ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [คลังSF] iKON #ฟิคสั้นค่อน [JUNBIN,DOUBLEB]

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] iKON #จุนบินหวงแรง JUNBIN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      10
      4 เม.ย. 58





    [SF] #จุนบินหวงแรง JUNBIN






     

    -
     

    “มึงเป็นไรเนี่ยบิน” เสียงห้าวที่ยังคงเกรี้ยวกราดเพราะอารมณ์รุนแรงยังคั่งค้างอยู่ในใจเอ่ยถาม ในขณะที่อีกคนรีบก้าวฉับๆเดินเข้าห้องไปแบบไม่คิดจะสนใจ ความจริงควรเป็นเขาที่ต้องโกรธดิ ทำไมฮันบินต้องโกรธเขา

     

    “มึงนั่นแหละเป็นอะไร ทำแบบนั้นทำไมจุนเน่”

     

    “กูทำอะไร”

     

    “อย่ามาแกล้งไม่รู้ มึงไปชกรุ่นพี่กูแบบนั้นได้ยังไง” ฮันบินพูดอย่างอารมณ์เสีย อารมณ์เสีย เข้าอารมณ์เสียมากที่จุนฮเวเป็นแบบนี้ มันบ่อยมากกับการที่จุนฮเวตามไปหึงหวงเขาถึงที่คณะ จุนฮเวหาเรื่องทุกคนที่กล้าเข้ามาใกล้ฮันบิน มีปากเสียงกับทุกคนที่เข้าหาฮันบิน จนตอนนี้ฮันบินแทบจะไม่มีใครคุยด้วยแล้ว

     

    “ก็มันมาจับมือมึง” จุนฮเวเถียงก่อนจะพาร่างหนาๆของตัวเองเดินไปนั่งที่เตียงนุ่มๆ ในใจเขามันยังร้อนรนไม่หายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมา วันนี้แลกมัดกับรุ่นพี่ในคณะของฮันบินไปไม่น้อยเลย เหตุเพราะไอ้ห่านั่นมันกล้ามาจับมือแฟนกู

     

    แฟนใช่ เขากับฮันบินเป็นแฟนกัน เป็นแฟนกันเกือบปีแล้ว เขารักฮันบินมาก หวงมาก ห่วงมาก เป็นไปได้ไม่อยากจะปล่อยให้ไปไหนเลยด้วยซ้ำ ฮันบินแม่งไม่รู้อะไรว่าไอ้รุ่นพี่พวกนั้นมันหื่นกระหายขนาดไหน เขาเคยมีปากเสียงกับรุ่นพี่พวกนั้นมาหลายรอบแล้ว แต่รอบนี้หนักหน่อยเพราะถึงขั้นลงไม้ลงมือ แผลฟกช้ำบนใบหน้าเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดี

     

                ว่าแต่จะไม่ทำแผลให้กูหน่อยเหรอ?

     

    “มึงอ่ะคิดมาก”

     

    “ก็กูหวง”

     

    หวงแฟนจนไปต่อยหน้าคนอื่นนี่ผิดตรงไหนเหรอจุนฮเวไม่เข้าใจ

     

    เขาหวงฮันบินตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันไม่ใช่แค่ตอนที่เป็นแฟนกัน คือหวง หวงตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพื่อนกัน เพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน สรรพนามที่ใช้เรียกกันเลยเป็นกู-มึงแบบนี้ มันสบายใจที่อยู่ๆก็รู้ตัวว่าชอบเพื่อนตัวเองและก็รู้ว่าอีกคนก็มีใจให้กันอยู่ จุนฮเวขอคบกับฮันบินแบบแฟนตั้งแต่จบม.ปลาย จนตอนนี้ก็อยู่ปีหนึ่ง เป็นเวลาหลายเดือนที่เป็นแฟนกันมา

     

    เขาชอบที่ฮันบินเป็นคนขี้อ้อน น่ารัก ใจดี ถึงจะด่าเก่งไปบ้างแต่นั่นก็คือเสน่ห์ของฮันบิน ตลอดเวลาที่คบกันเขาก็ตามหึงตามหวงฮันบินตลอด แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะหนักถึงขั้นเลือดตกยางออกเหมือนครั้งนี้ และดูเหมือนฮันบินจะโกรธมากที่เขาตามไปอาละวาดต่อหน้าคนเยอะๆแบบนั้น เพราะช่วงเวลาที่นั่งรถด้วยกันมาอีกคนไม่เอ่ยปากพูดกับเขาเลย ทั้งๆที่ใบหน้าเขามีแต่แผลฟกช้ำเต็มไปหมด แต่ฮันบินก็ไม่ถามไถ่กันสักคำ จนมาถึงห้องนี่แหละที่เพิ่งจะได้เปิดปากพูดกัน

     

                ความจริงคนที่โกรธต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอ?

