ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BJIN) Just Another Boy ที่รัก รักผมเถอะครับ

    ลำดับตอนที่ #13 : (Special) junhoe x donghyuk ชอบก็บอกว่าชอบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 262
      1
      20 ธ.ค. 57





    ช่วงนี้ห้องเรียนโคตรน่าเบื่อเลยครับ บรรยากาศก็ชวนให้ผมหลับซะเหลือเกิน ถ้าเป็นปกติไอ้หัวหน้าห้องแว่นหนาจะชวนผมคุยตลอดจนผมรำคาญ แต่วันนี้หมอนั่นดันหลับซะเอง ไม่รู้ไปอดหลับอดนอนจากไหนมา

    “นาย” ผมสะกิดดงฮยอกหลังหมดคาบ

    .........  ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ

    “ดงฮยอก” ผมเรียกอีกแต่หมอนั่นก็ไม่มีทีท่าจะตื่นเลยสักนิด

    “ดงฮยอก ตื่นเว้ย” ผมโน้มหน้าลงไปพูดใกล้หูอีกคนพร้อมสะกิดแรงขึ้น

    “หืออ” ดงฮยอกเงยหน้าขึ้นมาอย่างงัวเงีย ทำให้ผมผละออกแทบไม่ทัน ก็หน้าเราดิอยู่ห่างกันแค่นิดเดียว

    จะว่าไปหน้าหมอนั่นตอนตื่นนี่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ฮ่าๆ เฮ้ย ผมไม่ได้ชอบหมอนั่นนะบอกเลย - -

    “ไปอดหลับอดนอนจากไหนมาเนี่ย”

    “ทำงานโรงเรียนอ่ะดิ -0-” ดงฮยอกพูดไปหาวไป

    “งานโอเพ่นเฮ้าส์อ่ะนะ?” ไอ้งานเปิดโรงเรียนอะไรเนี่ยผมเห็นจากป้ายเบ้อเริ่มที่ติดอยู่หน้าโรงเรียนประจำ คงจะงานใหญ่น่าดู มีคนข้างนอกเข้ามาชมด้วย รู้สึกเหมือนเป็นสวนสัตว์หรืออะไรสักอย่างที่เปิดให้คนมาชมแล้วก็ถ่ายรูปงั้นงี้ ถถถถ

    “ใช่ๆ ว่าแต่นายไม่มีงานที่ต้องไปช่วยทำเหรอ?” ดงฮยอกถามบ้าง

    “ก็มีบ้างแหละ แต่ขี้เกียจ” ที่จริงบ็อบบี้ฮยองเรียกผมไปพิมพ์รายงานให้ครับ แต่ด้วยความขี้เกียจเลยปฏิเสธไป

    “นายนี่มันขี้เกียจจริงๆเลย” ดงฮยอกพูดแล้วเดินออกไป ผมรีบเดินตามไปติดๆ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็หมอนี่มันเป็นเพื่อนในห้องคนเดียวที่ผมคุยด้วยได้ตอนนี้ ขืนไปหาพวกบ็อบบี้กับฮันบินฮยองมีหวังส่งงานมาให้ผมช่วยแหง - -

    “ว่าแต่นายมีหน้าที่อะไรล่ะ”

    “ช่วยเตรียมงานแล้วก็ร้องเพลงอ่ะ”

    “ร้องเพลง? นายเนี่ยนะ 5555555” พอนึกภาพหมอนั่นแต่งชุดนักเรียนใส่แว่นเนิร์ดๆไปยืนร้องเพลงบนเวทีก็แทบขำ

    “ขำไร? ไม่อยากจะบอกปีที่แล้วฉันขึ้นไปร้องเพลงสาวกรี๊ดตรึมนะเฟ้ย” ดงฮยอกโวยวาย

    “ไอ้แว่นตรงหน้าฉันเนี่ยนะ โอ้ยขำว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

    “ขำไรไอ้ยักษ์” ดงฮยอกหรี่ตามองคนตรงหน้า

    “พูด-ว่า-อะ-ไร-นะ”

    “ป่าวๆ” เมื่อเห็นสายตาโหดๆของคนตรงหน้าจ้องมาทำให้ร่างบางต้องรีบปฏิเสธ

    “ฉันไม่ได้หูหนวกนะเว้ย!!

