ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS-SF] TAOHUN On & On

    ลำดับตอนที่ #3 : Christmas Eve { I }

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      2
      25 ธ.ค. 57
























    วันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี คือ วันคริสต์มาสอีฟ ก่อนถึงวันคริสต์มาส ตามความเชื่อในตำนานในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เด็กๆ จะเอาถุงเท้าไปแขวนไว้หน้าเตาผิง เพราะเชื่อว่าซานต้าจะปีนลงมาตามปล่องไฟ และเอาของขวัญใส่ไว้ในถุงเท้าที่มีชื่อของแต่ละคนติดไว้ พอตอนเช้า เด็กๆ จะรีบตื่นมาตรวจถุงเท้าของตัวเองว่ามีของขวัญจากซานต้าหรือไม่

    ซึ่งก็เหมือนกับทุกปีโอเซฮุนก็จัดเตรียมของขวัญให้เด็กๆ อย่างทุกปี เพียงเพราะไม่อยากให้เด็กๆ ผิดหวังและเสียใจที่ความเชื่อของพวกเค้าถูกทำลายลงในวันคริสต์มาส

    บ้านหลังเล็กๆ ที่ดูแลเด็กน้อยไว้มากมายหลายคน จะว่าเป็นบ้านเด็กกำพร้าก็ไม่ใช่ เพราะเค้าไม่ได้เลี้ยงเด็กมากมายขนาดนั้น แต่ที่เลี้ยงอยู่ทุกคนคือลูกของเพื่อนที่มีในวัยที่ยังไม่พร้อม หรือไม่ต้องการ เพราะด้วยความสงสารและความรักเด็กของเซฮุน จึงเสนอเป็นคนรับเลี้ยงไว้เอง ทั้งๆ ที่เงินเดือนแต่ละเดือนจะต้องเอามาเบียดกระเสียรค่าเลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ แต่เค้าก็ยังยืนยันที่จะเลี้ยงเด็กห้าคนนี้ต่อไป ถึงจะลำบากไปบ้าง แต่เค้าก็มีความสุขมากกับสิ่งที่เค้าเลือก



    “พี่แบค อย่าแกล้งน้องคยองซูสิ”

    เซฮุนเอ็ดเด็กชายตัวอวบที่แกล้งน้องตาโตจนหน้าบิดเบี้ยวเพราะความโกรธเคือง มือของแบคฮยอนยังอยู่บนแก้มของเด็กน้อยตาโต และยังบีบเคล้นสนุกมือ เพราะชอบแก้มนิ่มนี้เหลือเกิน ตากลมโตมีน้ำตาคลออยู่เต็มหน่วยพร้อมจะระเบิดออกมาได้ในทันที

    เซฮุนส่ายหน้ากับความดื้อ และแสบของแบคฮยอน พรางจับทั้งสองคนแยกออกจากกัน คยองซูปล่อยน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เกาะขาของม่ะม๊าแน่น

    “ม่ะม๊า ฮึก....พี่แบคแกล้งน้องคยองซูอีกแล้วฮะ ม่ะม๊า ฮึกๆ”

    “โอ๋ๆ~ คยองซูไม่ร้องนะครับคนดี” นั่งคุกเข่าลูบหัวปลอบประโลม “พี่แบคม่ะม๊าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าแกล้งน้องคยองซู”

    “แบคขอโทษฮะ U___U แบคแค่อยากเล่นกับน้องคยองซู แบคชอบแก้มของน้องคยองซู แก้มของน้องคยองซูนิ๊มมมม~ นิ่ม”

    เด็กชายวัยสี่ขวบเอ่ยเจรจาดูไร้เดียงสา เซฮุนรู้ว่าเด็กน้อยนี่ยังไร้เดียงสา โกหกไม่เป็นเหมือนผุ้ใหญ่สมัยนี้ คงจะชอบน้องคยองซูอย่างที่เจ้าตัวว่านั่นแหละ

    “ชอบน้องก็อย่าแกล้งน้องสิ”

    “น้องคยองซู พี่แบคขอโทษนะ” ขอโทษอย่างสำนึกผิด และกอดคยองซูแน่น

    “ก็ได้ฮะ พี่แบคอย่าแกล้งน้องคยองซูอีกนะฮะ” บอกเสียงอู้อี้ ถูไถหน้ากับเสื้อของพี่ชาย

    “พี่แบคไม่แกล้งแล้ว” ผละออกมองหน้าน้องคยองซู “พี่แบคขอหอมแก้มน้องคยองซูนะ”

    “กะ..ก็ได้ฮะ -/////-

    ไม่รอให้พูดจบแบคฮยอนจัดการฟัดแก้มยุ้ยน่ารักของคนตัวเล็กกว่า ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี

    เซฮุนยิ้มชื่นบาน เด็กหนอเด็ก โกรธกันเดี๋ยวเดียวก็หาย เด็กน้อยพวกนี้จะสะอาดบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะทำให้แปดเปื้อน และเสียใจ ไม่อยากให้เด็กพวกนี้โตขึ้นมารับรู้ความเป็นจริงของโลกภายนอกเลย แต่เวลาก็ช่วยพวกเค้าเรียนรู้ไปเอง






    “ย่าส์! เอาของฉันคืนมานะชานยอล!

