How to deal with Admission

            ไม่รู้ว่ามาช้าไปไหม แต่ก็ไม่มีไรมาก แค่อยากลงบล็อกในวันเกิดตัวเอง 555  ช่วงนี้น้องๆม.6 คงกำลังเลือกอันดับแอดมิชชั่นกันอย่างสนุกสนาน? ขอบอกเลยว่าช่วงนี้เด็กม.6 นี่มีหลากหลายอารมณ์จริง ทั้งสับสน ทั้งเครียด ลังเล เอ๊ะเอาไงดี จะติดไหมนะ กลัวคะแนนปีนี้ขึ้นจุงกะเบย พี่เลยอยากเขียนอะไรขึ้นมาเพื่อเป็นกำลังใจ แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นกำลังใจ เหมือนคำแนะนำจากพี่สู่น้องมากกว่าไม่มีไรมากค่ะชาวโซเชี่ยวแคมม
            1.     คะแนนมันน้อยเหลือเกินนน     ประเภทว่ายื่น รปภของมหาลัยแล้วยังไม่ติด อันดับแรกนะ พี่อยากให้ ตั้งสติ หยุดความคิดและมโนทั้งหลายไว้ก่อน โอเค ก่อนหน้านี้อาจจะเคยได้ยินว่า ให้เลือกตามความฝันไปเสะ!! แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืออีกหนึ่งช่วงเวลาที่ต้องอยู่กับความจริงให้ได้มากที่สุด เรากำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ ต้องหัดรับมือให้ได้ คิดว่านี่คือด่านแรกละกัน พอตั้งสติได้ให้รีบมองหาคณะให้เหมาะกับตัวเองแต่คะแนนรองลงมา พี่เชื่อว่า ถ้าคณะนั้นเหมาะกับตัวเองแล้ว เรียนที่ไหนก็ย่อมมีความสุขแน่นอน และที่สำคัญ จบออกมาก็ประกอบอาชีพเหมือนกันอยู่ดีจริงไหม

              2.     คะแนนมีลุ้น แต่ถ้าขึ้นนิดเดียวก็จบเห่ แฮ่!! นี่เป็นอีกปัญหาที่ปวดตับเลยทีเดียว และมักจะเกิดกับคนที่มีคะแนนสูงอยู่ระดับนึง อันนี้แนะนำว่าให้เลือกไปเลย เพราะ ถ้าคะแนนมันเกิดต่ำลงมาแล้วเราไม่ได้เลือกจะเสียดายเปล่าๆ มีความมั่นใจ(แต่พองาม)เข้าไว้ แต่อย่าลืมมีความรอบคอบเลือกอันดับรองลงมาให้ปลอดภัยติดชัวร์ๆด้วยนะจ๊ะ

            3.     Feedback จากคนรอบข้าง... คนรอบข้างในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพ่อแม่พี่น้องคนในครอบครัวของเรา และพี่ไม่อยากใช้คำว่า เสียงนกเสียงกา ด้วยแต่พิมพ์ไปแล้ว ทำไงได้ นี่เป็นปัญหาเล็กๆ แต่สร้างบาดแผลอันยิ่งใหญ่ให้กับบางคนได้ คงบอกได้อย่างเดียวว่า อย่าไปสนใจ แหม พูดง่ายแต่มันก็ทำยาก ถามว่า สี่อันดับนี้ เราเลือกเอง เรียนเองหรือเลือกไปให้คนอื่นเรียน แน่นอนสิคะว่าเรียนเอง จงจำไว้ว่าคนอื่นไม่ได้มาสนใจเรื่องของเราตลอดเวลา คนอื่นก็ต้องเลือกอันดับของตัวเค้าเองเหมือนกัน แต่คนที่เป็นเสียงนกเสียงกาเหล่านี้บอกได้เลยว่าคงไม่ใช่คนที่โอเคเท่าไร 55 เหมือนเป็นการลดกำลังใจของคนอื่น (ซึ่งกำลังใจนี้ก็ไม่ได้ไปเพิ่มให้ตัวเค้าเอง ถูกไหม?)

            4.      เลือกสถาบันดัง แต่ แต่ แต่... คณะอะไรก็ช่าง เอาดังไว้ก่อน นี่อาจเป็นปัญหาระดับชาติก็ว่าได้ เพราะการ “สอบเข้า” มหาวิทยาลัย กับ การ “เรียน” ในมหาวิทยาลัยนั้น มันช่างเหมือนหนังคนละม้วน (เด็กปีหนึ่งเข้าใจตรงกันนะ) การเข้าสถาบันดังได้ แต่เลือกคณะที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง น้องอาจจะมีความภาคภูมิใจในตอนแรก แต่เมื่อเจอเนื้อหาวิชาที่มันสุดแสนจะบรรยายกับคะแนนสอบที่ดิ่งลง หรือ เรียนๆไปแล้วมันดูไม่เวิร์คแหะ เมื่อเจอปัญหาเหล่านี้ เรื่องของชื่อเสียงสถาบันจะเริ่มหมดไป แล้วน้องจะเริ่มใฝ่หาหนทางที่ดีกว่าซึ่งอาจนำไปสู่การซิ่วได้ การซิ่ว ในมุมมองของพี่ไม่ใช่เรื่องแย่หรือน่าอาย เพียงแต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะปรับปรุงอนาคตของตัวเองให้ดีขึ้นและการซิ่วเป็นอีกหนทางหนึ่ง(ในกรณีที่มันสุดจะทนจริงๆ) วิธีการแก้ไข ให้มองอาชีพที่เราจะทำในอนาคต เราอยากทำอะไร ถ้าเรียนคณะนี้จบออกมาต้องไปทำงานอย่างนี้ เราจะอยู่กับงานนั้นไปตลอด 30-40 ปีได้ไหม เพราะสถาบันอยู่กับเราแค่สี่หรือห้าปี แต่อาชีพจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต อยากให้มองถึงตรงนี้ก่อนเลือกนะคะ

           5.      นึกไม่ออกละ สุดท้ายนี้ขอให้น้องๆเด็กแอดปีนี้ ปีหน้า ทุกๆปี โชคดีในการยื่นคะแนนนะจ๊ะ เครียดได้ แต่ต้องปล่อยวางเป็น ท้อได้ แต่ห้ามถอย ต้องแกร่งเข้าไว้ ทำวันนี้ให้ดีแล้วอนาคตจะไม่เสียใจนะแจ๊ะ ชีวิตเฟรชชี่ที่แสนสนุกรอน้องอยู่น้า บายยยย


Theme: