ทำไมผู้หญิงรักสวยรักงามสมองเชื่อมโยงกับจิตใจหรือไม่เมื่ออารมณ์หนึ่งหายไปอีกอารมณ์ก็เข้ามาแทนที่ทำอย่างไรเราจะรักษาอารมณ์นั้นไว้ให้คงอยู่เสมอไปคำถามโดย : เสือย้อมแมว วันที่ : 9 เมษายน 2555 เวลา : 21:52:00 น.“อารมณ์” ความรู้สึกเกิดจาก “ความคิด”“ความคิด” เกิดจาก “การรับรู้”“การรับรู้” เกิดจากมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่นได้รับรส ได้สัมผัสแล้วนำทุกสิ่งไปคิดต่อที่ “สมอง”จากนั้นจึงสร้าง “อารมณ์” ขึ้นมาว่าจะเกิดอารมณ์เช่นใดหลังจากใช้ความคิดประดิษฐ์ความรู้สึกถ้ามองตามรูปการณ์นี้ถ้าเราไม่อยากเกิดอารมณ์ก็แค่ปิดช่องทางการรับรู้ทำหูให้หนวก ทิ่มตาให้บอด ตัดลิ้นทิ้งตัดมือทิ้ง ไม่แตะต้องใคร อุดจมูกเอาไว้ไม่ต้องรับกลิ่นคำถามคือ ถ้าเราทำอย่างนั้นได้จริง“การรับรู้” จะไม่เกิดขึ้นจริงๆล่ะหรือสมองเชื่อมโยงกับจิตใจไหม ?คำถามนี้พี่ก๋าคิดว่าถ้ามองให้ง่ายก็เหมือนการใช้ “เหตุผล” หรือ “ความรู้สึก” ในการตัดสินใจไม่เพียงแต่ผู้หญิงหรอกนะครับผู้ชายก็เป็นครับ สัตว์โลกทุกชนิดก็เป็นในบางสถานการณ์เราจึงต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องว่าจะใช้หัวใจตัดสิน หรือใช้สมองคิดค้นหาคำตอบและหนทาง“อารมณ์” ที่เกิดขึ้นกับเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นความรัก ความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาตความพยาบาท ความรื่นเริง ความรื่นรมย์ ความสุขความทุกข์ ความหวัง ความดี ความงาม ฯลฯไม่มีอารมณ์ใดที่คงทนถาวรเลยมันมาแล้วมันก็ไปแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามแต่ “ข้อมูล” ที่วิ่งเข้ามากระทบตัวเราผ่านทางการรับรู้และการคิด....ร่างกายสวยๆ ดอกไม้ รถยนต์คันหรูหนุ่มหน้าตาดี เสื้อผ้าราคาแพง กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดความอยากอยากได้มา อยากครอบครอง อยากรักษาเอาไว้ถ้าไม่ชอบ ไม่พึงพอใจก็อยากผลักไสไปไกลตัวแต่ทุกสิ่งที่เราขวนขวายอยากได้มามี “ระยะเวลา” ของมันและไม่อาจดำรงตัวให้อยู่อย่างคงทนถาวรได้เลยไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งใดก็ตามการเฝ้าพยายามรักษาอารมณ์ก็เหมือนการที่เราหยิบทรายริมหาดทรายขึ้นมากำเอาไว้ไม่ว่าเราจะกำมือแน่นแค่ไหนทรายก็ยังคงไหลลงตามร่องนิ้วอยู่ดี“อารมณ์ความรู้สึก” ก็เช่นกันไม่ว่าเราจะสุขหรือทุกข์รู้สึกดีหรือรู้สึกแย่เพียงใดเราก็รักษามันเอาไว้ในตัวเราไม่ได้ตลอดไปถึงเวลาหนึ่งมันต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัยแวดล้อมที่มีและเราไม่มีความจำเป็นต้องไปนั่งเฝ้าดูอารมณ์หรือความคิดของตนเองตลอดเวลาพี่ก๋าคิดว่าให้เราแค่ “รู้ทัน” อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรับรู้ ปล่อยให้มันคิดและรู้สึกไปตามสัญชาติญาณแต่ขอให้เรามีสติกำกับและรู้ทันทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นรู้ทันว่าทุกๆสิ่งที่ผ่านเข้ามานั้น....