง” แทฮองว่าและตบบ่ายุนกิเบาๆก่อนจะยิ้มเป็นกำลังใจให้
“จะร้องเสียงดังๆ ก็ได้น่ะ อ่ะ!!”
พรึ่บ!!
ยังไม่ทันที่แทฮยองจะได้พูดอะไรต่อเขาก็ต้องตกใจ เพราะยุนกิใช้มือทั้งสองข้างของเขาลอดเข้าไปที่เอวของแทฮยองก่อนจะกอดแทฮยองแน่นและปล่อยน้ำตาออกมาอย่างหนัก
แทฮยองยืนนิ่งและไม่ได้ขัดขืนอะไร ได้แต่ปล่อยให้ยุนกิร้องไห้ใส่เสื้อของเขา
“ฉันมันอ่อนแอ….ฉันมันได้เรื่องเลย ฉันมันโง่!!” ยุนกิว่าขณะร้องไห้
“มันเป็นเรื่องปกติที่จะทำอะไรไม่ได้ เพราะสถาณการณ์ในตอนนั้นไม่มีใครที่คิดจะอยู่ข้างนาย ถ้าเกิดนายตอบกลับมันอาจจะทำให้คนอื่นไม่พอใจได้ นายไม่ได้เป็นอย่างที่นายพูดหรอกน่ะ” แทฮยองว่าปลอบใจก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นมาโอบหลังของยุนกิเบาๆ
“คุณชายทำไมไม่เข้าไปถามคุณยุนกิหละครับว่าคุณยุนกิเป็นยังไงบ้าง…..” เลขาของจองกุกพูดขึ้นขณะที่จองกุกกำลังยืนมองยุนกิกับแทฮยองอยู่ไม่ไกล
“ผมว่าเค้าคงไม่เป็นไรแล้วหละ….” จองกุกว่าขณะที่มองภาพที่ยุนกิกับแทฮยองกอดกัน
“แต่อย่างน้อยเราก็ควรเข้าไปขอโทษคุณยุนกิน่ะครับ….ที่เรื่องมันเกิดขึ้น” เลขาเสนอแนวทาง
“ไว้คราวหน้าถ้าผมเจออีกค่อยขอโทษล่ะกัน” จองกุกว่าจบก็หันหลังกลับและเดินผ่านเลขาของเขาไปที่รถคันหรูที่นั่งมาจอดไม่นานมานี้
“ขอบคุณน่ะ ถ้าไม่ได้นายวันนี้ฉันคงแย่” ยุนกิว่าขึ้นเมื่อเริ่มรู้สกดีขึ้นและเลิกร้องไห้
“ไม่เป็นไร….จะให้ฉันยืนมองก็คงไม่ได้หรอก” แทฮยองว่าและยิ้มอย่างภูมิใจ
“ยังไงฉันก็ต้องขอบใจนายอยู่ดี นี่มันก็ครั้งที่สองแล้ว….” ยุนกิว่าเบาๆ
“ถ้าดีขึ้นแล้วกลับบ้านไหม ฉันจะไปส่ง” แทฮยองว่าพร้อมกับดึงแขนยุนกิออก
พรึ่บ!!
“ยุนกิ!! เป็นไรไหม!!” อยู่ๆยุนกิก็ทรุดล้มลงพื้นและเจ็บหัวใจอย่างรุนแรงขึ้นมากะทันหัน
“ฉะ ฉันหายใจไม่ออก….” ยุนกิว่าขณะที่ก้มตัวอยู่กับพื้นและใช้มือกุมหัวใจตัวเอง
“ลุกไหวไหม ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล” แทฮยองว่าพรางจะพยุงให้ยุนกิลุก
“ฉัน…..หายใจ……ไม่ออก…..” ยุนกิพูดด้วยเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แถมร่างกายก็อ่อนแรงลง
แทฮยองเริ่มทำอะไรไม่ถูกทั้งตกใจจนคิดอะไรไม่ออก…..
“ฉันจะทำยังไงดี…..ยุนกิอย่าพึ่งเป็นอะไรไปน่ะ” แทฮยองว่าทั้งสติแตกและตกใจที่อยู่ๆยุนกิก็ล้มลงไปแบบนั้น
พรึ่บ!!
แทฮยองใช้ปากของเขาประกบกับปากของยุนกิและพยายามเป่าลมเข้าไปในปากของยุนกิเพื่อแบ่งออกซิเจน
พลุ่บ!!
“ยุนกิ!! ยุนกิ!! ลืมตาขึ้นมาสิ อย่าพึ่งเป็นอะไรไปน่ะ” แทฮยองพยายามจะเขย่าร่างของยุนกิที่พึ่งจะหมดสติไปให้รู้สึกตัว
…………………………………………………….
“หมอยากจะให้คนไข้ได้พักผ่อนมากๆน่ะครับ…..แล้วก็อย่าพยายามนึกเรื่องที่มันจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดน่ะครับ…” หมอว่ากับยุนกิที่นอนอยู่ที่เตียงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยมีแทฮยองที่ยืนอยู่ข้างๆ
ยุนกิพยักหน้าตามที่หมอสั่งก่อนจะกล่าวขอบคุณคุณหมอ คุณหมอพยักหน้ารับคำขอบคุณแล้วเดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงแค่ยุนกิกับแทฮยองที่อยู่ในห้อง
“หมอบอกฉันว่านายเป็นโรคหัวใจสลาย….” แทฮยองเริ่มการสนทนาขึ้น
“เอ่อ….เรื่องนั้น….ฉันรู้แล้วหละ” ยุนกิว่าเบาๆ
“นายเป็นมานานแค่ไหนแล้ว….” แทฮยองถามต่อ
“ก็สักพักนึงแล้วหละ” ยุนกิตอบ
“สักพักหนึ่งของนายนี่มันเป็นปีแล้วน่ะ!!” แทฮยองตะคอกใส่ยุนกิ
“ฉัน….ฉัน มันเรื่องของฉันนายจะยุ่งทำไม!!” ยุนกิตะคอกเสียงกลับ
“ทำไมนายถึงไม่ยอมมารักษา…นายปล่อยให้มันกำเริบแบบนี้ทุกครั้งไม่ได้หรอกน่ะ นายคิดหรอว่านายจะแค่หายใจไม่ออกแล้วสลบไป หลังจากที่ตื่นมานายก็จะปกติเหมือนเดิม…..มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่ะ”
“บางทีนายอาจจะ….นายอาจจะ” แทฮยองหยุดคำพูดไว้แค่นั้น
“อาจจะตายได้ ใช่ไหม?” ยุนกิพูดต่อจากสิ่งที่แทฮยองพูดค้างไว้
“กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง…” แทฮยองเปลี่ยนเรื่องพูดและไปช่วยพยุงยุนกิให้ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าของยุนกิที่ถูกเปลี่ยนออกมา
ยุนกินิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่สายตาของยุนกิมองไปยังแทฮยองไม่กระพริบตาและยิ้มออกมาไม่รู้ตัว…
“ฉันทำแบบนี้แล้วดูหล่อขนาดนั้นเลยหรอ” แทฮยองที่เห็นยุนกิยิ้มไม่หุบ ก็พูดขัดคอยุนกิเล่น เพราะเค้าเองก็รู้สึกดีไม่แพ้กันที่ได้ช่วยใครสักคน ได้ช่วยเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่เจอเรื่องร้ายๆ
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนแบบนายจะดีกับันแบบนี้” ยุนกิว่าและยังคงไม่หุบยิ้มก่อนจะค่อยก้าวขาลงจากเตียง โดยที่แทฮยองเดินเข้ามาช่วยพยุง
………………………………………..
