ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] BTS-Kookmin > IsolateP

    ลำดับตอนที่ #22 : SF|Multiple Kookmin -100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.23K
      10
      15 ม.ค. 58

    Multiple Ver.1

    Pairing 
        |  Kookmin
    Category | DRAMA-COMEDY
    Rate        |  PG 13+

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    แฝดเทียม เกิดจากการที่มี ไข่ 2 ใบ ผสมกับอสุจิ 2 ตัว แล้วแยกอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ แฝดเทียมไม่จำเป็นจะต้องผสมไข่ในวันเดียวกันก็ได้ อาจจะเป็นการผสมกันอีกวันสำหรับ ไข่ 1 ใบและอสุจิอีก 1 ตัวหลังจากนั้นไม่เกิน 4 สัปดาห์ เหมือนพี่น้องที่อายุห่างกันแล้วอยู่ในครรภ์เดียวกัน

     

    กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกรูดซิบปิดลง การเดินทางมาในตอนแรกที่ยังไม่แน่ใจถึงเวลากลับทำให้ของในกระเป๋าค่อนข้างเยอะ และในที่สุดก็ถึงเวลากลับ  ร่างเล็กค่อยๆลากมันออกจากห้องที่พึ่งถูกเช่าได้ไม่นาน เสียงประตูปิดลง ดวงตาเล็กที่บวมแดงมองประตูห้องช้าๆ พร้อมกับหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลผ่านแก้ม และหยดลงบนพื้นพรมสีน้ำเงิน

     

    130610

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    นี่มินจี เราคุยกันมาสามปีกว่าแล้วนะ เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันล่ะ?

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    มินจีก็อยากเจอจองกุกนะ เดือนหน้ามินจีจะกลับเกาหลีแล้วล่ะ จองกุกจะมารับมินจีไหม?

     

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    แน่นอน เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอที่สนามบินเลย อยากเจอไวๆจังเลยนะ

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    อยากเจอไวๆ ไม่อยากเจอมินจีหรอ?55555 ล้อเล่นนะ อยากเจอจองกุกไวๆเหมือนกัน

     

     

    130715

    สนามบินที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมาย และคนทิ้งถิ่น ทุกคนต่างเดินกันอย่างวุ่นวาย บางคนรีบบ้างไม่รีบบ้าง ร่างสูงในชุดเสื้อยืด และสวมทับด้วยฮู้ดสีแดงกำลังยืนจ้องนาฬิกาข้อมือของตนเองอย่างใจจดใจจ่อ วันที่เขากำลังรอคอยมาถึง เขาแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งผ่าน Penpal World หรือเว็บไซต์แลกเปลี่ยนเพื่อนเพื่อภาษาและมิตรภาพนั่นเอง เขาคุยกับผู้หญิงคนนี้ได้ประมาณสามปี เธอเป็นคนเกาหลีที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาเพราะปัญหาบางอย่าง

     

    บางครั้งการที่ชอบใครสักคนหนึ่งอาจไม่ใช่ที่หน้าตา จองกุกชอบมินจีที่ว่าเธอเข้าใจจองกุกทุกอย่าง หลายต่อหลายครั้งที่จองกุกรู้สึกท้อแท้ แต่พอได้รับข้อความให้กำลังใจจากเธอ จองกุกจะยิ้มได้ทุกครั้ง นั่นแหละคือเหตุผลที่จองกุกชอบเธอมาสามปีกว่า

     

    เมื่อถึงเวลาที่เครื่องลงจอด จองกุกก็ไม่รอช้ารีบคว้าโทรศัพท์มือถือของตนเองมากดโทรออกอย่างรวดเร็ว ความจริงเขาขอเบอร์ของมินจีไว้เมื่อวันก่อนเพื่อความสะดวกในการหากัน รอบแรกโทรศัพท์ของเธอกำลังปิดอยู่ เขาจึงเว้นระยะห่าง และกดโทรออกอีกครั้ง

    “ฮัลโหล เอ่อ.. มินจีหรือเปล่า?”

    [ห้ะ อ..เอ่อ จองกุกหรอ?]

    “ใช่ ฉันเอง.. เสียงเธอน่ารักมากเลยนะ ฉันรออยู่ที่หน้าเกท8 ใส่ฮู้ดสีแดง”

    [อ่า.. อื้ม ฉันจะรีบไปนะ แค่นี้ก่อนนะ]

    “ครับ”

    จองกุกยิ้มบางๆให้กับโทรศัพท์ของตัวเอง ขนาดในรูปยังน่ารักขนาดนั้น แล้วตัวจริงจะน่ารักขนาดไหนนะ

     

     

    ร่างเล็กที่ไม่คุ้นทางในสนามบินได้แต่มองซ้ายมองขวา เขาเดินไล่ตั้งแต่ประตูเกท 13 จนมาถึงเกท 8 ก็ทำเอาหอบอยู่ เพราะกระเป๋าเดินทางที่ตนเองขนมานั้นไม่ใช่น้อยๆ ตาเล็กๆที่ถูกปิดด้วยแว่นสายตากรอบดำหนาเตอะพยายามสอดส่ายสายตามองหาคนที่ใส่ฮู้ดสีแดงอยู่

    “คุณ..”