มันมาแล้วมันก็ไปยึดฉวย ยึดถือเอาไว้ไม่ได้เลยถ้าบอกเตือนตนไว้ได้บ่อยๆ ทำได้สม่ำเสมอเราจะไม่สุขจนล้น หรือทุกข์จนเกินพอดีแต่จะใช้ชีวิตไปตามที่เป็นด้วยความเข้าใจชีวิตครับ โดย: กะว่าก๋า 11 เมษายน 2555 8:12:20 น. : งมงาย :เนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่รอเธอ ฉันจำไม่ได้ที่จำได้ดีคือฉันมีเพียงเธอ แม้นานสักแค่ไหนเธออยู่ที่ใดยังรักกันไหม ฉันไม่รู้ แต่ที่รู้คือฉันนั้นยังไม่เปลี่ยนใจยังอยู่ตรงนี้ถึงแม้จะเหงาและเดียวดายไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกลก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไปไม่ว่าใครจะมองว่าฉันงมงาย ฉันก็ยังเหมือนเดิมเมื่อเธอมีทางชีวิตไม่เหมือนฉัน ฉันห้ามไม่ได้แต่ฉันจะมีชีวิตเพื่อรอเธอ แม้วันสุดท้ายเกิดมาได้เจอคนที่ตามหามานานแสนนาน ทำให้รู้ว่าเธอมีค่ามากแค่ไหนจะอยู่ตรงนี้ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เหลือใครจะรอแค่เธอถึงแม้ใครหาว่างมงายไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกลก็ยังจะรออย่างมีความหวัง ยังคงไม่เปลี่ยนไปไม่ว่านานเท่าไรยังมีเพียงเธอ (ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันมีเธอคนเดียวในหัวใจ)ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะรักเธอกับเพลง....: รับได้ทุกอย่าง :รู้อยู่แก่ใจ ว่าเธอไปไหนมาเห็นอยู่ตำตา ว่าเธอไปกับเขานับได้เกือบเดือน ที่ฉันไม่เจอะเธอแม้เงารู้รึเปล่า ว่าฉันคิดมากเท่าใดแค่หลับตาลง ก็พอนึกภาพออกไม่บอกก็รู้ ว่าเธอทำอะไรเมื่ออยู่กับเขา เธอเองคงจะใจถึงใจคิดเมื่อไหร่ มันเหมือนมีดกรีดทุกทีแต่กลับมาเถอะที่รัก ถ้าวันนี้เขาไม่แคร์จะกลับมาอย่างคนแพ้ ก็ไม่ต้องลำบากใจจะไม่เอ่ยถามซักคำ จะไม่ตอกย้ำซ้ำเติมหัวใจจะโอบกอดเธอ แม้ว่าเธอเคยกอดใครไม่เป็นไร ฉันรับได้ทุกอย่างฉันจับมือเธอ ด้วยมือที่ชุ่มเหงื่อไม่อยากจะคิด ว่าเหลือซักแค่ไหนทุกสิ่งที่ฉัน ได้เคยเฝ้าถนอมด้วยหัวใจเธอคงให้ ให้เขาไปหมดแล้วไม่เป็นไร ฉันรับได้ทุกอย่างชายคนที่เป็นแบบเพลงแรกหรือเพลงนี้ใครเศร้ากว่ากันคำถามโดย : เสือย้อมแมว วันที่ : 9 เมษายน 2555 เวลา : 22:02:00 น.-1-ในเช้าวันหนึ่งอยู่ดีดีคอมก็ไม่มีเสียงชายหนุ่มพยายามซ่อมคอมของเขาแต่ไม่ว่าจะกดคลิกไปที่ปุ่มใดคอมก็ไม่มีเสียงใดใดเล็ดลอดออกมา....