jekkiiee
ดู Blog ทั้งหมด

HEEChUl ' s DaIRY

เขียนโดย jekkiiee

เรื่องราวสมัยเด็กของฮีนิม ตอนที่ 1

GROWING UP



Childhood -1-

ผมเกิดใน Gangwon-do Hoengseong. ซึ่งนั่นเป็นที่ๆปู่กับย่าของผมอาศัยอยู่.
ไม่นานนักหลังจากที่ผมเกิด, ผมก็ย้ายไปอยู่ที่โซลด้วยกันกับพ่อแม่ของผม.
พี่สาวของผม, ซึ่งอายุมากกว่าผม 1 ปี, ยังคงอยู่ที่บ้านของคุณย่า..
ผมคิดว่าน่าจะเป็นตอนที่ผมซัก 5 ขวบล่ะมั้ง? ที่ผมย้ายกลับไปอยู่กับพี่สาวผมอีกครั้งนึง. ผมจำไม่ค่อยได้จริงๆอ่ะ ㅡㅡ||
ตอนที่ผมเด็กๆ, ผมย้ายบ้านบ่อยมากเลย. เพราะงั้น, ผมก็เลยไม่มีเพื่อนเลยซักคน, โดยส่วนมากผมจะเล่นอยู่คนเดียวตลอดล่ะ.
คุณแม่ของผมท่านบอกว่าผมน่ะเป็นเด็กที่เชื่อฟังแล้วก็ว่าง่าย ไม่เคยรบกวนขอให้พวกท่านซื้ออะไรให้ , แล้วก็ไม่เคยร้องไห้เพื่อที่จะทำให้สิ่งที่ต้องการบรรลุจุดประสงค์.
แต่ถ้าหากว่าผมเกิดอยากจะซื้ออะไรขึ้นมาซักครั้ง, ผมก็จะใช้แผนการสกปรกแล้วก็ก่อกวนพวกเค้าอย่างไม่รู้จักจบสิ้นเลย ㅡㅡ||
ประมาณว่าเริ่มมาผมก็จะหัวเราะอย่างมีความสุข , แต่แล้วอยู่ๆผมก็จะร้องไห้ออกมาเสียงดังมาก ㅡㅡ||
แล้วถ้าหากว่าตีผม, ผมจะร้องไห้มากขึ้นอีก, ตีผมอีกที , ผมก็จะร้องไห้อีก..
และเมื่อจุดมุ่งหมายของผมนั้นบรรลุ , ผมก็จะหยุดร้องไห้แล้วก็มอบรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักแล้วก็มีสเน่ห์ ㅡㅡ||

ผมไม่ชอบทั้งพวกหุ่นยนต์ของเล่นแล้วก็ตุ๊กตา ㅡㅡ||..
คุณแม่ของผมเพิ่งถามผมเมื่อกี๊นี้ “เมื่อตอนเด็กๆลูกไม่ชอบหุ่นยนต์แล้วก็ตุ๊กตา, แล้วในตอนนั้นลูกเล่นอะไรงั้นเหรอ?”
เพราะว่าผมไม่มีอะไรที่ผมชอบเป็นพิเศษเลยน่ะสิ ㅡㅡ||
ครั้งนึงผมเคยมี, แต่ไม่ยอมให้เอามันออกมาเล่น, ผมจะบอกว่า “ฉันน่ะไม่มีไอ้นี่ที่บ้านหรอกนะ-” ㅡㅡ||
วิดิโอเทปที่ถูกยืม และเทพนิยายที่มีชื่อเสียงที่เคยอ่านมาก่อน.
เมื่อตอนที่พวกเราไปที่ร้านเสื้อผ้าแล้วก็รองเท้า, พวกเค้ามักจะซื้อรองเท้าแล้วก็เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงให้กับผมอยู่เสมอเลย ㅡㅡ
เพราะว่าผมใส่แล้วดูดี, และคนอื่นๆก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน, เพราะอย่างงั้นผมก็เลยไม่เคยต่อต้านมันอย่างจริงๆจังๆ, แล้วก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขำด้วย ㅡㅡ||
ผมไม่เคยแสดงท่าทางมีสเน่ห์เจ้าอารมณ์เวลาอยู่ที่บ้าน, เวลาที่ผมเลือดออกเพราะว่าหกล้ม, ผมจะ “…..” แล้วก็ยืนขึ้นอีกครั้ง ㅡㅡ||
ตอนนี้, ถึงแม้ว่าแม่ของผมจะบอกว่า “ลูกน่ะจะร้องไห้ขึ้นมาทันทีต่อเมื่อเวลาที่ลูกเบื่อมากๆ ~ และเมื่อความรู้สึกทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมา, ลูกก็จะหยุดร้องไห้แล้วก็เริ่มหัวเราะอีกรอบ”
แต่ผมน่ะจะไม่ร้องไห้ถ้าหากว่ามีคนอยู่รอบๆผม.
ซึ่งนั่นเป็นเวลาที่ผมถูกระบบการเผาผลาญอาหารของผมเข้ายึด ㅡㅡ||