    ไมนานก็มีสัมผัสที่ไหล่ขวา ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังกลับไปมองคนที่สะกิดตน แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

    “เอ่อ.. ใช่มินจีหรือเปล่า?”

    “อ่า.. อื้มฉันเอง.. เอ่อ สวัสดีนะจองกุก”

    “ว่าแล้วว่าต้องเป็นเธอ” จองกุกยิ้ม แล้วคว้ารถเข็นที่ขนกระเป๋าเดินทางมาจากมือของคนที่ตัวเล็กกว่า “นี่ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอก ฉันไม่คิดว่าเธอจะซอยผมสั้นขนาดนี้ เพราะวันก่อนรูปดิสเธอผมยังยาวประบ่าอยู่เลย ฮ่าๆ แต่ยังไงก็น่ารักดีนะ”

    “ห้ะ? อื้ม.. เอ่อ ฉันกลัวว่าอยู่นี่แล้วมันจะร้อนน่ะ เลยตัดผมออกไป”

    “อ๋อ เสียงเธอแหบๆด้วยนะ ไม่สบายหรือเปล่า? สวมเสื้อผ้าซะหน้าเชียว”

    “เปล่า.. คือมันเป็นสไตล์น่ะฮ่ะๆ”

    “อ๋อ แล้วเธอจะให้ไปส่งไหนดีล่ะ?”

    “คือฉันจองโรงแรมไว้แล้วล่ะ เดี๋ยวฉันหยิบแผนที่ให้ดูนะ” คนตัวเล็กพูด ในขณะที่เดินตามจองกุกที่ตัวสูงกว่าไปที่ลานจอดรถ จองกุกหันมายิ้มแล้วพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงตกลง เขาลอบมองคนตัวเล็กกว่าอยู่เป็นระยะ แล้วแอบหัวเราะให้กับท่าทางที่ดูเอ๋อๆนั้น เป็นอย่างที่เขาคิดนั่นแหละ มินจีตัวจริงต้องน่ารักแบบนี้  

    “มินจี พูดไม่เก่งเหรอ?” ทันทีที่ถึงรถ จองกุกก็ถามขึ้นทันที

    “อื้ม.. ฉัน.. ชอบพิมพ์มากกว่า”

    “ชอบพิมพ์ แล้วไม่ชอบฉันเหรอ?”

    “มุขบ้าไร? เอ้าแผนที่”

    จองกุกหัวเราเล็กน้อยกับท่าทีเขินอาย แล้วรับแผนที่มาจากมือของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ตากลมโตมองรายละเอียดของแผนที่แล้วเริ่มออกรถ ท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีดำ มีแสงไฟสีส้มจากรถ และเสาไฟฟ้า เสียงการจราจรภายนอกทำให้บรรยากาศในรถไม่เงียบมากเกินไป

    “จองกุก เปิดเพลงได้มั้ย?”

    “เอาสิ เทปอยู่ในลิ้นชักรถน่ะ”

    “เห? นี่นายฟังเทปเหมือนที่บอกในข้อความจริงๆเหรอเนี่ย?”

    “จริงสิ ฉันจะโกหกเธอทำไมล่ะ?” จองกุกมองมือเล็กๆที่เอื้อมไปเปิดลิ้นชักตามที่ตนเองบอก มือขาวควานเลือกตลับสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านเพลง แล้วใส่เข้าไปในตลับ เสียงเพลงดังขึ้นเบาๆในช่วงประมาณกลางเพลง เพราะฟิล์มในเทปไม่ตรงล็อค จองกุกขมวดคิ้วกับจังหวะของเพลงที่คนข้างๆเลือก

    “เธอชอบเพลงแนวนี่เหรอ? ตอนที่เธอบอกฉันมันไม่ใช่นี่”

    “ห้ะ? ตอนไหน?”

    “ตอนครั้งแรกที่เราคุยกันเลยน่ะ”

    “เอ่อ.. ฉันเปลี่ยนแนวแล้ว พึ่งเปลี่ยนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แนวนี้แบบ.. มันส์ดีอ่ะ แบบน่าลุกขึ้นเต้นไรงี้อ่ะ” เขาขยับแขนขึ้นลง และโยกสะโพกเล็กน้อยประกอบคำพูด ทำเอาจองกุกหัวเราะ แล้วพยักหน้าเบาๆ อีกสามซอยก็ถึงซอยคอนโดของมินจีแล้ว เขามองนาฬิกาดิจิตอลเล็กน้อย ก็พบว่านี่ห้าทุ่มกว่าแล้ว

    “กินข้าวหน้าซอยก่อนนะ เธอคงจะหิว”

    “เอาสิ” จองกุกจอดรถข้างถนนทันที ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางเป็นร้านที่จองกุกเลือก เขาเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ผู้ร่วมทาง คนตัวเล็กกว่ายิ้มให้เล็กน้อย แล้วเดินออกมานั่งรอที่โต๊ะ จองกุกล็อคประตูรถแล้วเดินตามมาอีกที

    ไม่นานก๋วยเตี๋ยวทั้งสองชามก็หมดเลย จุดมุ่งหมายก็กลายเป็นคอนโดอย่างแท้จริง

    “ขอบคุณที่มาส่งนะจองกุก.. เอ่อขอบคุณที่เลี้ยงข้าวด้วย”

    “อื้ม วันหลังไปเที่ยวกันนะมินจี”

    “อ่า ได้สิ”

    “มีอะไรก็คาโอะมานะ แต่ความจริงเราก็ต้องคุยกันทุกวันอยู่แล้วนี่นา”

    “นั่นสินะจองกุก.. คือดึกแล้วอ่ะ ง่วงด้วย..”

