orishim
ดู Blog ทั้งหมด

ความเปรียบในเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย

เขียนโดย orishim


น.ส.สุพัตรา โอ่งเจริญ
สาขาวิชาภาษาไทย ศศ.บ.
ราชภัฏเชียงใหม่

มาเดียวเปลี่ยวอกอ้า อายสู

สถิตอยู่เอ้องค์ดู ละห้อย

พิศโพ้นพฤกษ์พบู บานเบิก ใจนา

พลางคะนึงนุชน้อย แน่งเนื้อนวลสงวน

 

 

ขยายความ

 

เดินทางมาคนเดียวรู้สึกเปล่า เปลี่ยวใจจนอายอายพวกเจ้า (ดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ในป่า)

อยู่คนเดียว (เอองค์) ช่างเหงาเศร้า มองดู (พิศ) ต้นไม้และดอกไม้ (พบู) แล้วจิตใจ

 เบิกบานพร้อมกันนั้นก็คิดถึงน้องนางผู้มีร่างแบบบางน่าทะนุถนอม

 

 

พระครวญพระคร่ำไห้ โหยหา

พลางพระพิศพฤกษา กิ่งเกี้ยว

กลกรกนิษฐนา- รีรัตน์ เรียมฤๅ

ยามตระกองเอวเอี้ยว โอบอ้อมองค์เรียม

 

 

ขยายความ

พระองค์ (พระมหาอุปราชา) ทรงคร่ำครวญด้วยความคิดถึง

พร้อมกับมองกิ่งก้านของหมู่ต้นไม้ ดูราวกับ (กล) แขนน้อง (กนิษฐ์)

นางแก้ว (นารีรัตน์) ของพี่ (เรียม) ตอนที่นางโอบกอด (กระกอง ,ตระกอง) พี่

 

 

เฌอปรางเปรียบนาฏน้อง นวลปราง

รักดั่งรักนุชพาง พี่ม้วย

ช้องนางเฉกช้องนาง คลายคลี่ ลงฤๅ

โศกพี่โศกสมด้วย ดั่งไม้นามมี

 

ขยายความ

 

ต้นมะปราง (เฌอปราง) เปรียบได้กับน้องนางผู้มีแก้ม (ปราง)

งามผุดผ่อง (นวล) ต้นรักก็เหมือนพี่รักนางแทบ (พาง,ปาง) ตาย (ม้วย)

ต้นช้องนางไม่เหมือน (เฉก)  ช้องผมของนางเมื่อปล่อยสยายลงหรอกหรือ ต้นโศกก็เหมือนพี่เศร้าโศกด้วย

 

 

 

 อบเอยอบชื่นชี้ เฌอสม ญาฤๅ

อบว่าอรอบรม รื่นเร้า

อบเชยพี่เชยชม กลิ่นอบ เฌอนา

อบดั่งอบองค์เจ้า จักให้เรียมเชย

 

 

ขยายความ

ต้นอบเชยมีกลิ่นหอมสดชื่นสมกับชื่อ (สมญา) หรือไม่ใช่

ที่หอมพี่ว่าเป็นเพราะน้องอบให้หอมขึ้นมา เมื่อพี่เชยชมกลิ่นหอมของต้นอบเชยแล้ว

รู้สึกเหมือนน้องอบกายให้หอมของต้นอบเชยแล้วรู้สึกเหมือนน้องอบกายให้หอมเพื่อให้พี่เชยชม

 

ขานางนึกคู่คู้ ขาสมร

พลางพี่โอบเอวอร แอบเคล้า

กระทุ่มดั่งทุ่มกร ตีอก เรียมฤๅ

เกดว่าเกศนุชเกล้า กลิ่นกลั้วเสาวคนธ์

 

 

ขยายความ

 

ต้นขานางทำให้พี่นึกถึงขาทั้งคู่ของนาง (สมร) ขณะที่พี่โอบกอดเอวคลอเคล้าเจ้าต้นกระทุ่ม

เหมือนกับน้องเอามือทุ่มทุบอกพี่หรือไม่ใช่ ต้นเกศก็เหมือนผม (เกศ) ของน้องซึ่งมีกลิ่นหอม (เสาวคนธ์)

 

 

 

 

 เล็บมือนางนี้หนึ่ง นขา นางฤๅ

ต้องดั่งต้องบุษบา นิ่มน้อง

ชงโคคิดชงฆา นุชนาฏ เหมือนฤๅ

เรียมระเมียรเดื่อปล้อง ดั่งปล้องศอสมร

 