     

    “มึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าหากู จนกูจะไม่มีเพื่อนคบอยู่แล้ว”

     

    “มีกูเป็นแฟนทั้งคนคนอื่นจะสำคัญอะไร ซี้ดดด” จุนฮเวซี้ดปากเพราะเริ่มเจ็บจากการอ้าปากพูดบ่อยๆ

     

    “แฟนก็ส่วนแฟน เพื่อนก็ส่วนเพื่อน มึงเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะจุนฮเว” ฮันบินมองแผลที่ปากอีกคนแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ชอบหึงหวงแล้วทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังตลอด

     

    จุนฮเวเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หึงขี้หวงขี้โวยวาย ซึ่งมันก็ดีสำหรับคนที่เป็นแฟนอย่างฮันบิน จนกระทั่งวันนี้ที่ทำให้รู้ว่ามันมากไป มากเกินไปจนเริ่มจะทำให้อึดอัด เขาไม่ชอบเห็นจุนฮเวเจ็บตัวเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

     

    กะอีแค่เขายืนจับมือกับรุ่นพี่แล้วไอ้โหดนี่เข้าไปเห็นพอดี แค่นั้นแหละจุนฮเวซัดรุ่นพี่คนนั้นทันที แล้วก็แลกหมัดกันไปมาอย่างบ้าคลั่ง นาทีนั้นจุนฮเวน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น่ากลัวจนเขาแทบไม่กล้าเข้าใกล้

     

    เขาเองโกรธที่จุนฮเวใจร้อนเกินไป แล้วแบบนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ตอนมีเรื่องกันคนก็เยอะ รุ่นพี่ในคณะก็เต็มไปหมด ไหนจะเพื่อนร่วมคลาสของเขาอีก

     

    “กูผิดอีกแล้วสินะที่หวงมึง” จุนฮเวเลือกที่จะนั่งหันหลังให้อีกคน แผ่นหลังว่างเปล่าที่เล่นเอาคนมองใจหวิว

     

    “มันผิดที่มึงหวงกูจนทำให้คนอื่นเจ็บตัว”

     

    “มันก็ทำกูเจ็บเหมือนกัน”

     

    “นั่นก็เพราะมึงใจร้อน” ฮันบินขยับตัวไปนั่งลงข้างๆอีกคนที่หันหลังให้เขาอยู่ รู้ว่าอีกฝ่ายคงโกรธจริงๆเข้าแล้ว เขาจึงพยายามจะเย็นลงทั้งๆที่ก็มั่นใจว่าตัวเขาเองไม่ได้ผิด

     

    “กูใจเย็นไม่ได้หรอกถ้าเป็นเรื่องของมึง”

     

    “แต่มันไม่ได้มีอะไรเลยนะจุนเน่”

     

    “จับมือกันเนี่ยนะไม่มีอะไร กูไม่กระทืบไอ้ห่านั่นตายคาตีนก็ดีขนาดไหนแล้ว”

     

    “เค้าเป็นรุ่นพี่กูนะ”

     

    “ไหนลองบอกเหตุผลดีๆมาสักข้อ ว่าทำไมถึงจับมือกัน” จุนฮเวยังคงต่อบทสนทนาไปเรื่อยๆทั้งที่ยังหันหลังให้ รู้ว่าอีกคนขยับมานั่งใกล้ๆกัน แต่กูไม่หันไปหาหรอกนะ กูโกรธมึงอยู่นะฮันบิน

     

    “ก็แค่แสดงความยินดี”

     

    “ความยินดีอะไร”

     

    “พี่เขาไปแข่งผลงานวิชาการได้เหรียญทอง เขาบอกกูกูก็แค่จับมือแสดงความยินดี” ฮันบินเริ่มใจเสียเพราะจุนฮเวไม่ยอมหันหน้ามาคุยกันดีๆสักที อยากจะกอดอีกคนแน่นๆแต่เขาเองก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมายขนาดนั้นป้ะ แค่จับมือแสดงความยินดีมันแค่นั้นจริงๆนะ