มีอยู่ครั้งนึงที่ผมเกือบจะร้องไห้ เพราะว่าผมถูกไล่ออกจากบ้าน, ประตูถูกเปิดออกมาตอนที่ถูกผมเคาะเท่านั้น
หลังจากที่เพื่อนบ้านเดินออกมาเห็นดวงตากลมโตของผม, พวกเค้าก็พูดกับแม่ของผมว่า “ความผิดอะไรกันที่เด็กที่อ่อนน้อมเชื่อฟังแบบนี้จะสามารถทำได้น่ะ~” ㅡㅡ||

จริงๆนะ, ผมจำไม่ได้จริงๆ ㅡㅡ||
ตั้งแต่ช่วงอายุนั้น, ผมก็ไม่ได้บอกเรื่องราวของผมกับใครเลย, และไม่อยากให้คนอื่นๆรู้ด้วยว่าผมคิดอะไร ㅡㅡ


Credit - Sapphire Ent.
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**

 

เรื่องราวสมัยเด็กของฮีนิม ตอนที่ 2

เมื่อตอนเด็กๆผมไม่ชอบเด็กผู้หญิง.
ในระหว่างช่วงที่เรียนอนุบาล, เด็กๆทุกคนจะจับมือกันในตอนที่พวกเค้าเดิน ยกเว้นผม,
เวลาที่เด็กคนอื่นๆร้องไห้ด้วยความโมโห, ผมจะวิ่งหนีไป ㅡㅡ||
มาต่อกันที่เรื่องแปลกๆของผม ว่าทำไมผมถึงได้เกลียดเด็กผู้หญิง ㅡㅡ||
ด้วยเหตุนี้ พวกเด็กผู้หญิงจะไม่เข้ามาเล่นกับผมหรือว่ารบกวนผม, สามารถจะพูดได้ว่าผมนั้นไม่ป๊อบปูลาร์เอาซะเลย.
โรงเรียนอนุบาลดูเหมือนจะเป็นสถานที่ๆไร้ความหมาย, ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนอนุบาลหรือว่าโรงเรียน, ผมไม่เคยโดดเรียนเลย ㅡㅡv ไปเข้าเรียนแม้กระทั่งว่าตัวเองป่วย.
สิ่งเดียวที่ผมสามารถจะนึกออกเกี่ยวกับชีวิตในโรงเรียนอนุบาลของผม.. มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเรื่องนึง.
ไปยังโรงเรียนอนุบาลอย่างช้าๆ, นั่งลงบนที่นั่งของตัวเองอย่างเงียบๆ, แต่เด็กที่นั่งอยู่ทั้งสองฝั่งข้างตัวผมนั้นเล่นกันเสียงดัง.. จนในท้ายที่สุดคุณครูก็เห็นเข้า, และแม้กระทั่งตัวผมที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ถูกลงโทษ.
ทำไมถึงมาทำโทษผมล่ะ - -? หรือเป็นเพราะว่าเวลาที่เพื่อนๆทำเสียงดัง, ผมไม่ได้หยุดเค้างั้นเหรอ..?
ถึงอย่างงั้นก็เถอะ, เวลาที่เด็กคนอื่นๆเสียงดัง, ทำไมผมถึงจะต้องไปหยุดเค้า~
จุกจิกเรื่องโน้นเรื่องนี้มากเกินไปแล้ว แต่ผมนั้นไม่สามารถที่จะหาคำที่จะใช้อธิบายตัวเองได้, ดังนั้นผมก็เลยพูดว่า
“น่ารังเกียจจริงๆ..”
เมื่อคำนี้ถูกพูดออกไป, แม้กระทั่งคุณครูก็ยังอึ้ง ㅡㅡ|| เธอนั้นเงียบไปทำให้ผมพอใจเลยทีเดียว ㅡㅡ+++
ผมเคยเรียนเทควันโด้ด้วยเช่นกัน. เรียนตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าอนุบาลซะอีก.
แต่ระหว่างที่มีการทดสอบที่จะมีผู้ปกครองทั้งหมดคอยดูอยู่จากข้างหลัง, จังหวะของผมนั้นผิดพลาดไป, ไม่ได้ทำตามอย่างที่เด็กคนอื่นเค้าทำกัน ㅡㅡ||
ในตอนนั้น, ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของคนอื่นจะบอกว่า “น่ารักจังเลย ~”… แต่แม่ของผมนั้นอายมาก ㅡㅡ|| ผมไม่รู้หรอกในตอนนั้นเพราะว่าผมยังเด็กมาก ㅡㅡ||
ผมเกลียด “การแข่งขัน”. และไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราจะต้องแข่งขันกัน. กับเด็กเล็กๆอย่างผม, มันก็แค่การต่อสู้กันระหว่างเด็กเล็กๆ.. เพราะว่านอกเหนือจากนั้น ผมไม่ได้คิดถึงเลย.
ด้วยเหตุนี้, มีอยู่ครั้งนึงที่ผมกระตือรือร้นเกินไป, และตีกับคู่ต่อสู้ของผมอย่างไม่สนใจระวัง , แล้วก็ถูกด่าอย่างรุนแรงจากคุณครูที่สอน ㅡㅡ|| โชคไม่ดี, มันเป็นแบบนี้เหมือนกันเมื่อตอนที่ผมไปสู่เลเวลที่สูงขึ้น。
ทำไมพวกเราจะต้องทำการแข่งขัน.. ทำไมต้องนำพาพวกเราไปตามทางที่เหมาะสม, อย่างงี้แล้วก็อย่างงั้น.. ในตอนนั้นผมไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ - - และทำไมพวกเราถึงไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการต่อสู้..
ท้ายที่สุด, ในตอนช่วงโรงเรียนประถม.. ไม่ใช่สิ.. ตอนที่เข้าโรงเรียน, ผมก็หยุดไปเรียนเทควันโด้.
ผมมักจะทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมาให้ได้อย่างดีเมื่อตอนอนุบาล, และไม่เคยส่งผ่านมันไปให้กับคนอื่น..
แต่ผมน่าจะทำมันเสร็จในอีกวันถัดมา, และคนอื่นๆไม่เคยเข้ามาช่วยเหลือผม. เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่ชอบที่จะรับคำขอร้องจากคนอื่นๆเหมือนกัน ㅡㅡ


