jowpoyluang
ดู Blog ทั้งหมด

พระเจ้าของเซโนฟาเนส

เขียนโดย jowpoyluang

                         

 
เซโนฟาเนส เป็นนักปรัชญาในสำนักเอเลีย แต่ท่านไม่ได้เป็นชาวเอเลียมาแต่กำเนิด เดิมท่านเป็นชาวเมืองโคโลฟอน เซโลฟาเนสใช้ชีวิตพเนจรไปเรื่อยๆจนในที่สุดท่านก็ได้มาอยู่ที่เอเลีย การเผยแพร่ปรัชญาของท่าน ท่านจะไม่แผยแพร่โดยตรงอย่างเช่นนักปรัชญาท่านอื่นๆ แต่ท่านจะเอาคำสอนสอดแทรกเข้าไปในบทเพลงและบทกวี คำสอนของท่านจะมุ่งเน้นที่การแก้ไขศรัทธาในศาสนาของประชาชนที่มีต่อพระเจ้า

            ความเชื่อของชาวกรีกสมัยก่อนนั้นมีความเชื่อเรื่องของเทพเจ้า โดยมีตำนานที่เล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า บนยอดเขาโอลิมปัสมีเทวะวิหารอันศักดิ์สิทธ์ซึ่งเป็นที่สถิตของเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย โดยมีซุสเป็นเทพเจ้าสูงสุด และเป็นประมุขของเทพเจ้าทั้งปวง      ซุสทรงมหิธานุภาพ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทรงเป็นเจ้าแห่งฟ้าและดิน รวมทั้งเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเหล่ามาลมนุษย์ ยังกล่าวกันต่ออีกว่าถ้าหากผู้ใดกระทำให้พระองค์พิโรธ บุคคลผู้นั้นจะถูกลงโทษอย่างสาสม1  จากที่กล่าวมานีเซโนฟาเนสมีความคิดที่ขัดไปจากความเชื่อเหล่านี้  ท่านได้กล่าวโจมตีเรื่องนี้ว่า ความเชื่อเรื่องเทพเจ้านี้เป็นความเชื่อที่ผิด เทพเจ้าที่แท้จริงจะไม่มีบุคลิกและนิสัยแบบซุส ก็เพราะด้วยเทพเจ้าไม่ควรที่จะมีอารมณ์ที่เหมือนกับมนุษย์ ความโลภ โกรธ และหลงไม่ควรมีอยู่ในตัวของเทพเจ้า เทพเจ้าควรที่จะเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ผ่องใส  ยังมีตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าหลากหลายพระองค์ที่เซโนฟาเนสได้ฟังแล้วรู้สึกตลกขบขัน เช่น การที่เทพเจ้าบางพระองค์มีนิสัยที่ชอบลักขโมย บางพระองค์ชอบประพฤผิดประเวณี เซโนฟาเนสได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า เทพเจ้าเหล่านี้ไม่ควรที่จะไปเคารพบูชา และเทพเจ้าในความเป็นจริงจะไม่มีนิสัยอย่างนั้น

เซโนฟาเนสถือได้ว่าท่านเป็นนักปรัชญาคนแรกที่กล้าลุกขึ้นมากล่าวโจมตีแนวคิดที่ฝังรากลึกอยู่ในความเชื่อของศาสนาในช่วงยุคนั้น การที่ภาพลักษณ์ของเทพเจ้าตกต่ำลงไปถึงขนาดนี้ก็เพราะฝีมือของนักกวีอย่างโฮเมอร์และเฮเลียด นักกวีสองท่านนี้

 

มักจะพรรณนาลักษณะของเทพเจ้าที่ผิดแปลกไปจากความเป็นจริง ภาพลักษณ์ของเทพเจ้าจึงได้ถูกบิดเบือนออกไปอย่างมาก แม้ใจปัจจุบันเองนักกวีหรือนักจิตกรก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างพระเจ้า จิตกรมักจะวาดภาพของพระเจ้าไปในความคิดของตน อย่างเช่นภาพของพระเยซูคริสต์เป็นต้น

        เซโนฟาเนสยังมีความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าอีกว่า มนุษย์มักจะจินตนาการพระเจ้าตามความคิดของตนเองทั้งนี้ก็เปรียบกับว่ามนุษย์สร้างพระเจ้าได้ตามอำเภอใจ ดันนั้นมนุษย์จึงวาดภาพพระเจ้าให้มีลักษณะเหมือนมนุษย์ ทั้งรูปร่าง หน้าตา และจิตใจ  ซึ่งจะผิดไปจากลักษณะที่แท้จริงของพระเจ้า เซโนฟาเนสได้กล่าวว่า ถ้าวัวหรือสิงโตมีพระเจ้า มันคงจะจินตนาการพระเจ้าที่เป็นเหมือนมัน คือมีลักษณะที่เป็นวัวหรือสิงโต  ภาพของพระเจ้าจะออกมาจากจิตนาการของผู้วาด ภาพที่ได้มาจึงมิใช่ภาพของเทพเจ้าที่แท้จริง

