เน‘TEDDYเน‘
ดู Blog ทั้งหมด

ตัวอย่างการวิจารณ์1

เขียนโดย เน‘TEDDYเน‘

ฮะแฮ่ม พะยูนเองนะคะ ก่อนจะเข้าสู่การวิจารณ์พะยูนขอพูดอะไรสักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนอื่นพะยูนต้องขอโทษด้วยที่มาส่งงานให้ช้าค่ะ คือความจริงเรื่องนี้พะยูนไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มีโอกาสมาวิจารณ์ให้ เพราะตอนแรกมีน้องกลอเรียที่เป็นนักวิจารณ์ใหม่มาเลือกงานนี้ไป แต่อยู่ๆ วันหนึ่งลาวาก็ดันมาบอกให้พะยูนวิจารณ์เรื่องนี้แทนน้องกลอเรีย เหตุผลก็คือน้องรับงานไป 1 อาทิตย์กว่าๆ แล้วอยู่ๆ ก็หายตัวไป ไม่ส่งงานมาให้ค่ะ ทำให้การวิจารณ์เรื่องนี้ล่าช้าไป แถมช่วงนี้พะยูนยังติดงาน ยุ่งๆ ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่อีกต่างหาก ยิ่งทำให้การวิจารณ์ช้าลงไปอีก ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอน้อมรับความผิดทุกอย่างค่ะ
 
พะยูนขอเกริ่นก่อนว่าพะยูนไม่ได้เป็นนักวิจารณ์มืออาชีพ เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาที่พลันตัวมาจากนักอ่าน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและเห็นด้วยกับพะยูนทุกประโยค พะยูนขอแค่ให้คุณเอาคำวิจารณ์ของพะยูนไปไตร่ตรองดูเท่านั้น เพื่อที่นิยายของคุณจะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ
 
เกี่ยวกับนิยาย
ชื่อเรื่องและการแนะนำเรื่องย่อ : ชื่อเรื่องดูเหมือนจะน่าสนใจนะคะ แต่มันก็เหมือนนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นที่มักจะตั้งชื่อแบบนี้ เห็นได้จากหนังสือเรื่อง เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา ที่พะยูนก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นต้นแบบของเรื่องอื่นๆ หรือเปล่า แต่ว่ามีนิยายแฟนตาซีหลายเรื่องที่จะตั้งชื่อคล้ายๆ แบบนี้ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคำให้แตกต่างจากเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ยังไงมันก็ยังเหมือนๆ กันอยู่ดี ทำให้ชื่อเรื่องดูโหล่และธรรมดาไปเลยล่ะค่ะ
 
ส่วนการแนะนำเรื่องย่อดูน่าสนใจและน่าอ่านดีค่ะ มันทำให้ผู้อ่านอยากรู้ว่าจุดมุ่งหมายที่ตัวเอกมาเข้าเรียนนี่คืออะไร? แล้วปริศนาอันดำมืดที่ว่ามันเป็นยังไง? แล้วทำไมถึงได้ใช้ชีวิตที่โรงเรียนเพียงไม่กี่วันเองล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกัน!?
 
โครงเรื่อง
พล็อตเรื่อง : เท่าที่พะยูนอ่านมา พล็อตเรื่องยังไม่เด่นชัดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรกันแน่ รู้แค่ว่าเป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่มาเข้าโรงเรียนเพื่อจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่าง(เห็นได้จากการแนะนำเรื่องย่อ)แน่ๆ ล่ะ แล้วจุดมุ่งหมายที่ว่านี่คืออะไรล่ะ? แล้วนอกจากเข้ามาโรงเรียน มีการแบ่งหอ มีการคัดเลือกหัวหน้าชั้นปี มีการรับน้องและเข้าเรียน ยังมีอะไรที่แตกต่างจากนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องอื่นบ้างล่ะ อ่านมาพะยูนยังไม่เห็นถึงความแตกต่างเลย มันก็เดิมๆ ซ้ำซากกับนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่น พูดตรงๆ ค่ะพะยูนว่านิยายเรื่องอื่นยังน่าดึงดูดกว่าเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ส่วนเหตุผลพะยูนขอไปพูดถึงในหัวข้อการดำเนินเรื่องค่ะ
 