Credit - Sapphire Ent.
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**

 

เรื่องราวสมัยเด็กของฮีนิม ตอนที่ 3

user posted image

เวลาที่เข้าโรงเรียนประถมก็คือตอนที่ผมอายุได้ 8 ขวบ, ผลการสอบออกมาดีมากเลยล่ะ, และถึงแม้ว่าการได้คะแนนเต็มทุกๆวิชาในตอนอยู่ประถมนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ แต่ในตอนนั้นผมเป็นคนเดียวจากทั้งโรงเรียนที่ได้คะแนนเต็ม, เพราะฉะนั้นคุณครูแล้วก็พ่อกับแม่ก็เลยชอบผมมากๆ. แต่ตอนนี้, ทำไมกัน … ㅡㅡ?

ในความทรงจำของผม ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก, ดูเหมือนว่าผมเล่นแต่กับพี่ชายในหมู่บ้านแล้วก็เพื่อนไม่กี่คน. และเพราะไม่ชอบการทำตามคนอื่นเอาซะมากๆ, เพราะฉะนั้นในตอนที่ลูกข่างนั้นกำลังป๊อบปูล่าร์มากๆ, ผมก็เที่ยวเตร็ดเตร่ไปที่หน้าทางเข้าร้านขายลูกข่าง, และผมก็ยอมแพ้เมื่อผมพบว่าลูกข่างนั้นมันค่อนข้างจะไร้ความหมาย หลังจากที่เที่ยวเตร็ดเต่ไปมาอยู่หลายครั้ว ㅡㅡ;

สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเศร้ามากแล้วก็ดึงดูดใจด้วยนั่นก็คือระหว่างเล่นซ่อนหา, ผมซ่อนอยู่เงียบๆ. หลังจากที่ผ่านไปครู่นึง, และหลังจากผ่านไปนานขึ้น, ผมก็ยังไม่ถูกหาเจอ. ท้ายที่สุดผมก็เลยออกมาแล้วก็มองหา, มันกลายเป็นว่าคนอื่นๆนอกจากผม, ทุกคนเค้ากลับบ้านกันไปแล้ว. - -|| เพราะฉะนั้นในระหว่างการเล่นซ่อนหาครั้งต่อมา, พอผมต้องมาเป็นคนหา, ผมก็เดินตรงกลับบ้านไปเลยถ้าหากว่าผมหาไม่เจอ. ในตอนนี้คิดย้อนกลับไป, ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าตลก, แต่ด้วยอายุของผมในตอนนั้น, มันก็ … (T-T) ถ้าหากว่าพ่อซื้อลูกบอลให้ผมล่ะก็, ผมก็จะออกไปข้างนอกแล้วก็เล่นคนเดียว ~ แล้วก็กลับมาบ้านหลังจากที่เล่นเสร็จ ㅡㅡ อา.. ยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไหร่, ผมก็ยิ่งรู้สึกโศกเศร้าหดหู่มากเท่านั้น ㅡㅡ;

ผมนั้นก็ไม่ป๊อบปูลาร์ในโรงเรียนด้วยเหมือนกัน, ผมถูกบอกว่าเป็นแบบนี้แบบนั้นในทีแรก, และเคยแม้กระทั่งถูกมองเป็น “เด็กประหลาดๆ”. แต่สำหรับคุณครู, เวลาที่ผมทำได้ดี, พวกเค้าจะยังคงมอบรางวัลพร้อมกับรอยยิ้มให้กับผม. พวกผู้หญิงทั้งหมดก็ไม่ค่อยชอบผมเหมือนกัน , และมีอยู่ครั้งนึงผมถูกตีโดยเด็กผู้หญิงคนนึงที่ตัวใหญ่กว่าผม. ผมไม่ร้องไห้, หรือแม้กระทั่งยิ้ม, ผมทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็กลับบ้านไป. วันต่อมา, ไม่สิ, หลังจากวันนั้นไม่นาน , เด็กผู้หญิงคนนั้นคว้าเอาอาหารของผมไประหว่างอาหารเที่ยง. ผมบอกว่า: “แข็งแรงแล้วมันดีตรงไหนเหรอ? ฉันจะให้เธอกิน จากนั้นเธอจะได้กลายเป็นยักษ์ – เธอจะได้มาตีฉันอีกทีไงจริงมั้ย –?” และตามที่ผมคิด, หน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอก็ไม่ได้ตีผม ㅡㅡ++

*เดี๋ยว ก่อนที่จะเล่าต่อ~ ขอโทษเด็กสาวๆทุกคนด้วยนะครับ - - นั่นมันเป็นเด็กเล็กๆที่ยังไม่ 10 ขวบดีเลย, เค้านั้นไม่สามารถที่จะจักดารกับมันได้ ~ ได้โปรดเข้าใจด้วยนะครับ ㅡㅡ*

“มาสิ – เธอไม่มีอะไรจะพูดงั้นเหรอ, มีใครเค้าเกาะหลังเธออยู่เหรอไง ~ เธอมายั่วโมโหฉันทำไมกันห๊ะ? ช่างน่ารังเกียจจริงๆเลย….”

เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องไห้. เด็กผู้หญิงคนอื่นๆทั้งหมดก็เลยมองมาที่ผม, แล้วผมก็ออกจากห้องเรียนไป. หลังจาก 10 นาทีหรือว่ามากกว่านั้น พอผมกลับเข้ามา, กล่องข้าวของผมนั้นก็ไม่ได้ถูกแตะต้อง. ผมบอกกับเธอว่า “โอ้? เธอไม่อยากกินงั้นเหรอ? ฉันทิ้งมันไว้ที่นี่ก็เพื่อให้เธอกินนะ ~ (ยิ้ม)” สุดท้าย, เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอีก, พวกคนที่เข้ามาปลอบเธอ, มองมาที่ผมอีกครั้ง.

หลังจากนั้น.. หลังจากวันนั้น, เพื่อนที่เล่นกับผมหรือว่าเดินกับผม, ก็ทิ้งผมไป.. ทำไมล่ะ, ผมก็ไม่ได้มีเพื่อนมาตั้งแต่แรกแล้วนี่นา, ผมไม่กังวลหรอก ~