ขยายความ

 

ต้นเล็บมือนางนี้ไม่เหมือนเล็บมือ (นขา) ของนางหรอกหรือ ต้นต้อง (มะต้อง)

เหมือนพี่แตะต้องน้องนาง ต้นชงโคไม่เหมือนแข้ง (ชงฆา) ของนางหรอกหรือ เมื่อพี่มองดู (ระเมียร)

ต้นมะเดื่อปล้องก็เหมือนกับปล้องคอ (ศอ) ของนาง

 

 สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ

เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไสร้

สละสละสมร เสมอชื่อ ไม้นา

นึกระกำนามไม้ แม่นแม้นทรวงเรียม

 

 

ขยายความ

 

เห็นต้นสลัดไดแล้วสงสัยว่าพี่ละทิ้ง (สลัด) น้องมานอนในป่านี้เพราะเหตุใดหรือ พี่มาเพื่อไปสู้ (ราญรอน)

กับข้าศึก (เศิก) เห็นต้นสละพี่ก็สละน้องมาเหมือนชื่อต้นไม้นี้เลย เห็นต้นระกำก็ตรงกับอกพี่กำลังทุกข์ระกำ

 

 

  สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย

สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า

กี่คืนกี่วันวาย วางเทวษ ราแม่

ถวิลทุกขวบค่ำเช้า หยุดได้ฉันใด

 

 

ขยายความ

ดอกสายหยุดจะหยุดส่งกลิ่นหอมยามสายๆ แต่ถึงสายพี่ยังไม่เลิกคิดถึงนางด้วยความเศร้าอยู่เสมอ

เวลาจะล่วงไปกี่วันกี่คืนพี่ก็ไม่หยุดคร่ำครวญ (เทวษ) เลย พี่ยังคิดถึง (ถวิล) น้องทุกค่ำทุกเช้าจะให้หยุดได้อย่างไร

 

 

 

 สุกกรมกรมสุขไซร้ ไป่มี

กรมแต่ทุกข์เทวษทวี ห่อนเว้น

นมสวรรค์นึกบัวศรี เสาวภาคย์ พี่เอย

ถวิลบ่เคยขาดเคล้น คลาดน้องใครถนอม

 

 

ขยายความ

 

เห็นต้นสุกกกรม (ศุกกรม) ใช่ว่าพี่มัความสุขก็หาไม่ มีแต่ตรอมตรม (กรม) ด้วยความทุกข์

เพิ่มขึ้นไม่มีสิ้นสุด เห็นต้นนมสวรรค์ก้คิดถึงนม (บัว) ของนาง (ศรี) ผมงดงาม (เสาวภาคย์) ของพี่

คิดถึงว่าพี่เคยจับต้องเสมอ แต่เมื่อจากน้องมาเช่นนี้ใครจะดูแล

 

 

 

ขานางนึกคู่คู้ ขาสมร

พลางพี่โอบเอวอร แอบเคล้า

กระทุ่มดั่งทุ่มกร ตีอก เรียมฤๅ

เกดว่าเกศนุชเกล้า กลิ่นกลั้วเสาวคนธ์

 

ขยายความ

            ต้นขานางทำให้พี่นึกถึงขาทั้งคู่ของนาง (สมร) ขณะที่พี่โอบกอดเอวคลอเคล้าเจ้า

ต้นกระทุ่มเหมือนกับน้องเอามือทุ่มทุบอกพี่หรือไม่ใช่ ต้นเกศก็เหมือนผม (เกศ) ของน้องซึ่งมีกลิ่นหอม (เสาวคนธ์)

 

 

 

  เล็บมือนางนี้หนึ่ง นขา นางฤๅ

ต้องดั่งต้องบุษบา นิ่มน้อง

ชงโคคิดชงฆา นุชนาฏ เหมือนฤๅ

เรียมระเมียรเดื่อปล้อง ดั่งปล้องศอสมร

 

 

ขยายความ

    ต้นเล็บมือนางนี้ไม่เหมือนเล็บมือมือ (นขา) ของนางหรอกหรือ ต้นต้อง (มะต้อง)

เหมือนพี่แตะต้องน้องนาง ต้นชงโคไม่เหมือนแข้ง (ชงฆา) ของนางหรอกหรือ เมื่อพี่มองดู (ระเมียร)