การเปิดเรื่อง : ตอนอ่านการแนะนำเรื่องย่อพะยูนคิดเลยว่าการเปิดเรื่องจะต้องเป็นการพูดถึงจุดมุ่งหมายอะไรสักอย่างของตัวเอกทั้งสามแน่ๆ แต่พอเปิดมาอ่านปุ๊บ ปรากฏว่าไม่ใช่ มันเป็นการเกริ่นถึงเรื่องอื่น ตอนแรกที่อ่านจบพะยูนก็งงนะว่าเปิดเรื่องแบบนี้ต้องการอะไร ไม่เห็นมันจะเกี่ยวเนื่องกันเลย แต่พออ่านไปเรื่อยๆ จนถึงตอนที่ 9 พะยูนก็เริ่มเข้าใจแหละ ว่าเนื้อหาตอนเปิดเรื่องมันเกริ่นถึงเรื่องอะไรกันแน่ เพราะงั้นการเปิดเรื่องแบบนี้เลยทำให้เป็นปริศนา ดูลึกลับและน่าสนใจดีค่ะ
 
ถ้อยคำภาษา
ภาษาที่ใช้และการบรรยาย : ภาษาที่ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 โดยให้ผู้แต่งเป็นคนดำเนินเรื่อง อีกทั้งคำที่เอามาใช้ยังเป็นคำง่ายๆ ที่ถึงแม้ไม่สวยหรูนักแต่ก็ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ ดีค่ะ
 
ส่วนการบรรยายก็ละเอียดชัดเจนดี บอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี ไม่มีจุดที่อ่านแล้วติดขัดให้เห็นเลยค่ะ ทำให้พะยูนชอบการบรรยายและภาษาที่พาร์ทใช้มากๆ ค่ะ มันแตกต่างจากนิยายแฟนตาซีเรื่องอื่นที่มักจะใช้คำยากๆ คำสวยหรู ให้เหมาะกับนิยายแนวนี้ ซึ่งมันมีข้อเสียคือผู้อ่านจะไม่เข้าใจ อ่านแล้วก็อาจจะมีบางคำที่งงว่ามันแปลว่าอะไร ทำให้อารมณ์ขาดตอน ไม่ประติดประต่อกันค่ะ
 
คำผิด/ประโยคผิดเพี้ยน : มีให้เห็นบ้างนิดหน่อย เช่น
ตอนที่ 4 : เมฟิสน้อยด้วยความกลัว(สายตาแช่แข็งของเฟเรส) – ประโยคนี้พะยูนอ่านแล้วสะดุดมากค่ะ พะยูนว่าน่าจะสลับตำแหน่งกัน เอา ‘เมฟิสน้อย’ ไปไว้ข้างหลังสุด แล้วคำในวงเล็บก็ไม่ต้องใส่วงเล็บค่ะ จะได้ว่า “ด้วยความกลัวสายตาแช่แข็งของเฟเรส เมฟิสน้อยจึงตัดสินใจ” 
 
ส่องสายตาเหลือบมองเฟเรส(ตอนที่ 4) – เอ่อ...คำนี้คืออะไรคะ มีทั้ง ‘ส่อง(คำนี้น่าจะเป็น ‘ส่ง’ มากกว่าค่ะ คำว่า ‘ส่อง’ จะไม่ใช้กันค่ะ)สายตา’ และ ‘เหลือบมอง’ ซึ่งทั้งสองคำเป็นคำที่บอกว่า กำลังมอง อะไรสักอย่างอยู่ แต่สองคำนี้วิธีการมองจะแตกต่างกันค่ะ คำว่า ‘ส่งสายตา’ เป็นการมองแบบมองตรงๆ ส่วนคำว่า ‘เหลือบมอง’ เป็นการมองด้วยหางตา ไม่ได้มองตรงๆ ค่ะ พะยูนว่าพาร์ทน่าจะเลือกใช้คำใดคำหนึ่งเท่านั้นนะคะ
 