Credit - Sapphire Ent.
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**

เรื่องราวสมัยเด็กของฮีนิม ตอนที่ 4




Childhood -4-

10 ขวบ.. ป. 3.. ไม่สิ - -|| นั่นมันเป็นระหว่างช่วงเกรดสามในโรงเรียน ㅡㅡ||
เดี๋ยวนี้มันเรียกว่า JEMBOLI ใช่มั้ย? ถึงอย่างงั้นก็เหอะ.. มันถูกเรียกว่า JEMBOLI ตอนช่วงปี 1992 - -
ผมจำไม่ค่อยได้ ㅡㅡ|| แต่ตราบใดที่ทุกๆคนเข้าใจ, มันก็โอเค ㅡㅡมันเรียกว่า JEMBOLI…
อยู่ๆผมก็จำได้ขึ้นมา. “การ์ดไพ่” นั้นโด่งดังมากเมื่อตอนที่ผมอายุ 10 ขวบ, โดยจะเป็นการ์ดสามใบแพ็คไว้ด้วยกันแล้วขายในราคา 100 วอน,,
ถ้าหากว่าคุณโชคดี, คุณจะได้การ์ดที่เรียกว่า “jellet”, มันเป็นการ์ดที่จะมีแสงแวววาวอยู่ตรงส่วนบนสุด. และถ้าหากว่าเอาการ์ดแบบที่ว่านั้นไปเล่นที่โรงเรียน, มันจะโดนยึดโดย “นักเรียนที่ทำตามหน้าที่” , แล้วก็ต้องอยู่เย็นต่อหลังจากที่โรงเรียนเลิก..
ถามถึงชีวิตและบันทึกประจำวัน.. เพราะว่าผมจำเป็นต้องรีบกลับบ้านไปเพื่อการบ้านอันนี้ ㅡㅡ|| เกี่ยวกับความทรงจำที่เกิดขึ้นในชีวิต.. เช่นการวางเหรียญเอาไว้บนขาของกบ แล้วก็คอยเฝ้าสังเกตุการทรงตัวของมันㅡㅡ? และการทำเทียน.. ใช้ไม้ขีดมาทำเป็นสามเหลี่ยม.. ทุกรูปแบบของความทรงจำทั้งหมด..
ไดอารี่.. เกลียดมันจริงๆ ㅡㅡ|| อยากจะเขียนหลายอย่างอยู่หรอกนะ. แต่ผมเกลียดการเขียนอ่ะ - - ใช้ปากกาเขียนจนกระทั่งกล้ามเนื้อมือของผมมันตึง.. แล้วก็แขนของผม - -|| แล้วก็นิ้วของผมด้วย..
“บันทึก”.. อย่างแรกเลย, ทุกๆวันผมจะต้องเขียนเกี่ยวกับสภาพอากาศ , เวลาที่เด็กคนอื่นเขียนว่า “มีแดด” , ผมจะเป็นคนเดียวที่เขียนว่า “ฝนตก” , ตลกมั้ยล่ะ?
ยิ่งไปกว่านั้นㅡㅡ|| การเตรียมปากกาลูกลื่นหลากหลายสีก่อนหน้าที่โรงเรียนจะเปิดอีกครั้งนึง , และเปลี่ยนเป็นปากกาหมึกดำ, แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกเค้าทั้งหมดถึงทำมันได้ภายในวันเดียวนะ ㅡㅡ||
หัวข้อของไดอารี่ผมก็เป็นประมาณนั้น.
“นายเป็นยังไงบ้าง? ฉันกินนี่ในตอนเช้า, แล้วก็จบลงที่ท้องของฉันมันปั่นป่วน ฉันก็เลยต้องลูบและลูบมัน ….”
คุยกับไดอารี่.. จนกลายมาเป็นเพื่อนคนพิเศษของผมเพียงคนเดียว ㅡㅡ||
บทวิจารณ์ของผมนั้นเขียนเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ y “Jang Yeong-sil”, วาดตาอย่างง่ายๆ , จมูกแล้วก็ปากลงบนถ้วยแล้วก็กล่อง, แล้วก็ทำเครื่องหมายไว้ว่า “เพื่อนของผม” ㅡㅡ||
มีอยู่ครั้งนึงที่พวกเราถูกบอกให้วาดรูปทิวทัศน์ , แต่ผมวิ่งออกไปที่ทุ่งโล่งแล้วก็วาดมันออกมา, และเพราะว่าผมไม่ได้วาดมันออกมาด้วยความจริงใจ, ผมเลยถูกด่า ㅡㅡ||
คุณครูถามผมว่าทำไมผมถึงวาดมัน, ผมตอบไปว่า “เพราะว่าทรายมันสวยมากเลยครับ” แล้วก็จบลงที่ผมโดนด่ามากขึ้น ㅡㅡ||
แม่ของผมไม่ได้ส่งผมไปเรียนพวกการประดิษฐ์ หรือว่าศิลปะ, แต่ยังไงก็ตามผมก็ไม่ได้อยากไปเหมือนกัน, แต่ดูเหมือนว่าความคิดสร้างสรรค์ของผมมันจะตกต่ำลงไปนะ..
ภาพวาดของฤดูหนาว , หิมะที่ขาวราวกับขนห่าน.. คึคึ.. อยู่ๆก็คิดถึง.. วันที่ 2 ของหิมะ? นั่นเป็นวันที่ผมเรียนศิลปะ, ผมวาดพื้นดินที่เต็มไปด้วยหิมะปกคลุมอยู่ แล้วก็จบลงด้วยการโดนด่า , แต่ผมวาดมันออกมาด้วยใจจริงนะ แล้วก็ตามที่ผมอยากจะทำด้วย ㅡㅡ^
ผมเป็นราชาแห่งการขว้างบอลหิมะ. แต่ไม่ค่อยชอบการแข่งกันเป็นกลุ่มเท่าไหร่ – มันมีความแตกต่างกันระหว่างการแข่งกันเป็นกลุ่ม กับการแข่งคนเดียว, มันไม่มีสิ่งที่จำเป็นต้องทำกับการแพ้หรือว่าชนะจากการแข่งเป็นกลุ่ม , เพราะฉะนั้นผมชอบเล่นแบบตัวต่อตัวมากกว่า - -
พูดถึงช่วง ป.3 , ฤดูหนาวตอน ป.2 นั้นผ่านไปอย่างงี่เง่า ㅡㅡ||
ด้วยเหตุผลบางอย่าง, ผมต้องย้ายไปยัง Sin Lim Dong


Credit - Sapphire Ent.
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**

 