“ผมคิดว่าคุณชายควรจะบอกความจริงคุณยุนกิน่ะครับ…เรื่องคุณท่าน” ชายคนหนึ่งพูขึ้นในขณะที่โฮซอกกำลังดื่มแอลกอฮอล์ไปหลายแก้ว อยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ถ้าฉันบอก….ยุนกิอาจจะโกรธฉันและคุณพ่อได้” โฮซอกว่าและกระดกน้ำมีพิษในแก้วเข้าปาก
“แต่ผมห่วงความรู้สึกคุณชายน่ะครับ….ผมรู้ว่าคุณชายคิดยังไงกับคุณยุนกิ” เมื่อชายคนนี้พูดขึ้นก็ทำให้โฮซอกชะงักมือที่ถือแก้วน้ำเพื่อจะกระดกมันเข้าปากอีกครั้ง
“ฉันก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละนายไม่ต้องห่วงฉันหรอก….แล้วก็อย่าบอกพ่อเรื่องนี้หละ” โฮซอกพูดจบก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและเตรียมจะเดินออกจากร้าน
“แต่ว่าการที่จะทำให้คุณชายตัดใจจากคุณยุนกิได้ คือการตีตัวออกห่างน่ะครับ” ผู้ชายที่เป็นเลขาของพ่อโฮซอกคนเมื่อกี้พูดข้นก่อนที่โฮซอกจะเดินหนีไป
“เลขาจอง….ถ้าคุณรักใครสักคนคุณจะอยากอยู่ข้างๆคนๆนั้น ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆได้ดูแลมันก็ทำให้มีความสุขมากพอแล้ว….” โฮซอกพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากร้านอาหาร
“เฮ้อ….ฉันต้องเดินกลับไปอีกแล้วสิน่ะตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย” ยุนกิว่าขณะเดินเตะก้อนหินเล่นตามถนนระหว่างทางกลับบ้าน เพราะดันไปโกหกแทฮยองไว้ว่าอยู่บ้านหลังนั้น เพราะไม่อยากให้แทฮยองรู้ว่าเค้าอยู่ที่เดียวกับโฮซอก….. แทฮยองจึงส่งที่บ้านหลังเดิมนั้น และยุนกิก็ต้องได้เดินต่อมาเอง
“ฉันจะต้องเข้มแข็งกว่านี้….เพื่อความอยู่รอดด้วยตัวของฉันเอง”
“ฉันจะไม่มีวันกลับไปพึ่งพ่อของฉันเด็ดขาด!!” ยุนกิกำหมัดแน่นสายตามองไปยังข้างหน้าจุดมุ่งหมายที่จะเดินไป ร่างกายที่อ่อนแอถูกจิตใจที่เข้มแข็งกลบจนหมดสิ้น
กึก!!
“โอ๊ย!!” เพราะความมืดที่มองไม่ค่อยจะเห็นทำให้ยุนกิที่ก้าวขาเดินต่อดันไปเหยียบกิ่งไม้แหลมที่วางยุข้างทางเข้า ทำให้กิ่งไม้นั้นทะลุลองทางยุนกิและแทงเข้าไปที่เท้าของยุนกิทำให้ยุนกิเสียการทรงตัวและล้มลงนั่งกับพื้น
ยุนกิมองเท้าของตัวเองที่มีเลือดไหลอาบออกมาจนรองเท้าพละสีขาวเริ่มกลายเป็นสีแดง…. ยุนกิจับไปที่ข้อเท้าข้างที่มีไม้แหลมเสียบอยู่และพยายามจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
พลึ่บ!!
“โอ๊ย!! ทำไมมันปวดแบบนี้….” ยุนกิล้มลงอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดสุดที่จะทน
ตึก!! ตึก!! ตึก!!
เสียงฝีเท้าของใครบางคนจากทางด้านหลังของยุนกิกำลังวิ่งเข้ามาทางยุนกิอย่างรีบร้อน
“ยูนกิอย่าขยับน่ะ ฉันจะช่วยเธอเอง” เจ้าของเสียงฝีเท้านั่นวิ่งมายังด้านหน้าของยุนกิและค่อยๆจับเท้าของยุนกิข้างที่โดนไม้เสียบอยู่ยกขึ้นมาเบาๆ
“โฮซอก….” ยุนกิมองไปยังร่างของคนที่อยู่ตรงหน้าที่มีเหงื่อท่วมตัวไปหมด บ่งบอกว่าเค้ารีบร้อนมากแค่ไหน
“อดทนหน่อยน่ะ!!” โฮซอกเงยหน้าขึ้นมาบอกยุนกิก่อนจะใช้มือจับปลายของไม้แหลมที่แทงเท้ายุนกิ
“อ่ะ!! อย่า อย่าบอกน่ะว่า……”
สึก!!
