tachyon
ดู Blog ทั้งหมด

แปลเพลง - Waiting for the End

เขียนโดย tachyon

Waiting for the End - Linkin Park

คราวนี้เราพยายามแปลให้ฟังรื่นหูขึ้นมาอีก(หลาย)หน่อยตามอารมณ์เพลง กว่าจะแปลจบก็เล่นเอามึนเพราะต้องฟังหลายรอบเพื่อที่จะจับอารมณ์เพลงตาม และนี่ก็เป็นเพลงแรกที่เราตั้งใจแปลแบบเห็นใจคนที่คิดจะเอาไปร้องตามนะ พยายามให้ได้จำนวนพยางค์ใกล้เคียงที่สุดและก็มีขัดเกลาเสียงอักษรด้วยนี๊ดดดดหน่อยยยย โดยเราพยายามคงความหมายที่ถูกต้องให้มากที่สุด
เฮ้อ...ด้วยความสามารถอันน้อยนิดนี้ ก็หวังว่านัก(แหกปาก)ร้องทั้งหลายคงพอจะเอาไปถูๆไถๆได้นะ...แค่อาจปรับอีกหลายนี๊ดดดดดเอง  
 

คำศัพท์ที่น่าสนใจ

the eye of the storm = the center of a disagreement , the middle of a mass of severe weather

at the mercy = ขึ้นอยู่กับ อยู่ภายใต้อำนาจของ




Waiting For The End - Linkin Park
credit Elzadel

This is not the end
มันยังไม่สิ้นสุด
This is not the beginning,
และก็ยังไม่ได้เริ่มต้น
Just a voice like a riot
แค่เสียงหนึ่งคล้ายความจลาจล
Rocking every revision
ที่เขย่าทุกๆการปฏิรูป
But you listen to the tone and the violent rhythm
แต่คุณฟังเสียงและจังหวะที่ดุดันของมันดูสิ
Though the words sound steady
แม้คำพูดดูเหมือนหนักแน่น
Something's empty within 'em
มันกลับมีแต่ความว่างเปล่า

We say Yeah!
เราพูดว่า ใช่!
With fists flying up in the air
แล้วกำมือชูขึ้นกลางอากาศ
Like we're holding on to something
อย่างกับว่าเรากำลังกำอะไร
Thats invisible there,
ที่ไม่อาจมองเห็นได้
Cuz we're living at the mercy of
เพราะชีวิตเราอยู่ภายใต้อำนาจของ
The pain and the fear
ความเจ็บปวดและความกลัว
Until we dead it, Forget it,
กระทั่งเราเฉยชาและลืมมันไป
Let it all dissapear.
ปล่อยให้พวกมันจางหาย

Waiting for the end to come
คอยจนกว่ามันจะจบลง
Wishing I had strength to stand
อยากให้ตัวเองแกร่งพอที่จะยืนหยัดได้
This is not what I had planned
นี่ไม่ใช่แผน ที่วางไว้
It's out of my control....
ควบคุมมันไม่ได้เลย...

Flying at the speed of light
แล่นวูบอย่างกะความเร็วของแสง
Thoughts were spinning in my head
ความคิดในหัวมันปั่นป่วนไปหมด
So many things were left unsaid
มีอีกหลายคำพูดที่ไม่ได้เอ่ย
It's hard to let you go...
ไม่อยากปล่อยคุณไปเลย...

(Oh!) I know what it takes to move on,
(โอ้!) ผมรู้ว่าต้องทำไงจึงจะก้าวเดินต่อไป

I know how it feels to lie,
ผมรู้ว่าโกหกแล้วเป็นไง
All I wanna do
ทั้งหมดที่อยากทำ
Is trade this life for something new
คือแลกวิญญาณนี้กับชีวิตใหม่
Holding on to what I haven't got
เพื่อจะได้ในสิ่งที่ไม่เคย...ครอง

Sitting in an empty room
นั่งอยู่ในห้องอย่างโดดเดี่ยว
Trying to forget the past
พยายามที่จะลืมอดีต
This was never meant to last,
ที่ไม่เคยได้คงอยู่ยืนนาน
I wish it wasn't so...
ไม่อยากให้เป็นยังงั้นเลย...