เมื่อฮีนิมเป็นวัยรุ่น ตอนที่ 1




หลังจากจบจากโรงเรียนประถมชินอูในชินลิมดง, ผมย้ายกลับไปยังคังวอนโด วอนจู อีกครั้ง. ได้มีเพื่อนอยู่บ้างในโรงเรียนประถมชินอู, แต่ผมติดต่อเพียงไปหาแค่คนเดียวหลังจากที่ย้ายหลับมาที่วอนจู..
หลังจากไม่กี่วันที่ผมเข้าโรงเรียน, ก็มีแบบสอบถาม. ทุกๆคนจะต้องเขียนเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายในอนาคต, อย่างนี้และอย่างนั้น
เริ่มต้นด้วยการเขียนและเขียน, และอยู่ๆผมก็เห็น “ศาสนาที่นับถือ” เอิ่ม.. ไม่มี~ จากนั้นก็เขียนต่อไป..
วันต่อมา, คุณครูเรียกชื่อผมและเพื่อนในห้องบางคน
“ไปที่ออฟฟิศ XX, ซิสเตอร์อยากจะเจอพวกเธอทั้งหมด ~”
‘หืม?’ เด็กอีก 2 คนแล้วก็ผมนั้นไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น และพูดว่า “ทำไมล่ะครับ~” และไปยังที่นั่น.
อ้า! เด็กที่ไปยังโรงเรียนคริสเตียน. ซิสเตอร์ถามพวกเราว่า “พวกเธอทั้งหมดไม่มีศาสนาที่นับถือ ^-^ แต่ทำไมฮีชอลถึงไม่เขียนว่า “ไม่มีศาสนาที่นับถือ” แล้วไปเขียนว่า “ไม่นับถือศาสนา” แทนล่ะ? ^-^ ส่วนเธอ 2 คน ก็ไม่ได้เขียนอะไรเลย ~ ^-^”
เอิ่ม.. จริงๆนะ, เวลาที่ผมคิดถึงศาสนาคริสต์, ผมจะคิดว่าผมคงจะได้ทานอาหารดีๆเวลาที่ผมไปยังโบสถ์กับเพื่อนของผมตอนเด็กๆ, หรือไม่ก็เวลาที่ดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้านแล้วกริ่งก็ดังขึ้น ‘ติ๊งต่อง’, “พ่อกับแม่หนูอยู่บ้านมั้ย? พระเจ้าผู้สถิตย์อยู่บนสรวงสวรรค์…..” ㅡㅡ|| ผมคิดถึงแต่อะไรแบบนี้ ㅡㅡ||
รอยยิ้มที่เป็นมิตรแล้วก็การพูดจาที่นุ่มนวล.. มันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยคิดถึงเลย - -…
ขอโทษจริงๆกับเหล่าคนที่เชื่อในศาสนา ㅡㅡ||
แต่ถึงอย่างงั้น~ ซิสเตอร์พูดต่อไปว่า “ฮีชอล, มาเริ่มนับถือศาสนากันดีกว่านะ ,ดีมั้ย? ^-^ มันเป็นการดีนะที่จะมีศาสนาที่นับถือน่ะ ~ ^-^”
… เอ.. คำตอบของผมก็คือ “ทำไมผมจะต้องเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยล่ะครับ.. ผมไม่เห็นจะได้อะไรเลยหลังจากที่เชื่อในสิ่งนั้นแล้วน่ะ..”
เอ.. ซิสเตอร์ดูเหมือนว่าจะช็อคมาก.. และเพียงแค่ตอบอะไรออกมาหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง..
คำตอบที่ผมพูดออกไปในตอนนั้นเป็นสิ่งที่น่าตกใจเอาซะมากๆสำหรับคนที่นับถือศาสนา.. ㅡㅡ||
เพราะซิสเตอร์สอนผมในเรื่องนั้นเรื่องนี้, ผมได้เข้าเรียนในชั้นเรียนเรื่องไบเบิ้ล ㅡㅡ
หลักการของศาสนา.. นั่นมันอะไรกันอ่ะ ㅡㅡ? คุณครูนั้นจะให้ความสนใจผมกับเพื่อนอีกสองคนมากเป็นพิเศษ ㅡㅡ||
ผมเคยพยายามอย่างมากเพื่อจะเข้าใจ, และเชื่อในสิ่งที่ผมไม่สามารถจะเห็นได้ด้วยตา!
เพื่อที่จะเข้าถึงความเป็นจริง, ผมถามคำถามหลากหลายอย่าง /
“ทำไมเราจะต้องตกนรกด้วยล่ะครับถ้าเราไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์? แล้วเราจะได้ไปยังสวรรค์โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขเลยเหรอครับถ้าเราเชื่อในตัวพระองค์?”
“เราจะรู้ได้ยังไงครับว่ามีสถานที่ๆเรียกว่านรกอยู่จริงๆ? เคยมีคนเห็นมันมาก่อนแล้วเหรอครับ?”
“นอกจากนั้น, ไม่ใช่ว่าเราทั้งหมดยังไงก็ต้องตายในซักวันนึงเหรอครับ ㅡㅡ?”
“คุณพ่อของผมอยู่ที่บ้าน, พ่อของผมคือพระเยซูรึเปล่าครับ?”
“พระเยซูอยู่ที่ไหนเหรอครับ? ทำไมเค้าถึงอยู่ในหัวใจเราล่ะ? เราไม่สามารถมองเห็นเค้าได้เหรอครับ ㅡㅡ||?”
….(_ _) ขอโทษอีกครั้งสำหรับคนที่นับถือศาสนาด้วยนะครับ ㅡㅡ||
หลังจากที่ผ่านโน่นและนี่, ผมยังคงยอมรับพิธีล้างบาปที่เรียกว่า “Yo Ha Kim”.
“ไม่ว่าพระเจ้าจะยอดเยี่ยมแค่ไหน, เค้าก็ไม่สามารถมีอำนาจเหนือจิตใจของผมได้?..”
ผมรู้หลายๆคำเกี่ยวกับ “การนับถือศาสนา”.. และตอนนี้ก็ด้วย..