    “ฉันบอกว่าขำอะไรสุดหล่อไง ปะๆ ไปหาไรกินกันดีกว่า ^^” ดงฮยอกแก้ตัวแล้วรีบเดินนำหน้าไป

     

    “เออนายไปกินก่อนเลยนะ ฉันไปคุยธุระแล้วเดี๋ยวตามไป” ว่าแล้วดงฮยอกก็เดินไปหาเด็กที่ชื่อชานอูทันที ทำไมผมรู้สึกไม่ชอบเลยเวลาเห็นดงฮยอกคุยกับเด็กนั่น แถมยิ้มให้กันอีก ฮึ่ยยยย

    กร็อบ เสียงกระป๋องเป็บซี่ที่บุบลงด้วยแรงจากมือหนา

     

    “พี่ดงฮยอกครับ นี่รายชื่อซุ้มทั้งหมดนะครับ”

    “ขอบใจมาก นายไม่น่าจะต้องลำบากเลย ^^

    “ไม่เป็นไรครับ อาจารย์เขาฝากให้ผมทำผมก็ต้องทำให้สมบูรณ์สิครับ ^^” ชานอูว่าพลางยื่นซองกระดาษสีน้ำตาลให้ดงฮยอก แต่ก็มีมือหนาของกูจุนฮเวมาคว้าซองนั้นตัดหน้าไป

    “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

    “อะไรของนายเนี่ย” ดงฮยอกหันไปถามคนตรงหน้า

    “ไม่มีอะไรแล้วใช่ปะ? ปะไปกินข้าว หิวแล้ว - -” จุนฮเวหันไปถามชานอูก่อนจะเอามือพาดบ่าดงฮยอกให้เดินออกมาจากตรงนั้น

    “บายๆครับพี่ดงฮยอก” ชานอูได้แต่ยืนโบกมือลา

     

    หลังพักเที่ยงผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักกรรมการนักเรียนก่อนจะวางซองกระดาษสีน้ำตาลลงบนโต๊ะของพี่บ็อบบี้ผู้ซึ่งยุ่งอยู่กับการล่าแต้มเกมในโทรศัพท์มือถือ นี่พี่แกเป็นกรรมการนักเรียนจริงใช่มั้ย?

    “อะไรวะ” คนที่นั่งเล่นเกมเอ่ยปากถาม

    “ไม่รู้เหมือนกัน เปิดดูเองละกัน” ผมตอบแล้วออกมาจากห้องทันที

    “ไอ้นี่ นึกจะมาก็มาจะไปก็ไปรึไงห้ะ.. อ้าวเฮ้ยย อดได้โบนัสอีกละ กรี๊ด”



     

    “นายแน่ใจนะว่าจะไปดูฉันซ้อมจริงๆ” ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงข้างขณะที่กำลังเดินไปห้องซ้อม

    “เออดิ ก็เบื่อๆไม่มีไรทำ”ร่างสูงตอบ

    “”นายจะไม่ก่อกวนฉันใช่มะ?”

    “เออ รีบเดินเหอะ” ร่างสูงตอบปัดๆก่อนจะเดินนำหน้าไป

    “เดี๋ยว..” ร่างบางคว้าแขนอีกคนไว้

    “เป็นไร?”