(Oh!) I know what it takes to move on,
(โอ้!) ผมรู้ว่าต้องทำไงจึงจะก้าวเดินต่อไป

I know how it feels to lie,
ผมรู้ว่าโกหกแล้วเป็นไง
All I wanna do
ทั้งหมดที่อยากทำ
Is trade this life for something new
คือแลกวิญญาณนี้กับชีวิตใหม่
Holding on to what I haven't got
เพื่อจะได้ในสิ่งที่ไม่เคย...ครอง

What was left when that fire was gone?
มันยังมีอะไรเหลือเมื่อเพลิงสูญสิ้น?
I thought it felt right but that right was wrong
ผมคิดว่ามันถูกนะแต่กลับผิดเสียนี่
All caught up in the eye of the storm
ทั้งหมดติดอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง
And trying to figure out what it's like moving on
และพยายามขบคิดว่าจะทำไงให้เดินหน้าต่อไป
And i don't even know what kind of things I've said
ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าได้พูดอะไรไป
My mouth kept moving and my mind went dead
พูดพร่ำไปเรื่อยแต่ใจตายด้านไปแล้ว
So, picking up the pieces, now where to begin?
งั้น, มาปะติดปะต่อกันใหม่, เริ่มตรงไหนก่อนดี?
The hardest part of ending
ส่วนที่ยากที่สุดของตอนจบ
Is starting again!!
คือการเริ่มใหม่อีกครั้ง!!

All I wanna do
ทั้งหมดที่อยากทำ
Is trade this life for something new
คือแลกวิญญาณนี้กับชีวิตใหม่
Holding on to what I haven't got...
เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ไม่เคย...ครอง...

This is not the end
มันยังไม่สิ้นสุด
This is not the beginning,
และก็ยังไม่ได้เริ่มต้น
Just a voice like a riot
แค่เสียงหนึ่งคล้ายความจลาจล
Rocking every revision
ที่เขย่าทุกๆการปฏิรูป
But you listen to the tone and the violent rhythm
แต่คุณฟังเสียงและจังหวะที่ดุดันของมันดูสิ
Though the words sound steady
แม้คำพูดดูเหมือนหนักแน่น
Something's empty within 'em
มันกลับมีแต่ความว่างเปล่า
(Holding on to what i haven't got)
(ไขว่คว้าไว้ในสิ่งที่ไม่เคยครอง)

We say Yeah!
เราพูดว่า ใช่!
With fists flying up in the air
แล้วกำมือชูขึ้นกลางอากาศ
Like we're holding on to something
อย่างกับว่าเรากำลังกำอะไร
Thats invisible there,
ที่ไม่อาจมองเห็นได้
Cuz we're living at the mercy of
เพราะชีวิตเราอยู่ภายใต้อำนาจของ
The pain and the fear
ความเจ็บปวดและความกลัว
Until we dead it, Forget it,
กระทั่งเราเฉยชาและลืมมันไป
Let it all dissapear.
ปล่อยให้พวกมันจางหาย
(Holding on to what i haven't got!)
(ไขว่คว้าไว้ในสิ่งที่ไม่เคย...ครอง)


กลับห้อง Music Video

กลับห้อง  A Thousand Suns


ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
Just a voice like a riot

ท่อนนี้ผมว่า เปลี่ยนเป็น

แค่เสียงหนึ่งที่คล้ายความวุ่นวาย

จะเข้าท่ากว่าใหมครับ
elzadan
elzadan 23 ต.ค. 53 / 18:51
ท่อนนี้ก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะให้เป็นเสียงอะไรดี...เมื่อมีการคิดปรับปรุง แก้ไข ปฏิรูปอะไรใหม่ๆ ก็มักจะมีคนเห็นขัดแย้ง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องการเมืองก็ถึงกับก่อหวอดก่อการจลาจล ทำให้เกิดความวุ่นวายตามมา...คิดไปคิดมา เลยใช้คำว่าจลาจลเพื่อรับกับเหตุการณ์การปฏิรูป แต่ว่าที่ LP so hot เสนอมาก็เข้าท่าดีนะ เพราะทำให้ได้เสียงที่พ้องกันดี คือ 'คล้าย' กับ 'วาย' และมันก็ใช่แหละ เมื่อมีจลาจลก็ต้องมีความวุ่นวาย...LP so hot ทำให้เราคิดหนักแล้วสิ...งั้นถามเพื่อนๆที่แวะมาอ่านตรงนี้ดีกว่า...เห็นกันว่าไงบ้าง ขอเสียงหน่อยเร้ววว
ความคิดเห็นที่ 4
แปลได้ดีครับ ขอบคุณ
ความคิดเห็นที่ 5
แปลได้ดีมากๆคะ แต่เราเห็นด้วยกับLP so hot นะ จลาจลมันฟังดูพิกลๆ ยังไงไม่รู้ แต่ความหมายเหมือนกับวุ่นวาย แต่ถ้าใช้คู่ไปกับคำว่าปฏิรูป คำว่าจลาจลก็ดูเข้าท่าดี แต่น่าเป็นความจลาจล มันจะได้ฟังดูไม่แปร่งๆเกินไป แต่ในความคิดเรา คิดว่าความวุ่นวายน่าจะเข้ากับเนื้อเพลงมากกว่านะคะ :))
elzadan
elzadan 27 ต.ค. 53 / 18:48