    “โอเค ฝันดีนะมินจี”

    “ฝันดีจองกุก” ร่างเล็กเดินลากกระเป๋าเข้ามาในห้องพักอย่างเหนื่อยอ่อน ความจริงจองกุกส่งเขาแค่ที่หน้าล็อบบี้ เพราะเขาปฏิเสธไม่ให้จองกุกขึ้นมาถึงบนห้อง ซึ่งจองกุกก็เข้าใจว่าผู้ชายขึ้นห้องผู้หญิงคงไม่ดี แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น ในเมื่อคนที่มาส่งไม่ใช่ผู้หญิง และเสียงข้อความก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันทีที่วางของลงกับพื้น

    JK : ฝันดีนะมินจี

    ---------------MULTIPLE--------------

    จีมินและมินจีเป็นแฝดชายหญิงที่หน้าเหมือนกันมาก แต่ที่ต่างคือนิสัย ในขณะที่จีมินร้อนเป็นไฟ มินจีกลับเป็นน้ำเย็น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มินจีถูกแม่เลือกให้เป็นพี่สาว ทั้งที่จีมินคลอดออกมาก่อนถึงสามนาที มินจีมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอตั้งแต่เด็ก ทำให้ครอบครัวปาร์คต้องย้ายไปอเมริกาถึงสิบปี

    มินจีไม่มีเพื่อนในชีวิตจริง เพื่อนในโลกออนไลน์คือทุกอย่างสำหรับเธอ เป็นสิ่งที่แก้เหงาให้เธอได้ และวันหนึ่งเธอก็รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อจอน จองกุก มินจีตกหลุมรักจองกุก

     

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    สวัสดี ชื่อมินจีเหรอ?

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    อื้ม ฉันชื่อมินจี นายคงจะชื่อจองกุกสินะ

    นี่คือการทักทายครั้งแรกของทั้งคู่ ก่อนที่มินจีจะหายตัวไปถึงสัปดาห์

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    มินจี ทำอะไรอยู่?

     

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    ทำไมเธอไม่ตอบฉันแล้วล่ะ?

     

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    มินจี เธอโกรธอะไรหรือเปล่า?

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    ขอโทษนะจองกุก ฉันยุ่งนิดหน่อยน่ะ ตอนนี้คุยได้แล้ว

    ---------------MULTIPLE--------------

    “มินจี อาหารไม่อร่อยหรือไง?” จองกุกถามขึ้น เมื่อเห็นร่างบางตรงหน้าของตนเหม่อมองออกไปนอกร้านเกือบตลอดเวลา จนอาหารในจานตรงหน้าเริ่มเย็นชืด เขาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มแหยให้จองกุก ส่ายหัวเล็กน้อย แล้วค่อยๆตักอาหารในจานขึ้นมา ตาเรียวเล็กมองอาหารในช้อนเล็กน้อย มีเม็ดพริกสีเหลือง หรือพริกที่เต็มเม็ดติดมาเยอะมาก เยอะขนาดที่คนกินเผ็ดไม่ได้ต้องรู้สึกขนลุก และนั่นคือเหตุผลที่คนตรงหน้าจองกุกไม่กล้ากิน

    “มีอะไรหรือเปล่ามินจี? เธอเคยบอกว่าชอบอาหารเผ็ดไม่ใช่หรือไง? ฉันสั่งที่เผ็ดที่สุดในร้านให้เลยนะ”

    “อ่า ฉันว่ามันเยอะเกินไป.. นายแบ่งไปหน่อยสิ นะๆ”

    “ได้สิ” จองกุกยื่นจานตัวเองไปให้คนตรงหน้า เขาตักส่วนที่เป็นพริกเยอะๆให้จองกุกอย่างไม่ต้องคิด และเมื่อเหลือบมองก็เห็นจองกุกขมวดคิ้วเล็กน้อย

    “เธอไม่ชอบอาหารเผ็ดแล้วหรือไง?”

    “ห้ะ? ชอบสิ ชอบมากกก แต่แบบ.. ช่วงนี้แสบท้องไง กินเผ็ดมากไม่ได้”

    “อ๋อ ขอโทษนะที่ไม่ถามก่อน งั้นถ้าเธอหายแล้ว วันหลังเราไปกินอะไรเผ็ดๆกันดีกว่าเนอะ” แทบปาช้อนในมือใส่หน้า แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มแหย แล้วพยักหน้า และเริ่มกินอาหารต่อ

    มินจีกินเผ็ด แต่จีมินไม่..

