เหย้าบาหยัน - นิยาย เหย้าบาหยัน : Dek-D.com - Writer
×

    เหย้าบาหยัน

    สัญญากรรมรักข้ามภพของวิญญาณผี"ขจร"ในเมืองร้างใต้ดินที่สหรัฐอเมริกา นำ"แก้ว"เดินทางกลับสู่อดีตเพื่อย้อนรอยรักแห่งกรรมที่เกิดขึ้นในเหย้าของเทียด"บาหยัน"ที่เมืองไทย คำให้การของเหล่าวิญญาณเท่านั้นที่จะปลดปล่อยพันธนาการของวิญญาณทุกดวงให้สู่สุคติ

    ผู้เข้าชมรวม

    2,392

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    52

    ผู้เข้าชมรวม


    2.39K

    ความคิดเห็น


    27

    คนติดตาม


    17
    จำนวนตอน :  10 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ย. 56 / 05:05 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


     





    บทนำ


     
                       " น่อย น้อย หน้อยย...น๋อย น่อย นอย...น่อย น้อย หน้อยย...." 
         
                      สียงผู้หญิงอันเย็นยะเยือกขับคู่มากับสายลมในค่ำคืนนี้อีกครั้ง  มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้ามาค้างแรมที่นี้  
    เสียงสำเนียงของผู้หญิงผู้นั้นดูโบราณราวกับการขับร้องเพลงไทยเดิมในสมัยก่อน มันเป็นเสียงที่ไม่มีเนื้อร้อง แต่เป็นการใช้ถ้อยคำแทนท่วงทำนองของดนตรี   และเมื่อใดก็ตามที่เดินออกค้นหาว่าเสียงนั้นมาจากไหน  ลมราตรีก็จะพัดเสียงนั้นพริ้วหายไป  แต่ลมกลับนำพากลิ่นดอกการเวกลอยมาอบอวลในห้องให้หอมละมุลจนเผลอเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัว  เมื่อตื่นมายามเช้า  กลิ่นหอมของดอกการเวกยังคงหอมกรุ่นติดอยู่ริมหมอน  ทั้งๆที่ในบริเวณรอบนั้นมันไม่มีแม้แต่ต้นไม้ดอกเลยสักต้นเดียว  เพราะที่นี้คือ โรงแรมริมปากอ่าวของเมืองSeattle รัฐWashington
     
    +++
     
                      ม้ตอนนี้มันจะเป็นฤดูฝน"กิ่งแก้วกาหลง"กลับไปยืนดูสายฝนที่ริมระเบียงห้อง  เธอกำลังยืนครุ่นคิดหาคำตอบกับเรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้น  เรื่องนี้มันไม่ใช่ความฝันหรืออาการกึ่งหลับกึ่งตื่น เพราะมันเกิดขึ้นหลายครั้งตั้งแต่เธอมาพักอยู่ที่นี้   เหลืออีกแค่สองวันก็จะเดินทางออกจากโรงแรมนี้  แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเสียงปริศนากับกลิ่นดอกการเวกนั้นมันมีที่มาอย่างไร

                      "ก๊อก ก๊อก ก๊อก"
                     เสียงเคาะเรียกประตูดังขึ้น แก้วหยุดคิดแล้วเดินไปเปิดประตูหน้าห้องเพื่อต้อนรับเพื่อนที่มาถึง

                     " พร้อมหรือยังจ๊ะ ท่านหญิงกิ่งแก้วกาหลงคนสวย ขณะนี้ราชรถพร้อมแล้วพะยะค่ะ"     เสียงทักทายกวนๆของมนตรี เพื่อนสนิทคนเดียวของแก้วที่อาศัยอยู่ที่เมืองซีแอตเทิ้ล  วันนี้มนตรีจะทำหน้าที่เป็นไกด์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง

                     " พร้อมตั้งนานแล้วจ้าพ่อหน้ามน แหมถึงตระกูลฉันเป็นตระกูลหม่อมเก่า แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว ฉันมันรุ่นโหลนแล้วจ่ะ  ปู่ฉันเสี้ยวเชื้อเจ้าแต่งกับคุณย่าเชื้อจีน พอตกมาถึงรุ่นฉัน มันก็ไม่เหลือเชื้อจ้งเชื้อเจ้าแล้วหล่ะ แซวฉันตลอดเลยมั้ง " 

