kpay
ดู Blog ทั้งหมด

ฮ่องกงไม่เคยเข็ด รอบที่เจ็ดก็ไปมาแว้ววว

เขียนโดย kpay


อะ ไม่ได้เขียนไดอารี่นานละ เขียนแต่เวลาไปเที่ยว เพราะทำงานก็เดิมๆ ไม่รู้จะเขียนไรด้วย
ย้อนความคือ จองตั๋วโปรโมชั่นแอร์เอเชียไว้ตั้งแต่เดือน 11 ไปกลับฮ่องกงได้มา 2,700 จองนานจนลืม
แล้วคือแอร์เอเชียตอนนี้คิดค่าโหลดกระเป๋าด้วยนะ คือตอนเดือน 4 ที่ไปพม่ารู้สึกใบละ 280
แต่เพิ่งซื้อน้ำหนักกระเป๋าผ่านเว็บสองวันก่อนเดินทาง ขึ้นเป็นใบละ 370 แพงสาดดดดด แต่ทำไงได้ 
ตอนแรกก็รอๆ ไอ่มุกว่าจะไปด้วยเปล่า แต่ไปๆ มาๆ มุกไปไม่ได้ ไม่เป็นไร อั๊วะไปคนเลียวก็ล่ายยย
สรุปบิน 7-10 sep ต้องลางานสามวันเลยทีเดียว กี๊สสส 
เป็นทริปฮ่องกงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ไปล่าสุดตอนปิดเทอมตุลาปี 4 อะ


7 SEP

ตื่นตีสามกว่า โชคดีไม่งัวเงีย เพราะวันก่อนหน้าเป็นหวัด กลับบ้านเลยกินยาแล้วนอนเลย ป๊าไปส่งถึงสนามบินตอนตีห้า ซื้อข้าวจากแฟมิลี่มาร์ทกิน เป็นข้าวผัดกะเพรา หน้ากล่องเขียนว่าเพิ่มหมู 20% พอเปิดกล่องมา เอ่อ นี่คือมึงเพิ่มแล้ววว ??? เนื้อหมูนี่คือแบบ เหมือนมีคนเคี้ยวแล้วค่อยเอามาใส่กล่องอีกทีอะ 555 พอ 6 โมงครึ่งเครื่องก็ออก นั่งที่ผิดอีก อายๆๆ ง่วงมากด้วย หลับแบบหัวทิ่มออกมาตรงทางเดินเลยอะ อย่างกะรถทัวร์

  

 
 สิ่งแรกที่ต้องกินเมื่อมาถึง นมแตงไทย อร่อยยยย

มาถึงฮ่องกงตอนประมาณ 10 โมงครึ่งเวลาฮ่องกง (เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) เจ๊กเยอะมากกก เบื่อเจ๊กอะเสียงดัง เจอพี่คนไทยเข้ามาทัก เค้าก็ชวนคุย ถามว่าพักที่ไหน เราก็บอกไปว่าพักที่ Free Walker เจ้าของเป็นคนไทยชื่อแอน เค้าก็แบบ เนี่ย ที่นี่มีคนด่าเยอะนะ เราก็อ๋อค่ะๆ คือจริงๆ ก็รู้นะ แต่คือเราจองที่พักล่วงหน้าก่อนบินแป๊บเดียวไง ที่อื่นๆ ที่เคยพักก็เต็มหมดแล้ว แต่ที่นี่ห้องเดี่ยวยังว่าง มีห้องน้ำในตัวด้วย คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก (ไม่มีจริงจิ๊งงงง แต่คืนก่อนเช็คเอาท์เกือบตบกัน โปรดติดตาม)

พอออกจากสนามบิน ก็นั่งรถบัสสาย A21 มาลงที่มงก๊ก แล้วเดินต่อมาอีกประมาณห้านาทีก็ถึงที่พัก
คือที่พักเนี่ยอยู่ที่ตึกชื่อว่า Sincere House อารมณ์เป็นแฟลตหลายชั้น แล้วในตึกนี้ก็มีพวก hostel/guesthouse หลายเจ้า ของเราอยู่ชั้น 5 ไปถึงไม่เจอคุณแอน เจอแต่ลูกจ้าง แม่งพูดอังกฤษก็ไม่ค่อยได้ รำคาญ ก็เลยเอาของเก็บ แล้วนอนซักงีบ 5555 ง่วงได้โล่ห์