     

    “มีตั้งหลายอย่างที่แสดงความยินดีได้ ไม่จำเป็นต้องจับมือ”

     

    “แต่มันไม่มีอะไร นี่มึงจะไม่เขื่อใจกูเลยเหรอ?” พูดไปก็เหมือนมีก้อนความน้อยใจตีขึ้นมาจุกที่คอ ดวงตาร้อนผะผ่าวเหมือนคนจะร้องไห้ ผ่านมาเกือบปีที่คบกันนี่มันไม่ได้ทำให้มึงไว้ใจหรือเชื่อใจกูได้เลยหรอ

     

     

    “กูเองก็รักก็หวงมึง มากๆ แต่กูก็ไว้ใจมึง กูรู้ว่ามึงรักกูแค่คนเดียว แต่มึง

     

    “กูไว้ใจมึง แต่ไอ้พวกที่เข้าหามึงกูไม่ไว้ใจมัน”

     

    “มันไม่มีอะไร หันหน้ามาคุยกับกูเดี๋ยวนี้นะจุนเน่” พยายามทำเสียงให้ปกติทั้งที่ตอนนี้น้ำตามันกำลังจะไหลลงมา เขาเคยบอกจุนฮเวแล้วว่าไม่ว่าจะโกรธกันแค่ไหนก็ห้ามหันหลังให้กัน แต่อีกคนก็ยังทำมันเรื่อยไปเวลาที่โกรธหรืออารมณ์ไม่ดี

     

              เขาร้องไห้ง่ายเกินไป ยิ่งจุนฮเวทำเหมือนจะไม่สนใจกันน้ำตามันก็ยิ่งอยากจะไหลออกมา

     

    “กูโมโหอยู่” พูดออกไปตามความเป็นจริง เขาห้ามตัวเองไม่อยู่จริงๆเวลามีใครเข้ามายุ่งย่ามกับฮันบิน มันเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังจะเสียสิ่งที่หวงแหน ทั้งๆที่จริงๆมันอาจจะไม่ได้มีอะไรเหมือนที่อีกคนบอก แต่คนมันรักคนมันหวงคนมันขี้หึงจะให้ทำยังไง

     

    “งั้นก็ไม่ต้องหันมา” ฮันบินละความพยายามที่จะพูดต่อเพราะจุนฮเวยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ ต่อให้ขออะไรไปก็ป่วยการเปล่าๆ

     

    ร่างเล็กเอนตัวลงนอนราบไปกับเตียงนุ่มๆสีขาวสะอาด เตียงที่เขากับจุนฮเวนอนด้วยกันทุกคืน นอนกอดกันทุกคืน แต่ตอนนี้กลับมองเห็นเพียงแค่แผ่นหลังหนาที่นั่งหันหลังให้อยู่ปลายเตียง

     

                ไอ้คนใจร้ายกูจะร้องไห้แล้วนะ

     

    ฮันบินนอนตะแคงข้างหันหลังให้อีกคนบ้าง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ห้ามไม่อยู่ไหลลงมาด้วยความน้อยใจ แค่หันหน้ามาคุยกับกูแค่นี้มันจะตายหรือไง ทำไมต้องให้กูมีน้ำตาก่อนตลอดมึงถึงจะยอมอ่อนให้กู ทำไมไม่ไว้ใจกู คิดว่ากูจะชอบคนที่แค่ได้จับมือกันงั้นหรอ คบกันมาก็นานทำไมมึงยังไม่รู้จักตัวตนกูอีก

     

                กูไม่เคยง่ายกับใครยกเว้นมึง

     

                ยอมให้คนเดียวคือมึง

     

                อ้อนมึงคนเดียว

     

                อยากเป็นเพื่อนกับทุกคนยกเว้นมึงที่กูอยากเป็นมากกว่านั้น

     

                ชอบมึงคนเดียว

     

                รักมึงคนเดียว

     

    เสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมาเพียงแผ่วเบาแต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้จุนฮเวได้ยิน ฮันบินร้องไห้? คิดได้แค่นั้นใบหน้าคมก็หันไปมองที่ต้นเสียงทันที ร่างบอบบางของฮันบินนอนตะแคงหันหน้าไปอีกทาง แผ่นหลังบางสั่นเล็กน้อยเพราะแรงสะอิ้น จุนฮเวถอนหายใจเบาๆก่อนจะค่อยๆคลานตัวเข้าไปหาอีกคนอย่างเงียบๆ