ต้นมะเดื่อปล้องก็เหมือนกับปล้งคอ (ศอ) ของนาง

 

 

 สลัดไดใดสลัดน้อง แหนงนอน ไพรฤๅ

เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไสร้

สละสละสมร เสมอชื่อ ไม้นา

นึกระกำนามไม้ แม่นแม้นทรวงเรียม

 

ขยายความ

  เห็นต้นสลัดไดแล้วสงสัยว่าพี่ละทิ้ง (สลัด) น้องมานอนในป่านี้เพราะเหตุใดหรือ

พี่มาเพื่อไปสู้ (ราญรอน) กับข้าศึก (เศิก) เห็นต้นระกำก็ตรงกับอกพี่กำลังทุกข์ระกำ

 

 

 

ไม้โรกเหมีอนโรคเร้า รุมกาม

ไฟว่าไฟราคลาม ลวกร้อน

นางแย้มหนึ่งแย้มยาม เยาว์ยั่ว แย้มฤๅ

ตูมดั่งตูมตีข้อน อกอั้นกันแสง

 

ขยายความ

  เห็นต้นไม้โรกเหมือนพี่กำลังป่าวด้วยโรครัก (กาม) ต้นมะไฟ (ไฟ) เหมือนไฟความรัก (ราค,ราคะ)

 เผาพี่อยู่ ต้นนางแย้ไม่เหมือนน้องยิ้มแย้มยั่วพี่หรอกหรือ ต้นต้นมะตูม (ตูม) ก็เหมือน (ดัง) เสียงตี (ข้อน) อกร้องไห้

 

  สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง ยามสาย

สายบ่หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า

กี่คืนกี่วันวาย วางเทวษ ราแม่

ถวิลทุกขวบค่ำเช้า หยุดได้ฉันใด

 

ขยายความ

      ดอกสายหยุดจะหยุดส่งกลิ่นหอมยามสายๆ แต่ถึงสายพี่ไม่เลิกคิดถึงนางด้วยความเศร้าอยู่เสมอ

เวลาจะล่วงไปกี่วันกี่คืน พี่ไม่หยุดคร่ำครวญ (เทวษ) เลย พี่ยังคิดถึง (ถวิล) น้องทุกค่ำทุกเช้าจะให้หยุดได้อย่างไร

 

 นางนวลนึกนิ่มน้อง นวลปราง

จากพรากพรากจากนาง หนึ่งนั้น

พิราบพิลาปคราง ครวญแข่ง ข้าฤๅ

บัวว่าบัวนุชปั้น อกน้องเรียมถนอม

 

ขยายความ

            เห็นนกนางนวลทำให้คิดถึงน้องผู้มีแก้ม (ปราง) งามผุดผ่อง (นวล) เห็นนกจากพรากก็เหมือนพี่จากพรากน้องมา

นกพิราบนั้นเล่ากำลังร้องไห้คร่ำครวญ (พิลาป) แข่งกับข้าหรือ เห็นนกกาบบัว (บัว) ทำให้คิดถึงนม (บัว) ของน้องที่พี่ถนอม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
เลวมากอะไรก็"ฒ๋ณ็
evil-angel
evil-angel 28 ส.ค. 53 / 22:17

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

หาคำแปลตั้งนาน

^_^

ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุนนะค่ะ ต้องทำรายงานเรื่องนี้อยู่พอดีเลย
ความคิดเห็นที่ 4
thx ครับ
phunoi
phunoi 17 ธ.ค. 53 / 05:05
ขอบคุณมากค่ะ >0<
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณนะคะ
ความคิดเห็นที่ 7
like like
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุรครั
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณจากใจจริงๆคร๊
10
10 27 พ.ย. 56 / 20:44
ขอบคุณมากๆ คะ
Robin
Robin 3 มิ.ย. 57 / 21:13
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แต่ไม้โรกคืออะไรหรอค่ะ หน้าตาเป้นยังไง
Only N.A.T.
Only N.A.T. 1 ก.ค. 57 / 21:45
ขอบคุณนะ^^
gowSBW
gowSBW 5 พ.ย. 57 / 20:48
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ คะ 

เป็นแคสที่สวยและน่ารักมากคะ 55555 
beem
beem 6 พ.ย. 57 / 23:32
ขอบคุณครับ