    “ไม่ให้หรอก แบร่ :p

    “บอกให้เอามาไง”

    “จับให้ได้สิ แบร่ๆๆๆ :p :p :p

    ร่างเล็กวิ่งวนไปมาภายในบ้าน เพราะเอาแต่วิ่งและมองไปที่คนวิ่งตามจนไม่ได้มองข้างหน้าว่าม่ะม๊าคนสวยของตนยืน จึงชนเข้าเต็มๆ



    “โอ๊ะ!

    “จับได้แล้ว เอาของฉันคืนมาเลย” เด็กน้อยผิวสีแทนแย่งหุ่นยนต์ในมือของอีกคน แล้ววิ่งหนีไป เจ้าตัวกำลังจะวิ่งตาม แต่ถูกม่ะม๊าคนสวยรั้งเข้ามากอดไว้ก่อน

    “บอกม่ะม๊ามาซิ ว่าแกล้งอะไรน้องจงอิน”

    “ง่า~ ม่ะม๊า ยอลก็แค่อยากเล่นหุ่นยนต์ของน้องจงอินนี่ฮะ” เด็กน้อยตอบแก้มป่อง

    ม่ะม๊าคนสวยหมั่นเขี้ยวจึงฟัดแก้มของขาวๆ ของพี่คนรองอย่างหมั่นเขี้ยว เด็กคนนี้นับว่าดื้อที่สุดในบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะนิสัยที่ชอบเฮฮา สนุกสนาน ชอบก่อกวนน้องคนกลาง และพี่ชายคนโต ทำให้โดนแกล้งคืนอยู่เป็นประจำ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มได้ มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของ ปารค์ชานยอล แฮปปี้ไวรัส

    “แล้ววันที่ไปซื้อทำไมยอลถึงไม่ซื้อเหมือนกับน้องล่ะ”

    “ก็...ตอนนั้นชานยอลอยากเล่นจิ๊กซอว์นี่ฮะ”

    “แล้วทำไมไม่ต่อให้เสร็จล่ะครับ”

    เซฮุนถาม ตามองไปยังกองจิ๊กซอว์ที่ชานยอลกองรวมๆ กันไว้ อาจจะเพราะต่อไม่ได้เลยทำให้ชานยอลไม่อยากต่อ

    “ยอล...เบื่อแล้วนี่ฮะ” ชานยอลตอบเสียงแผ่ว

    “อืม... แล้วทำไงดี ม่ะม๊าเอาไปทิ้งดีมั้ย?”

    “ยะ..อย่านะฮะ!

    “ทำไมล่ะ?”

    “เดี๋ยวยอลเอาไปให้พี่คริสช่วยต่อฮะ”

    ชานยอลโยนงานไปให้พี่ชายคนโต คนที่ถูกพาดพิงเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านมองหน้าน้องชายตัวแสบ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน และยังยิ้มกว้างกลับไปให้อีกต่างหาก คริสจึงกลับไปสนใจกับหนังสือต่อ




    คริส หรือ อู๋อี้ฟานเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน และเป็นลูกครึ่ง จีน-แคนนาดา มีนิสัยเงียบ ขรึม แต่รักน้องทุกคน เป็นคนที่ตั้งใจเรียนมาก เขามักจะได้คะแนนดี ท็อปของห้องเสมอ ต่างจากปาร์คชานยอลที่เป็นคนสดใสร่าเริง ยิ้มง่าย และเบื่อง่าย มักจะทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ยังชอบป่วนน้องๆ และพี่ชายจนเป็นสีสันของบ้านไปแล้ว  ส่วนคิมจงอินเป็นคนกลางของบ้าน มักจะชอบเล่นคนเดียวเพราะ ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง แต่ก็จะโดนชานยอลแกล้งทุกครั้ง บยอนแบคฮยอนเป็นเด็กที่แสบพอๆ กับชานยอล แต่ส่วนมากจะแกล้งแค่คยองซูซึ่งเป็นน้องเล็กของบ้าน 

    ถ้าจะถามว่าเหนื่อยไหมที่ต้องเลี้ยงดูเด็กดื้อทั้งห้าคนลำพัง บอกเลยว่าเหนื่อยมาก แต่พอเห็นรอยยิ้มของพวกเค้า มันทำให้กำลังของเซฮุนกลับคืนมาได้เสมอ




    เซฮุนอายุแค่ 25 ยังไม่มีแฟน และยังไม่ถึงวัยที่จะมีลูกได้ถึงห้าคน โดยที่คริสพี่ชายคนโตของบ้านห่างกับเซฮุนแค่ 9 ปี เซฮุนรับคริสมาดูแลตอน 2 ขวบ ซึ่งเป็นเวลานานพอสมควร เซฮุนเองก็ไม่ใช่เด็กกำพร้าที่ไหน มีทั้งพ่อ และแม่ครบครอบครัว แต่ท่านทำงานอยู่ต่างประเทศ มีบางช่วงเวลาที่เหงาต้องการมีคนอยู่ข้างๆ แต่พอมีเด็กห้าคนนี้มาอยู่ด้วยก็หายเหงาไปเลย

    เซฮุนมีความสุขกับสิ่งที่ทำจัง ^___^









    “ม่ะม๊าฮะ” มือน้อยกระตุกกางเกงเบาๆ “พี่แบคบอกว่าพวกเราไม่มีป่ะป๊าเหรอฮะ”

