ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ {Lab.} Ruemaretias

    ลำดับตอนที่ #54 : P.00 : วาฬน้อยล่องลอยวารี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 74
      0
      21 ธ.ค. 57

    © Tenpoints!





    : Baleine Louise Fallières :

    - -- - - -- - -- -- -- -- -                                         - -- - -- - - -- - -- -


    เช้าวันจันทร์อันแสนสดใสสไตล์ฝรั่งเศส กลิ่นหอมอ่อนๆของขนมปังที่พึ่งจะอบเสร็จลอยมาตามสายลมกระทบปลายจมูกของเด็กสาวที่นอนเอกขเนกอยู่บนที่นอนในสภาพที่เรียกว่า ... ดูไม่ได้


    เส้นผมสีแพลตตินั่มบลอนด์ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงแผ่สยายเต็มที่นอน จมูกเล็กๆขยับฟุดฟิดทั้งๆที่เปลือกตายังปิดอยู่ ก่อนที่ร่างจะเด้งพรวดขึ้นมานั่งหัวฟูทั้งที่หลับตาอยู่อย่างมึนงง ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนอีกครั้งราวกับละเมอ


    แต่เพียงไม่นาน ..



    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!


    "หลุยส์ตื่นได้แล้วนะลูกวันนี้ลูกต้องไปดูงานกับโรงเรียนสตรีตอนสิบโมงไม่ใช่เหรอจ๊ะ" เสียงหวานของผู้เป็นมารดาดังลอดออกมาจากหน้าประตู แต่ก็ไม่ได้ทำให้เด็กสาวที่นอนอยู่จะสะเทือนอะไรได้


    เมื่อเห็นว่าเสียงจากในห้องเงียบไปโดยไม่มีซักแอะที่จะตอบกลับมา หญิงสาววัยกลางคนก็ได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะหยิบกุญแจดอกเล็กมาไขแล้วเดินเข้าไปหาลูกสาวของเธอที่หลับอุตุอยู่บนเตียง


    "ท่านหญิงบาเลนน์ หลุยส์ ฟาลีแยร์ ท่านหญิงชั้นปีที่ ๒ แห่งโรงเรียนกุลสตรีXX ควรตื่นได้แล้วนะคะ" เสียงเย็นเยียบเอ่ยออกมาเสียงดังราวกับคุณครูฝ่ายปกครองทำให้หญิงสาวที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ลุกพรวดนั่งขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับยืนกายจนหลังตรงก่อนจะตอบกลับมาเสียงดังฟังชัด


    "ดิฉันขออภัยที่ตื่นสายค่ะท่านหญิงเดอเลีย!" แม้ดวงตาจะปิดอยู่แต่ความสยองพองเกล้าที่เธอคุ้นชินเวลาอยู่ในโรงเรียนทำให้ปฏิกิริยาตอบกลับอัตโนมัติเกิดขึ้น


    เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้บาเลนน์ค่อยๆปรือตามอง เมื่อเห็นมามีใครยืนทำหน้ายักษ์อยู่ที่ปลายเตียงก็รีบคลานไปศิโรราบอยู่ที่ปลายเตียงทันที


    "หลุยส์แม่คิดว่าเราต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้วล่ะ แม่จะลงไปรอที่ห้องอาหาร อีกสิบห้านาทีต้องเรียบร้อย" กล่าวเสียงเย็นแล้วเดินออกไปปล่อยให้ลูกสาวคนสวยหน้าซีดแล้วรีบลุกไปจัดการตนเองทันที





    บรรยากาศในห้องอาหารราวกับอยู่ในห้องปกครองเมื่อตอนทำผิด เมื่อผู้เป็นมารดาแผ่บรรยากาศเย็นเยียบออกมาและส่งมายังเธอโดยตรงแถมยังไม่ยอมละสายตาราวกับจะพิจารณาทุกการกระทำของเด็กสาว


    "คุณแม่คะ .. จ้องขนาดนั้นหนูก็ทานไม่ลงสิคะ" เบะปากออกเล็กน้อยก่อนจะรีบเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแหยๆเมื่อถูกมองด้วยสายตาตำหนิ


    "ก็ดูสิ แม่คิดว่าการส่งเราไปเรียนที่โรงเรียนสตรีจะดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น" ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจอีกครั้ง จนบิดาที่มองเหตุการณ์อยู่หลุดหัวเราะออกมา


    "คุณก็อย่าไปว่าอะไรแกมากเลย ทั้งชีวิตก็มีแต่พี่ชายที่พาเล่นไปเรื่อย จะให้เรียบร้อยอย่างคุณหนูบ้านอื่นคงจะยากหน่อย" เขาว่าอย่างปลอบใจส่วนเด็กสาวเมื่อเห็นคุณพ่อเข้าข้างก็พยักหน้ารัวๆราวกับบอกว่า นั่นแหละเหตุผลที่หนูซนเพราะพี่ชายเลย


    "แต่ว่านะบาเลนน์พ่อคิดว่าลูกเนี่ยก็โตแล้วนะ จะขาดความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้หรอกนะลูก พอออกไปทำงานหรือนาคตไปก็ต้องออกเหย้าออกเรือนจะแย่เอา" ถึงกับเงียบเมื่อจู่ๆคุณพ่อก็แปรพรรค


    "ค่า..." แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกสำนึกอะไรซักเท่าไหร่


    เมื่อเห็นว่าท่าทางของลูกสาวไม่ได้ดูสลดและสำนึกเลยซักนิดคนเป็นพ่อแม่ก็เลยได้แต่ถอนหายใจ ก่อนที่สายตาของผู้เป็นพ่อจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่แนบมากับหนังสือพิมพ์


    "โรงเรียน“เดอะ อคาเดเมีย”งั้นเหรอ .." เสียงทุ่มเอ่ยออกมาอย่างครุ่นคิด ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจะมองไปยังลูกสาวที่กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ผ่านกรอบแว่น เมื่อมองไปทางภรรยาก็ดูเหมือนจะสนใจใบปลิวในมือเข้าอยู่ไม่น้อย


    "เอาล่ะบาเลนน์ พ่อคิดว่าลูกควรจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะ .. บางทีฝรั่งเศสอาจจะสะดวกสบายเกินไปสำหรับลูก" ทันที่ที่เด็กสาวทานอาหารเสร็จ คนเป็นพ่อก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ประโยคที่ได้ฟังทำให้บาเลนน์หันขวับไปมองจนกระดูกคอแทบจะร้องประท้วง


    "เหะ..?"


    ไม่ปล่อยโอกาศให้ลูกสาวได้โต้แย้งก็เอยต่อทันที


    "พ่อคิดว่าจะส่งลูกไปยังเดอะ อคาเดเมีย" ว่าจบก็หันใบปลิวไปให้ลูกสาวที่อ้าปากค้างด้วยความอึ้ง และยื่นหน้ามาจนแทบจะชิดแผ่นกระดาษในมือบิดา


    "เหหหหห!!!"




    'ยินดีต้อนรับสู่สนามบินเดอะ อคาเดเมีย

    ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านมีความสุขกับโรงเรียนของเราค่ะ'

     


    เสียงของแอร์โฮสเตสสาวดังลอดผ่านลำโพงไปทั่วเครื่องบินที่จอดนิ่งสนิท ณ ท่าอากาศยานโรงเรียนเดอะ อคาเดเมีย ราวกับตอกย้ำเด็กสาวผมยาวสลวยสีทองคำขาวที่เดินคอตกลากสัมภาระลงมายังตัวอาคารผู้โดยสาร


    เมื่อนึกเรื่องราวสัปดาห์ที่แล้วที่จู่ๆก็ถูกพระบิดาบังเกิดเกล้าบังคับด้วยน้ำเสียงและสายตาว่าจะส่งเธอให้มาเผชิญชีวิตด้วยตนเอง หลังจากที่ใช้ชีวิตอันสุขสบายอยู่ในบ้านหลังใหญ่และประเทศบ้านเกิดมาถึงสิบหกปีกับอีกเจ็ดเดือน


    ดวงตาสีน้ำทะเลกวาดมองไปรอบๆพร้อมกับครุ่นคิด ว่าควรจะทำอย่างไรกับดินแดนที่ตนเองไม่รู้จักดี .. แบบว่าไงดีตั้งแต่เล็กจนโต ก็ไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใครอย่างจริงจังเท่าไหร่ เพื่อนสนิทก็น้อยแสนจะน้อย ที่เล่นด้วยบ่อยๆก็มีแค่พี่ชายของตนเอง และ คู่หมั้นในวัยเด็กเท่านั้น


    แล้วไอ้โรงเรียนที่ต้องมาใช้ชีวิตหลังจากนี้เนี่ยจะมีใครมาซนเป็นเพื่อนไหมเนี่ย!! #นี่ตกลงเครียดเรื่องอะไร ..
     


    แต่ก่อนอื่น .. ต้องไปรับจอห์นกลับมาก่อนแหะ









     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×