ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - the kingdom of ashura ♡ hunhan -

    ลำดับตอนที่ #1 : - epilogue -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.5K
      17
      23 ก.พ. 58



    The Kingdom of Ashura

    The Character of This Story

     


    โอ เซฮุน : ลูกชายเพียงคนเดียวเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ในเครือดิโอส (Dios) อหังสาหริมทรัพท์อันดับหนึ่งแห่งเกาหลี เขาไม่เคยเชื่อในความรักตั้งแต่ถูกคนนั้นทำร้ายหัวใจอย่างแสนสาหัส! ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมาแต่เด็กทำให้เป็นคนก้าวร้าว ดื้อดึง เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร คำว่าเลว คำว่าเหี้ยก็ไม่สามารถบรรยัดความชั่วช้าของชายหนุ่มคนนี้ได้ ขัดแย้งกับความต้องการของบิดาจึงทำให้เซฮุนมีปัญหากับทางบ้านบ่อยครั้ง เป็นหัวหน้ากลุ่มไกเซอร์(Kaiser) ที่ไม่ว่าใครก็ต่างต้องเกรงกลัว เพราะถ้าหากผู้ใดก็ตามที่มีเรื่องกับหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนี้คนผู้นั้นไม่อาจมีชีวิตรอดอย่างสุขสบายได้ในเกาหลีอีกต่อไป!
     


    ปาร์ค ชานยอล
    : ทายาทเจ้าของธุรกิจพันล้านที่ปรองดองกับตระกูลโอมายาวนาน จึงทำให้ชานยอลและเซฮุนสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษในกลุ่มไกเซอร์ ด้วยความที่มีนิสัยคล้ายกันทั้งใจร้อน บุ่มบ่าม เอาแต่ใจ แหกกฎทุกอย่างที่สามารถทำได้และใช้เงินปิดมันจึงทำให้ชานยอลกลายเป็นบุคคลที่น่าเกรงกลัวไม่ต่างจากเซฮุน หากจะหาความต่างของสองคนนี้คงเป็นคำว่าครอบครัวที่ปาร์คชานยอลได้รับอย่างอบอุ่นมาเสมอ ไม่ว่าเขาจะทำเรื่องต่ำเลวและเหี้ยแค่ไหน ชานยอลก็ไม่เคยดึงคำว่าครอบครัวให้มารับผลกรรมสักครั้ง ถึงแม้ความใจร้อนของเขาจะน้อยกว่าเซฮุน แต่อย่าให้เขาคนนี้โมโหแล้วกัน เพราะมันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยละ!




    คิม จงอิน : เด็กหนุ่มวัฒนธรรมตะวันตกที่ถูกเลี้ยงและเติบโตจากมหานครนิวยอร์ค ย้ายมาเกาหลีเพราะถูกทางบ้านควบคุมความประพฤติ และเพราะประวัติของเขาที่เป็นถึงลูกชายสุดท้องเจ้าของอหังสาหริมทรัพท์ยักษ์ใหญ่ที่ครอบครองทั่วยุโรปและรวมถึงความเลวที่ได้ก่อไว้ก่อนถูกส่งตัวมายังเกาหลีทำให้จงอินได้กลายเป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มไกเซอร์ และที่สำคัญเขาคนนี้ไม่เคยคิดจะปรับปรุงตัวตามความต้องทางบ้าน หนำซ้ำ ความเลวของเขากับมีเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เขาทำได้ทุกอย่างถ้าต้องการ และถ้าเขาอยากได้อะไร ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องได้!





    คริส : ทายาทธุกิจส่งออกระหว่างประเทศที่ติดอันดับหนึ่งของโลก เขาไม่เคยสนใจว่าคนรอบข้างจะคิดอย่างไรกับการกระทำของตน เขาไม่เคยแคร์ความคิดใครนอกจากครอบครัวและเพื่อนสนิทอย่างกลุ่มไกเซอร์ ถึงแม้ภายนอกเขาจะดูเกเรก้าวร้าว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าครอบครัวก็ไม่ต่างจากเด็กผู้ชายธรรมดา และนี่ก็คือมุมอ่อนโยนของเขาที่น้อยคนนักจะรับรู้ เรียกได้ว่าเขาคือชาที่ดูร้ายกาจน้อยที่สุดในกลุ่มไกเซอร์เลยก็ว่าได้ แต่คำว่าร้ายกาจน้อยก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนดีแบบพระเอกนิยายแจ่มใสซะหน่อยนี่ เพราะเขานี่แหละ นักซิ่งตัวจริงที่รักการใช้ร่างกายมนุษย์เป็นตัวเดิมพัน!