                      " จ้าาาาแก้วเพื่อนเลิฟ ตอนนี้นะฉันว่าเชื้อเจ้าคงไม่มี แต่ไม่นานแกคงจะมีเชื้อหวัดแล้วหล่ะ"

                      " ทำไมอ่ะ "  

                      " นี่มันหน้าฝนนะคร้าบบ อากาศหนาวติดลบแบบเนี้ย เปิดระเบียงทำไมเนี้ย โอ้ยย!ฉันหนาว"  
                      มนตรีรีบวิ่งไปปิดประตูที่ระเบียงและเปิดฮีทเตอร์เพื่อให้อุณหภูมิห้องมันอุ่นขึ้น ส่วนแก้วก็เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอหยิบสร้อยล็อกเก็ตเส้นหนึ่งมาสวมที่คอ มันเป็นสร้อยสามกษัตริย์เก่าๆที่ห้อยด้วยล็อกเก็ตวงรีสีทองเหลือง ด้านหน้ามีรอยสลักนูนเป็นรูปกุหลาบ สภาพของล็อกเก็ตดูเก่าไม่ต่างจากสายสร้อยเพราะมันเต็มไปด้วยรอยถลอกและคราบดำมากมาย 

                      " ใครให้มาอ่ะ?  แฟนหรอ?"

                      " จะบ้าเหรอ นี่คือล็อคเก็ตของคุณย่าฉันย่ะ มันเป็นล็อตเก็ตที่สืบทอดมาจากคุณเทียดบาหยัน แล้วมันก็ตกทอดมาถึงทวดฉัน แล้วก็มาย่าฉัน "

                      "เดี๋ยวก่อนนะ อะไรคือเทียดอ่ะ? "

                      " เทียด เข้าใจง่ายๆก็คือแม่ของทวดฉันไง คุณเทียดบาหยันท่านเกิดสมัยรัชกาลที่ห้าโน้นแหน่ะ ตระกูลฉันเรื่องมันย๊าวยาว ขี้เกียจเล่า ไอ้สร้อยเนี้ยคุณย่าท่านให้ฉันก่อนเดินทางมาที่นี้ และที่ฉันยิ้มเพราะฉันนึกถึงคำพูดท่าน  ท่านบอกว่าทุกครั้งที่ใส่สร้อยนี้ ขอให้บุญทุกอย่างของย่าโปรดคุ้มครองฉันให้แคล้วคลาด และมีความสุขเสมอไป"
                     แก้วพูดจบก็เอาสร้อยไว้ในสองฝ่ามือพร้อมประนมมือจบยกขึ้นเหนือหัว

                      " นี่สร้อยปลุกเสกประจำตระกูลหรอแกเหรอเนี้ย ฮ่าฮ่า" มนตรีขำกับท่าทางของแก้วที่ทำเหมือนตอนคนแก่จบซองผ้าป่าขอบุญ

                     " ถึงไม่ใช่พระปลุกเสก  แต่ฉันก็อุ่นใจเหมือนมีพรผู้ใหญ่คุ้มหัวอยู่นะ มันสบายใจยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก...ฮะ ฮ้ะ ฮ๊ะ ฮั้ดชิ้ว" แก้วจามออกมาขณะพูดมันยิ่งทำให้มนตรีขำออกมาดังลั่นห้อง

                     "ฮ่าฮ่าฮ่า สงสัยจะคุ้มกันหวัดไม่ได้เนอะสร้อยเส้นเนี้ย ฉันว่าแกกินยาแก้หวัดหน่อยมะ เล่นนอนเปิดประตูระเบียงทุกคืนเลยใช่ไหมเนี้ย บ้าไปแล้วแกเนี้ย"

                      " ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเปิดซะหน่อย  แค่รู้สึกว่าฮีทเตอร์มันร้อนไป ก็เลยเปิดอากาศให้ถ่ายเท แล้วก็มานอนจนเผลอหลับไปอ่ะ "  