Credit - Sapphire Ent.
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**

 




 

เมื่อฮีนิมเป็นวัยรุ่น ตอนจบ




ระหว่างช่วงเรียนมัธยม, ผมรู้จักกับเพื่อนหลายๆคนที่แสนจะเป็นมิตร, และกลายเป็นเด็กที่ร่าเริงผู้ซึ่งสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส.
ถึงแม้ว่าผมกำลังเรียน, ผมก็จะวาดรูปการ์ตูน - -||
ผมชอบการ์ตูนมากๆ. ใช้หลากหลายวิธีเพื่อที่จะได้อ่านการ์ตูนในชั้นเรียน.
ฮ่า.. ผมไม่เคยถูกจับได้มาก่อนเลยด้วยนะกับการอ่านการ์ตูนในชั้นเรียนน่ะ (+_+)=b

แต่ผมถูกด่าอยู่หลายครั้งที่บ้านจากการที่อ่านการ์ตูนในระหว่างเรียน - -||
เอิ่ม… บางความทรงจำก็ยังคงใหม่เอี่ยมสำหรับผม..
ตอนที่เดินทางไปกับทางโรงเรียนเมื่อตอนผมอายุ 15.
ในคืนแรก.. พวกเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเล่นกันและพวกเราก็เล่นปาหมอนกัน.
เงี~ยบ~.. เริ่มต่อสู้ได้!! ทุกๆคนสามารถลองทำมันดูได้.. ปิดไฟทุกดวง..
ㅋㅋ.. ตูม! ตูม! ตูม! อ้า!! ฮ่าฮ่าฮ่า~.. ตูม ตูม ตูม ตูม!!~
“หยุด!” ไฟเปิดขึ้นในระหว่างที่มีเสียงตะโกน, และพวกเค้าทุกคนก็พูดว่า “หืม? ทำอะไรของนายน่ะ?”
“อ้า, ฉันไม่อยากอยู่กลุ่มเดียวกับฮีชอลแล้ว! ทำไมเค้าเอาแต่ตีสมาชิกในกลุ่มเดียวกันล่ะ! เจ็บนะเนี่ย!”
“เปล่านะ.. ฉันมองไม่เห็นนี่นาตอนที่ไฟมันปิดน่ะ~ ^-^ อย่าโกรธน่า~”
“อ้า! นายรู้รึเปล่าว่ามันเจ็บแค่ไหนน่ะ? ไม่ใช่ว่าฉันบอกนายแล้วเหรอว่านี่ฉันเอง!! แล้วทำไมนายยังตีฉันอยู่ได้!!”
“ก็ออกไปสิถ้านายไม่อยากโดนตีน่ะ - - ”
………………. ความเงียบแผ่กระจายไปทั่ว. พวกเราเล่นต่อกันไปยังไงน่ะเหรอ?
อ๊าก! อ๊าก! ฮ่าฮ่าฮ่า ~ ตูม ตูม ตูม ตูม!!!..................... เงี~ยบ..
ผมไม่ได้เข้ากลุ่มกับคนอื่นๆเค้า, และการปาหมอนก็จบลง - -||

เริ่มสูบบุหรี่ตอนผมอายุ 16. หนีออกจากบ้าน .. ผมทำแบบนั้นด้วยเหมือนกัน - -
แต่ผมไม่เคยไปสายหรือว่าโดดเรียนเลย, หรือแม้กระทั่งสูบบุหรี่ในโรงเรียน.
ยังไงก็ตาม, ผมดูเหมือนว่าจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงเวลาสั้นๆ, เพราะว่าผมไม่ได้ใช้เวลาในการเขียนไดอารี่แค่ 5 นาที.
คุณครูในโรงเรียนนั้นชอบผมมากๆ. จริงๆนะ.. และดูหมือนว่าผมจะได้พบกับเพื่อนดีๆด้วย.
ถึงแม้ว่าผมยังคงสูบบุหรี่อยู่ในวันนี้, แต่ในตอนนั้นผมมักจะมีบุหรี่อยู่ในปากเสมอ, และเพื่อนที่ไปโรงเรียนกับผมอยู่ประจำบอกกับผมว่า
อย่าสูบอีกนะ”
“มันไม่ได้ทำร้ายใครคนอื่นเลย – มันทำร้ายตัวนายเองนั่นแหละ -“
“… ถ้าหากว่านายไม่เลิกบุหรี่, จากนี้ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก”
….. ช็อคจริงๆกับสิ่งที่เค้าพูด.
ผมไม่เคยมีเพื่อนคนสำคัญมาก่อนเลย, และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับเพื่อนแบบนี้.. และคนๆนี้คอยสนับสนุนผมอยู่ตลอด..
ผมไม่ได้โกหก, ผมเลิกบุหรี่ตั้งแต่ตอนนั้น. ไม่ได้กลับไปแตะต้องมันอีกเลย..
แต่.. หลังจากไม่กี่วัน, พอผมกลับจากโรงเรียน
บรรยากาศที่เยือกเย็น.. พ่อกับแม่นั่งอยู่บนโซฟา, ทุกๆสิ่งกระจัดกระจายอยู่บนพื้น..
“อะไรกัน?”.. ,มีทั้งบุหรี่ … ที่เขี่ยบุหรี่.. ขี้บุหรี่…