“อื้ออออออออออออออออออออ!!!” เสียงคำรามของยุนกิที่โดนโฮซอกใช้มืออุดปากไว้เนื่องจากเมื่อกี้โฮซอกได้ดึงไม้แหลมนั่นออกจากเท้ายุนกิโดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้ตั้งตัวเลย และมันก็ดึกมากแล้วเพื่อให้เสียงแห่งความเจ็บปวดของยุนกิไปรบกวนเพื่อนบ้านโฮซอกจึงใช้มือของตัวเองให้ยุนกิกัด
“ขึ้นหลังฉันไปล่ะกัน นายคงเดินไม่ได้หรอก” โฮซอกว่าทั้งๆที่มือเค้ายังอยู่ในปากของยุนกิ
โฮซอกเอามือออกมาจากปากของยุนกิก่อนจะหันหลังให้ยุนกิขึ้นหลังพร้อมใช้มือข้างหนึ่งช่วยพยุงยุนกิให้ขึ้นมาบนหลังของเค้า…..หลังจากที่ยุนกิขึ้นมาบนหลังของโฮซอกได้แล้วโฮซอกก็ค่อยๆยืนขึ้นและเดินกลับไปยังบ้านของพวกเค้าทั้งสองคน ในระหว่างทางกลับบ้านยุนกิก็สังเกตเห็นมือของโฮซอกข้างที่ใช้ให้ยุนกิกัดีรอยช้ำแดงๆรอบๆมือการที่มีรอยช้ำขนาดนี้มันเจ็บไม่ใช่น้อยเลยน่ะแต่ทำไมโฮซอกทำเหมือนกับไม่ได้รู้สกอะไรเลย…..โฮซอกต้องพยายามอดทนมันสุดๆต่อให้จะเจ็บมากขนาดไหน….
“โฮซอก…” ยุนกิที่อยู่บนหลังของโฮซอกเรียกชื่อเค้าเบาๆ
“อือ….มีอะไรหรอ?” โฮซอกว่าทั้งยิ้มเล็กๆ
“ขอบคุณน่ะ…” ยุนกิว่าแล้วก็กอดคอของโฮซอกแน่นขึ้นก่อนจะซบลงไปบนหลังของโฮซอก
“อืม….” โฮซอกตอบสั้นๆก่อนจะยิ้มออกมา
“นายคือเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันมี....ฉันเหมือนมีเทวดาที่คอยช่วยเหลือปกป้องฉันเลยหละ” ยุนกิว่าขณะหลับตาอยู่
“ใช่ฉันเป็นเพื่อน….” แม้โฮซอกจะดีใจที่ได้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของยุนกิแต่มันก็เจ็บตรงคำว่าเพื่อน….
โฮซอกพูดไว้เพียงแค่ฉันเป็นเพื่อนทำให้ยุนกิลืมตาขึ้นมา…และสังสัยกับคำพูดของโฮซอก
“เพื่อนที่ดีที่สุดหน่ะ” โฮซอกพูดต่อขึ้นมาแล้วหัวเราะเล็กน้อยเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก ยุนกิเงยหน้าขึ้นมองโฮซอกแม้จะมองไม่เห็นด้านแต่ความรู้สึกของยุนกิมันบ่งบอกว่าเค้าต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ
แอ๊ดดดดดดด....