    คำถามของคยองซูทำให้เซฮุนเงียบไป จะให้ตอบอย่างไรดี ทั้งๆ ที่เตรียมใจกับคำถามนี้มานานแล้ว คิดว่าสักวันมันต้องมาถึง แต่เจอเข้าจริงๆ กลับทำได้แค่เงียบ เพราะเค้าไม่รู้จะตอบอย่างไรให้ลูกชายตัวน้อยเข้าใจ

    คริสปิดหนังสือลง เข้ามากอดน้องชายจากด้านหลังหอมแก้มนิ่มแผ่วเบา

    “ม่ะม๊าก็เป็นป่ะป๊าของเราไงน้องคยองซู”

    “ได้ไง จะมีม่ะม๊า ป่ะป๊าคนเดียวกันได้ไง พี่แบคบอกว่าเพื่อนของพี่แบคมีทั้งป่ะป๊า และม่ะม๊า” เด็กน้อยหันไปเถียงพี่ชายทันที

    “แต่เราไม่มีป่ะป๊านี่ เรามีแค่ม่ะม๊าคนเดียวก็พอแล้ว เป็นทั้งม่ะม๊า และป่ะป๊า” คริสพูดประเหลาะน้อง

    “แต่พี่แบคบอกว่า ป่ะป๊า กับม่ะม๊าต้องมี ฮึก สองคน ฮึก ( ; __ ;)

    น้ำตาหยดน้อยไหลออกจากตากลมโตอีกครั้ง คริสหน้าเสียทันที ไม่คิดว่าน้องจะร้องไห้ เพราะความเป็นผู้ใหญ่กว่าทำให้คริสรับรู้กับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่น้องเล็กนี่สิ ยังไม่โตและยังต้องการความอบอุ่นจากครอบครัว ครอบครัวที่สมบูรณ์ของเด็กๆ ทุกคนคือการมีพ่อ แม่ และลูกๆ อยู่ด้วยกัน เซฮุนมองลูกชายคนเล็กก็อดน้ำตาซึมออกมาไม่ได้ ทรุดร่างลงกอดเด็กน้อยลูบหัวปลอบประโลม



    “ไม่เป็นไรนะ ถึงไม่มีป่ะป๊าก็ยังมีม่ะม๊านะครับ น้องคยองซูอย่าร้องไห้นะครับ”



    “ฮึก น้องคยองซูจะไม่ร้องไห้แล้วฮะ” เด็กน้อยผละออก “น้องคยองซูจะขอซานต้าให้เอาป่ะป๊ามาให้น้องคยองซู”




    ชะ..ชะ...ชิบหาย!!! =[]= !!!

     










     

    เวรแล้วไง แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดี คิดไม่ตกจริงๆ ตอนนี้ของขวัญก็เตรียมใส่กล่องไว้ให้ทุกคนแล้ว เหลือแต่ของคยองซูที่ยังไม่ได้เตรียม เพราะเกิดเปลี่ยนของขวัญขึ้นมากลางคัน แล้วของขวัญที่ขอก็คือ ป่ะป๊า แล้วม่ะม๊าคนสวยจะทำอย่างไรดี ทำไมช่างทำร้ายจิตใจม่ะม๊าเหลือเกิน  TT___TT

    ตอนนี้เด็กๆ ก็เข้านอนไปหมดแล้ว เค้าต้องหาอะไรซักอย่างมาแทนของขวัญของคยองซู เพราะถ้า    คยองซูตั้งใจจะเอาอะไรแล้ว ต้องให้ได้อย่างนั้น ต้องหาอะไรที่แปลกใหม่มากกว่าเพื่อให้ลืมเรื่องป่ะป๊าไปก่อน

    คิดได้แล้ว เซฮุนก็คว้าเสื้อโค้ทมาใส่ พร้อมออกตะเวนตามล่าหาของขวัญแทนป่ะป๊าให้น้องคยองซู มันต้องมีบ้างแหละน่า!

    อากาศหนาวจัด อุณหภูมิติดลบ เซฮุนกระชับเสื้อโค้ทห่อตัวเองเพิ่มคามอุ่นให้กับร่างกาย แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม หลังจากตะเวนตามร้านค้า ร้านของเล่นแล้วยังไม่มีอะไรน่าสนใจพอที่จะทำให้คยองซูลืมเรื่องป่ะป๊าได้ ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว มีเวลาแค่ชั่วโมงครึ่งในการหา ขอให้เจอทีเถ๊อะ!












    “อ้าว นั่นน้องเซฮุนนี่ มาทำอะไรตอนดึกอย่างนี้ล่ะ”

    ชายร่างสูง หุ่นหนารูปร่างดี กับร่างเล็กบางๆ สองคนเอ่ยถาม เซฮุนเพ่งมองในความมืดอยู่นาน จนเจ้าของร่างเดินมายังที่แสงไฟส่องถึง ก็พบว่าเป็นชาวจีนที่มาศัยอยู่กับน้องสองคน ลู่หาน กับฮวังจื่อเทา ซึ่งเค้าก็สนิทกับคนพี่พอควร เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน แต่คนน้องเค้าไม่เคยคุยด้วยเลย เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่พอมองสายตาคมดุนั่นทีไร ก็เกิดอาการต้องหลบเป็นทุกที

    ตอนนี้ก็เช่นกัน...