            ส่วนลักษณะของพระเจ้าที่แท้จริงนั้น ในตามทัศนะของเซโนฟาเนสที่ได้กล่าวไว้จะมีลักษณะดังนี้ คือ พระเจ้าจะมีเพียงพระองค์เดียว คือ God ส่วนเทพเจ้าที่มีอยู่หลากหลายพระองค์หรือ Gods นั้นไม่มีอยู่จริง  พระเจ้าจะไม่มีรูปร่างหน้าตาและจะไม่มีชีวิตจิตใจเหมือนมนุษย์  พระเจ้าในแบบของเซโนฟาเนสจะมีรูปทรงกลม ทรงมีตาทิพย์ และเป็นสัพพัญญู คือเป็นผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และทรงมีอยู่ชั่วนิรันดร์  พระเจ้าจะไม่มีวันกำเนิดและแตกดับ รวมถึงไม่มีขอบเขตจำกัด เพราะไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะมาจำกัดขอบเขตของพระเจ้าได้ แต่ถ้าลองมองอีกมุมหนึ่งแล้วก็จะพบว่าพระเจ้าของเซโนฟาเนส ที่กล่าวมานั้นก็ยังมีขอบเขตที่จำกัดได้อยู่ นั่นก็คือพระเจ้านั้นเป็นทรงกลม ความกลมจึงเป็นข้อจำกัดของพระเจ้า แต่ทั้งนี้เซโนฟาเนสได้ให้เหตุผลว่าความกลมของพระเจ้านี้เป็นความกลมที่บริบูรณ์จนไม่สามมารถที่จะแบ่งแยกออกได้ สิ่งสุดท้ายคือพระเจ้าจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นรวมทั้งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้วย

            อย่างไรก็ตาม เซโนฟาเนสไม่ได้สอนว่า พระเจ้านั้นล่องลอยอยู่นอกจักวาล แต่ตรงกันข้าม เซโนฟาเนสได้กล่าวว่า พระเจ้านั้นอยู่ในโลกเพราะพระเจ้าก็คือโลก พระเจ้าและโลกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  ซึ่งคำกล่าวนี้เองมันได้ขัดแย้งกับเรื่องความเป็นบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่เซโนฟาเนสเคยได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จากคำว่าพระเจ้าก็คือโลก และโลกก็คือพระเจ้า ทำให้พระเจ้าเป็นสิ่งที่มีชีวิต เพราะโลกมีชีวิต และโลกมีการเกิด

 

และสลายโลกไม่บริสุทธิ์  เซโนฟาเนสไม่มีคำตอบในเรื่องนี้อย่างแน่ชัด แต่ทั้งนี้ควรเข้าใจว่าเซโนฟาเนสนั้นไม่ได้ลดค่าของพระเจ้าให้เป็นโลกและไม่ได้ยกย่องโลกให้เป็นพระเจ้า

โดยนัยนี้เราสามารถชี้ชัดได้ว่า เซโนฟาเนสนับถือในลัทธิสรรพเทวนิยม (Pantheism) เพราะท่านได้ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นส่วนแห่งพระเจ้าองค์เดียวกัน ที่นี้เรามาดูต่อกันที่ว่า ลัทธิสรรพเทวนิยมนั้นคืออะไร ผู้ที่นับถือลัทธิสรรพเทวนิยมนั้นจะมีความเชื่อว่าพระเจ้าคือทุกอย่างและทุกอย่างก็คือพระเจ้า รวมถึงยอมให้พระเจ้าเป็นทั้งดีและชั่ว เพราะพระเจ้าก็คือโลก โลกมีทั้งดีและไม่ดี ฉะนั้นพระเจ้าก็ต้องมีทั้งดีและชั่วปนกันไป แต่จากที่ได้กล่าวมานี้ พระเจ้ามีทั้งดีและชั่ว พระเจ้าประเภทนี้ก็ไม่สมควรที่จะมีคนกราบไหว้ ซึ่งก็เหมือนกับที่เซโนฟาเนสได้เคยกล่าวไว้ว่า พระเจ้าควรเป็นผู้บริสุทธิ์  คำกล่าวของเซโนฟาเนสยังถือได้ว่ายังมีบางข้อที่หักล้างกันเองได้