เขาลงไดร์ฟเวอร์ใหม่ลงโปรแกรมเล่นเพลงใหม่อีกครั้งแต่คอมยังคงเงียบเสียงเช่นเดิมเขาโทรไปตามช่างประจำของตนเองช่วงบ่ายช่างเดินทางมาที่บ้านใช้เวลาเช็คและบู๊ทเครื่องใหม่เกือบ 40 นาทีช่างจึงหันมาบอกเขาว่า“สงสัยจะเป็นหนักเลยครับ อาจต้องเปลี่ยน Sound card พรุ่งนี้จะเข้ามายกคอมไปซ่อมให้ ขอเวลาเช็คคอมสัก 3-4 วันนะครับ ”หลังจากช่างกลับไปเขานั่งลงแล้วเปิดคอมที่ไร้เสียงดูภาพเคลื่อนไหวแต่ไม่มีเสียงใดใดอย่างหงุดหงิดใจเพิ่งซื้อมาแท้ๆ ทำไมเสียเร็วแบบนี้แล้วสายตาของเขาพลันเหลือบไปเห็นแจ๊คลำโพงหลุดออกจากตัวลำโพงเขาหยิบมันเสียบเข้าไปแล้วเสียงเพลงก็ดังออกมาจากคอม.....-2-วันก่อนเขาเปิดตู้เย็นค่อยๆนั่งดูห่อขนม ช็อกโกแลต เจลลี่กล่องน้ำผลไม้ ผลไม้สดตรวจวันหมดอายุแล้วค่อยๆเลือกออกมาทิ้งลงถังขยะทีละชิ้นๆไม่น่าเชื่อ .มันเยอะอย่างคาดไม่ถึงขนมกรุบกรอบบางถุงเปิดทานไม่หมดเก็บไว้นานเกือบหกเดือนมันถูกยัดไว้ด้านในสุดของตู้เย็นแล้วถูกลืมเลือนไปผักอบกรอบแบบเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันสองถุงถูกกินทิ้งไว้อย่างละครึ่งถุงทิ้งนานจนหมดอายุและไม่กรอบเจลลี่หมดอายุไปนานเกือบสามเดือนนมสดเหลืออีกสองวันจะหมดอายุของทุกอย่างมีวันหมดอายุการเก็บรักษาบางสิ่งบางอย่างเป็นการเก็บเพื่อรอวันทิ้งเท่านั้นน่ะหรือ ?-3-หลายครั้งในชีวิตคนเรามีเรื่องเศร้า เรื่องราวเจ็บปวดและความทุกข์มากมายตั้งแต่ทุกข์กับเรื่องเล็กๆที่ดูไม่เป็นสาระจนถึงความเจ็บปวดระดับลึกไปถึงจิตวิญญาณหลายคนเศร้ากับสิ่งที่ตนเองไม่มีแต่หลายคนเศร้าเพราะไม่เคยรู้ว่าตนเองมีสิ่งนี้แล้วออกไปเที่ยวเสาะแสวงหามันจากนอกตัวเราแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างยุ่งยากแล้วทำให้บาดแผลในใจลุกลามไปด้วยการแก้ไขแบบผิดวิธีจากนั้นยังจับความทุกข์มาแช่แข็งไว้ในใจปล่อยให้ทุกข์นั้นหมดอายุในใจเรากินก็ไม่ได้กิน แต่เก็บมันไว้รกใจโดยไม่เคยคิดจัดระเบียบความรู้สึกในใจตนเองการปล่อยชีวิตให้จมอยู่กับอดีตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้หรือการฝันลมๆแล้งๆถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วเพ้อไปวันๆว่าคนที่เราเคยรักจะกลับมาสิ่งที่เราสูญเสียจะมีสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาทดแทนโดยที่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการคิดฝันเพ้อพกนั้นไม่ต่างอะไรกับการแช่แข็งความทุกข์เอาไว้ในใจตนเองทุกเมื่อเชื่อวันคนบางคนจึงต้องทนเจ็บปวดอยู่กับความทุกข์เก่าๆอย่างเนิ่นนานเพราะไม่อาจปล่อยวางทุกข์นั้นไปจากความคิดและความรู้สึกและที่สำคัญไม่เคยหยุดและมองเลยว่าความทุกข์ที่เรามีอยู่นั้น....บางทีมันก็แค่แจ๊คเส้นเล็กๆที่หลุดหลวมไปจากลำโพงแห่งชีวิตเท่านั้นเอง โดย: กะว่าก๋า 11 เมษายน 2555 8:12:43 น. สวัสดีค่ะคุณเสือไปเที่ยวอุทัยธานีมา ซื้อขนมปังสังขยาร้านไพพรรณมาฝากค่ะสงกรานต์ไปเที่ยวไหนหรือป่าวคะ โดย: pantawan 11 เมษายน 2555 17:05:12 น. ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ โดย: ปลาทอง9 12 เมษายน 2555 2:08:32 น. อรุณสวัสดิ์ครับ โดย: กะว่าก๋า 12 เมษายน 2555 6:18:55 น. ทักทายกันกับเทศกาลแห่งความสุขสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 12 เมษายน 2555 7:02:31 น. เมื่อคนที่เรารัก เขาไม่ให้เราเป็นที่หนึ่งในใจของเขาเราควรรักเขาต่อไปไหม ทั้งที่หัวใจมันพยายามบอกให้เลิกราไป สับสน อารมณ์สองอารมณ์มันตีกันอยู่ใจหนึ่งก็รู้ว่าเธอน่ารัก เธอคือคนนั้นที่ใจฉันรอมานาน แต่อีกใจก็คอยเตือนว่ารักนี้มันจบแล้ว ทำอย่างไรรักมันก็ไม่เหมือนเก่าอีกแล้วเหมือนคนติดยา ขาดมันไม่ได้ต้องย้ายที่หนีไปไหม หนีเพื่อน หนีทุกคนที่เคยรู้จักเพื่อที่จะได้ลืมเธอไป พอมีเธออยู่เรากลับมีความสุข พอไม่มีเธอความทุกข์มันก็เข้ามาเยือนใจหนึ่งล้า และอยากหยุดรัก แต่ใจหนึ่งยังมีหวัง และสร้างความหวังอยู่เสมอบอกกับตัวเองว่า เธอไม่แคร์ เธอไม่แคร์ เธอไม่แคร์เราแล้ว.......ไม่รู้ว่าเมื่อรักไปแล้ว แต่ท้ายสุดไม่ได้อะไรกลับมาเธออาจไม่มีใจเลย ถ้ามันเป็นอย่างนั้นผมจะได้เข้าใจ และตัดใจจากเธอให้ขาดคำถามโดย : เสือย้อมแมว วันที่ : 9 เมษายน 2555 เวลา : 22:14:00 น.กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายคนหนึ่งซึ่งแอบหลงรักหญิงสาวคนหนึ่งมากมายเขาเขียนคำว่า “ฉันรักเธอ” ไว้ที่ผนังบ้านของเขาด้วยสีแดงสดซึ่งเป็นอักษรที่ตัวใหญ่มากแต่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนหญิงสาวก็ไม่เคยเหลียวแลเขาเลยเธอมีชายหนุ่มที่เธอรักมากอยู่แล้วชายหนุ่มคนนี้จึงทำได้เพียงแอบรักและมองดูคำว่า “ฉันรักเธอ” บนผนังบ้านไปทุกวันอย่างเจ็บปวดใจไม่นานนัก...เขาทาสีขาวทับลงไปบนคำว่า “ฉันรักเธอ”แล้วเขียนคำว่า “ฉันไม่รักเธอ” ลงไปแทนแต่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ยังคงรู้สึกดีกับหญิงสาวคนนี้เสมอทุกวันหลังจากกลับมาจากทำงานเขาจะนั่งลงแล้วก็มองไปที่ผนังซึ่งมีตัวอักษรขนาดใหญ่สีดำเขียนคำว่า “ฉันไม่รักเธอ” เอาไว้แล้วใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเงาโดยลำพัง.....นานจนเธอจากไปจากหมู่บ้านนั้นเกือบจะลืมเลือนเธอไปแล้ววันหนึ่งหญิงสาวคนนี้เดินทางกลับมาวันนี้เขาไม่ได้เป็นชายหนุ่มเธอเองก็ไม่ได้เป็นหญิงสาวที่สวยสดงดงามอีกแล้วเธอเดินเข้ามาทักทายเขาพร้อมบอกเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ที่ล้มเหลวบอกเล่าถึงความทุกข์ยากลำบากในช่วงวันเวลาที่ผ่านมาเขานั่งฟังอย่างเงียบๆราวกับให้โอกาสเธอได้บ่นระบายความทุกข์ในใจออกมาจนหมดสิ้นแล้วเธอก็สะดุดตากับคำว่า “ฉันไม่รักเธอ” ที่เขียนไว้บนผนังเธอถามเขาว่านั่นเขียนให้ใคร เพื่ออะไร ?ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบคำถามของเธออย่างไรดีได้แต่เก็บคำถามของเธอกลืนลงคอไปอย่างเงียบงันแล้วเธอก็จากเขาไปอีกครั้ง.....หลายปีที่ผ่านมา...ชายหนุ่มนั่งมองผนังทุกวันทั้งคำว่า “ฉันรักเธอ” หรือคำว่า “ฉันไม่รักเธอ”วนเวียนอยู่ในชีวิตของเขามาโดยตลอดเอาเข้าจริง...ไม่ว่าหญิงสาวจะรู้สึกกับเขาอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้สึกไปเองเลยต่อให้เขารักเธอมากเพียงใดหรือโกรธเกลียดเธอมากแค่ไหนถ้าเขาไม่แสดง ไม่พูดบอกออกไปความรู้สึกเหล่านั้นย่อมจมหายไปกับวันเวลาเหมือนถ้อยคำที่เขาเขียนไว้บนผนังแล้วนั่งมองมันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเขานึกถึงคำถามของเธอ....“ถ้อยคำนั้นเธอเขียนให้ใคร ? เพื่ออะไร ?”นั่นสิ....เขารักเธอ เขาไม่รักเธอนั่นเป็นคำถามของเขาหรือของหญิงสาวกันแน่ที่สุดแล้วเขาเดินไปที่ผนังแล้วหยิบสีขาวออกมาทาทับไปบนคำว่า “ฉันไม่รักเธอ”ทาสีทับลงไปช้าๆ และในที่สุด...ผนังก็กลับมาว่างเปล่าและเป็นสีขาวดังเดิม โดย: กะว่าก๋า 12 เมษายน 2555 7:57:14 น. วันนี้ตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับอารมณ์ที่สดใสพอผ่านไปห้าง วันนี้มันแปลกๆทุกอย่างมันเงียบงันไปหมด ไม่มีผู้คน...จากที่เคยมีมาก็หายเงียบกริบมันเศร้าอยู่ในใจ เพราะท้ายสุดแล้วเราก็ต้องพรากจากกันอยู่ดี อยากมีอารมณ์ที่สดใส อยากมีอารมณ์สนุก ครื้นแครง อยากหัวเราะ อยากไม่แคร์อะไรเหมือนๆเดิมรู้สึกว่า..ยังไงมันก็หมุนมาที่เดิมคือ ความเศร้า น่าเบื่อ หดหู่ อ้างว้างเหมือนเดิม ตั้งแต่เด็ก มันผ่านมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งเหมือนใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ โดยไร้จุดหมายไม่รู้ว่ามีชีวิตไปทำไม และจะเริ่มทำอะไรได้แต่เพ้อฝันถึงความสำเร็จ..ที่ไม่เคยมาถึงเลยสักครั้ง ไม่อยากเดินไปทีละก้าว อยากกระโดดไปให้ถึง อยากวิ่งตะบี้ตะบันไปให้ถึง ในความต้องการของตัวเองคำถามโดย : เสือย้อมแมว วันที่ : 9 เมษายน 2555 เวลา : 22:26:00 น.หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดของคนหนุ่มในวัยค้นหาตัวเองคือการไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เป็นอะไรได้บ้างแล้วจะทำอย่างไรจึงจะเดินทางไปจนถึงสุดทางความฝันหลายปีก่อนพี่ก๋าเขียนโศลกสั้นๆเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกว่า“เราจะตามหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในที่ที่ไม่มีอยู่ได้อย่างไร”ฟังดูเป็นคำกวนๆนะครับแต่สิ่งที่พี่ก๋าตั้งคำถามกับตัวเองในวันนั้นก็คือชีวิตคืออะไร ?เราทำอะไรกับชีวิตของตัวเองได้บ้าง ?แล้วสิ่งที่เราทำมันส่งผลให้อะไรเกิดขึ้นทั้งกับตัวเราและคนอื่น ?