                      " ไม่มีใครที่นี้เค้าเปิดประตูระเบียงนอนแบบแกหรอกนะ ที่นี้อเมริกาคร้าบบ ไม่ใช่เมืองไทย นี่มันจะสิบโมงแหล่ะ ฉันว่าเรารีบไปเถอะ เราจะได้ทันUnderground Tourรอบแรก"

                      " ตกลงเราจะไปไอ้Underground Tourนี้ก่อนเหรอ มันมีอะไรอ่ะ ฉันไม่ชอบที่อับชื้นมืดๆและแคบๆนะแก"

                      " มาเถอะน่า! สนุกแน่เพราะมัน
    คือการทัวร์เมืองใต้ดินร้างที่ถูกไฟไหม้เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วโน้น  นี่มันคือไฮไล้ท์ของสถานที่เที่ยวของซีแอตเทิ้ลเลยน้า ที่ฉันให้ไปรอบแรกเพราะคนอาจยังไม่เยอะ วันนี้วันธรรมดาคนน้อยชัวร์ พอทัวร์เสร็จเราก็มากินพิซซ่าโฮมเมดตรงPioneer Square รับรองอร่อยมากกกก  อ่ะเอาโปรชัวร์Underground Tourไปดูก่อนหล่ะกัน"

                       มนตรีเห็นแก้วอิดออดไม่อยากไป เขาจึงยื่นโปรชัวร์Underground Tour ให้แก้วดู  แก้วเปิดดูไปมาอย่างคร่าวๆ แต่เธอก็มาสะดุดกับภาพใหญ่ที่ประกอบในโปรชัวร์ มันเป็นภาพของซุ้มประตูอิฐทรงโค้ง ตรงด้านขอบประตูซุ้มมีป้ายเก่าๆถูกสุมด้วยกองอิฐทับไว้ ด้านหลังของประตูดูเหมือนมีทางเดินที่สามารถทะลุเข้าไปได้อีก แต่มันดูมืดจนมองไม่เห็นปลายทางว่าลึกแค่ไหน
     
     
                     แก้วเพ่งดูมันด้วยความสงสัย ยิ่งดูเธอยิ่งคุ้นเข้าไปเรื่อยๆ เธอครุ่นคิดอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วเธอก็คิดออกว่าเคยเห็นภาพลักษณะนี้ที่ไหน ทุกคืนหลังจากเสียงและกลิ่นการเวกทำเคลิ้มหลับไป  ประตูอิฐในภาพจะมาปรากฏในฝันทั้งๆที่ไม่เคยมาและไม่เคยรู้จักเมืองใต้ดินที่ถูกไฟไหม้แห่งนี้มาก่อน  

                   " มนตรี ฉันว่าเราไปเมืองใต้ดินที่ว่ากันเถอะ ฉันชักอยากไปแล้วล่ะ"  

     
    ++++++


     
    คนไหนอยากฟังว่าไอ้เสียง "น่อย หน้อย น้อย" เป็นอย่างไร ลองฟังเสียงตัวอย่างได้เลยจ้า
     

    สำหรับท่านที่มีข้อสงสัยว่าเหย้าคืออะไร "เหย้า"แปลว่าเรือน ซึ่งเราอาจเคยได้ยินกันบ่อยอยู่แล้ว คำว่า "เหย้า" อ่านออกเสียงว่า "เย่า  คำคำนี้เขียนได้สองแบบคือ เหย้า กับ หย้าว ความหมายเหมือนกันไม่แตกต่าง

    นิยายเรื่อง"เหย้าบาหยัน" เป็นนิยายที่อิงประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่5และราวๆคริสต์ศักราช1889ของฝรั่ง  ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่มีในบทล้วนเกิดขึ้นจริงอิงตามยุค อาจมีเพิ่มเนื้อสีสันเพื่อความบันเทิง แต่ชื่อบุคคลในนิยายเป็นตัวละครสมมุติไม่ได้มีขึ้นจริง

    อย่าลืมติดตาม"เหย้าบาหยัน" กันด้วยนะจ๊ะ แนะนำติชมกันมาหน่อยน้าา จะได้รู้ว่ามีคนอ่านอยู่นะจ๊ะ


     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น