Eve P Berm
ดู Blog ทั้งหมด

เอกสารปลอม VS. เอกสารเท็จ

เขียนโดย Eve P Berm

          ตามหลักกฎหมายแล้ว ทั้งสองคำนี้ มีความหมายที่แตกต่างกัน แล้วใช้เรียกในกรณีที่ต่างกันด้วย ดังนั้น หากเราใช้ผิดคำขึ้นมาแล้วล่ะก็... ความหมายเปลี่ยน งานเข้าเลยทีเดียว

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264

          อะไร คือ เอกสารปลอม ?

            ศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ อธิบายไว้ว่า “เอกสารปลอม คือ เอกสารที่ไม่ได้ทำ หรือ ได้รับอำนาจให้ทำ โดยผู้ที่ปรากฏในเอกสารนั้นว่าเป็นผู้ทำ เป็นการลวงให้หลงในตัวบุคคลผู้ทำเอกสาร หรือในลายมือชื่อของผู้ทำเอกสารนั้น แต่ทั้งนี้ ต้องไม่ใช่เรื่องการมอบอำนาจให้กระทำการแทนในฐานะตัวการตัวแทนตามกฎหมาย” [1]

ศาสตราจารย์.ดร.หยุด แสงอุทัย ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “การทำเอกสารปลอม คือ การทำเอกสารขึ้นมาใหม่ แสดงให้เห็นว่า เอกสารนี้มาจากผู้อื่น ไม่ใช่ผู้ที่ทำเอกสารนั้น และ “ผู้อื่น” จะมีตัวตนหรือไม่ก็ได้” [2]

            คำว่า “ปลอม” ในความผิดฐานปลอมเอกสาร มาตรา 264 ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยู่ก่อนเลย ก็สามารถปลอมขึ้นได้ และไม่ต้องทำให้เหมือนจริง สามารถปลอมได้โดย

1.      ทำปลอมขึ้นทั้งฉบับ คือ ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง โดยที่อาจจะมี หรือ ไม่มีเอกสารอันแท้จริงนั้นอยู่เลยก็ได้ หรือ

2.      ปลอมเอกสารแต่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใด คือ ได้มีการทำเอกสารที่แท้จริงขึ้น แต่ยังไม่เสร็จครบถ้วน ถ้าผู้ใดปลอมข้อความต่อไปจนครบถ้วน หรือ แม้จะยังไม่เสร็จครบถ้วนก็ตาม (ถ้าส่วนที่ทำขึ้นมีลักษณะเป็นเอกสารแล้ว) ก็เป็นการปลอมแต่บางส่วนแล้ว [3]

จะสังเกตเห็นได้ว่า คำว่า “แท้จริง” ในเอกสารที่แท้จริง ไม่ได้หมายความว่า เป็นเท็จหรือเป็นจริง และไม่ได้หมายความว่า ความหมายของเอกสารอันแท้จริงนั้นจะเป็นจริงเสมอไป อาจมีข้อความอันเป็นเท็จก็ได้ และเอกสารปลอมก็อาจมีข้อความตรงกับความจริงก็ได้ [4]

กล่าวโดยสรุป เอกสารปลอม คือ เอกสารที่ทำขึ้นโดยผู้ถูกกล่าวอ้างมิได้ทำ หรือมิได้ให้อำนาจผู้อื่นทำเอกสารนั้น เท่ากับทำขึ้นโดยให้เข้าใจว่าเป็นเอกสารที่คนอื่นทำ หรือหลอกในส่วนที่เกี่ยวกับตัวผู้ทำเอกสาร โดยไม่ต้องคำนึงว่าข้อความที่เขียนลงในเอกสารนั้นจะจริงหรือเท็จ [5]

อะไร คือ เอกสารเท็จ ?