    ลู่หาน : เด็กนักเรียนทุนดีกรีความฉลาดระดับประเทศ และเพราะชื่อเสียงเรื่องด้านฉลาดเป็นกรดจึงทำให้ได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนยักษ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยลูกคุณหนูซึ่งแตกต่างจากฐานะทางบ้านอย่างสิ้นเชิง การที่เด็กธรรมดาติดดินเข้ามายังในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยลูกหลานคนใหญ่คนโตสร้างความหมั่นไส้ให้แก่คนทั้งโรงเรียนรวมถึงสี่หนุ่มไกเซอร์ แม้ว่าจะฉลาดแต่เขากลับไม่เคยทันคน เพราะในชีวิตหมกมุ่นแค่กับการอ่านหนังสือและสอบเท่านั้นจึงกลายเป็นคนอ่อนต่อโลก และเพราะเหตุนี้จึงกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ชีวิตของลู่หานไม่สงบอีกต่อไป






     

    -----------------------------------------------




     

    EPILOGUE

    enjoy with this part :)





     

                   “ฮึก”


                    ภายในห้องกว้างที่มืดสนิท


                    “อึ๊กฮึก



                    บนผืนเตียงคิงไซส์ขนาดกว้างกับสองร่างชายหญิงเปล่าเปลือย




                    “ฮึกฉันไม่ฮึกคุณต้องรับผิดชอบฉันสิคะ




                    “เหอะ”



                    หญิงสาวร้องฟูมฟายอย่างคนขาดอากาศพลางกุมหน้าท้องแบนราบที่โปร่งนูนเล็กน้อย ต่างจากชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอัดมวนบุหรี่แล้วพ่นควันฟุ้งกระจายอย่างไม่คิดใส่ใจสิ่งใดบนโลกใบนี้

                    “แต่ว่าฮึก เด็กคนนี้ฮึก เป็นลูกของ เรานะคะ”

                    ชายหนุ่มที่นั่งอัดมวนบุหรี่หยุดกึก ดวงตาคมเฉี่ยวราวราชสีห์ป่าวาววับก่อนกระตุกยิ้มเยาะ

                    “อย่างงั้นหรอ?”

                    “ฮึกฉันไม่เคยมั่วสำสอนที่ไหน! ฉันรักแค่คุณ ฉันมีแค่คุณคนเดียว ที่ผ่านมาแม้ว่าคุณจะควงหญิงอื่นได้หน้าตาเฉยก็เถอะ! ฮึก”

                    หญิงสาวร้องลั่นอย่างรักษาเกียรติ หากแต่ชายหนุ่มกลับลดมือบี้มวนบุหรี่ลงถาดก่อนเบนดวงตาคมจ้องใบหน้าหญิงสาวแล้วเผยรอยยิ้มอย่างที่ทำให้หญิงสาวหัวใจพองโตอย่างยินดีทันที เธอมั่นใจในความสวยเด็ดว่าสามารถมัดใจชายผู้ที่ใครก็ต่างอยากได้และครอบครอง เธอมั่นใจว่าชายคนนี้ต้องเป็นของเธออย่างแน่นอน... หากทว่า

     

                “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเอาเด็กออกซะสิ”




                   นั่นก็เป็นเพียงแค่ความฝันของหล่อนเอง



                 “เซฮุน!!!




                    เพราะเจ้าชายโง่ๆแบบในนิยาย... ไม่มีในโลก





                    ชายหนุ่มที่ถูกตะโกนเรียกชื่อกระตุกยิ้มเย้ยหยัน ดวงตาคมมองใบหน้าหญิงสาวพลางเลิกคิ้วขึ้นราวถามว่ามีอะไร ท่าทางไม่สนใจใยดีต่อชีวิตในไส้และชื่อเสียงของเธอทำเอาหล่อนกำมือแน่น

                    “ฉันไม่สามารถเอาเด็กออกได้! เขามีชีวิต! และที่สำคัญเขาคือลูกของฉันและคุณ!!

                    “ถ้าเอาไอ้เด็กนั่นออก มันก็ไม่ใช่ลูกฉันแล้วนี่ ไม่ใช่หรอกหรอ?”

                    “เซฮุน! คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ!