    “เหมือนจะตาลายอ่ะ แต่หายแล้วหละ ^^” ร่างบางพูดพร้อมปล่อยแขนอีกคน

    “นายไม่สบายปะ” ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ร่างบางแล้วใช้มือหนาแตะลงไปที่หน้าผากของคนตรงหน้า ก่อนจะถอดเสื้อโค้ทตัวหนาของตัวเองออกแล้วห่มให้คนตัวเล็ก

    “เฮ้ยย นายไม่หนาวรึไง” ร่างบางพูดหลังจากอีกคนถอดเสื้อโค้ทออกแล้วเหลือแค่เสื้อเชิ้ตบางๆตัวเดียว

    “ห่วงตัวเองเถอะ ถ้าไปป่วยวันงานจะทำไงห้ะ”

    “แล้วถ้านายเกิดป่วยขึ้นมาอ่ะ?”

    “ความผิดนายไง” พูดแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด นี่มันเข้าฤดูหนาวได้สักพักแล้วแต่หมอนั่นกลับออกมาจากบ้านทั้งๆที่ไม่มีเสื้อกันหนาวเนี่ยนะ ผมอยากจะบ้า หมอนั่นมันคนเหล็กรึไง

    “งั้นเพื่อไม่ให้เอาเปรียบนาย...” ดงฮยอกเอาเสื้อมาพาดที่หลังผมครึ่งนึงแล้วพาดไว้ที่ตัวเองครึ่งนึง ตอนนี้เราดูเหมือนคู่รักกันยังไงยังงั้นแหละ ไอ้ดงฮยอกบ้าแกเห็นสายตาของคนที่มองมั้ยวะ โถ่ว

    “คิดว่าเล่นเป็นคู่รักกันรึไงห้ะ” ผมโวยวายแล้วเอาเสื้อคลุมหัวไอ้คนข้างๆทันที

    “ทำไมอ่ะ?” แหม ทีนี้ทำไมมันโง่จังครับ

    “ช่างมันเถอะ” ผมพูดพลางลากดงฮยอกไปสถานที่หนึ่ง

     



    ณ ห้องพยาบาล

     

    “กินยาละ ไปซ้อมได้ ^^

    “บอกให้นอนพักไง”

    “ฉันหายแล้วเนี่ย”

    “ตัวร้อนขนาดนี้อย่ามาโชว์พาว” จุนฮเวใช้สายตาโหดๆจ้องไปที่อีกคน แต่คนที่ถูกมองก็ยังขัดขืนเล็กน้อย

    “แต่วันนี้ฉันนัดเพื่อนๆไปซ้อมนะ”

    “ยกเลิกก็ได้นี่หว่า จะนอนดีๆหรือจะนอนด้วยน้ำตา?”

    “โอ้ยๆ นอนก็ได้ ><” ดงฮยอกขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมหลับตาปี๋

    “ก็แค่เนี้ย” จุนฮเวหยิบเจลประคบมาวางไว้บนหน้าผากอีกคนก่อนจะห่มผ้าให้หนาๆ

    “นายทำตัวเหมือนแฟนฉันเลยอ่ะ ” จู่ๆคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมา

    “.....” จุนฮเวก็งงว่าทำไมเขาถึงเป็นห่วงคนตรงหน้าขนาดนี้

    “แค่ล้อเล่นเอง ทำไมต้องหน้าแดงด้วย 55555”

    “ฉันแค่ไม่อยากให้เพื่อนที่มีอันน้อยนิดของฉันตายต่างหาก”

    “เออๆ นายไปเถอะ ฉันจะนอนจริงๆละ” ดงฮยอกว่าพลางหลับตาลง

     

     


    วันนี้ที่โรงเรียนรู้สึกจะคึกคักเป็นพิเศษก็มีทั้งคณะครูอาจารย์และนักเรียนจากต่างโรงเรียนที่ทยอนกันมาเยี่ยมโรงเรียนของผม เช้าๆแบบนี้ผมตื่นที่ไหนล่ะ แต่เพราะเป็นห่วงคนบางคนแหละ วันก่อนตัวร้อนจี๋เลยไม่รู้เป็นไงบ้าง