ซักพัก(ตอนที่ 5) – สักพัก
 
เฟเรสก้มลงมองดูพลางครุ่นคิดพลาง(ตอนที่ 7) – ตัด ‘พลาง’ สุดท้ายทิ้งค่ะ
 
ตัวเนื้อหา
การดำเนินเรื่อง : พะยูนขอพูดถึงภาพรวมก่อนนะคะ แล้วค่อยไปเจาะลึกในแต่ล่ะตอนกันอีกทีค่ะ(พะยูนจะขอเจาะลึกถึงแค่ตอนที่ 9 นะคะ)
โดยรวมแล้วการดำเนินเรื่องค่อนข้างช้า กว่าจะกระดืบๆ ไปได้ก็ค่อนข้างนานอยู่ ทำให้อ่านแล้วรู้สึกเบื่อๆ อยู่บ้างค่ะ ถึงแม้จะมีปมปริศนาเข้ามาให้อยากรู้แต่มันก็ไม่น่าดึงดูดนัก เมื่อเทียบกับเนื้อหาส่วนอื่นๆ ที่มักจะมีแต่น้ำไม่มีเนื้อ ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วงงว่าตกลงตอนนี้ต้องการจะเขียนถึงเรื่องอะไรกันแน่ อีกทั้งฉากต่อสู้ ฉากที่ใช้เวทมนต์ในเรื่องยังมีน้อย ซึ่งต้องบอกเลยว่าฉากแบบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของนิยายแฟนตาซีเลยค่ะ เมื่อมันมีน้อยแบบนี้เลยทำให้เรื่องนี้ดูไม่เหมือนเป็นนิยายแนวแฟนตาซี มันเหมือนเป็นนิยายแนวสบายๆ เล่าเรื่องถึงชีวิตในรั้วโรงเรียนของตัวเอกมากกว่าค่ะ
 
เอาล่ะ ขอพูดถึงเนื้อหาในแต่ล่ะตอนบ้างนะคะ ในตอนที่ 2 เป็นตอนที่คัดเลือกหอใช่ไหมคะ แล้วตอนคัดเลือกหอเนี่ย พาร์ทก็เขียนแนะนำตัวละครแต่ล่ะตัวอยู่แล้วว่าชื่ออะไร มีรูปร่างลักษณะเป็นยังไง ถึงจะไม่ทั้งหมด แต่มันก็ทำให้ผู้อ่านรู้คร่าวๆ แล้วว่าตัวละครแต่ตัวเป็นยังไง อีกอย่างวิธีคัดเลือกหอเนี่ย พะยูนว่ามันยังธรรมดาๆ อยู่นะคะ มันน่าจะเป็นอะไรที่ตื่นเต้นและเข้มข้นมากกว่านี้ เมื่อผู้อ่านได้อ่านแล้วต้องร้องออกมาว่า “ว้าว!” อะไรแบบนี้นะคะ
 
แล้วในตอนที่ 3 ยังมีตัวละครใหม่โผล่เข้ามาอีก โห ตัวละครทำไมมันเยอะอย่างนี้เนี่ย พะยูนอ่านแล้วแทบจำไม่ได้ค่ะว่าใครเป็นใครบ้าง รู้สึกสับสนไปหมด ยังไม่หมดแค่นี้ พาร์ทยังเขียนให้รุ่นพี่บอกให้ปี 1 แนะนำตัวเองอีก ทำให้การแนะนำตัวละครซ้ำซาก เนื้อหายืดยาว ดูไม่มีเนื้อมีแต่น้ำเหลวๆ ค่ะ กว่าจะได้คัดเลือกหัวหน้าชั้นปีก็ผ่านไปแล้วสิบกว่าบรรทัด ทำให้พะยูนที่รู้ข้อมูลตูมเดียวรู้สึกปวดหัวค่ะ
 
ตอนที่ 4 พวกปี 1 นั่งเลือกห้องอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เรื่อยๆ ดูไม่มีอะไรค่ะ
 