    “เอ่อ... มาซื้อของเล่นให้น้องคยองซูฮะ”

    “ให้พี่สองคนช่วยเลือกไหม พี่กำลังจะไปซื้อของให้แฟนพอดี”

    พี่ลู่หานเป็นคนถามขึ้น จะให้ปฏิเสธยังไงล่ะ เมื่อพูดจบพี่ลู่หานก็มัดมือชกด้วยการจับข้อมือให้เดินไปด้วยกันเลย ไม่เปิดโอกาสให้เซฮุนได้เอ่ยปฏิเสธ หรือเอ่ยบอกของที่ต้องการซักคำ

    “ไปร้านนี้ดีกว่านะ พี่กับเทาชอบไปซื้อของกันบ่อยๆ น่ารักมากน้องคยองซูคงจะชอบซักอันนั่นแหละ”

    “เอ่อ...ฮะ”

    สุดท้ายก็ยอมตามสองพี่น้องนี่ไป อาจจะเจอของที่ถูกใจจริงๆ ก็ได้ เวลาเหลือแค่ชั่วโมงครึ่ง ต้องใช้ให้คุ้มค่า อย่างน้อยก็ต้องมีซักอย่างทีละความสนใจของคยองซูได้บ้างล่ะน่า!

     














     

    ร้านที่ลู่หานพามาเป็นร้านขายของเล่น กึ่งร้านกิ๊ฟช็อป ร้านกว้างสินค้าเรียงรายเป็นหมวดหมู่ของมัน เซฮุนดูแถบของเล่นที่คยองซูชอบ และพยายามหาของเล่นแปลกใหม่แนวที่คยองซูสนใจเป็นพิเศษ โดยมีสองพี่น้องช่วยหาด้วย แต่หาเท่าไหร่ก็ยังหาไม่เจอ เซฮุนยกข้อมือดูนาฬิกาอีกครั้ง สี่ทุ่มห้าสิบนาทีแล้ว เหลือหนึ่งชั่วโมงสิบนาที เวลาช่างเดินเร็วเหลือเกิน เค้ายังหาของขวัญให้คยองซูไม่ได้เลยนะ T T

     









     

    เค่อ อี้ ฮู ฮวน หนี่ เต่อ หมิง จื่อ เค่อ อี้ เจิ้น ชิน เต่อ หว่อ จุ่ย หนี่ เต่อ โชว~ หยาง กวาง เย่อ ตุ้ย เจ่อ หว่อ ซาน หลาน เต่อ เจ้า เหยา~ ก้าน จุ่ย ชิงฟู เต่อ อู๋ เค่อ จิ่ว เหยา หนี่ จ่าย ฮู ฮวน หว่อ เต่อ หมิง จื่อ หนี่ ฉิง ฉิง เต่อ จ่าย หว่อ เจี๋ยน ชาง อี้ เก้า~ นา หยาง กวาง อี้ จื่อ ป่า หนี่ เวิ่น โร่ว เต่อ ยง เป้า มู่ ปู้ จวน จิง หนี่ นา เม่อ ชาน เหยา So lucky my love~~~

     





     

    เสียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของลู่หานดังขึ้น เจ้าตัวหาซักพักกว่าจะเจอต้นแหล่งเสียงของมัน ลู่หานยิ้มแป้นเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนโทรมา รีบรับสายอย่างไม่รีรอ



    “ฮัลโหล มินซอกอา............ฮ่าๆๆๆ คิดถึงเหมือนกัน..........หืม?.....ตอนนี้อ่ะ.............ฉันอยู่กับเทากับเซฮุน.................ซื้อของเล่นกันน่ะ...............ได้ครับๆ....ครับๆ แล้วเจอกันครับ คร้าบ~



    ถ้าเค้าฟังไม่ผิดก็คือพี่ลู่หานกำลังคุยกับแฟนที่ชื่อ คิมมินซอก และดูเหมือนว่าเค้าจะโดนลอยแพแล้วสิ จากที่ได้ยินพี่มินซอกคงจะให้พี่ลู่หานไปฉลองวันคริสต์มาสแน่ๆ เลย ถ้าพี่ลู่หานไปแล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเค้าล่ะ จะไปด้วยไหม หรือว่าจะให้อยู่ด้วยกัน


    “เทาช่วยเลือกของขวัญเป็นเพื่อนเซฮุนก่อนนะ ฉันจะไปหามินซอก”

    “...” ร่างสูงไม่ตอบอะไร เพียงแค่เดินหาของเล่น และหยิบจับไปมา

    แต่แค่นั้นก็พอสำหรับลู่หานแล้วล่ะ

    “น้องเซฮุน พี่ไปก่อนนะ อยู่กับไอ้เทาละกัน มันไม่กัดหรอก”

    “เอ่อ... ฮะ”

    ฝากฝังเรียบร้อยลู่หานก็แทบจะวิ่งออกจากร้านทันที หรืออาจจะวิ่งเลยก็ได้

    ตอนนี้ก็เหลือแค่เซฮุน กับเทาสินะ ทำไมบรรยากาศมันถึงชวนอึดอัดได้ขนาดนี้ล่ะ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากตอนนี้เท่าไหร่ แต่พออยู่กันสองคนมันอึดอัดกว่าที่เคยคิดไว้เสียอีก

    เซฮุนสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ตั้งสติหาของขวัญให้คยองซูต่อไป





     



     

    “จะไม่พูดเลยรึไง”

    แต่อยู่ๆ ก็โพร่งออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ถามออกไป ในเมื่อถามไปแล้วเค้าก็อยากได้คำตอบ บางทีอาจจะลดสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี่ออกก็เป็นได้


    “ละ...แล้ว...จะให้ฉันพูดอะไร”

    สำเนียงเกาหลีแปลกๆ ถูกส่งมาประโยคแรก

    หมอนี่พูดเกาหลีไม่เก่งเหรอ?