                    ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สนใจคว้าสมุดเช็คขึ้นมาแล้วจรดปากกาลงไปก่อนวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงราวกระดาษแผ่นนั้นเป็นแค่กระดาษเปล่าๆ

                    “เอาเงินนี่ไป และอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เพราะฉันไม่ชอบใช้ของเน่าเปื่อยแบบเธอ!!!!

                    ชายหนุ่มก้าวเดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวเคราะห์ร้ายยืนดิ้นด้วยความขัดใจ เซฮุนไม่คิดสนใจเสียงหวีดร้ายที่ดังเล็ดรอดออกมา เพราะผู้หญิงหากินกับเขาด้วยวิธีนี้ก็มีถมเถไปและที่สำคัญ

                    นี่ก็ไม่ใช่รายแรกที่เขาไล่คู่นอนไปทำแท้ง!

     



     

                    แกร๊ก

                    “เห้ยไอ้ฮุน กูได้ข่าวว่ามึงเอาอีกแล้วหรอวะ”

                    “อะไรวะ”

                    คนถูกทักเอ่ยตอบเพื่อนสนิทผิวแทนเกียมแดดที่ดูมีเสน่ห์อย่างน่าใจหาย ใบหน้าเรียวกับริมฝีปากบางอมชมพูที่เจาะกลีบปากล่างสองที่ดึงดูดให้ชายคนนี้ดูหล่อร้าย เขาคือ คิม จงอินเด็กหนุ่มจากต่างแดนที่ถูกครอยครัวจับย้ายกลับมาคุมความประพฤติที่เกาหลี แต่ดูเหมือนจะได้กินแห้วเมื่อเขาคนนี้ไม่มีทีท่าจะลดพฤติกรรมแย่ๆลง หนำซ้ำกลับดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

                    “ก็ข่าวที่มึงไล่ยัยอึนบีไปทำแท้งดังทั่วเลยน่ะสิ สงสัยยัยนั่นหวังจะจับมึงจริงๆ แต่ก็เสือกโง่ที่คิดจับผิดวิธี”

                    หากแต่ครั้งนี้กลับมีอีกเสียงตอบขึ้นแทน ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งยองชันเข่ากับพื้นเพื่อเช็คสภาพมอเตอร์ไซค์เครื่องพันคันยักษ์ของตน ผิวขาวสว่างที่ตัดกับเสื้อกล้ามสีดำโชว์รอยสักมากมายบนท่อนแขนยาวกำยำ เขาคือ คริส ชายหนุ่มที่ภายนอกดูน่าเกรงกลัวด้วยรูปร่างและรอยสักไม่เว้นที่หากแต่เขากลับอ่อนโยนที่สุดในกลุ่มนี้แล้ว

                    “เหอะ ก็ช่วยไม่ได้นี่ สันดานไอ้ฮุนเป็นยังไงก็รู้กันดีเสนอตัวเข้ามาแหย่เอง”

                    เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของห้อง ชายร่างสูงโปร่งยืนพิงกำแพงมองตรงมายังเพื่อนที่เดินเข้ามาใหม่ ในมือของเขาถือไฟแช็คซิปโป้ดีดหัวฝาเปิดปิดไปมาดังเสียงกิกก๊อก ริมฝีปากกระจับได้รูปเจาะห่วงเล็กสีดำที่มุมปากทั้งสองคาบมวนบุหรี่พ่นควันให้ลอยฟุ้งทั่วห้องกว้าง เขาคือ ปาร์ค ชานยอล ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาจนใครก็ต่างลุ่มหลงในความหล่อร้าย หากแต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะความบ้าระห่ำที่ชอบสร้างเรื่องได้ไม่เว้นวัน

                    “หึ กูไม่เอาผู้หญิงพันธุ์นั้นมาเป็นเมียหรอก”

                    เสียงทุ้มของชายหนุ่มที่ตกเป็นบทสนทนาดังขึ้นในที่สุด ใบหน้าคมเงยขึ้นเล็กน้อยมองเพื่อนสนิททั้งสามที่ทอดสายตามองมาพลางกดยิ้มลึกมุมปาก ผิวขาวละเอียดรับกับผมบลอนด์สีขาวสว่างทำให้ชายคนนี้โดดเด่น และยิ่งดวงตาเฉี่ยวคมที่เหมือนมือปีศาจดึงกระชากวิญญาณใครก็ตามแต่ที่จ้องมองยิ่งทำให้ โอ เซฮุน ตกเป็นที่หมายปองของใครหลายคน หากแต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะชายคนนี้คือหัวหน้า กลุ่มไกเซอร์