     

    “มินจีขึ้นรถไฟเหาะมั้ย?” สวนสนุกคือสิ่งที่จองกุกพาร่างบางมาในวันนี้ นิ้วเรียวชี้ไปที่รถไฟเหาะที่สูงมากจนร่างบางหน้าซีดแล้วรีบส่ายหน้ารัว

    “เล่นม้าหมุนกันเถอะ จองกุกอ่า..”

    “แต่เธอบอกว่าชอบเครื่องเล่นสูงๆไม่ใช่เหรอ?”

    มินจีชอบเครื่องเล่นหวาดเสียว ในขณะที่จีมินกลัวความสูง

     

    “มินจี แมวตัวนั้นน่ารักเนอะ” จองกุกชี้ไปที่แมวเปอร์เซียที่นั่งอยู่บนตักคุณยายในขณะที่เดินอยู่ในสวนสาธารณะ จีมินยู่ปากเล็กน้อย และชี้ไปที่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอีกตัวที่นอนอยู่บนพื้น

    “อ่า.. ลูกหมาที่อยู่ข้างๆน่ารักกว่าอีก”

    “มินจี เธอบอกฉันว่าเธอกลัวหมา..”

    มินจีชอบแมว จีมินชอบสุนัข

     

     

    ความแตกต่างราวฟ้ากับเหว จีมินไม่เคยชอบในสิ่งที่มินจีชอบ ยกเว้นจองกุก..

     

    ---------------MULTIPLE--------------

    [ฮัลโหล เป็นไงบ้างจีมิน?]

    “ก็โอเค.. ตอนนี้พี่อยู่ไหนอ่ะ?”

    [อยู่บ้านดิ พี่จินไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยอ่ะ]

    “เอ้า แล้วพี่โฮซอกจะมาหาผมได้ตอนไหน?” เขาเอ่ยถามปลายสาย ซึ่งเสียงก็เงียบหายไปสักพัก ถ้าให้เดาก็คงจะนั่งคิดเวลาว่างของตนที่ปราศจากพี่ชาย

    [ก็.. มะรืนแหละ มีอะไรรีบหรือเปล่าล่ะ?]

    “ของใช้บางอย่างมันขาดๆไป.. แต่ก็ไม่รีบหรอก มะรืนเจอกันก็ได้”

    [โอเค แล้วเรื่องของคนที่ชื่อจองกุกล่ะ?]

    “ก็.. ยังหาจังหวะบอกไม่ได้”

    […]

    “ไม่กล้าด้วยแหละ”

    [พยายามเข้าละกัน อย่าให้นานไปกว่านี้เลย มันอาจจะมีผลต่อหัวใจของนายด้วยนะ]

    “อื้ม พี่ว่าถ้าเขารู้ความจริง.. เขาจะเกลียดผมมั้ย?”

    [อันนี้พี่ก็เดาไม่ถูกหรอกนะ อาจจะเกลียดก็ได้ หลอกเขามาตั้งหลายปีนี่]

    “งั้นเหรอ..”

    [ไม่แน่หรอกจีมิน แต่ทางที่ดีก็รีบๆบอกเขาไปเถอะ]

    ---------------MULTIPLE--------------

    “พี่มินจีต้องไม่เป็นอะไรนะ!” เสียงเล็กดังขึ้นข้างใบหูที่ขาวซีดของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าที่ซีดเซียวหันมามองเด็กหนุ่มที่ใบหน้าเหมือนกับเขาข้างเตียงช้าๆ ปากที่เคยอมชมพูค่อยๆยกยิ้มขึ้นมาให้น้องชาย มือที่หนังติดกระดูกถูกยกขึ้นมาแนบแก้ม

    “ฮึก.. พี่มินจีต้องอยู่กับผมสิ” ร่างบนเตียงได้แต่ส่ายหน้า น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากหางตา ปากที่แห้งผากเริ่มขยับพูดอย่างยากลำบาก

    “...กุก”

    “ครับ?” จีมินค่อยๆเอียงหูเข้าใกล้มากขึ้น

    “คุย.. คุยกับจองกุก.. พี่รั.. เขา”

    “...”

    “เขาต้อ.. รักน... คุยกับเข.. อยู่กับ.. เขา”

    “ครับ ฮึก” มินจีลูบใบหน้าของน้องชายช้าๆ ทั้งสองเสียพ่อแม่ด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน ทำให้เหลือกันอยู่แค่สองคน และวันนี้ก็จะเหลือแค่จีมินคนเดียว จีมินยังคงร้องไห้อยู่กับร่างบนเตียง เขาโอบกอดมินจีแน่น

    “ฮึก.. ผมรักพี่”

    “พี่ก็ร.. จีมิน..”

    ตื๊ดด ตื๊ด..
    และเสียงหมดเวลาของชีวิตก็ดังขึ้น แขนที่โอบกอดน้องชายก็ตกลงบนเตียง

    “มินอา! ฮึก.. พี่มินอาตื่นขึ้นมาสิ ฮือออ”

    ---------------MULTIPLE--------------

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    ขอโทษนะจองกุก ฉันยุ่งนิดหน่อยน่ะ ตอนนี้คุยได้แล้ว

    นี่คือข้อความแรกที่จีมินตัดสินใจส่งให้จองกุก หลังจากชั่งใจอยู่หลายวัน และเพียงไม่นานจองกุกก็ส่งข้อความกลับมา

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    ฉันคิดว่าเธอจะไม่ชอบหน้าฉันแล้วเสียอีก..