    เอ่อ... นั่นสิ แล้วจะให้หมอนี่พูดอะไร



    “ก็... ชวนคุยบ้าง นายเงียบตลอดไม่อึดอัดบ้างเหรอ?”

    “ไม่นี่ ฉันไม่อึดอัด...นายอึดอัดเหรอ?”

    “นิดหน่อย”

    “...”

    แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ เดินผ่านหน้าของเค้าไปดูของต่อ เป็นอะไรของเค้านะ :(

     












     

    หลังจากหากันเกือบจะทั่วร้านแล้วก็ยังไม่เจอเลย เค้าคงต้องทำให้คยองซูผิดหวังแล้วล่ะ เพราะเค้าไม่สามารถหาป่ะป๊าให้คยองซูได้ และยังหาของขวัญชิ้นใหม่ให้คยองซูไม่ได้ด้วย



    “น้องคยองซูชอบของเล่นแบบไหนล่ะ”

    “อะไรกัน หามาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะมาถามนี่นะ”

    “ก็...”

    “เกี่ยวกับครอบครัว คยองซูจะหวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้” ชิงตอบก่อน

    ...รวมถึงป่ะป๊าด้วย

    พูดแล้วเศร้า ทำไมการหาอะไรที่ดึงดูดใจมากกว่าป่ะป๊าที่คยองซูอยากได้มันถึงหายากอย่างนี้นะ ถ้าเค้าหาให้คยองซูไม่ได้ล่ะ เด็กน้อยผู้มีจิตใจที่เปราะบางแบบนั้นจะคิดอย่างไร จะผิดหวังกับคริสต์มาส และตัวเค้าไหม ม่ะม๊าขอโทษนะคยองซู

     



     

    “นายมีแฟนรึยัง?”

    “หะ..ห๊ะ! นะ..นายถามอะไรของนาย!

    “ยังสินะ”

    “....”

    “งั้น นายก็หาพ่อให้คยองซูสิ”

    “...”  หน้าหวานเจื่อนลงสนิท

    “เฮ้! ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?.......ขอโทษ”

    “...ไม่ผิดหรอก แต่กำลังคิดอยู่น่ะ เพราะคยองซูอยากได้ป่ะป๊าน่ะสิ ฉันถึงได้ตะเวนหาสิ่งของที่น่าสนใจว่าป่ะป๊าที่คยองซูอยากได้...”

    “...”

    “ช่างเหอะ คงไม่ทันแล้วล่ะ กลับกันเถอะเดี๋ยวจะเที่ยงคืนแล้วฉันต้องเอาของขวัญไปใส่ไว้ในถุงเท้าของเด็กๆ”

    “อืม”

     







     

     

    ใครก็ได้บอกให้ผู้ชายคนข้างๆ เค้าพูดหน่อยเหอะ เดินมาครึ่งทางได้ละ ยังเงียบอยู่เลย ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยเหรอ รึว่าไม่อยากมากับเค้า

    “นี่/นาย”

    จู่ๆ ก็พูดพร้อมกันขึ้นมาซะงั้น

    เท้าสองคู่หยุดเดินชะงัก หันมามองหน้ากันก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ อะไรกัน นึกอยากจะพูดก็พูดพร้อมกันซะงั้น แล้ว... ใครจะพูดก่อนล่ะ

    “นายพูดก่อนดิ/นายพูดก่อนสิ”

    “...”

    “...”

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

    เค้าไม่ได้ตั้งใจจะพูด จะหยุดพร้อมกับคนตรงหน้าเลยนะ มันบังเอิญมากๆ เลย

    “ฉันพูดก่อนนะ”

    “อืม”

    “ห้าทุ่มสิบนาที” ยกข้อมือดูนาฬิกา “ยังมีเวลาเหลือ ไปตามหาของที่นายอยากได้กันเถอะ”

    “ของที่ฉันอยากได้...”

    จะว่าไปเซฮุนเคยแต่เตรียมของขวัญให้เด็กๆ อยากได้ทุกปี แต่ไม่เคยมีของขวัญให้กับตัวเองเลย

    “ไปเหอะ”

    “อ่ะ!

    มือหนาเอื้อมจับมือเรียว ความอบอุ่นถูกส่งผ่านจากมือหนาแม้อากาศจะหนาวจนอุณหภูมิติดลบ เพียงแค่ฝ่ามือใหญ่ก็ทำให้เค้ารู้สึกอบอุ่น





    เทาจูงกึ่งลากให้เดิมตามไป เซฮุนได้แต่เดินตามแรงของร่างสูงไปง่ายดาย เซฮุนมองเทาจากด้านหลังคิดว่าตัวเองสูงแล้วนะ แต่เมื่ออยู่กับคนๆ นี้ เค้าดูเหมือนคนตัวเล็กไปเลย ทั้งๆ ที่ความสูงแตกต่างกันเพียงน้อยนิด แผ่นหลังกว้างดูแข็งแรง รู้สึกเหมือนโดนปกป้องยังไงก็ไม่รู้ -///-






    “เดินไปพร้อมกันสิ”

    “...”