และถ้าจะถามให้ถึงที่สุดของความคิดเราคงต้องถามตัวเองต่อไปว่านอกจากใช้ชีวิตแบบไหน ?เราอยากตายแบบไหน ?คนที่ไม่เคยคิดถามตัวเองว่าตัวเองจะตายแบบไหน ?มักจะใช้ชีวิตแบบเลื่อนลอยหงอยเหงาปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปวันๆกับความสำเร็จที่ไม่มีอยู่จริงเราอยู่ในโลกที่แข่งขันกันตลอดเวลาด้วยความเร็วข้อมูลข่าวสาร เงินทุนที่มากกว่า และโอกาสทางสังคมที่เหนือกว่าแต่ไม่ค่อยมีใครถามตัวเองเลยว่าเราจะประสบความสำเร็จไปเพื่ออะไรนอกจากการได้รับการยอมรับว่าเราเก่ง เจ๋ง รวยและเหนือกว่าคนอื่นๆ โดยไม่สนใจว่าเราจะรวยหรือประสบความสำเร็จมาด้วยวิธีการใดเป็นวิธีการที่ถูกต้องและยั่งยืนหรือไม่ใช่จริงๆละหรือที่ว่าชีวิตที่ดี คือ ชีวิตที่มีแต่ความสุขถ้าในวันหนึ่งเราตื่นเช้าขึ้นมา ไปเรียน ไปทำงานเจอเพื่อน เจอผู้คนที่ดีน่ารักและรักเราเจอแต่เรื่องที่งดงามในชีวิต เจอแต่สิ่งที่ดีงามตลอดเวลานั่นเป็นชีวิตที่ดีจริงๆหรือคำถามคือ ชีวิตแบบนั้นมันมีอยู่จริงด้วยหรือชีวิตจริงมีด้านที่เศร้าโศก มีคนที่เดินไปฆ่ากันโดยไม่ต้องการเหตุผลมีความรุนแรงสูญเสียอยู่ตลอดเวลาในทุกมุมโลกมีเจ้านายจอมโหด มีลูกน้องจอมขี้เกียจ มียาเสพติดทำลายชีวิตเกลื่อนเมืองมีเพื่อนขี้อิจฉาและชอบการนินทา มีความรักที่ผิดหวังเซซัง มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การปล้นฆ่าข่มขืนมีคนที่พร้อมจะเอาเปรียบเราตลอดเวลา มีโรคภัยไข้เจ็บที่ยากจะรักษาให้หาย ฯลฯแล้วสิ่งต่างๆเหล่านี้มันทำให้ชีวิตดูย่ำแย่โหดร้ายจนเราไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปหรือเปล่าโลกถูกสลับที่ด้วยความสุข ความทุกข์อยู่ตลอดเวลาถ้าเรามัวจับจ้องแต่ความสุข เราจะปล่อยให้ชีวิตจมอยู่กับความเพ้อฝันแต่ถ้าเราจ่อมจมอยู่แต่ด้านที่โหดร้าย โลกนี้ก็คล้ายว่าไม่น่าอยู่อีกต่อไปเราชอบแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม“มองโลกในแง่ดี” กับ “มองโลกในแง่ร้าย”ความจริงมันยังมีอีกมุมหนึ่งนั่นคือ “มองโลกตามความเป็นจริง”ถ้าเรามองเห็น “ความจริง” ที่เกิดขึ้นในทุกขณะอย่างที่มันเป็นไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้เป็นเราจะซึมซับรับรู้ทุกสิ่งอย่างเป็นกลางเราจะรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดถึงวันหนึ่งก็อาจแปรเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้ทุกสิ่งที่เราทำมีผลกระทบเกิดขึ้นไม่มากก็น้อยไม่ว่าจะกับตัวเองหรือคนรอบข้างถ้าเราทำทุกสิ่งด้วยความตั้งใจด้วยความรับผิดชอบ ด้วยความรู้หน้าที่ต่อให้สิ่งนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินไม่ได้ช่วยเหลือผู้คนเป็นแสนเป็นล้านสิ่งนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่งดงามและเป็นประโยชน์กับโลกอยู่ดี“ความสำเร็จ” ของคนคนหนึ่งในนิยามความหมายของพี่ก๋าจึงไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยที่สุดในสามโลกไม่จำเป็นต้องมีรถคันใหญ่ บ้านหลังโต เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินหรือเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศใดใดขอแค่ใครคนนั้นทำทุกสิ่งที่มีประโยชน์ทำทุกสิ่งที่เขาทำได้อย่างดีที่สุดรู้จักเสาะหา และแบ่งปันรู้จักใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบและรู้จักหน้าที่ของตนเองถ้าทำได้ตามนั้น...ต่อให้เป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักหรือกล่าวถึงเขาก็เป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมแล้วในความเป็นมนุษย์....“เราจะตามหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในที่ที่ไม่มีอยู่ได้อย่างไร”จงใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดในทุกเวลานาทีจงคิดถึงความตายเอาไว้บ้างมองโลกตามความเป็นจริงและอยู่กับสิ่งนั้นด้วยความเข้าใจบางทีสิ่งที่เรากำลังตามหาอาจไม่จำเป็นต้องออก “ค้นหา” จากที่ไหนขอเพียงเรา “ค้นพบ” สิ่งนี้ให้เจอได้ที่ในตัวเรา ก็เท่านั้นเอง.... โดย: กะว่าก๋า 12 เมษายน 2555 8:03:54 น. ความรู้ในโลกนี้มีมากมายหลายแบบเหลือเกินจนไม่รู้ว่าจะศึกษาอะไรดี ศึกษาจนตายก็ไม่รู้ว่าจะศึกษาจบไหม แต่กับชีวิตจริงนี่ ไม่เคยได้ศึกษาอะไรเลย ก็มีแค่ที่เรียน เล่นฟิตเนส และไปหาคนรักวนซ้ำไปซ้ำมา เบื่อที่ต้องศึกษาทฤษฎีจากก่อน ทฤษฎี 90 ปฎิบัติ 10ตอนนี้อยากเปลี่ยนมาเป็น ทฤษฎี 10 ปฎิบัติ 90 แทนเบื่อที่ต้องเรียนรู้ทั้งหมด อยากจะหยิบแค่ชิ้นสองชิ้นง่วงแล้วนอน นอนแล้วตื่น ชีวิตมีเท่านี้หรือเปล่าครับพี่ก๋าทั้งอารมณ์ต่างๆ ความสุข ความทุกข์ ความสนุก ความน่าเบื่อ ฯลฯอารมณ์เหล่านี้มันไม่เคยคงทนเลยมันเปลี่ยนแปลงไปตาม เหตุและปัจจัยอยากควบคุมมัน แต่ยังไงก็ทำไม่ได้คำถามโดย : เสือย้อมแมว วันที่ : 9 เมษายน 2555 เวลา : 22:37:00 น. ..ชีวิตคืออะไร ?ชีวิต คือ ของขวัญ....เธอจงรับมันเอาไว้ชีวิต คือ การผจญภัย...เธอจงออกไปรับมือกับมันชีวิต คือ ความลี้ลับ...เธอจงทำให้กระจ่างแจ้งชีวิต คือ เกม...เธอจงลงไปเล่นชีวิต คือ การต่อสู้...เธอจงไปเผชิญหน้ากับมันชีวิต คือ ความงาม...เธอจงเชิดชู ยกย่อง สรรเสริญชีวิต คือ ปมปริศนา....เธอจงแก้ให้ออกชีวิต คือ โอกาส...เธอจงฉวยเอาไว้ชีวิต คือ ความเศร้า....เธอจงลิ้มรสไว้เป็นประสบการณ์ชีวิต คือ บทเพลง....เธอจงขับขานให้สำราญใจชีวิต คือ เป้าหมาย...เธอจงก้าวไปให้ถึงชีวิต คือ พันธกิจ....