“เอกสารเท็จ” หรือ “เอกสารซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จ” เป็นเอกสารที่ทำขึ้นมีข้อความเป็นเท็จ หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ซึ่งผู้ทำเอกสารเท็จจะกระทำโดยมีอำนาจหน้าที่หรือไม่ก็ได้ แต่สาระสำคัญคือ ไม่มีการกล่าวอ้างว่าผู้อื่นทำเอกสารนั้น หรือเป็นเอกสารของผู้ทำเอกสารเอง ไม่ใช่เอกสารของผู้อื่น [6]

ในเรื่องเอกสารเท็จนั้น ไม่มีบทบัญญัติทั่วไปกำหนดความผิดไว้ดังเช่นกรณีปลอมเอกสาร ซึ่งมีมาตรา 264 กำหนดลักษณะทั่วไปของการปลอมเอกสารไว้ แต่เอกสารเท็จนั้นมีบทบัญญัติกำหนดความผิดไว้โดยเฉพาะในบางมาตรา เช่น มาตรา 162 (เจ้าพนักงานทำเอกสารเท็จ) มาตรา 267 (แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จลงในเอกสาร) และมาตรา 269 (ผู้มีวิชาชีพทำคำรับรองเป็นเอกสารเท็จ) [7]

ข้อสังเกต

หากเป็นเอกสารเท็จต้องเป็นเอกสารที่อยู่ในอำนาจของตนที่จะทำเอกสารนั้นได้ แล้วทำขึ้นไม่ตรงต่อความจริง แต่ถ้าเป็นเอกสารปลอมต้องเป็นเอกสารที่ผู้กระทำไม่มีอำนาจที่จะทำได้ แต่ทำขึ้นในนามผู้อื่น

ข้อควรระวัง

เอกสารเท็จ อาจจะไม่ใช่เอกสารปลอมก็ได้ แต่เอกสารปลอมบางอย่าง มีข้อความอันเป็นเท็จ(อยู่ในตัว) และเอกสารปลอมบางอย่างก็อาจมีข้อความที่แท้จริงก็ได้

ตัวอย่าง

Ø    นายแดงกู้เงินนายดำ 10,000 บาท แต่ไม่ได้ทำสัญญาไว้ นายดำเกรงว่าจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ นายดำจึงทำสัญญากู้ขึ้นมาฉบับหนึ่ง มีข้อความว่า นายแดงกู้เงินนายดำไป 10,000 บาทและลงลายมือชื่อนายแดงเช่นนี้ เป็นเอกสารปลอม แม้จะตรงกับความเป็นจริงก็ตาม (ปลอมแต่ไม่เท็จ) [8]

Ø    ส. เปิดบัญชีฝากเงินไว้กับธนาคาร ก. โดยใช้ชื่อผู้ฝากว่า พ. แล้วเซ็นชื่อ พ. ลงในคำขอฝากเงิน เซ็นเซ็นชื่อในตัวอย่างลายมือชื่อ และให้ธนาคาร ก. ออกเช็คในนาม พ. ดังนี้ ไม่เป็นการปลอมเอกสารของผู้ใด เป็นแต่ ส. ไม่ต้องการใช้ชื่อจริงเท่านั้นจึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา 264 (ฎีกาที่. 151/2507) [9]


Notes


[1] นพพงษ์ จูห้อง, LW 207 กฎหมายอาญา 2, พิมพ์ครั้งที่ 4 (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2552), หน้า 401-402.

[2] วิรัช เมฆอรุโณทัย, กฎหมายเนติบัณฑิต อาญา ภาค 2 เล่ม 2, (กรุงเทพฯ: อฑตยา มิเล็นเนียม, 2554), หน้า 35.

[3] นพพงษ์ จูห้อง, LW 207 กฎหมายอาญา 2, 4:401,405.

[4] วิรัช เมฆอรุโณทัย, กฎหมายเนติบัณฑิต อาญา ภาค 2 เล่ม 2, หน้า 30.

[5] ปัญญา วรวิวัฒน์, กฎหมายอาญา ภาคความผิดและลหุโทษ, (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม, 2554), หน้า 329.

[6] เรื่องเดียวกัน.

[7] สมศักดิ์ เอี่ยมพลับใหญ่, กฎหมายอาญา ภาคความผิดเกี่ยวกับความเท็จ การปลอมและการแปลง, (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม, 2554), หน้า 134.

[8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 137.

[9] วิรัช เมฆอรุโณทัย, กฎหมายเนติบัณฑิต อาญา ภาค 2 เล่ม 2, หน้า 33.


Reference


จิตติ ติงศภัทิย์. กฎหมายอาญา ภาค 2 ตอน 2 และภาค 3. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา, ม.ป.ป..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณนะค่ะ..ที่แบ่งปัน