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    ไม่หรอก.. ฉันชอบนายน่า ฉันแค่ไปทำธุระมาน่ะ

     

    จีมินรู้ตัวว่าที่พิมพ์ตอนนั้น หมายถึงมินจีที่ชอบจองกุก แต่ภายหลังกลับไม่เป็นอย่างนั้น ทุกๆอย่างค่อยถลำลึกจนเกินไป มีทั้งที่จีมินรู้ตัว และก็เผลอตัวและเผลอใจให้กับจองกุก บทบาทมินจีในตัวนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวปลอมที่แสดงบทบาทได้แนบเนียน แนบเนียนตรงที่เขาเองก็รักจองกุกเหมือนที่มินจีรัก และมันก็ยากที่จะถอนตัวขึ้นมา จองกุกรักมินจี ไม่ใช่จีมิน นั่นคือสิ่งที่เขารู้ดี และอีกไม่นานบทบาทจอมปลอมของเขาจะต้องยุติลง และคนที่เจ็บก็คงจะเป็นทั้งสองฝ่าย

     

    อาจจะเจ็บเท่ากัน หรือจีมินที่เจ็บมากกว่า..

    ทั้งๆที่เรื่องง่ายๆเช่นเลิกคุยกับจองกุกไปเสียเลยก็ทำได้ แต่จีมินกลับไม่ทำ ก็อย่างที่บอกว่ามันถลำลึกเกินไปแล้ว

     

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    มินจีตัวจริงจะน่ารักเหมือนในรูปหรือเปล่าน้า~’

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    น่ารักสิ ฉันน่ะน่ารักมากๆเลยนะ

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    ฉันเชื่อแหละ5555555 ถ้าเราได้เจอกัน ฉันจะพาเธอไปเที่ยวทั่วประเทศเลย

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    อื้ม ฉันจะรอนะ

    จองกุกเล่าเรื่องต่างๆในประเทศเกาหลีให้มินจีฟัง โดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือจีมิน

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    เหนื่อยจัง..

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    มีอะไรไม่สบายใจอีกแล้วสินะ เล่ามาให้ฉันฟังสิ

    จีมินรู้ทุกครั้งที่จองกุกมีเรื่องที่กังวล หรือไม่สบายใจเพียงแค่ตัวอักษรที่เห็น

     ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    เกรดฉันตก.. ฉันเหนื่อยจัง

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    ฉันเชื่อว่าจองกุกมีความพยายามนะ ต่อไปนายก็อ่านหนังสือให้เยอะขึ้น

    ฉันเอาใจช่วยนะ สู้ๆ

    จีมินรู้วิธีปลอบใจเวลาจองกุกท้อแท้

    การรับรู้ทุกอย่างในฐานะมินจี จองกุกตกหลุมรักมินจี ที่เป็นหน้ากากของจีมิน

    ---------------MULTIPLE--------------

    [ฮัลโหล.. จีมินยังอยู่ป้ะเนี่ย?]

    “ห้ะ? อ่าครับๆ”

    [ยังไงมีอะไรก็โทรมาได้นะ ฉันก็ญาติห่างๆนายคนนึง]

    “ขอบคุณครับ”

    [อื้ม นอนละนะ ฝันดี]

    “ครับ ฝันดี”

    จีมินกดวางสายโทรศัพท์ และทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน  หลายต่อหลายครั้งที่จีมินอยากจะตะโกนบอกจองกุกดังๆ ว่าฉันชื่อจีมิน! ในทุกครั้งที่จองกุกเรียกเขาว่ามินจี แต่ก็ไม่อาจทำได้ และหลายต่อหลายครั้งที่จองกุกทำทุกอย่างให้เขา แต่กลับหมายถึงมินจี จีมินก็อยากจะปล่อยโฮเสียตรงนั้น อยากจะร้องบอกว่านั่นคือสิ่งที่มินจีชอบ และเขาคือจีมิน เขาคือด้านตรงข้ามของมินจี มินจีคือสีขาว เขาคือสีดำ..

    เขาคือสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ เขามีหน้ากากปิดอยู่บนหน้าตลอดเวลากับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจองกุก

    และยิ่งอยู่ใกล้จองกุก หน้ากากของมินจีก็จะหลุดในทุกเมื่อ ..

    “พี่มินจี.. ผมเหนื่อยเหลือเกิน” จีมินซุกใบหน้าลงกับหมอนใบโต แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง ราวกับต้องการให้มินจีที่อยู่บนฟ้ารับรู้ถึงความอ่อนแอของน้องชาย

     ---------------MULTIPLE--------------

    สองวันก่อนวันเกิดจองกุก..

    “นี่มินจี ปีหน้าฉันจะพาเธอไปฝรั่งเศสแหละ”

    “อะไรของนาย จองกุก?”