เธอจงกระทำให้ลุล่วง: เดวิล แม็กนัลลีย์จาก : Even Eagles Need a Pushหนังสือ : ข้อคิดเติมหัวใจคุณครูรวบรวม : Charles McGuire & Diana Abitzแปล : พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี หนึ่งในวิชาที่สำคัญที่สุดก็คือ “วิชาชีวิต”และในวิชาชีวิตสิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิชา “รู้จักตนเอง”รู้จักตนเอง---ที่ไม่ใช่รู้จักแค่เราชื่ออะไร เกิดวันเดือนปีอะไรเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เคยรักเคยเกลียดใครมากี่คนเรียนจบที่ไหนได้กี่ปริญญา หรือ เรียนรู้ศาสตร์วิชาใดใดมาบ้างเหล่าจื่อเคยกล่าวไว้ว่า“รู้จักคนอื่น เป็นผู้ฉลาดรู้จักตนเอง เป็นผู้รอบรู้”เราจะรู้จักตนเองได้อย่างไรต้องย้อนกลับไปดู “วิธีคิด” ของตัวเราเราคิดอย่างไร เป็นความคิดที่ถูกต้องดีงามแล้วหรือยังคำถามสำคัญๆที่จะทำให้เรารู้จักตัวเองก็คือเราเกิดมาทำไม ?เราทำอะไรได้บ้าง ?แล้วสิ่งที่เราทำจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร ?ที่สุดแล้วคนเราตายแล้วไปไหน ?ฯลฯมันไม่ได้เป็นคำถามในเชิงปรัชญาซับซ้อนอะไรเลยแต่เป็นคำถามง่ายๆที่ตอบยากที่ตอบยากเพราะเรามักไม่ค่อยคิดถึงคำถามเหล่านี้เพราะเราได้แต่ใช้ชีวิตไปวันๆ....และคิดถึงแต่ความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่ยากจะไต่ตามไปถึงชีวิตไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสุข ความทุกข์ความรัก ความฝัน หรือความหวังแต่เป็นเรื่องของ “ความเข้าใจ” และ “การยอมรับความจริง”“ความจริง” อย่างที่มันเป็นเช่นการเกิด แก่ เจ็บ ตายต้องพลัดพรากจากคนและสิ่งของที่เรารักแต่สิ่งทำให้การเกิด แก่ เจ็บ ตายของแต่ละคนมีความหมายที่แตกต่างกันนั่นคือ สิ่งที่เราได้คิด พูด และกระทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นเองไม่มีชีวิตใดที่สูงล้ำนำค่า หรือต้อยต่ำจนไร้ค่าความหมายคนเราเกิดตายหนึ่งหน....เราเป็นเจ้าของความตายอย่างเท่าเทียมกันเรามีโอกาสที่จะเกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อที่จะได้คิด พูด ทำสิ่งต่างๆมากมายคำถามคือ เราได้รู้ตัวแล้วหรือยังว่าเรากระทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นไปเพื่ออะไรสิ่งที่เราคิด พูด ทำอยู่มีประโยชน์อย่างไรที่สุดแล้ว....มันจะนำไปสู่การจากลาจากที่งดงามได้อย่างไรความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งน่ากลัวเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้ยากหรือบางที...อาจจะควบคุมไม่ได้เลยแต่อย่ากลัวเลยครับ ....แค่เรานั่งเฉยๆสองวินาทีความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นกับเข็มวินาทีอย่ากลัวกับคำถามที่ว่า “ชีวิตคืออะไร ?”เพราะถ้าเราค้นพบหนทางที่ถูกต้องแล้วเราจะถามและตอบตัวเองได้ทันทีว่า“อะไรคือชีวิตชีวิตคืออะไร ?” โดย: กะว่าก๋า 12 เมษายน 2555 8:13:09 น.
ความคิดเห็น