บนรถบัสสาย A21

 
ทางเข้า Sincere House



เตียงนอน



ตึกมันโทรมๆ




ป้ายที่พัก


 
ห้องน้ำเล็กมากกกตามสไตล์โฮสเทลฮ่องกง
 


หลับไปได้ชั่วโมงกว่าๆ ตื่นมาก็เริ่มต้นที่ตึกข้างๆ เลย คือเป็นตึกช้อปปิ้งอารมณ์โบนันซ่าแบบไฮโซ
ชอบมากกกของเยอะมากกกกก  ได้คาร์ดิแกนงดงามมาตัวนึง แฟชั่นฮ่องกงตอนนี้เหมือนนิยมเสื้อถักลูกไม้อะ ส่วนรองเท้า ผญฮ่องกงชอบใส่อารมณ์แกร์ดิเอเตอร์สูงๆ อะ ถ้าถือดาบหน่อยนี่ใช่เลย



 
 
 
 
จากนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดิน ที่นี่เรียกว่า MTR ไปลงจิมซาโจ่ย เป้าหมายแรกคือ H&M กี๊สสสสสส
จากนั้นก็หายตัวไปในนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง 5555 อยากจะกวาดทุกอย่างลงกระเป๋า โฮกกก

 
ตู้หยอดบัตร MTR

รอรถไฟใต้ดิน
 

ย่านจิมซาโจ่ย
 
 
I LOVE H&M
 
คือแบบว่าเดินๆๆ เลือกๆๆ อุ้ย เยอะไปปะวะ ต้องหยิบออกจากตะกร้า 5555
อ้อ ทำไม H&M ช่วงนี้ไม่ค่อยมีแว่นกันแดดเลยอะ มีแค่ 2-3 แบบเอง งงเลย
แต่ไม่ค่อยมีอะไรเซลล์เลยนะ คือเราคงมาช้าไป ปกติเค้าจะเซลล์กันถึงสิงหาอะ



   
เสร็จแล้วก็ไปเดินห้างชื่อ Habour City เป็นห้างที่ใหญ่มากกกกกกกและดังมาก มีทุกอย่าง
แล้วก็หาไรกินในนี้ หน้าตาดี รสชาติโอเค กินๆ ไป เพิ่งรู้สึกว่ามันเหมือนจาจางมยอน(บะหมี่ดำเกาหลี)

 
จากนั้นก็เดินๆ อีกพักนึง สังเกตว่าคนฮ่องกงมักมีคู่นะ ต่อให้หน้าเหียกแค่ไหนก็มีแฟน
แล้วผชออฟฟิศฮ่องกงหลังเลิกงานเท่อะ อารมณ์แบบปลดกระดุมเม็ดบน หน้าเหนื่อยหน่อยๆ
แต่หัวต้องตั้งนะ (ผชฮ่องกงต้องเซ็ตผมแทบทุกคน) คือแบบน่ารักอะ บอกไม่ถูก สเป็กด้วยมั้ง ตี๋ๆ ฮ่าๆ



กลับมามงก๊กตอนดึกๆ ชอบอะ คึกคักมากกก 



  

 เป็นของกินที่ชอบมากกก ไม่รู้เค้าเรียกว่าไร ไม่เชิงขนมจีบ


 ส่วนนี่เรียกว่าเลดี้มาร์เก็ต ใครชอบซื้อของก๊อปต้องมา ต่อราคากระจายยย





เปิดถุงช้อปประจำวัน



 
เริ่มต้นด้วยร่ม ฮ่าๆๆ น่าร้ากเนอะ 49 HKD เท่านั้น ( 1 HKD - 3.85 THB )


  
คาร์ดิแดนชอบมากกก 59 HKD



ต่างหู H&M แผงนี้ 39 HKD


  
เสิื้อใส่เล่น ใส่ง่ายดีอะ ชอบ 39 HKD


 
เสื้อ H&M ตัวนี้ชอบมากกก เห็นแล้วคว้าเลย 199 HKD



และผ้าพันคอลายเดียวกัน 79 HKD ชอบมากกกก

 
อายแชโดว์ H&M 39 HKD ติดทนดีมาก


  
เสื้อ Bossini ให้แม่ แม่ชอบแบรนด์นี้ ใส่สบาย


 
Bossini อีกตัวไว้ใส่นอน สบายยย 29 HKD



ปิดท้ายวันด้วยรูปมงก๊กตอนเกือบเที่ยงคืน
คือคนฮ่องกงคิดจะกลับบ้านไปนอนกันบ้างมั้ย
 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น