มีประตูลับอยู่ในห้องน้ำของอพาร์ทเม้น (?) - -||
ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ที่นั่นมาหลายเดือน.
พ่อกับแม่ไม่ได้พูดอะไรเลย, ไม่ได้ตีผม..ไม่แม้กระทั่งดุด่าผม..
ในเวลานั้น... ผมคุกเข่าลง…

มีอยู่ครั้งนึงที่ผมทะเลาะกับแม่, เอาเงิน 5000 วอนแล้วก็จักรยานออกจากบ้านไป.
หลังจากที่บอกกับเพื่อนของผมที่ชื่อ Kotel, และเมื่อไปถึงร้านเกม.
ผมเก่งในการเล่นเกมมากเลย - -v มันมีเกมที่ชื่อ “The King of Fighters”, ผมมักจะชนะเสมอเลย.
หลังจากที่ผมฆ่าเวลามาจนกระทั่ง 4 ทุ่ม, ผมก็ตาม Kotel ไปที่บ้านของเค้า.
อ่านการ์ตูนอย่างมีความสุขในบ้านของ Kotel, ก็มีโทรศัพท์มายังบ้านของ Kotel.
ใครบางคนโทรหาผม.
ผมผู้งี่เง่า บอกกับ Kotel ไปโดยไม่ได้คิดอะไรเลย

“นี่~ อย่าบอกว่าฉันอยู่ที่นี่นะ~ โอเค้?! เอิ่ม? ถ้าหากว่านายบอก, ฉันจะกระโดดลงไปจากตรงนี้เลย!”

- -|| ผมไม่ได้โง่นะ.. เปิดหน้าต่างที่ชั้นสอง, แล้วก็ทำท่าเหมือนกับจะกระโดดลงไป - -||
ดูเหมือนว่าเค้าก็จะไม่มีทางเลือก, Kotel โกหกไป, แล้วก็วางหู.
หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้น “โอ้ เย่~ มันดีจังเลยที่ไม่กลับไปที่บ้านน่ะ” บอกกับ Kotel อย่างมีความสุข.

“กลับบ้านไปซะ – พ่อแม่ของนายเป็นห่วงนายมากแล้ว – นายอยากจะให้ฉันโทรไปหาพวกเค้าเหรอไง?”
“เฮ้ย. X.. X ไอ้คนน่าขายหน้า.. XX XXX XX XXXX!!” ผมด่าเค้า - -||
“พูดง่ายๆนะ. ฉันไม่เคยมีเพื่อนแบบนายเลย. นายน่ะชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วง”…

เค้าพูดนั่นพูดนี่, และสุดท้ายผมก็ออกมา.
พอผมไปถึงที่บ้าน, พ่อกำลังทำบะหมี่, แม่อยู่บนเตียง.

ผมไม่ได้ทานอะไรเลยหลังจากที่กลับถึงบ้าน.. นอนลงแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด…

และ.. ชีวิตมัธยมของผมก็จบลงแบบนั้น..ผมยังคงไม่ได้ใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการเขียนไดอารี่อยู่ดี …
อา~ ก่อนหน้านั้น, มีอยู่หลายครั้งที่ผมอยากจะหนีไปจากบ้าน, แต่ผมก็ไม่ได้ทำ..
ในวันที่ผมออกจากบ้านไปนั้น... มันเป็นวันหยุด. ดังนั้นผมก็เลยไม่โดนลงโทษจากที่โรงเรียน.. - -||


From: HeeChul's CY
Credit: 花瓣雨
Translated By: xinyi_1989@sapphire-sg.org
แปลไทยโดย tsubasa_haido@SJCC
http://sjcelebs.invisionplus.net
**กรุณานำออกไปพร้อมเครดิททั้งหมด**



เอ็นทรี่นี้ อ่านแล้วรู้สึกรักเจ๊มากเลยง่ะ...ดูเหมือนว่าจะได้รู้จักคิมฮีชอลมากขึ้นนิดนึง...

ดีใจที่เจ๊มีเพื่อนดีๆด้วยค่ะ

และจากการแปลไดอารี่ที่เจ๊เขียนถึงวัยเด็กและวัยรุ่นของตัวเองทั้งหมด

มันทำให้รู้สึกเข้าถึงความเป็นคิมฮีชอลมากขึ้น

ทำให้รักเจ๊มากมายเกินจะพูดได้หมดจริงๆ 

ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างผู้ชายที่ชื่อคิมฮีชอลขึ้นมาให้คนบนโลกนี้ได้รักนะคะ ^^

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น