โอ้ love me love my dog เล่นเชียร์ทั้งสองอย่างเลย แต่ท้ายสุดก็เอนเอียงมาที่ ความวุ่นวาย...งั้นเราจะรอดูไปอีกสักพัก เผื่อข่วงนี้จะมีใครมีความเห็นเพิ่มเติม แต่ตอนนี้เราเห็นด้วยกับคำแนะนำว่าน่าจะเป็น ความจลาจล (ตอนแรกก็คิดแบบนี้แต่เพราะต้องการตัดจำนวนพยางค์ออกไปให้ใกล้เคียงกัน ความจลาจล เลยกลายเป็น จลาจล งั้นเราตัด เพียง ออกรึกัน)

แค่เพียงเสียงหนึ่งคล้ายจลาจล --> แค่เสียงหนึ่งคล้ายความจลาจล

ความคิดเห็นที่ 7
สู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ ^^'

ผมว่า เนื้อเพลง กับ แปลคนละสีได้ใหมเนี่ย

(ลืมติชมไปคอมเม้นท์ที่แล้ว แปลได้สุดยอดมากๆครับ)
elzadan
elzadan 29 ต.ค. 53 / 18:20


 Thanksss

เรื่องสีเนื้อเพลงกับคำแปล เราก็เคยคิด แต่เพราะขี้เกียจเลยปล่อยเลยตามเลย แต่ในเมื่อขอมาเราก็จัดให้ ส่วนเพลงอื่นๆจะค่อยๆไปปรับเปลี่ยนเรื่อยๆ ตอนนี้หิวละ ไปต้มมาม่ากินก่อนดีกว่า (เหอๆ แบ่บว่าคนมันขี้เกียจอ่ะ มาม่าเนี่ยง่ายดี)

ความคิดเห็นที่ 9
อิอิ แวะมาทักทายค๊ะ ตอนนี้ตัดสินใจได้แน่นอนหรือยังคะเนี่ย
แต่ว่าทานมาม่าบ่อยไม่ดีน๊า จะว่าไปตอนนี้ก็หิว
แว่บไปทานมาม่าด้วยคน อิอิ (ชื่อเราตลกมากเลยอ่า
ตอนนั้นคิดไม่ออกพิมส่งๆไปแบบนี้ ตอนนี้ชักจะอายๆแหะ)
ความคิดเห็นที่ 10
เเค่ฟังก็ฟังยากเเล้ว แปลได้อีก เมพมากครับ
elzadan
elzadan 31 ต.ค. 53 / 22:26
อ่า รักพี่เสียดายน้อง รออีก 1-2 อาทิตย์ดูทิศทางลม (เกี่ยวมะเนี่ย) แล้วจะมาตัดสินใจอีกที ตอนนี้ขอไปมึนหัวตึ้บๆกับการแปลเพลง irridescent ก่อนนะ
elzadan
elzadan 31 ต.ค. 53 / 22:32
อ้อ love me love my dog  ชื่อนี้ก็น่ารักนะ เพลงของมันก็หนุกดี แต่ถ้าคิดเปลี่ยนชื่อก็บอกกันบ้างนะ เดี๋ยวจะจำกันบ่ได้
elzadan
elzadan 16 พ.ย. 53 / 21:47
รอจนป่านนี้ก็ไม่เห็นมีใครมาโพสต์อะไรเพิ่มเลยแฮะ งั้นเราจะโมเมเอานะว่าเสียงส่วนใหญ่โอเคกับที่เราแปล เราก็จะคงคำแปลไว้งี้ก่อน แต่ถ้าต่อไปเกิดมีใครแย้งกันเยอะ เราก็จะมาปรับเปลี่ยนตามที่เห็นควรและดูถูกต้องกว่า
ความคิดเห็นที่ 14
เจ๋งมากๆครับผมชอบ
ความคิดเห็นที่ 15
แปลเก่งดี
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าลองแปลแบบอิงความหมายเกี่ยวกับ