    “เซฮุนนา”

    “หะ..ห๊ะ?!”  เมื่อกี้เผลอคิดอะไรไม่รู้ แล้วเรียกด้วยเสียงแบบนี้...  -/////-

    “ฉันบอกว่าให้นายเดินไปพร้อมกัน อย่าเดินตามฉัน ฉันอยากให้นายเดินไปกับฉัน”

    “...อืม”

    เซฮุนเดินขึ้นไปในระดับเดียวกับเทา ก่อนจะก้าวขาเดินไปพร้อมกัน โดยที่มือทั้งสองข้างยังผสานกันแน่น...




    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก




    ทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วย แค่คำพูดธรรมดาๆ ทำไมถึงต้องเก็บเอาไปคิด ต้องหวั่นไหวด้วย เพราะเป็นคนนี้เหรอ...

     
















     

    เทาพาเค้ามาที่ต้นคริสต์มาสใหญ่ในเมือง แสงสีที่ประดับอยู่โดยรอบมันสวยมาก สวยจนละสายตาไม่ได้จริงๆ เค้าไม่เคยมาที่นี่ตอนกลางคืนเลย วันๆ เอาแต่ยุ่งกับเด็กๆ ไม่เคยมาดูแถวนี้เลย เรียกว่าไม่เข้าเมืองเลยจะดีกว่า เลยไม่เคยรู้เลยว่าที่นี่มันสวย สวยมากจริงๆ



    ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วแต่ผู้คนมากมายเดินผ่านไปเป็นคู่ๆ เซฮุนมองตามแล้วยิ้มบางๆ ทุกคนเค้ามีคู่ก็อยากจะฉลองคริสต์มาสอีฟกับแฟนกันทั้งนั้น...

     




     

    ...น่าอิจฉา...

     







     

    “มัวแต่มองคนอื่นอยู่นั่นแหละ”

    “อ่ะ! โทษที” เอ่ยขอโทษคนข้างๆ

    “ขอโทษทำไม” โบกมือไม่เป็นไร “เรา...มาอธิฐานกัน”

    “เห?”

    “ขอพรไง ขอของที่อยากได้กับซานตาครอส”

    “นายเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”

    ไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้ชายคนนี้จะเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่เหมาะกับเขาเลยจริงๆ

    “เชื่อสิ...”

    “...”   จู่ๆ ก็พูดอะไรของเขา พูดแล้วก็เงียบ

    “นายก็ลองสิ เผื่อนายจะได้ตามที่ขอนะ”

    “...อืม” 












    ลองเชื่อซักนิด ก็ไม่เสียหาย






    เซฮุนสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เงยหน้ามองต้นคริสต์มาสใหญ่ แล้วหลับตาลงช้าๆ มือสองข้างยกขึ้นผสานกันไว้ที่กลางหน้าอก พร้อมกับอธิฐานสิ่งที่ตนเองปรารถนาต่อหน้าต้นคริสต์มาส








    ลมหนาวพัดผ่านความเย็นกระทบสู่ใบหน้า ดั่งพระเจ้า และซานตาครอสรับรู้คำอธิฐานของเค้าแล้ว เปลือกตาบางลืมขึ้นช้าๆ สิ่งที่มองเห็นตรงหน้าคือร่างสูงที่พาเค้ามาที่นี่ และเป็นคนให้เค้าขอพรกับต้นคริสต์มาส





    “นายนี่บ้ารึเปล่า อากาศแบบนี้ยังกล้าออกจากบ้านทั้งๆ ที่ไม่มีผ้าพันคอ”







    ว่าแล้วร่างหนาก็ถอดผ้าพันคอของตัวเองออก แล้วคล้องมันกับลำคอขาวของเซฮุน จัดการพันให้เข้าที่และกระชับเพิ่มความอุ่นให้กับร่างกายบาง

    “แล้วนาย...”

    “ฉันแข็งแรงกว่านายเยอะ”

    “ขอบคุณ” พูดเสียงแผ่ว หลบสายตาคมที่มองตนเองอยู่

    “กลับกันยัง”

    “อ่า นั่นสินี่ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ฉันกลับก่อนดีกว่า”


    เซฮุนยกข้อมือดูนาฬิกา อีกสิบห้านาทีก็เที่ยงคืนแล้ว เค้ากลับไปใส่ของขวัญให้เด็กๆ ไม่ทันแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง คงไม่มีคนไหนตื่นขึ้นมาเพื่อจะมารอของขวัญจากซานต้าหรอก

    “นายคนเดียวได้ไง ฉันก็อยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นต้องเป็นเรา เราจะกลับบ้านด้วยกัน”

    “อะ...อืม”



    มือหนาเอื้อมมากอบกุมกับมือเรียวแล้วหันหลังให้ต้นคริสต์มาสใหญ่ แล้วเดินจากไปพร้อมกับฝากฝังคำอธิฐานเอาไว้





    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก







    ใจเต้นแรง เพราะคำพูดธรรมดาๆ อีกแล้ว -////-












    ไม่แน่ใจว่าเพราะเทายังไม่เข้าใจภาษาเกาหลีเท่าที่ควร หรือว่าจงใจพูดกันแน่ ไม่รู้หรอกว่าเพราะสาเหตุอะไร แต่มันทำให้คนที่ แอบชอบ อย่างเค้าคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน













    ถ้าซานตาครอสมีจริง ขอให้คำอธิฐานของเค้าสมหวังด้วยเถิด...





















    “นายอธิฐานอะไรเหรอ?”