                    “กูยังไม่เห็นวี่แววว่ามึงจะเอาผู้หญิงคนไหนมาเป็นเมียเลย”

                    ชานยอลเอ่ยตอกกลับเพื่อนทำเอาเซฮุนหลุดหัวเราะในลำคอก่อนยกกำปั้นขึ้นข้างหนึ่งเพื่อรอให้ชานยอลชกผลักกลับมา ชายทั้งคู่ยิ้มให้กันเพราะรู้ดีว่าคำพูดเมื่อครู่ไม่ได้แตกต่างจากตัวเองเลยสักนิด เพราะทั้งเซฮุนและชานยอลรู้จักและเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่สมัยยังพูดไม่ได้ทำให้แค่มองหน้าก็สามารถรู้ไปยันถึงความคิดของอีกฝ่าย

                    “ว่าแต่คุณหัวหน้ารู้เรื่องเด็กใหม่ย้ายเข้ามากลางเทอมยังวะ?”

                    คนถูกเรียกว่าหัวหน้าหันมองคิมจงอินที่นั่งอยู่ไม่ไกลก่อนขมวดคิ้วมุ้น

                    “อย่าเรียกกูว่าหัวหน้า ยังไงกูกับมึงก็เพื่อนกัน เราไม่มีการแบ่งแยกเข้าใจไหม”

                    ถ้อยคำที่พาเอาชายทั้งสามยกยิ้มตาม ถึงแม้เซฮุนจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตแห่งเกาหลีที่ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบได้ แต่เมื่อเขาได้รวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนเขาก็ไม่เคยเบ่งกล้ามโชว์อำนาจของตัวเองที่ล้นหลามกดขี่เพื่อน และนี่ก็ทำให้ กลุ่มไกเซอร์ กลุ่มที่รวมตัวของชายหนุ่มผู้มีอำนาจใหญ่โตที่สุดในเกาหลีไม่เคยแตกหักคอกัน กลุ่มที่ใครก็ต่างเกรงกลัวในอำนาจ กลุ่มที่ใครก็ต่างไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว กลุ่มที่ทำเรื่องชั่วช้าได้อย่างเปิดเผยโดยไม่มีใครกล้าเข้ามาจับหรือตักเตือน

                กลุ่มไกเซอร์ที่ประกอบไปด้วยสี่หนุ่มหล่ออันตรายแห่งเกาหลี

                “เด็กใหม่อะไรวะ?”

                    “ก็มีเด็กใหม่ที่สามารถเข้ามาเรียนกลางเทอมได้น่ะสิ มึงก็คิดดูเอาเองละกันว่าจะเส้นใหญ่ขนาดไหน ขนาดลูกท่านทูตซึงฮยอนยังเข้าเรียนกลางเทอมไม่ได้เลย”

                    โรงเรียนนานาชาติดิโอส เป็นโรงเรียนที่รวมเหล่าลูกหลานไฮโซจากทั่วทั้งประเทศไว้ที่เดียว และแน่นอนว่าที่นี่เด่นเรื่องการเรียนการสอนมากที่สุดในเกาหลีใต้ หากแต่ใครที่จะเข้ามาเรียนที่นี่นั้นไม่มีเงินมากพอก็ไม่สามารถส่งลูกหลานเข้าได้เพราะค่าเทอมที่แพงหูฉี่และยังไม่รวมไปถึงชุดเครื่องแบบและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ที่ราคาก็แพงไม่แพ้กัน

                    และเป็นที่แน่นอนว่าการยัดลูกหลานเข้าเรียนกลางเทอมนอกจากจะยากแล้วยังต้องมีอำนาจมากพอตัวด้วยเช่นกัน

                    แล้วนักเรียนใหม่ที่สามารถเข้ามาเรียนกลางเทอมได้นั้นเป็นใครกันละ?

                    “เหอะ เด็กนักเรียนใหม่แม่งพูดไปแล้วพวกมึงต้องร้องยี๋แน่ๆ”

                    คิมจงอินเอ่ยขึ้นเมื่อเขารู้มาจากหญิงสาวที่กำลังคั้วด้วยอยู่ในโรงเรียนเล่ามาให้ฟัง เรื่องราวที่พาให้อีกสามหนุ่มมองอย่างใคร่รู้

                    “แล้วใครกันละที่ว่านั่น?” คริสเอ่ยทำลายความเงียบก่อนคิมจงอินที่รู้อยู่ก่อนจะกระตุกยิ้มออกมา

                    “เด็กนักเรียนใหม่ เป็นนักเรียนทุนน่ะสิ

                    คำกล่าวที่ต่างพาให้นิ่งค้างด้วยความสงสัย นักเรียนทุน? โรงเรียนไฮโซชื่อดังอย่างดิโอสไม่เคยเลยสักครั้งที่จะรับเด็กนักเรียนทุนเข้ามา! แถมยังเข้ามากลางเทอมแบบนี้ได้อีก! นักเรียนทุนคนนี้เป็นใครกัน..?

