เคยรู้สึกกันไหม ว่าการหนีอะไรสักอย่าง เป็นสิ่งที่ยากมาก
ยิ่งหนีเท่าไร กลับยิ่งเจอ
คงจะเหมือนกับฉัน ที่ยิ่งหนีความหวาดกลัว
สุดท้ายก็ยิ่งรู้สึกกลัว
ความกลัวของฉัน คือ ความกลัวอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
ฉันรู้มาตลอดว่าความกลัวเป็นสิ่งที่ตัวเราสร้างขึ้นมาเอง
ฉันรู้มาตลอดด้วยว่าการกลัวสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ใครต่อใครมองว่ามันไร้สาระ
แต่ให้ทำอย่างไร.. ก็ความกลัวของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนกลัวความสูง บางคนกลัวแมลงสาบ
แต่ฉันไม่มีอย่างอื่นที่กลัวเลยนอกจากเรื่องนี้
ก็คิดว่า จะไม่นึกถึงมัน แต่สุดท้าย มันก็กลับมาสักช่วงในความคิด
พยายามหนีเท่าไรมันจึงหนีไม่เคยพ้นสักที
ที่เคยสร้างภาพบางอย่างหลอกตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์
ความผิดพลาด รวมถึง เรื่องราวในอดีตมากมาย เพียงเพราะเราไม่สามารถปล่อยวางได้
แล้วสุดท้าย ความกลัวก็ครอบงำ จนกลายเป็นคนที่พยายามหนีความพ่ายแพ้ เกลียดการแข่งขัน
ยิ่งเราหนีเท่าไร เราก็ยิ่งแพ้ แพ้ใครต่อใคร ที่สำคัญที่สุดคือแพ้ใจตัวเอง
การหนีความพ่ายแพ้ ทำให้เราต้องฝืนใจทำสิ่งต่างๆ ทั้งที่ไม่อยากทำ
ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปแล้วได้อะไร
ดังนั้น มันจึงไม่จำเป็นจะต้องหนีอีกต่อไป !!
จากหลายปีที่ฉันพยายามหนีมัน มันได้บอกแล้วว่าไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย
เพราะ สุดท้ายฉันก็หนีมันไม่พ้น อยู่ดี
เราจะหนีเรื่องราวความผิดพลาดในอดีต เราจะหนีการแข่งขัน เราจะหนีการพ่ายแพ้ได้อย่างไร
ความผิดพลาดในอดีต คือ บทเรียน ที่คอยสอนเรา ให้รู้จักปรับปรุง ว่าเราไม่ดีพอ แล้วก้าวผ่านมัน
การแข่งขัน คือ การที่ทำให้เรารับรู้ว่า ชัยชนะครั้งนี้มันน่าภาคภูมิใจมากเท่าไร
การพ่ายแพ้ คือ สิ่งที่เป็นเครื่องย้ำเตือนใจ ให้เราพยายามมากขึ้นต่างหาก
การแพ้เพราะไม่เคยได้ลงแข่ง ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
เราจะไม่มีโอกาสได้รู้ตัวเลยว่าเราได้ขาดตกบกพร่อง ณ จุดใด
ไม่ว่าอย่างไร เราเองก็ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร สิ่งสำคัญคือการแข่งกับตัวเอง
คิดอยาก แล้วจะทำ จะลองสร้างสถิติใหม่ๆ จะลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และจะทำในสิ่งที่อยากทำ
จะไม่แคร์บางสิ่ง ไม่แคร์กรอบ ไม่อยากรับรู้
อดีตมันลบทิ้งยาก อาจจะทุกข์บ้าง สุขบ้าง มันคงไม่จำเป็นต้องหนี ไม่จำเป็นต้องเกลียด
แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้
สำหรับความกลัว
ต้องกล้าที่จะฉีกมันทิ้ง กล้าที่จะเดินหนีมัน กล้าที่จะทำลาย กล้าที่จะไม่กลัว ทำไมต้องกลัว
ขอบคุณทุกเรื่องราว ที่เคยก้าวผ่านมา
แม้ว่าตอนนี้ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่
การจะเลิกอะไรยิ่งถ้าเป็นการสั่งตัวเองให้เลิกคิดอะไรมันเป็นเรื่องที่ยากที่สุด
มันอาจจะตกเป็นตะกอนตกข้างอยู่ในจิตใต้สำนึกไปแล้ว
แต่จะทำอย่างไรให้มันมีบทบาทต่อตัวเราน้อยที่สุด
ฉันเชื่อว่าบางอย่างมันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อนาคตมันอาจจะถูกลิขิตไว้บ้าง อะไรบ้าง
อย่างน้อยเราก็เปลี่ยนทางมันได้ไม่มากก็น้อย
การที่เราไม่ได้ดังหวังก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ดีกว่าคนที่ไม่มีแม้แต่โอกาสได้ทำ
ความคิดเห็น
ที่มีให้อ่านและทำให้มีกำลัง ก้าวต่อไป
ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่จิตใต้สำนึกเราสร้างขึ้นมาเอง
แต่ก็ยังหวาดกลัว
ยิ่งหนี ก็ยิ่งเจอ
ทางที่ดีคือวิ่งเข้าชน ถ้าผ่านมาได้...มันก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว
^^
ทุกคนก็มีสิ่งที่กลัวทั้งนั้น
อยู่ที่ว่าเราแต่ละคนจะกำจัดความกลัวนั้นอย่างไรตังหาก
เเต่บางครั้งก็ต้องการหนีไปทำใจบ้าง
รู้ว่ามันหนีไม่พ้น
เเต่ถ้ามันมีเวลาซักนิดเพื่อให้ใจได้คลายมันบ้าง
หนีครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงว่าเราเเพ้เราไม่ได้ทำ
เเต่หนีไปทำใจ ไปตั้งหลักต่างหาก
นี่อาจเป็นเหตุผลคนขี้ขลาดอย่างเรา
เเต่เราก็ผ่านจุดนั้นมาได้นะ
ขอบคุณบทความดีดี
ที่ทำให้มีกำลังใจค่ะ
^^
มินก็กลัวเหมือนกันอาริ
ปล.ภาษาเจ๋งค่ด
ขอบใจจ้ามิน คิดถึงมากๆนะ ^ ^
ขอบใจจ้ามิน คิดถึงมากๆนะ ^ ^
แต่แค่เพิ่มความกล้าให้มากอีกหน่อย
กล้าที่จะก้าวข้ามความผิดพลาด
ก้อพอแล้วล่ะค่ะ^^
เราเป็นหนี้ท่านแล้ว
วันนี้ขอเตรียมตัวก่อน
แต่บางที ถ้าเราไม่รู้สึกกลัว มันก็นากลัวมากกว่านะอาริ
คุนจะเข้าใจความรุ้สึกนี้ เมื่อเราเล่นวิ่งไล่จับ
ต้องหันหน้าเผชืญกับมัน