ตอนที่ 5 ชื่อตอนเป็นการรับน้อง แต่พออ่านเนื้อหาในตอนพะยูนว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อตอนเป็นการแสดงของพวกรุ่นพี่อะไรอย่างนี้มากกว่าค่ะ เพราะเนื้อหาในตอนส่วนมากจะเล่าถึงการแสดงของพวกรุ่นพี่ว่ามีเรื่องราวเป็นยังไง เล่าซะจนยืดยาวไปครึ่งตอนเศษๆ ซึ่งตรงส่วนนี้พะยูนว่าน่าจะนำมาเล่าแบบคร่าวๆ มากกว่า ไม่ต้องเอาบททุกบท คำพูดทุกคำพูดของการแสดงมาเล่า อาจจะหยิบยกมาบางประโยคที่เด็ดๆ และดูน่าสนใจมาเขียนให้ผู้อ่านได้ทราบ
 
ในตอนที่ 5 พูดถึงเรื่องการแสดงของรุ่นพี่และการรับน้อง แต่พอมาตอนที่ 6 ดันเป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แถมพาร์ทยังเขียนตอนท้ายบอกอีกด้วยว่าเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม คือพะยูนอ่านแล้วงงมากว่าโศกนาฏกรรมอะไร? มันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักตรงไหน? อ่านแล้วไม่เข้าใจอย่างแรงค่ะว่าตอนนี้เขียนขึ้นมาเพื่อต้องการสื่ออะไร หรือว่าจะเขียนเพื่อให้เป็นปริศนา ตอนท้ายๆ อาจจะมีเกี่ยวเนื่องกันอยู่เหรอคะ? อืมม แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้นะเพราะเนื้อเรื่องมันเหมือนกับว่าเป็นคนล่ะเรื่องกับเรื่องหลักเลยนี่สิค่ะ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจอย่างแรงค่ะ ยังไงก็ช่วยอธิบายให้พะยูนทราบทีน้า TOT 
 
ตอนที่ 7 เอาล่ะ เข้าสู่การรับน้องที่แท้จริงแล้ว ตอนนี้เป็นตอนที่พะยูนชอบมากที่สุดค่ะ เพราะมันมีฉากต่อสู้ ฉากใช้เวทมนต์ ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น ค่อยเหมาะกับนิยายแนวแฟนตาซีหน่อยค่ะ
ตอนที่ 8 กับ 9 ตอนอ่านชื่อตอนพะยูนก็ไม่เข้าใจว่าการไปซื้อของเนี่ย มันมีเหตุการณ์เยอะแยะซะจนต้องแบ่งออกเป็นสองตอนเลยเหรอ แล้วพอพะยูนอ่านจบแล้วก็........ไม่มีอะไรเลยแหะ ตัวเอกกับผองเพื่อนก็แค่เดินซื้อของนู้นนี้ที่ต้องใช้ในชั่วเรียนธรรมดา ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรเลย ทำให้เฉยๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีตอนที่ 9 ที่เริ่มพูดถึงคำทำนายแปลกๆ ของคาริน่า พูดถึงคำขอที่ให้ซาครอสไปทำลายต้นกำเนิดของความลับแห่งสายหมอก ทำให้เกิดปมปริศนาใหม่ขึ้น ผู้อ่านอ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มรู้สึกอยากรู้และลุ้นไปกับเรื่องราวที่พาร์ทเขียนแล้วค่ะ
 
ฉาก/บทสนทนา : เนื่องจากเรื่องนี้มีตัวเอกอยู่ด้วยกัน 3 คน ทำให้เกิดการข้ามฉากไปมา เพื่อเล่าถึงเรื่องราวของทั้งสามคน แต่ก็นะ เมื่อเกิดการเล่าถึงคนโน้นบ้าง เล่าถึงคนนี้บ้าง อาจจะทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนและเรียบเรียงเรื่องราวไม่ถูกนักก็เป็นได้ค่ะ
 
ความสมเหตุสมผล : ในส่วนนี้พะยูนชื่นชมมากค่ะ พะยูนอ่านแล้วไม่เจอจุดที่ไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ ทุกเรื่องราวมันก็สมเหตุสมผลของมันเองอยู่แล้ว ไม่มีจุดไหนที่อ่านแล้วติดขัดหรือแปลกๆ ไม่ทำให้คิดว่า เฮ้ย มันเวอร์เกิน มันไม่สมเหตุสมผลเลยค่ะ
 