     

    จ้องมองใบหน้าหวานที่เขาแสนหวงแหนกำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตากลมโตแสนน่ารักนั่นปิดสนิทแต่ก็ยังมีน้ำตาไหลลงมาเป็นสาย ดูเหมือนอีกคนจะยังไม่รู้ตัวที่เขาขยับเข้ามาใกล้

     

    ฮันบินเป็นคนขี้น้อยใจและมักจะระบายออกมาด้วยการร้องไห้เสมอ ข้อนี้จุนฮเวมักจะลืมและเผลอทำให้อีกคนน้อยใจอยู่บ่อยครั้ง

     

    ใจที่มันเคยแข็งกลับอ่อนยวบลงเพียงเพราะได้เห็นน้ำตาหยดใสๆบนพวงแก้มนุ่มนิ่ม อารมณ์โมโหสูญสลายไปแทบหมดสิ้นเมื่อเห็นฮันบินนอนสะอื้นฮักอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้

     

                เขาแพ้น้ำตาฮันบิน

     

    ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยจุดฟกช้ำค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ๆอย่างแผ่วเบา ฮันบินเริ่มรู้สึกได้จึงรีบลืมตาโพลง เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เพิ่งจะทำให้เขาร้องไห้ มือเล็กของฮันบินก็ยกขึ้นเช็ดน้ำตาเป็นพัลวัน

     

    “ร้องไห้ทำไม” จุนเฮวใช้มือเพียงข้างเดียวเพื่อรวบแขนเล็กๆนั่นไว้ ก็เช็ดซะแรงขนาดนั้นหน้าแดงกันหมดพอดี

     

     

    “อย่าร้องไห้เลยนะ กูขอโทษ”

     

    “เลิกโมโหแล้วหรือไง” ฮันบินนอนหงายเพื่อที่จะมองหน้าแฟนเจ้าอารมณ์ของเขาชัดๆ ยอมรับว่าดีใจที่อีกคนเป็นฝ่ายเข้ามาขอโทษกันดีๆ

     

    แผลช้ำเลือดปรากฏมากมายบนใบหน้าคม ความจริงเขาควรจะทำแผลให้จุนฮเว แต่ก็อย่างที่เห็น แค่จะคุยกันหมอนี่ยังไม่หันหน้ามามองกันเลย

     

    “ก็เย็นลงแล้ว แค่เห็นน้ำตามึงอ่ะ” ยุนฮเวยกแขนข้างหนึ่งขึ้นท้าวคางจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตาก่อนจะส่งแขนอีกข้างไปกอดรัดรั้งเอวบางเข้าหาตัว

     

    “ต้องเห็นน้ำตากูก่อนตลอด”

     

    “กูไม่ชอบเห็นมันเลยจริงๆ”

     

    “แต่มึงก็ชอบทำให้กูร้องไห้”

     

    “กูขอโทษ” กดจูบลงบนแก้มใสเพื่อซับหยดน้ำให้เหือดหาย ฮันบินนอนนิ่งอย่างรู้งาน เขารู้ว่านี่คือวิธีง้อของไอ้นักเลงอย่างจุนฮเว ชอบมาทำให้เสียน้ำตาแล้วก็มาแสดงท่าทีอ่อนโยนใส่ตลอด

     

                มันน่าเจ็บใจที่เขาเองก็ยอมให้อีกฝ่ายไปซะทุกครั้ง

     

    “มึงก็รู้ว่ากูรักมึงคนเดียว กูไม่อยากให้ใครมองมึงไม่ดี มีเรื่องกับคนอื่นแบบนั้นมันไม่ดีนะจุนเน่” เมื่ออีกคนละใบหน้าออกจากการจูบซับน้ำตาให้ ฮันบินก็จัดการเทศนาสั่งสอนคนขี้หึงทันที

     

    “กูพยายามแล้ว แต่เพราะเป็นมึง กูห้ามใจไม่ได้ กูรักมึงมากไป”

     

    “กูก็รักมึงมาก แต่กูเชื่อใจมึง กูคิดว่าต่อให้ใครพยายามเข้าหามึงยังไงมึงก็จะไม่มองใครเพราะมึงมีกูอยู่แล้ว”