    ไอกู~ นี่ผมพูดว่าเป็นห่วงอย่างงั้นหรือ? เฮ้อ คนอย่างกูจุนฮเวเนี่ยนะจะห่วงคิมดงฮยอก ไม่มีทาง

     

    กรี๊ดดดด~

    เสียงกรี๊ดจากหน้าม้าดังมาจากเวทีข้างตึก ผมเดาว่าดงฮยอกคงจะขึ้นแสดงแล้วมั้ง

    ไม่รอช้า ผมรีบเดินไปที่หน้าเวทีทันที

    ดงฮยอกนั่งอยู่บนเวทีพร้อมด้วยกีต้าร์คู่ใจ พร้อมกับมือกลองและมือคีย์บอร์ดอีกสองคน

    วันนี้หมอนั่นเซตผมด้วยแฮะ ไม่ยักจะรู้ว่าพอถอดแว่นออกหน้าตาก็ใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ถึงแม้จะใส่ชุดนักเรียนแต่ก็ดูดีได้
    เฮ้ยนี่ผมจะชมมันทำไมวะเนี่ย

     

    ทันทีที่เสียงกีต้าร์ดังขึ้นนักร้องนำก็ได้ส่งเสียงหวานๆผ่านไมค์ไป ทำเอาสาวๆเคลิบเคลิ้มไปกับบทเพลงและสะกดใจสาวๆด้วยรอยยิ้มขี้เล่นและความน่ารักของเขาเอง


    ~ Well you done done me and you bet I felt it
    I tried to be chill but you're so hot that I melted
    I fell right through the cracks, now I'm trying to get back

    Before the cool done run out I'll be giving it my bestes
    And nothing's going to stop me but divine intervention
    I reckon it's again my turn to win some or learn some

    But I won't hesitate no more, no more
    It cannot not wait, I'm yours
    ~

     

    อะโด้วมันก็ไม่ได้ร้องเพราะอะไรมากหรอกน่า ผมร้องเพราะกว่าเยอะ

    เห็นว่าการแสดงใกล้จะจบแล้วผมเลยมาเดินดูนิทรรศการภาพถ่ายของชมรมถ่ายภาพที่อยู่ข้างๆเวทีแทน

    ฝีมือถ่ายรูปของเด็กชมรมนี้ก็ใช้ได้นะครับ ไปเป็นมืออาชีพได้เลย

    “จุนฮเว” จู่ๆก็มีเสียงคุ้นๆเรียกชื่อผม ผมจึงหันไปมองตามต้นเสียง

    “อะไร  )-3-( “

    “เคี้ยวก่อนค่อยพูดสิ” หมอนั่นยังมาบ่นผมอีก  “นึกว่านายจะไม่มาซะอีก” อะไรกันรอยยิ้มนั่น ทำไมใจผมเต้นล่ะ?

    “ก็เบื่อๆเลยมา” ผมพูดไปกินไป

    “หิวอ่ะ ขอกินด้วยดิ” ดงฮยอกไม่พูดเปล่า หมอนั่นหยิบถุงลูกชิ้นผมไปกินหน้าตาเฉย

    “ใครให้กิน..”

    “พี่ดงฮยอกคะ” จู่ๆก็มีกลุ่มเด็กมอต้นเดินมาหาดงฮยอก

    “วันนี้พี่ร้องเพลงเพราะมากเลยค่ะ หนูขอถ่ายรูปคู่ได้มั้ยคะ?”

    “ได้ครับ” ดงฮยอกเดินไปยืนข้างๆเด็กผู้หญิงพร้อมชูสองนิ้วให้กล้อง นี่แกจะน่ารักไปมั้ย!!

    “พี่ดงฮยอกหล่อมากค่ะวันนี้ ><

    “ขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ” และก็มีเด็กผู้หญิงอีกหลายกลุ่มเข้ามาขอถ่ายรูป อะไรมันจะฮอตขนาดนั้นฟะ

    ผมได้แต่ยืนดูหมอนั่นคุยกับแฟนคลับ(?) ทั้งจับมือ  ทั้งโอบไหล่ หน้านี่ก็ใกล้กันเหลือเกิน แค่ถ่ายรูปทำไมต้องชิดกันขนาดนั้นวะครับ
    จุนฮเวจะไม่ทน
    !