ความสนุก/น่าติดตาม : ความสนุกมันสนุกอยู่แล้วค่ะ ถึงแม้ตอนช่วงแรกจะน่าเบื่อไปบ้าง แต่พอได้มาอ่านตอนหลังๆ จะรู้ว่าเนื้อเรื่องมันเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วค่ะ
ส่วนความน่าติดตาม พะยูนว่ายังไม่น่าติดตามเท่าไหร่นัก จบตอนแต่ล่ะตอนค่อนข้างธรรมดาเกินไป ไม่ทำให้ผู้อ่านอยากรู้ตอนต่อไปค่ะ
 
ตัวละคร
คาแรคเตอร์ : คาแรคเตอร์ตัวละครที่เด่นๆ คงจะเป็น เมฟิส ที่มีคาแรคเตอร์ร่าเริง ทะเล้นๆ ดูขี้โวยวาย และ โนเอล ที่มีคาแรคเตอร์นิ่งๆ นอนได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ดูแตกต่างจากคาแรคเตอร์ตัวอื่นๆ ค่ะ ส่วนเฟเรส ที่เป็นตัวหลักอีกคน คาแรคเตอร์นี้มันค่อนข้างคล้ายคลึงกับคาแรคเตอร์ของเรออส เลยทำให้ไม่โดดเด่นเท่าที่ควรค่ะ
 
อื่นๆ
ตัวอักษร : ขอพูดถึงเรื่องตัวอักษรนะคะ พะยูนเข้าใจว่าพาร์ทใส่พื้นหลังเพราะต้องการให้ดูสวยงาม แต่มันติดที่ว่าสีตัวอักษรและสีภาพพื้นหลังมันใกล้เคียงกันนะคะ ทำให้พะยูนที่สายตาสั้นต้องเพ่งมองอ่านตัวอักษรมากกว่าเดิม เวลาเลื่อนขึ้นลงก็ตาลายไปหมดเลย ทำให้อ่านไปอ่านมารู้สึกเวียนหัวอยากจะอ้วกค่ะ พะยูนอยากให้พาร์ทช่วยแก้ไขนิดหนึ่ง ถ้าอยากจะใส่พื้นหลังก็ให้ใส่เป็นพื้นหลังเรียบๆ ไม่มีลายจะดีกว่านะคะ สงสารคนสายตาไม่ดีนิดหนึ่งค่ะ
 
สรุปโดยรวม : โดยรวมแล้วนิยายเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของภาษา ที่ใช้คำง่ายๆ มาเล่าเรื่องทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที และการบรรยายที่บรรยายได้ละเอียดชัดเจนทำให้ผู้อ่านเห็นภาพตาม แต่ก็ยังมีจุดที่อยากให้ผู้แต่งแก้ไขหรือเพิ่มเติมเข้าไปอยู่บ้างค่ะ ซึ่งคงเป็นเรื่องของการดำเนินเรื่อง การข้ามฉากที่ต้องระวังให้ดี และการจบตอนที่น่าจะจบได้น่าติดตามกว่านี้ สุดท้ายนี้พะยูนขอให้ผู้แต่งมีกำลังใจที่จะแต่งต่อไป อย่าได้ลืมผู้อ่านที่ยังคงติดตามเรื่องนี้อยู่เด็ดขาด เชื่อว่าถ้าแต่งต่อไปเรื่อยๆ จะต้องมีคนอ่านเพิ่มขึ้นแน่นอนค่ะ อย่าท้อถอยเด็ดขาด สู้ๆๆ ค่า ^^V
 
ปล.พะยูนรู้สึกว่าคำวิจารณ์ครั้งนี้ของพะยูนมันแรงไป ถ้ายังไงพาร์ทอ่านแล้วเสียความรู้สึก พะยูนก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ พะยูนไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คิดอย่างนั้นเลย ขอโทษจริงๆ ค่ะ
 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น