     

     

    “กุก็เหมือนกัน ต่อให้ใครเข้าหากูยังไงกูก็ไม่มองเพราะกูมีมึงอยู่แล้ว แค่มึงคนเดียวกูจุนฮเว”

     

    “ก็อย่างที่บอกว่ากูเชื่อใจมึงอยู่แล้ว แต่คนอื่นมันไม่ได้น่าเชื่อใจเลยสักนิด”

     

     

    “อีกอย่าง กูไม่ชอบให้ใครแตะต้องมึง มึงเป็นของกูนะบิน”

     

    “กูไม่ได้ยอมให้ใครแตะต้องง่ายๆอยู่แล้ว จับมือนั่นมันก็เป็นมารยาทที่รุ่นน้องจะแสดงความยินดีต่อรุ่นพี่ แค่นั้นเอง”

     

     

    “กูรักมึงคนเดียวนะจุนเน่”

     

    “กูไม่มีทางรักใครได้นอกจากมึงฮันบิน” ประโยคหวานถูกเอ่ยออกไปพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นๆที่ถูกแขนแกร่งกระชับให้แน่นขึ้น บ่งบอกให้ฮันบินได้มั่นใจว่าจุนฮเวได้ใส่ความจริงใจลงไปในประโยคกว่าร้อยเปอร์เซ็น

     

    “อย่าหันหลังให้กูอีกนะ” ซุกใบหน้าลงกับอกแกร่ง ความอบอุ่นถูกถ่ายทอดผ่านการสัมผัสกันและกัน มันรู้สึกดี รู้สึกดีแบบที่ไม่คิดว่าจะรู้สึกดีแบบนี้กับใครได้อีก

     

    มีแค่คนเดียวที่ทำให้ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำสารภาพรักตอนนั้น

     

    มีแค่คนเดียวที่ปรากฏในใจชัดเจนมาโดยตลอด

     

    มีแค่คนเดียวที่ยอมทนใช้คำว่าเพื่อนมาจนถึงม.ปลายทั้งที่จริงๆอยากเป็นมากกว่านั้นตั้งนานแล้ว

     

    มีแค่คนเดียวที่ฮันบินเผยให้เห็นด้านต่างๆที่ไม่เคยมีใครได้เห็น

     

    มีแค่คนเดียว แค่คนคนนี้ คนที่ชื่อ กูจุนฮเว

     

    “เข้าใจแล้ว ขอโทษที่ทำมึงร้องไห้” จุนฮเวดันไหล่เล็กออกเบาๆเพื่อให้สบตากัน เขาจ้องมองดวงตาหวานอย่างนึกเอ็นดู ฮันบินคือคนที่เขาหวงแหนมาโดยตลอด เป็นคนเดียวที่จุนฮเวคิดว่าชาตินี้เขาจะยอมทุกอย่าง ทุกอย่างที่เป็นฮันบิน เขาจะยอมให้ทุกอย่าง ทุกอย่างเลยจริงๆ

     

    ใครจะตาหวานขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว

     

    ใครจะตัวนุ่มนิ่มน่ากอดแบบนี้ไม่มีแน่นอน

     

    ใครจะขี้อ้อนเท่านี้ก็คงหายาก

     

    ใครจะน่ารักดึงดูดได้เท่านี้

     

    ไม่มีใครที่จะทำให้จุนฮเวร้อนรนกระวนกระวายใจได้มากขนาดนี้อีกแล้ว

     

    ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติของคนคนเดียว คิมฮันบิน

     

    “ถ้าขอโทษแล้วไม่ทำอีกมันจะดีมากเลย”

     

    “กูจะพยายาม” ว่าแค่นั้นก็ประกบปากลงบนเรียวปากนุ่มนิ่มทันที ขืนปล่อยไว้ก็พูดมากไม่จบไม่สิ้น ฮันบินแม่งขี้บ่น ขี้บ่นไม่พอ แม่งปากหวานอีกต่างหาก เพราะแบบนี้ไงกูถึงไปไหนมาไหนไม่ได้เนี่ย เมียน่ารักอ่ะโอ้ยยยยยยยยยย

     

    “อื้ออออ” ร่างบางส่งเสียงประท้วงเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ จะจูบทำไมไม่บอกก่อน แล้วนี่มั่นใจหรอว่าเจ็บปากอยู่ จุนเน่แม่งจูบเก่งชิบหาย โดนจูบทีไรลืมหายใจทุกที