    “ปีหน้าฉันจะถูกส่งไปทำทัวร์ที่ปารีส ฉันจะพาเธอไปด้วยนะ” จองกุกพูด และยิ้มให้คนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ จีมินยิ้มบางๆ และก้มหน้าลงมองตักของตัวเอง  พลางพยักหน้าช้าๆ

    “ถ้าฉันอยู่นะ..”

    “หืม? หมายความว่าไง? มินจีจะทิ้งฉันไปไหน?”
    มินจีทิ้งนายไปตั้งนานแล้วจองกุก.. ที่อยู่ข้างๆคือจีมินต่างหาก

    “ไม่หรอก.. ฉันไม่ทิ้งนาย ฉันหมายถึงว่าเผื่อฉันติดธุระไง”

    “อ๋อ แล้วไป ฮ่าๆๆๆ มินจีอย่าทิ้งฉันไปนะ รู้มั้ยทั้งชีวิตนี้ฉันมีแค่เธอคนเดียว และฉันก็ไม่อยากมีใครอีกแล้วล่ะ”
    เพิ่มฉันเข้าไปได้มั้ย? เพิ่มจีมินเข้าไปอีกคนคงไม่ได้สินะ..

    “ขอบใจนะ”

    “ขอบใจทำไมล่ะเนี่ยย? อ๊ะ.. ไปกินไอติมกันเถอะ” เสียงรถไอติมที่เข็นผ่านเรียกความสนใจให้จองกุก เขาคว้ามือของจีมินให้ลุกขึ้น และเดินตาม จีมินก้มลงมองมือของจองกุกที่จับมือของเขาไว้ ความอบอุ่นมันแผ่ซ่านเข้ามา มันเป็นความรู้สึกคนละแบบกับความอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ความอบอุ่นที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายปี สัมผัสที่ถูกส่งให้ตัวปลอมอย่างจีมิน ทำเอามือเล็กสั่นไหว

    พี่มินจี ถ้าผมหยุด พี่จะโกรธผมมั้ย? ถ้าผมเลิกคุยกับจองกุก.. พี่จะเกลียดผมมั้ย?

    “มินจี ไม่สบายเหรอ? นี่.. ร้องไห้ทำไมน่ะ?” จองกุกเชยคางของจีมินที่ก้มหน้าขึ้นมา นิ้วโป้งค่อยๆปาดน้ำตาบนแก้มใสทิ้ง จีมินได้แต่ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหน้าช้าๆ

    “ไม่ว่าฉันจะเป็นอะไร นายก็จะอยู่กับฉันใช่มั้ย?”

    “แน่นอน”

    “จริงนะ?”

    “สัญญาเลยเอ้า” จองกุกยิ้ม แล้วยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าจีมิน ร่างเล็กมองนิ้วก้อยตรงหน้าแล้วก็ยิ้มออกมา นิ้วก้อยสั้นๆเลื่อนไปเกี่ยวอย่างไม่ลังเล “วันเกิดฉัน ฉันมีอะไรจะให้ด้วยนะ”

     “อื้ม วันเกิดนาย ฉันมีอะไรจะบอก”

    ถึงตอนสุดท้ายนายจะผิดสัญญา ฉันก็จะไม่โกรธ..

    ---------------MULTIPLE--------------

    ในหนึ่งวันเราสามารถพบคนใหม่ๆได้เป็นร้อยๆคน นี่คือสิงที่จอน จองกุกรู้เมื่อเขาเริ่มเข้าค่ายครั้งแรกในวัยสิบสองปี เขาเป็นคนตัวเล็กๆท่ามกลางคนหลายร้อยคน มันไม่น่าแปลกถ้าเขาจะรู้จักกับคนใหม่ๆในสถานที่เดียวกัน และในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่เขายังไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า และพวกเขาไม่สามารถมาปรากฏตัวในค่ายอนุรักษ์ให้จองกุกเห็นได้แน่ๆ

     

    ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สูงขึ้น สื่ออินเตอร์เน็ตที่เริ่มแพร่ขยาย PenPalWorld คือหนึ่งในเว็บไซต์ที่คนทั่วโลกเลือกที่จะใช้หาเพื่อนที่อยู่คนละประเทศ และนั่นคือหนึ่งในสิ่งที่จองกุกสนใจ

     

    หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะเจอคนที่ไม่จริงใจในสังคมออนไลน์ บางคนเข้ามาคุยได้พักหนึ่งก็หายไป ทั้งที่สถานะของเขายังคงขึ้นว่าออนไลน์อยู่ นั่นคือสิ่งที่จองกุกพบเจอจนเขาอายุได้สิบเก้าปี การตามหาเพื่อนที่จริงใจของเขาก็ยังไม่สิ้นสุด

     

    ติ๊งง
    มีคำร้องขอเป็นเพื่อน

    Park Minji ,USA ,20yrs old…

    ‘From Joen Jungkook

     To Park Minji

    สวัสดี ชื่อมินจีเหรอ?