    “ไปเหอะ” ผมเข้าไปกอดคอดงฮยอกแล้วลากออกมาจากตรงนั้นทันที

    “นายจะไปไหนเฮ้ย ฉันยังคุยกับน้องๆไม่เสร็จเลย” ดงฮยอกโวยวายขณะที่โดนผมลากออกมา


    “จับมือกัน โอบไหล่กัน สนิทกันมากไง๊?”

    “ไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย” อีกคนยังคงเถียง

    “ไม่สบายหายแล้วเหรอ?” ผมปล่อยอีกคนเป็นอิสระหลังจากมาถึงที่ที่ปลอดผู้คน

    “อื้อ ดีขึ้นแล้ว”

    “เหอะ” ผมลองแตะหน้าผากอีกคนดูก็พบว่ามันยังอุ่นๆอยู่ “กินยารึยัง?”

    “ข้าวเช้ายังไม่ได้กินเลย ยาก็เลยไม่ได้กิน”

    “งั้นไปกินข้าวกัน”

    “ทำไมจู่ๆทำดีกับฉันเนี่ย”

    “ก็แค่ทำดีกับเพื่อนร่วมโลกมันผิดตรงไหนวะ”

    “แล้วตะกี้ที่นายลากฉันออกมา หึงใช่ปะ?”

    “ไม่ใช่โว้ยยยย”

    “แหม เป็นห่วงก็บอกมา”

    “เออ ที่มาเพราะเป็นห่วง พอใจยัง”

    พอคำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า ร่างบางก็ถึงกับหน้าขึ้นสีเลยทีเดียว เขาคิดว่าจะล้อร่างสูงเล่นๆ แต่คำตอบที่ได้ยินนั้นกลับไม่เป็นแบบที่เขาคิด เขาคิดว่าร่างสูงจะโวยวายแล้วเดินหนีไป แต่คราวนี้เจ้าตัวกลับยอมรับออกมาง่ายๆแบบนั้น

    “นาย.. พูดว่าอะไรนะ” ดงฮยอกยังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

    “บอกว่าเป็นห่วงเว่ย!

    “ชอบฉันเหรอ?”

    “เออชอบ ไม่ต้องถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้เหมือนกันเว่ย” จุนฮเวพูดพลางเดินนำหน้าดงฮยอกไป

     

     

    ผมเอาแต่คิดนู่นคิดนี่มาตลอดทาง นี่ผมบอกชอบหมอนั่นไปแล้วงั้นเหรอ จุนฮเวเอ้ยแกไม่เคยบอกชอบใครก่อนนะเว้ย
    แล้วกับคนคนนี้ทำไมถึง...

    แล้วหมอนั่นจะชอบผมรึเปล่า? เฮ้อ น่าอายชะมัด



    ตอนนี้เรามานั่งกันที่โรงอาหารครับผมเอาแต่นั่งกดโทรศัพท์ไปนั่น ไม่อยากมองหน้าดงฮยอกเลยจริงๆ
    หมอนั่นจะนั่งหัวเราะผมอยู่รึเปล่าเนี่ย


    “จุนฮเว” เสียงจากดงฮยอกเรียกสติผมกลับมาก่อนจะฟุ้งซ่านไปกว่านี้

    “อะไร” ผมต้องเก็กเสียงโหดไว้

    “ให้ตายเหอะ นายพูดกับคนที่ชอบแบบนี้เนี่ยนะ”

    “ใครชอบ อะไร ไม่มี๊” ผมปฏิเสธเสียงสูง

    “จุนฮเว”

    “อะไร”

     

     

     

     

     
























    “เป็นแฟนกันมั้ย?” 




    THE END
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×