    เทาเป็นผู้ทำลายความเงียบ แอบยิ้มตลกกับร่างบางข้างๆ ทั้งๆ ที่บอกเองว่าต้องพูด คุยกัน เพื่อทำลายความอึดอัด แต่ร่างบางกลับเงียบอย่างเดียว ตกลงใครกันแน่ที่ควรพูดประโยคนั้น เทาได้แต่คิดในใจ

    “ฉันเหรอ?”

    “นายนั่นแหละ มีแค่สองคนฉันจะพูดกับใครล่ะ”

    “ไม่บอก นายบอกก่อนสิ” เซฮุนต่อรอง

    “ขี้โกงนี่” เทาว่า

    “บอกของนายก่อนสิ”

    “ไม่บอกหรอก ถ้าบอกนายก็รู้สิ”

    “ย่าส์! นายมันขี้โกง!” 

    เซฮุนใช้มือข้างที่ว่างจากการกอบกุมของมือใหญ่ทุบแขนแข็งแรง แต่ไม่ได้ทำให้เทารู้สึกเจ็บหรือสะเทือนเลย กลับหัวเราะกับท่าทีทีดูเหมือนเด็กน้อยของเซฮุนมากกว่า

    “หยุดหัวเราะฉันเดี๋ยวนี้นะ!

    “ฮ่ะๆๆ นายมันเด็กน้อย โอเซฮุน”

    “ฉันไม่ใช่เด็กน้อยนะ! นายนั่นแหละเป็นหมีแพนด้า”

    “ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆๆ นายน่ะเด็กน้อยชัดๆ เลย”

    “ฮวังจื่อเทา!!

     

     





















     

    นายไม่รู้เลยรึไง คนเราจะดูเด็กลงเฉพาะอยู่กับคนที่ชอบเท่านั้นแหละ...

     

     
































     

    เพราะความเร่งรีบ และอยากจะกลับมาให้ทันเวลา กลัวว่าเด็กๆ จะตื่นมาหลังเที่ยงคืนเพื่อรอของขวัญ เค้าสองคนเลยเลือกใช้บริการแท็กซี่เพื่อให้กลับมาถึงบ้านทันก่อนจะเที่ยงคืน และมันก็ทันจริงๆ ตอนนี้เค้าสองคนอยู่หน้าบ้านของเซฮุนแล้ว

    เทายืนอยู่หน้าบ้านของเซฮุน ทั้งสองสบตากันต่างไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี ทั้งๆ ก่อนหน้านี้ยังคุยกัน หัวเราะกันเหมือนสนิทกันมานานอยู่แท้ๆ เลย








     

    “เอ่อ... ผ้าพันคอนาย..” เซฮุนจะถอดผ้าพันคอคืนเทา

    “ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันก็จะเข้าบ้านแล้วเหมือนกัน”

    “ขอบคุณนะ แล้วฉันจะซักไปคืน”

    “...”

    “งั้น... ฉันเข้าไปดูเด็กๆ ก่อนนะ”



    เทาไม่พูดอะไรต่อ เซฮุนเองก็ทำตัวไม่ถูกเกาท้ายทอยแก้เขิน ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน สำเนียงเกาหลีแปลกๆ ก็ขัดขึ้นเสียก่อน

     

    “นายเหนื่อยไหมที่ต้องดูแลเด็กห้าคนด้วยตัวคนเดียว” เทาเอ่ยขึ้น

    “ก็มีบ้างนะที่เด็กๆพากันดื้อ หรือทะเลาะกัน” ยิ้มบางๆ “แต่ฉันมีความสุขมากเลยนะ ทุกครั้งที่เด็กๆ ยิ้ม หัวเราะ มีความสุขกับสิ่งที่ฉันมอบให้เค้า มันทำให้ฉันหายเหนื่อยเลยจริงๆ”



    เซฮุนพูดตามความรู้สึกจริงๆ เค้ารักเด็กๆ ทุกคนมาก ทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะอยากให้เด็กๆ มีความสุขกับมัน ทุกสิ่งที่เค้ามอบให้เค้าขอสิ่งตอบแทนจากเด็กๆ เหล่านั้นด้วยความสุขเช่นกัน ความสุขที่ได้ทำเพื่อทุกคน ความสุขจากรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเด็กๆ ทุกคนที่เค้าเรียกว่า ลูก




    “อยากได้คนเลี้ยงเพิ่มไหม”



    “...”



    หมายความว่าไง?! ที่เค้าได้ยินเมื่อกี้เซฮุนมั่นใจว่าได้ยินมันไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน แต่ความหมายของมันล่ะ? บอกได้ไหมว่าความหมายของมันคืออะไร






    “เฮ้! อย่าเงียบสิ”

    “...”

    เซฮุนมองหน้าเทาอย่างต้องการคำตอบ ต้องการความหมายในสิ่งที่เทาได้พูดมันออกมาเมื่อครู่นี้

    เทายกข้อมือดูนาฬิกาของตัวเอง

    “โอ้ว! อีกสามนาทีจะเที่ยงคืนแล้ว ฉันจะพูดให้จบทีเดียว ฟังดีๆ นะ”

    “...”