โฮซอกเปิดประตูเข้ามาในบ้านของเค้าแล้วเดินไปยังโซฟาก่อนจะค่อยๆวางยุนกิลงให้นั่งอยู่ตรงโซฟา
“นั่งอยู่เฉยๆตรงนี้น่ะฉันจะไปเอากลองยามาทำแผลให้” โฮซอกว่าหลังจากวางยุนกิลงก่อนจะเดินไปหยิบกล่องยามาแล้วมาวางต่อหน้ายุนกิก่อนจะใช้มือจับไปที่ข้อเท้ายุนกิเบาๆแล้วค่อยๆยกข้อเท้ายุนกิขึ้นมา
“โอ๊ย…” ยุนกิร้องเสียงหลงเมื่อเท้าที่ถูกจับยกขึ้นรู้สกเจ็บจี๊ดขึ้นมา
“ขอโทษน่ะ….ทนเจ็บหน่อยล่ะกัน” โฮซอกว่าก่อนจะค่อยๆเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์มาล้างแผลตรงฝ่าเท้าให้ยุนกิอย่างเบามือ
ยุนกิรู้สึกเจ็บแผลไม่น้อยแต่ก็ต้องกัดปากทนความเจ็บนั่นไว้…..
“ถ้าเจ็บจะกัดมือฉันไว้ก็ได้น่ะ” โฮซอกว่าขึ้นเมื่อเห็นยุนกิกัดปากตัวเอง
“ไม่หรอกฉันไม่เจ็บเลยสักนิด” ยุนกิโกหกเพื่อปฏิเสธที่จะกัดมือโฮซอกอีก ยุนกิยังคงมองไปที่โฮซอกและมือของเค้าผลัดกันไปมา ทั้งๆที่มือช้ำขนาดนั้นทำไมเค้าไม่มีสีหน้าว่าเจ็บเลยน่ะแถมยังจะให้ยุนกิกัดมือเค้าอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ
“ฉันจะทำเบามือน่ะ” โฮซอกว่าก่อนจะใช้ยาทาลงไปที่แผลแล้วค่อยๆใช้ผ้าขาวพันไปรอบๆเท้าของยุนกิอย่างเบามือจนยุนกิไม่รู้สกเจ็บเลยสักนิดเดียว
“เสร็จแล้วหล่ะ….แต่อย่าพึ่งเดินไปไหนหละมีอะไรให้เรียกฉันน่ะ” โฮซอกว่าก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเอากล่องยาไปเก็บ
พรึ่บ!!
“เดี๋ยวก่อนสิ….นั่งลงก่อน” ยุนกิจับข้อมมือของโฮซอกไว้และบอกให้เค้านั่งลงก่อนจจะหยิบกล่องยาจากมือของโฮซอกมา
“มือนายช้ำมากเลย ฉันจะทำแผลให้น่ะ” ยุนกิว่าขณะที่หายาที่จะใช้ทารอยช้ำของโฮซอก
“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า!!” โฮซอกว่าพรางหัวเราะกลบเกื่อนและสะบัดมือไปมาเหมือนไม่เป็นอะไรจริงๆแต่ความจริงเจ็บแทบตาย
“ฉันรู้ว่านายเจ็บ…” ยุนกิว่าก่อนจะจับมือโฮซอกมาแล้วจัดการทำแผลให้
หลังจากที่ยุนกิทำแผลให้โฮซอกเสร็จโฮซอกก็พายุนกิเข้าไปในห้องของยุนกิแลวโฮซอกเองก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเองเหมือนกัน
“ฉันจะอาบน้ำยังไงดีเนี่ย” ยุนกิว่าหลังจากที่โฮซอกออกไปแล้วก่อนจะมองไปรอบๆห้องแล้วเห็นไม้ที่ใช้สำหรับพยุงตัวเดินซึ่งมันไม่ใช่ของยุนกิแต่เป็นของใครก็ไม่รู้
“ทำไมในห้องฉันถึงมีไม้ อ๊ะ!! จริงสิโฮซอกนี่เอง” ไม้นี่เป็นของโฮซอกใช้ตอนที่เค้าเต้นแล้วพลาดจนขาหัก ยุนกิใช้ไม้นี่คอยพยุงตัวเองและไปทุระส่วนตัวชำระร่างกายของตัวเองจนเสร็จสับทุกอย่าง
“เฮ้อ….ฉันต้องเข้มแข็งกว่านี้สิน่ะ” ยุนกิว่าขณะมองไปยังเสื้อสีน้ำเงินตัวโปรดของตัวเองที่วางอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือที่เพิ่งจะโดนน้ำล้างจานสกปรกนั่นลาดลงมาใส่….