     

    “เจ็บปากว่ะ” จุนฮเวบ่นทันทีที่ละริมฝีปากออกมา แม่มึง ถ้าไม่ปากแตกนี่กูจัดได้หนักกว่านี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าฮันบินแม่งหวานขนาดไหน หวานแบบโคตรพ่อโคตรแม่หวานอ่ะ

     

                หวานแม้กระทั่งเสียงที่ครางออกมาตอนอยู่ใต้ร่าง

     

    “ซ่าดีนัก” ว่าเสียงดุก่อนมือบางจะยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าคมที่ยังเต็มไปด้วยแผลเล็กใหญ่

     

    หมดหล่อเลยผัวกู

     

     

    “ทำแผลให้กูหน่อยสิที่รัก” เอ่ยขอแผ่วเบาพร้อมกับแววตาอ้อนวอนสุดแรงเกิด นานๆทีกูจะอ้อน และมึงต้องแพ้ลูกอ้อนกูคิมฮันบิน

     

    “ลุกขึ้นสิ นอนทับกูแบบนี้จะทำยังไงล่ะ”

     

    “หรือว่าจะทำอะไรที่มันต้องนอนทับกันดีล่ะ” ความเจ้าเล่ห์คืออีกหนึ่งคุณสมบัติของกูจุนฮเวนะเผื่อใครยังไม่รุ้

     

    “ทะลึ่งละมึง ปากแตกอยู่ ไปหยิบกล่องพยาบาลมาได้แล้ว”

     

    “คร้าบเมียย” เด้งตัวออกจากร่างบางอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลแล้วเดินมานั่งลงข้างๆฮันบินที่ตอนนี้นั่งรอเรียบร้อยแล้ว

     

    “ทีหลังทำอะไรก็คิดบ้าง คนเยอะขนาดนั้นไม่อายบ้างไง?” สำลีชุบแอลกอฮอล์บางเบาถูกจิ้มลงไปบนแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    “ซี้ดดด เบาๆเจ็บ นาทีนั้นกูไม่อายหรอก กูคิดแค่ว่ามันเป็นใครทำไมได้จับมือมึง แค่นั้นแหละ”

     

    “ถามเหตุผลกูสักคำก็ไม่มี ไปถึงซัดเอาๆอย่างกับหมาบ้า”

     

    “ก็คนมันหึง”

     

    “หยุดอารมณ์ร้อนได้แล้วนะจุนเน่กูเป็นห่วง กูไม่ชอบเห็นมึงเจ็บตัวแบบนี้นะ” แววตาจริงจังถูกส่งผ่านมาจนจุนฮเวรู้สึกได้ว่าอีกคนไม่ได้ล้อเล่น เขารู้มาตลอดนั่นแหละว่าฮันบินเป็นห่วง เขาเองก็ห่วงอีกคนไม่ต่างกัน เขามั่นใจว่าเขาดูแลฮันบินได้ดีในทุกๆเรื่อง ยกเว้นเรื่องอารมณ์ร้อนหึงหวงรุนแรงนี่แหละ แค่นี้จริงๆ

     

    “เลิกน่ารักสักทีสิ คนจะได้ไม่ต้องสนใจมึง กูหวงจะตายอยู่แล้ว”

     

    “ช่วยไม่ได้แฟนมึงน่ารัก” พลาสเตอร์ลายมิกกี้เม้าส์ถูกแปะปิดลงบนแผลที่มุมปากเรียบร้อย หลังจากที่มีแผ่นนึงแปะอยู่ที่หางคิ้ว และอีกแผ่นแปะที่โหนกแก้ม

     

    ฮันบินชอบมิกกี้เม้าส์ ของใช้หลายอย่างล้วนเป็นมิกกี้เม้าส์ ตุ๊กตาหลายตัวที่วางเรียงรายบนหัวเตียงก็ล้วนแล้วแต่เป็นมิกกี้เม้าส์ จุนฮเวเองเคยอิจฉามิกกี้เม้าส์มาก แต่ก็โดนฮันบินดุว่ามันเป็นแค่ตุ๊กตา เออ ก็จริง แต่บางทีมึงกอดตุ๊กตามากกว่ากอดกูซะอีกT^T

     