    “ฉันมาทำงานที่นี่กับพี่ลู่หานตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ฉันเผลอตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แต่ผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นม่ะม๊าของเด็กน้อยทั้งห้าคน ...มันยิ่งทำให้ฉันประทับใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเด็กๆ ทั้งห้าคนนั้นเป็นคนที่ผู้ชายคนนั้นรับเลี้ยงไว้เป็นลูก ผู้ชายคนนั้นทำงานบ้านเองทำเพียงคนเดียวทุกอย่าง จบมหาลัยก็ทำงานอยู่บ้านเพราะต้องเลี้ยงดูเด็กน้อยห้าชีวิตด้วยตัวคนเดียว ฉันหลงรักความอ่อนโยนของผู้ชายคนนั้น หลงรักรอยยิ้มของผู้ชายคนนั้น หลงรักทุกอย่างที่เป็นผู้ชายคนนั้น”

    “...”














    “ฉันอยากคุยกับผู้ชายคนนั้น แต่เพราะความขี้ขลาดของฉันทำให้ฉันได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ ...อยากจะเข้าไปช่วยดูแลลูก อยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัวของผู้ชายคนนั้น ...อย่างที่บอก เพราะฉันขี้ขลาดเกินไป ฉันถึงเอาแต่เฝ้าดูผู้ชายคนนั้นอยู่ฝ่ายเดียว”

    “...”























    “วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขมาก เพราะฉันได้อยู่ลำพังกับผู้ชายคนนั้น ต้องขอบคุณพี่ลู่หานที่ทำให้ฉันได้อยู่กับผู้ชายคนนั้น ฉันถือโอกาสพาผู้ชายคนนั้นไปขอพรใต้ต้นคริสต์มาสด้วยกัน เพียงเพราะอยากซึมซับวันเวลาดีๆ และอธิฐานให้คนข้างๆ รักฉันเหมือนที่ฉันรักเขา ...ก่อนวันจะหมดคริสต์มาสอีฟฉันอยากจะบอกกับนายว่า ...ฉันน่ะหลงรักนายตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น” เทาเอื้อมมือมากอบกุมมือทั้งสองข้างของเซฮุน “ฉันรักนายจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว...โอเซฮุน...”

    “...”






























    “และยังไม่รู้ว่าจะหยุดรักได้เมื่อไหร่”





















    เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ คนตรงหน้ากำลังสารภาพรักกับเค้า สมองมันประมวลผลไม่ทัน เหมือนสติถูกกระชากไปยังมิติไหนซักแห่ง

    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ ผู้ชายตรงหน้าสารภาพรักกับเค้า มันจะเหลือเชื่อเกินไปไหม?!

     





     

    “...พูดอะไรบ้างสิ” เทาเอ่ยขึ้นหลังจากทิ้งให้เหลือแต่ความเงียบไว้นาน

    “...” เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ “เหลืออีกยี่สิบวินาที”

    “...?”

    “พรที่นายขอเป็นจริงแล้วล่ะ...  ฉันน่ะ... ก็ชอบนายตั้งแต่แรกเห็นแล้วเหมือนกัน...”

    “เซฮุนนา...”







    ‘…9 …8 …7 …6 …5 …4’




    “ฉัน...”



    เวลาเริ่มนับถอยหลังเก้าวินาทีสุดท้าย ก่อนจะหมดคริสต์มาสอีฟ สองตาจ้องมองกันส่งความรู้สึกในก้นบึ้งหัวใจให้แก่กันและกัน เซฮุพยายามสื่อออกไปทางสายตาเพื่อให้เทาได้รับรู้ว่าเค้าเองก็ รัก ผู้ชายตรงหน้าไม่แพ้กัน








    ‘…3 …2’







    “...”








    ‘…1’




























    “ฉันรักนาย”










    “Merry Christmas


















    ระฆังดังกังวานบอกเวลาว่าถึงวันคริสต์มาสแล้ว พอดีกับเกร็ดละอองน้ำสีขาวตกลงกระทบผิวแก้มขาว ตกลงมาข้างๆตัว และรอบตัวของทั้งคู่ เริ่มมีเกร็ดสีขาวตกลงมาปกคลุมทั่วพื้น    เซฮุน และเทาเงยหน้าขึ้นมองฟ้า หิมะตก หิมะในวันคริสต์มาส...   






    “นายเห็นหิมะแรกไหม?” เทาถาม



    เซฮุนจ้องหน้าเทานิ่ง ยิ้มเขินกับคำถาม




    ในความเชื่อของคนเกาหลีคือถ้ามีคนถามว่า เห็นหิมะแรกไหม?’ แปลว่าเขากำลังขอความรัก และหากตอบว่า เห็น ก็คือตอบรับรักอีกฝ่าย













    แล้วจะให้เซฮุนตอบว่าอะไรดีล่ะ?

































    “เห็น”



    เทายิ้มกว้างกับคำตอบที่ได้รับ กางแขนรับร่างบางที่โผเข้ากอดอย่างแนบแน่น 

     






















     

    คยองซูม่ะม๊ามีป่ะป๊าให้คยองซูได้แล้วนะ

     

     

     

     













     

     






     

              [Oh Sehun]








    อยากรู้ไหมว่าผมขอพรอะไรจากต้นคริสต์มาส?


































    ผมขอให้ ป่ะป๊าของคยองซูชื่อฮวังจื่อเทา ไงล่ะ








     














     

     

    THE END.













    พูดคุยภาษาต่างดาวแพรบ  ÔωÔ
    เป็นเรื่องสั้นที่ตั้งใจมาก ไม่รู้ว่าจะออกมาดีหรือเปล่า อ่าาาา Merry Christmas
    บ๊ายบายยยยยย~~~~~~~











     
    :-Daisy ✿
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×