                    “นักเรียนทุนเนี่ยนะ? เหอะตลกไปหน่อยแล้ว โรงเรียนของฉันไม่เคยรับเด็กทุน”

                    เซฮุนที่เป็นทายาทของเครืออหังสาหริมทรัพย์ดิโอสที่กำลังใหญ่โตขยายไปยังทั่วโลกหัวเราะขำในลำคอ โรงเรียนที่มีแต่ลูกผู้ดีไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องแปดเปลื้อนเพราะเด็กนักเรียนทุน!

                    ข่าวนี้มันต้องผิดแน่ๆ

                    “ถ้ามึงรู้ว่านักเรียนทุนคนนั้นคือเด็กที่กำลังโด่งดังว่าเป็นอัฉริยะตอนนี้มึงจะต้องเชื่อ เขาเป็นเด็กที่มีไอคิวสูงเกือบสามร้อยซึ่งนับว่าเทียบเท่าไอสไตน์หรือบางทีอาจจะมากกว่าไอสไตน์ก็ได้ และตอนนี้เขากำลังเป็นเด็กที่กำลังถูกองค์กรทางอังกฤษจับตามองให้มาร่วมทำงานด้วยพ่อของมึงก็เลยเซ็นรับเด็กคนนั้นเข้ามาเรียนโรงเรียนของเราเพื่อจะสร้างชื่อยังไงละ!!!

                    เป็นไปไม่ได้น่า! โรงเรียนของเขารับนักเรียนทุนเข้ามาอย่างงั้นหรอ! ถึงจะเป็นเด็กอัฉริยะขนาดไหน แต่ถ้าขึ้นชื่อว่านักเรียนทุนก็เสื่อมเสียชื่อเสียงดิโอสแล้ว! แฃะที่สำคัญ

                    ทายาทดิโอสคนนี้อย่างเขา ไม่ มี ทาง ยอม แน่!

                    “เด็กอัฉริยะ? เหอะฟังดูแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด ไม่มีตังค์เข้าเรียนที่ดีๆเลยใช้ความฉลาดจ่ายแทนเงินงั้นสินะ?”

                    ชานยอลที่ยืนฟังอยู่นานพ่นควันบุหรี่ก่อนพูดออกมา ดวงตาคมฉายแววสมเพสกับเรื่องที่ได้ฟัง

                    “กูไม่มีทางยอมรับไอ้เด็กอัฉริยะนั่นแน่ๆ”

                    น้ำเสียงเย็นยะเยือกจากเซฮุนดังขึ้น น้ำเสียงที่ใครก็ต่างรู้ดีว่าเรื่องราวเลวร้ายกำลังเกิดขึ้น

                    “ในเมื่อมันเข้ามาเรียนที่นี่ได้กูก็จะทำให้มันคลานออกไปเอง!

                    น้ำเสียงเย็นที่บอกได้ดีถึงความมุ่งมั่นว่านักเรียนทุนคนนั้นกำลังเป็นผู้โชคร้ายที่สุดในโลกที่บังอาจทำให้หัวหน้ากลุ่มไกเซอร์ไม่ชอบใจ ยังไม่ทันได้เห็นหน้าก็สร้างเรื่องซะแล้วสิ



                    “จงอิน”




                    “ไรวะ?”





                    “เด็กนักเรียนทุนมันชื่อเหี้ยไรวะ”






                    ผู้โชคร้ายที่กำลังถูกปีศาจตามล่า







              “ลู่หาน เด็กนักเรียนทุนมันชื่อเสี่ยวลู่หาน”






                    ปีศาจที่ชื่อว่าไกเซอร์












    อิเจ๊อยากกร๊๊ดกับฟิคเรื่องนี้ดังๆถูกใจเจ๊มากค่ะ!
    เดี๋ยวมาต่อนะ ง่วงละ ฝันดีๆ คุคิสะระนังกุ้งกิ้งๆ ><
    #อาชูราฮุนฮาน

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×