วันสิ้นโลกและมนุษย์ต่างดาวล่ะ

(ตอนนี้คุณแปลแบบเรื่องความรักและอกหัก)
elzadan
elzadan 22 พ.ย. 53 / 17:59
เออนั่นน่ะดิ หน้าตามันจะออกมาแบบไหนนะ เรายังไม่เคยได้อ่านเจอเลยว่ามันน่าจะมีความหมายพาดพิงถึงมะนาวต่างดุ๊ดได้ แต่ส่วนใหญ่เห็นคล้ายๆว่ามันอาจเกี่ยวกับสงคราม
ความคิดเห็นที่ 18
พอดีเราเป็นพวกบ้า UFO เลยแปลไปประมาณว่า

LP ลุกขึ้นมาประท้วงในเชิงกล่าวหาเรื่องการลักพาตัวของ UFO

มันอาจไม่ตรงตามที่เราแปลนะ แต่คิดว่า keyword เกี่ยวกับ UFO

เยอะดี ก็เป็นอีกแนวคิดนึงเนอะ บทเพลง บทกลอน ย่อมตีความไป

ได้หลายทาง

นี่ไม่ใช่จุดจบ
นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้น
เป็นแค่เสียงเรียกร้องของผู้ประท้วง
ที่ดังก้องไปทั่ว

แต่คุณลองฟังสำเนียง
และจังหวะที่หนักแน่น
แม้คำพูดจะฟังดูนิ่งๆ
กับบางสิ่งซึ่งว่างเปล่าในตัวของมัน

พวกเราบอกว่าใช่

ด้วยมือทั้งสองที่ทะยานขึ้นไปบนฟ้า
เหมือนที่พวกเรากำลังไปสู่บางสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้บนนั้น
เพราะเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในความเมตตาของความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
จนกว่าพวกเราจะตายและลืมมันไป
ปล่อยให้มันจางหายไป

การเฝ้ารอวันสุดท้ายที่จะมาถึง
และหวังว่าฉันจะเข้มแข็งพอที่จะยืน
มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคาดคิดเอาไว้
มันอยู่เหนือการควบคุม

บินไปที่ความเร็วแสง
ความคิดเข้ามาในหัวของฉัน
หลายสิ่งถูกพรากไปโดยไม่ได้บอกกล่าว
มันยากที่จะปล่อยคุณไป

ฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ฉันรู้ว่ามันเหมือนการหลอกลวงแค่ไหน
สิ่งเดียวที่ฉันอยากจะทำคือมอบชีวิตให้กับสิ่งใหม่
ไปสู่ในวันที่ฉันไม่เหลืออะไร (ไปสู่ในวันที่ฉันไร้ซึ่ง...พระเจ้า)

นั่งอยู่ในห้องที่ว่างเปล่า
พยายามลืมอดีต
นี่ไม่ได้หมายถึงวันสุดท้าย
และฉันหวังว่ามันคงไม่ใช่ด้วย

อะไรถูกพรากไปเมื่อดวงไฟนั้นหายไป
ฉันคิดว่ามันชอบธรรมแต่เป็นความชอบธรรมที่ไม่ถูกต้อง
ทุกสิ่งที่ถูกจับขึ้นไปในดวงตาของพายุ
และพยายามคิดว่ามันจะย้ายไปที่ไหน

และฉันไม่รู้จักแม้กระทั่งในสิ่งที่ฉันพูดถึง
ปากของฉันหยุดพูดไปพร้อมกับใจที่ด้านชา
พาสิ่งต่างๆเหล่านั้นไปเริ่มต้นที่แห่งใหม่
สื่งที่ยากที่สุดของจุดจบคือการเริ่มต้น
elzadan
elzadan 24 พ.ย. 53 / 19:12
พอมองอีกมุมก็ได้ความหมายอีกมุมมอง  แปลได้เก่งนะ
ความคิดเห็นที่ 20
ขอบคุน มากครับ
1 2 3 4 >