    เป็นข้อความแรกที่จองกุกส่งไป และเพียงไม่นานปลายทางก็ตอบกลับมา

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    อื้ม ฉันชื่อมินจี นายคงจะชื่อจองกุกสินะ

     

    เขาคุยกับมินจีได้ไม่กี่วัน เจ้าตัวก็หายไป เหมือนคนปกติที่จองกุกเจอ แต่สำหรับมินจีมันกลับไม่ใช่ จองกุกพยายามส่งข้อความหาเจ้าตัวหลายต่อหลายครั้ง จนแทบท้อใจ และในที่สุดเขาก็ตอบกลับมา

     

    ‘From Park Minji

    To Joen Jungkook

    ขอโทษนะจองกุก ฉันยุ่งนิดหน่อยน่ะ ตอนนี้คุยได้แล้ว

     

    มินจีคือคนที่เข้าใจจองกุกทุกอย่าง นี่คือสิ่งที่จองกุกคิดมาเสมอ แต่จีมินกลับคิดว่าจีมินเป็นคนที่เข้าใจจองกุก

    ---------------MULTIPLE--------------

    130831

    ข้อความจากมินจี : พรุ่งนี้ฉันจะถอดหน้ากาก

    ---------------MULTIPLE--------------

    130901

    สวนสาธารณะตอนกลางคืนกลางกรุงโซล ต้นไม้ต้นหนึ่งถูกแต่งไปด้วยโคมไฟเล็กๆ สะท้อนเก้าอี้ม้านั่งสีขาวทำให้มันดูสวยงาม จีมินกับจองกุกกำลังนั่งอยู่

    “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเธอจริงๆ”

    “อ่า.. นั่นสินะ”

    “ฉันน่ะ รอข้อความเธอทุกวันเลยนะมินจี”

    “อื้ม ฉันก็รอข้อความนายทุกวันเหมือนกันนะ”

    “รู้มั้ย.. ตอนแรกฉันคิดว่าเธอจะเหมือนพวกที่ชวนคุยแล้วทิ้งไปเสียอีก ตอนเธอหายไปน่ะ ฉันใจเสียมากเลยนะรู้ป่าว ฉันน่ะ ไม่ชอบพวกที่ชอบโกหกเลย เธอคือคนที่ฉันไว้ใจที่สุดเลยนะ”

    “...ขอบใจนะ”

    “ฉันเชื่อว่าเธอน่ะเป็นคนดีมากๆเลยล่ะ และฉันก็เชื่อนะว่าเธอไม่เคยโกหกฉันเลย..” จองกุกนั่งพูดไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สนใจคนตัวเล็กข้างๆ จีมินก้มหน้ามองมือของตัวเองที่วางอยู่บนตักมันกำแน่นจนแดงไปหมด ปากของจีมินก็เม้มเข้าหากันแน่นเช่นกัน

    “มินจี.. ฉันชอบเธอนะ”

    “ฮึก..”

    “นี่เธอร้องไห้ทำไมน่ะ?”

    “ฮึก ฮือออ”

    “มินจี.. เป็นอะไร?”

    “ฮึก.. จองกุก.. ฉัน.. ฉันไม่ใช่มินจี”

    “อะไร.. นะ?”

    “ฮึก.. ฟังให้ดีจองกุก.. ฉันไม่ใช่มินจี!

    !!?” มือเล็กๆของจีมินล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตนเอง และยื่นกระดาษใบหนึ่งให้จองกุก จองกุกค่อยๆรัมันมา มันคือรูปถ่าย.. มีเด็กหญิงและเด็กชายที่หน้าตาเหมือนกันยืนอยู่ เด็กผู้หญิงที่ดูร่าเริงน้อยกว่า แต่กลับพยายามยิ้มให้เหมือนกับเด็กชายข้างๆ

    “มินจีมีน้องชายฝาแฝด..”

    “...”

    “พี่มินจีร่างกายอ่อนแอ ครอบครัวของเราย้ายไปอเมริกาตั้งแต่เรายังเด็ก พี่มินจีไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้ จึงมีหมอมาตรวจที่บ้านอยู่บ่อยๆ พี่มินจีไม่มีเพื่อนในชีวิตจริง เขาคุยกับเพื่อนออนไลน์อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคุยกันได้นานถึงเดือนพวกเขาก็หายไป ต่อมาพ่อแม่ของก็เสียชีวิต พี่มินจีอาศัยอยู่ในบ้านกับน้องชายสองคน.. พวกเขา.. พวกเขาไม่มีเงินที่จะรักษาพี่มินจีต่อ อาการของพี่เขาค่อยๆทรุดลง ฮึก.. ตอนนี้น้องชายของพี่มินจีถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว พร้อมกับชายแปลกหน้า จากประเทศบ้านเกิดที่พี่ทิ้งไว้ให้..”

    จองกุกนั่งฟังเรื่องที่จีมินเล่า พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงมา มินจีเสียแล้ว.. นี่คือสิ่งที่เขารับรู้

    “..ฉันชื่อจีมิน เป็นน้องชายฝาแฝดของมินจี คนที่นายรัก”

    “...”

    “จองกุก..” จีมินค่อยๆเอื้อมมือไปหมายจะจับจองกุกที่นั่งเงียบ แต่กลับโดนปัดอย่างแรง จองกุกลุกขึ้นยืน ปารูปในมือใส่หน้าจีมิน ร่างเล็กลุกขึ้นยืนตามทันที

    “อย่ามาจับฉัน!