    “เมียกูตางหาก” คว้าร่างเล็กมากอดก่อนจะดันให้นอนราบไปกับเตียงแล้วโถมตัวเองทับลงไปอย่างรวดเร็ว กับฮันบินนี่อย่าเปิดโอกาสให้มันได้แย้ง ถ้ามันแย้งแล้วมันแย้งยาว ทำอะไรต้องทำเลย ไม่ต้องไปขอมัน เราเป็นชายใจต้องแน่วแน่ หนักแน่น

     

                จับเมียตัวเองปล้ำตำรวจคงไม่จับหรอก

     

    “นี่ ปากมึงมีแผลนะ” ดันอกแกร่งออกเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะยื่นปากมาจูบกัน

     

    “กูทำได้น่า มือก็มี”

     

    “ไม่เอา กูไม่มีอารมณ์อ่ะหน้ามึงอุบาทว์มากตอนนี้” ดันร่างหนาออกไปอีกทีพร้อมคำพูดที่ทำเอาจุนฮเวเบะปากหน้ามุ่ย

     

    “แผลแค่นี้มันไม่ได้ทำให้ความหล่อผัวมึงลดน้อยลงหรอกนะ”

     

    “ถุยเถอะ หน้ามึงอย่างกับปลาบู่ชนเขื่อนอ่ะตอนนี้”

     

    “ปากดีนักนะเมีย อย่ามาครางกระเส่าเรียกชื่อกูก็แล้วกัน”

     

    “ไอ้ทะลึ่ง อื้ออ!” ด่าได้แค่นั้นทุกคำพูดก็ถูกดูดกลืนหายไปจนหมด จุนฮเวรีบปิดปากคนปากดีทันที กูบอกแล้วว่าอย่าปล่อยให้ฮันบินมีโอกาสได้แย้ง ต้องปิดปากแม่งตั้งแต่ต้นจนจบนี่แหละ

     

    “เดี๋ยว” ฮันบินรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักอกแกร่งออกห่าง ก่อนจะพลิกตัวเป็นฝ่ายคร่อมร่างอีกคนไว้บ้าง

     

    “ไรของมึงเนี่ย” จุนฮเวถามเสียง งง เมื่ออยู่ๆก็รับรู้ถึงรังสีอะไรบางอย่างที่เรียกว่าพลังเมีย

     

    “ปากมึงเจ็บอยู่ เดี๋ยวกูทำเองดีกว่า” นั่นหมายความว่าฮันบินจะเป็นฝ่ายคุมเกม งานนี้มึงไม่รอดแน่จุนเน่ กูเองที่จะออนท็อป กูจะเป็นฝ่ายมอบความสุขให้มึงเองที่รัก แล้วรู้อะไรมั้ยจุนฮเว

     

     

                มึงนั่นแหละที่ต้องส่งเสียงครางกระเส่าอยู่ใต้ร่างกู

     

     

     

     

     

    -

    FIN

     

     

     

             

     

     

     

    แถ่นแท๊นนนนนน ฉลองเปิดคลังด้วยจุนบิน จุนจะบินระเบิดตู้มม  จะบอกว่าชอบคู่นี้มากกกกก

    เรียกว่าตกหลุมรักเลยย คือเห็นโมเม้นแล้วน่ารักแบบดิบเถื่อนดี ก็เลยอยากแต่งฟิค

    แต่งเองฟินเองแบบแมมมมมมม่ TT^TT บินเป็นของเน่ช่างดีงาม แงงงงงงงงง

    เป็นฟิคจุนบินที่ตอนท้ายกลายเป็นฮันฮเว 5555555555555

    **ตอนแรกกะจะแต่งลงเป็นสเปเชียลวันเกิดจุนเน่ แต่ไม่ทัน เพราะวันนั้นเรายังเป็นซอมบี้อยู่ในค่ายอยู่เลย

    แต่นี่ก็เป็นช็อตฟิคสเปวันเกิดเน่นั่นแหละ แค่ผ่านมาหลายวันเฉยๆ 5555555

    เราชอบคู่นี้มากอ่ะ ใครชอบคู่นี้มั่งคุยกันได้นะ *หาแนวร่วม 55555

    เม้นท์บอกกันให้กำลังใจกันหน่อยน่อววว ฟิคนี้เรามีแท็กนะเธอว์ ไปเล่นกันป่ะๆ #จุนบินหวงแรง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×