อย่างไรก็ตามถึงทัศนะเรื่องของพระเจ้าของเซโนฟาเนสจะฟังดูขัดแย้งกันในคำกล่าวของท่านเอง แต่ก็มีผู้ที่ยอมรับในความคิดของท่านอยู่จำนวนมาก รวมถึงปาร์มีนิเดส ลุกศิษย์ของท่านซึ่งต่อมาเขาได้ตั้งสำนักเอเลีย ปาร์มีนิเดสได้นำเอาคำกล่าวของเซโนฟาเนสที่ว่า  สรรพสิ่งในโลกคือพระเจ้า และ พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง มาประยุคใช้กับปรัชญาของท่าน คือหลักปรัชญาที่ว่า ความเที่ยงแท้คงที่ของโลก

 

 

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
i love you
ความคิดเห็นที่ 2
บาส...
นายเขียนเรื่องเกี่ยวกะปรัชญาได้ดีนะ
แต่...มันยังไม่เกี่ยวกับ \"กรอบ\" ที่มอบหมายไว้ให้เลยหว่ะ
เอาแนวแบบนี้แหละ สนุก ดี แต่ขอให้อยู่ในกรอบที่มอบไว้ให้หน่อย
มัน \"จำเป็น\" นะ เพราะตอนนี้ เรากำลังฝึกหัดคิด และแสดงออก
ในหัวข้อเรื่องที่มอบหมาย และในเวลาที่มอบหมาย
ดังนั้น...ออกแรงหน่อยนะ
ไงก็ตาม ทำได้ดี เอาใจช่วยนะ
...บุญรักษา...
อาจารย์แรก
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าเค้าเป็นเฟโน คงไม่กล้าลุกขึ้นมาบอกว่าถ้าวัวหรือสิงโตมีพระเจ้า มันคงจะจินตนาการพระเจ้าที่เป็นเหมือนมัน คือมีลักษณะที่เป็นวัวหรือสิงโต
ความคิดเห็นที่ 4
เขียนสนุกดีอ่ะ น่าอ่านดี เขียนมาอีกน่ะ รออ่าน
ความคิดเห็นที่ 5
จ้าาา..

ไม่ว่าจะเป็น..เทพพระเจ้าหรือคนะรรมดา

ก็มีความเป็นตัวเองทั้งนั้น

มนูษย์โลกของเรา
ความคิดเห็นที่ 6
อ่านแล้วคับ
funkizzy
funkizzy 27 ก.ค. 52 / 11:39
สรรพสิ่งในโลก คือ พระเจ้า

พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงงงงงง

ชอบๆแนวความคิดนี้จังอะ

ปายเม้นห้ายเค้าบ้างน๊าาาาาา
ajarnportingtong
ajarnportingtong 27 ก.ค. 52 / 14:35
 เดี๋ยวแวะมาอ่าน เม้นให้ก่อนแระกาน
ความคิดเห็นที่ 9
สรรพสิ่งในโลกคือพระเจ้า” และ “พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง......
ความคิดเห็นที่ 10
นักปรัญญาเหล่านี้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้วสมควรมั๊ยที่เราจะเชื่อโดยไม่คิดไตร่ตรอง ถ้าเราเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเราก็ต้องเชื่อทุกอย่างที่เหนือธรรมชาติ เช่นเสน่ยาแฟก มนดำ ผีสาง อาถรร จตุคามรามไปทั่ว หรือถ้าเราบอกว่าเชื่อเรื่องพระเจ้าแต่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ มันก็เท่ากับเราบอกว่าเชื่อว่า1+1=2 แต่ไม่เชื่อว่า2+2=4 ซึ่งก็จะขัดแย้ง โลกนี้สำหรับผมไม่มีอะไรทั้งสิ้น พระเจ้าคือตัวเราเอง ความคิดของเราเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 11
พระเจ้าของคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้
แต่พระพุทธเจ้า มีแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 12
โอ พระเจ้าพระบิดา ลูกขออภัยแทนเขาที่ยังไม่ได้รับการทรงเรียกจากพระองค์ ลูกรู้ดีว่าแม้เขาจะลบหลู่มากกว่านี้ ก็ไม่ทำให้พระองค์เปลี่ยนไปจากพระเมตตา ขอพระสิริจงบังเกิดยิ่งๆขึ้นเถิด ขอตาใจทุกคนในโลกใบนี้เปืดสำหรับคนทุกคน