“เอ๊ะ!! นั่นมันกระดาษอะไรกันน่ะ” ยุนกิสังเกตเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่เหมือนกำลังจะหล่อออกมาจากกระเป๋าเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินตัวนั้น ยุนกิค่อยๆพยุงตัวเองให้เดินไปที่เสื้อแขนยาวตัวนั้นโดนมีไคล้ำที่ช่วยพยุงตัวเดินไปยุนกิหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดูก็รู้เลยว่ามันคืออะไร
กระดาษแผ่นนี้มันเป็นนามบัตรของผู้ชายคนที่มานั่งกับยุนกิอยู่ที่ร้านอาหารที่มีแต่ความทรงจำแย่ๆนั่น แต่เท่าที่จำได้ยุนกิไม่ได้หยิบมันมาเลยหนิทำไมมันมาอยู่ในนี้ได้น่ะ
“ช่างมันเถอะ….รายการอะไรฉันก็ไม่สนหรอก” ยุนกิว่าก่อนจะขย้ำนามบัตรนั่นทิ้งลงถังขยะก่อนจะเดินไปเปิดทีวีดูยุนกินั่งดูทีวีไปเรื่อยๆก่อนจะต้องตกใจเมื่อมีข่าวสัมพาทบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งซึ่งคนๆนั้นก็คือ…..
“คุณพ่อ…” ยุนกิเบิกตาโพรงเมื่อต้องเห็นผู้ชายที่ยุนกิเรียกว่าพ่อคนที่ยุนกิเกลียดที่สุดกลับมาอยู่ตรงหน้าแม้จะผ่านจอทีวีก็เถอะ ยุนกิรีบหยิบรีโมทมาเพื่อจะกดปิดแต่ก็ต้องชะงักมือเมื่อเห็นสัญลักษณ์ของรายการทีวีรายการหนึ่งที่ดูคุ้นตาตามข่าวที่สัมพาทมันเป็นรายการใหม่ที่กำลังจะถูกฉายขึ้นเร็วๆนี้ซึ่งเป็นรายการที่มีการร่วมมือของนักธุรกิจหลายประเทศเป็นรายการที่อาจจะได้รับความนิยมมากถึงทั่วโลกเป็นรายการที่จะถูกจัดทำขึ้นที่เกาหลีและอเมริกาและเจ้าของรายใหญ่ของรายการนี้ก็คือคุณพ่อของยุนกิและอีกหนึ่งคนคือเจ้าของประธานบริษัทคนใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวของบริษัท N กรุ๊ป
“รายการนนี้นี่มัน…..ใช่แล้วรายการนี้แน่นอน” ยุนกิรีบหยิบใบนามบัตรที่พึ่งทิ้งไปขึ้นมาก็เห็นสัญลักษณ์ของรายการที่เป็นรายการเดียวกันกับที่เพิ่งจะฉายไปเมื่อกี้
“ฉันคิดอะไรออกแล้วหละ….นี่เป็นโอกาสดีของฉันเลยทีเดียว” ยุนกิว่าและสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความร้ายกาจ ยุนกิยิ้มที่มุมปากแบบน่ากลัวเหมือนกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง…..
พรึ่บ!!
“ฟะ ไฟดับ หรอเนี่ย!! ไม่น่ะ” ยุนกิที่เป็นคนกลัวความมือมากที่สุดในชีวิตเริ่มสติแตกไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพร้อมทั้งนั่งชันเข้าอยู่บนที่นอนของตัวเองอย่างตัวสั่น
พรึ่บ!!
อยู่ๆประตูห้องของยุนกิก็ถูกเปิดออกและมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงยุนกิที่ตัวสั่นเหมือนแมวน้อยตกน้ำเข้าไปกอดไว้อย่างแน่นก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะพูดออกมา…..
“ไม่เป็นไรน่ะ…ฉันอยู่ตรงงนี้แล้ว เทวดาอยู่ตรงนี้” คำพูดของบุคคลที่ยุกิมองไม่เห็นใบหน้าที่พูดขึ้นก็ทำให้ยุนกิรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร
“โฮซอก….."
uu - - - - - To be continue - - - - -uu
ความคิดเห็น