    “จองกุก.. ฮึก.. สัญญา.. สัญญาที่นายเคยให้..”

    “ฉันให้สัญญานั้นกับมินจี ไม่ใช่นาย..”

    “จองกุก.. อย่าทิ้งฉัน..นะ”

    “ฉันเกลียดคนที่ชอบโกหก”

    “ขอโทษ ฮึก.. ขอโทษจริงๆ”

    “ไปไกลๆ..”

    “จองกุก.. ขอร้อง อย่าไล่ฉัน..” จีมินพุ่งไปกอดแผ่นหลังจองกุก น้ำตาหยดใสไหลหยาดจนท่วมใบหน้าหวาน จองกุกก้มหน้ามือกุมจมูกเอาไว้ น้ำตาของจองกุกก็ไหลเหมือนกัน..

    “ฉันเกลียดนาย”

    “ฮึก ฮือออ” จองกุกแกะมือจีมินที่กอดเอวออก แล้วเดินออกไป..

    หน้ากากถูกถอดแล้ว

    ---------------MULTIPLE--------------

    พึ่งรู้ว่าการอยู่คนเดียวมันเหงาอย่างนี้
    จีมินนั่งกอดเข่าที่ระเบียง ดวงตาเล็กมองออกไปที่ท้องฟ้า คืนนี้ไม่มีดาว.. หรืออาจจะมีแต่อาจถูกแสงไฟจากเมืองกลบอยู่ กระเป๋าเดินทางที่แพ็คเรียบร้อย ไม่คิดว่าต้องกลับเร็วขนาดนี้ จีมินลุกขึ้นลากมันออกจากห้องช้าๆ ร่างเล็กๆถูกคลุมด้วยโค้ทหนา

    “ขอโทษนะครับ ช่วยเรียกรถแท็กซี่ไปสนามบินให้หน่อย”

    ---------------MULTIPLE--------------

    หลายต่อหลายครั้งที่สเป๊คของคนเราถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อพบคนใหม่ๆ เราอาจไม่ได้ถูกใจที่หน้าตา แต่เรากลับถูกใจที่นิสัยของเขา

    มินจีไม่ได้มีใบหน้าที่ดึงดูดจองกุกตั้งแต่แรก จองกุกแค่ทักเขาเหมือนคนอื่นทั่วไปที่แอดเขามาก็แค่นั้น แต่สิ่งที่ทำให้จองกุกสนใจคือการพูดคุยของมินจี น่าแปลกที่คุยกันช่วงแรกๆมันกลับไม่มีอะไรเลย ทั้งสองแค่ถามกันว่าอีกคนชอบอะไร เช่นชอบกินอะไร ชอบทำอะไร ชอบดนตรีแนวไหนก็แค่นั้น

    แต่เรื่องมันน่าสนใจหลังจากที่มินจีหายไปต่างหาก
    มันมีแรงดึงดูดที่ทำให้จองกุกอยากตื๊อให้มินจีตอบข้อความของตน

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ทันทีที่มินจีตอบ การสนทนามันกลับวิเศษณ์ขึ้นมาอย่างน่าใจหาย มินจีรู้จักจองกุกผ่านตัวอักษร เหมือนกับที่จองกุกรู้ใจมินจีผ่านตัวอักษรเช่นกัน รู้ตัวอีกทีการสนทนานั้นก็นานนับปีได้

    มินจีตายแล้ว
    นี่คือสิ่งที่ดังอยู่ในหัวจองกุกตอนนี้ จะไม่มีคนที่รู้ใจเขาอีกแล้ว จะไม่มีข้อความน่ารักๆอีกแล้ว

    สิ่งที่จองกุกมองข้ามมีเยอะแยะมากมาย เขาใช้ความโกรธ เขาไม่ได้ใช้ความคิด

    แต่ถ้าคิดได้สักนิด เขาจะรู้ว่าคนที่รู้ใจเขาคือจีมิน ไม่ใช่มินจี..

    และถ้าเขารู้ใจตัวเองอีกนิด

    เขาจะรู้ว่านิสัยที่เขาตกหลุมรักนั้นเป็นของจีมิน ไม่ใช่มินจี

    To be con..

     

    ------------------------------------------------------------
    TALK 
    ขออนุญาตแปะไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้ติดขัดเรื่อง REVERSE มาก คือคิดตอนจบไว้เยอะมากเลือกไม่ได้
    อันนี้ก็ดราม่ามั้ง แต่น้อยกว่า BLIND แน่นอน55555555 อาจจะอัพช้านิดนึง แต่ถ้าเม้นท์เยอะ แท็กแยะ
    ไรท์ก็จะมาอย่างเร็วรวด.____.

    อย่าลืมแท็กของเรา #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง 

     

    TALK 2
    แน่นอนว่ามีต่อ หรืออาจจะจบแบบนี้เลยถ้าเม้นท์น้อย5555555555555555
    เม้นท์ + แท็ก #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง ด้วยน้ออ
    ติดต่อกันได้ @lovelyjimin_

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×