“เชื้อโรคมรณะ”
ณ ศูนย์วิจัยแบคทีเรียและเชื้อโรคแห่งชาติ....
“ด๊อกเตอร์ครับ! เซลล์หมายเลข 0017 เริ่มมีปฏิกิริยาแล้วครับ”
“ว่าไงนะ?!” ชายแก่ผมขาวใส่เสื้อกาวน์และแว่นเหมือนนักวิทยาศาสตร์วิ่งหน้าตาตื่นมาหาเด็กหนุ่มวัยประมาณ 20 ต้นๆ ที่ยืนอยู่ข้างตู้กระจกใสที่มีสายไฟห้อยระโยงรยางค์ ... ภายในนั้นมี’วัตถุ’บางอย่างอยู่ สีแดงสด ส่องแสงเรืองรองสว่างไสว
“หลังจากที่ผมทดลองหยดสารไปผสมกับเซลล์ของเซลล์หมายเลข 0017 แล้วก็ไม่มีสารไหนที่ทำปฏิกริยากับเซลล์ของ’มัน’ จนกระทั่ง......”
“จนกระทั่งอะไร?! นายหยดสารอะไรลงไป?!” นักวิทยาศาสตร์แก่เลิกคิ้วสงสัยด้วยความอยากรู้
“เซลล์มนุษย์ครับ.....”
“ว...ว่าไงนะ!?.... เจ้า ‘0017 ’เนี่ยน่ะเหรอ ที่ทำปฏิกิริยากับเซลล์มนุษย์!?”
“ครับ.... หลังจากที่ผมได้ทดลองหยดหยดเซลล์เลือดและผสมเซลล์เนื้อเยื่อมนุษย์ไปแล้ว ก็พบว่าเซลล์ได้มีการติดเชื้อ แล้วเซลล์เนื้อเยื่อก็เริ่มเปลี่ยนลักษณะเป็นสีแดง ส่องแสงสะท้อนเรืองรองเหมือนกับเซลล์หมายเลข 0017 ไม่มีผิดเลยครับ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น..... หากเราทดลองต่อไปอีกหน่อย หากนำเซลล์ของเจ้า’0017’นี่ มาผสมกับเซลล์เนื้อเยื่อมนุษย์ในปริมาณน้อย... ไม่แน่ว่าเราอาจจะสร้างหรือโคลนนิ่งพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาได้?! ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า! สุดยอดจริงๆ! ทีนี้ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ต้องได้รับการจารึกขึ้นใหม่ว่ามีนักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้! ทีนี้เราก็จะรวย!”
นักวิทยาศาสตร์ชรากระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เลยพลั้งเผลอมือไปโดนขวดสารทดลองที่เป็นกรดอย่างแรงสาดเข้าเต็มมือและใบหน้า ขวดสารนั้นตกแตกกระจายไปทั่วพื้น
“อ๊ากกกกก!!!! หน้าฉัน!!! อ๊ากกกก!!!”
“ด๊อกเตอร์!” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มตกใจลนลานจนทำอะไรไม่ถูก แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร กรดในขวดนั้นก็ไหลไปที่รูปลั๊กไฟ ทำให้เกิดการช๊อตขึ้น ทันใดนั้นไฟก็ดับพรึ่บ! เกิดประกายไฟกระเด็นสาดไปทั่วห้อง
“ช...ช่วยด้วย!! ใครก็ได้!! “ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มหวีดร้องสุดเสียงด้วยความกลัว ที่เท้าของเขาเริ่มติดไฟ และมันก็เริ่มลามไปทั่วห้อง “อ.... อ๊ากกกก!!!!! ขา!! ม่ายยยยยยยย!!!”
....เซลล์หมายเลข 0017 ! ยังไงก็ต้องรักษามันไว้ให้ได้!....
สิ่งแรกที่เขาคิดคือต้องรักษาเซลล์ล้ำค่านั่นเอาไว้ เขากระเสือกกระสนคลานไปที่ตู้กระจกอย่างยากลำบาก ขาเรียวยาวตอนนี้ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้เป็นเนื้อสีแดงฉานห้อยรุ่งริ่งติดกระดูก เลือดสีแดงชาดฉานไหลเป็นทางยาวที่พื้น
...0...0...1...7...
ปลายนิ้วสีขาวซีดเอื้อมไปกดหมายเลขรหัสของเซลล์ในตู้กระจกเพื่อเปิดตู้ออก.....
ปี๊บ...ปี๊บ....ปี๊บ...ปี๊บ...ตรื้ดดดดด..!
บานกระจกใสถูกเลื่อนขึ้น นักวิทยาศาสตร์หนุ่มใช้มือทั้งสองข้างยันตัวกับพื้นเพื่อพยายามลุกขึ้น... เขาเอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับก้อนวัตถุนั้นมาไว้ในอ้อมแขน
ยังไงฉันก็ต้องรอด! แล้วฉันก็จะรวย!...
นึกได้เพียงเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์หนุ่มจ้องมองวัตถุตรงหน้าด้วยแววตาน่าขนลุกขนพอง อย่างกับไม่ใช่คนเดียวกับเมื่อครู่ วัตถุในมือก็ส่องแสงสีแดงเรืองรองมากยิ่งขึ้นราวกับต้องการจะท้าทายอำนาจมืดในตัวของเขา......
“อ..อะไร! ....ไม่นะ....ไม่!...ม่ายยยยยย!!..อ๊ากกกกก!!” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มหวีดร้องโหยหวนสุดเสียง เมื่อวัตถุในมือเริ่มกลายสภาพเหมือนกรด กัดกินมือของเขาอย่างช่วยไม่ได้
นักวิทยาศาสตร์หนุ่มดิ้นทุรนทุรายบนพื้นอย่างเจ็บปวด เลือดสีแดงฉานไหลออกจากร่างกาย ทางตา จมูก และปาก ในขณะที่เชื้อโรคร้ายค่อยๆกัดกินผิวหนังของเขาไปเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว....
สภาพของเขาไม่ต่างกับศพที่ยังหายใจอยู่!!
“เกิดอะไรขึ้นคะ!?ด๊อกเต... ก... กรี๊ดดดดดดด!!!” นักวิทยาศาสตร์สาวคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ ณ ห้องแลปข้างๆได้ยินเสียงโวยวายจึงรีบเข้ามาดู ทันทีที่เธอเห็นสภาพศพของด๊อกเตอร์ และร่างของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มอเธอก็หวีดร้องออกมาในทันที...
“อ...ไอแซค... ม.... ไม่นะ.... นี่มันไม่จริง!!”
“อา..อ...แอล...แอล...ลี่....อ...แอลลี่....”
“ไอแซค!! น...นายยังไม่ตาย!!...”นักวิทยาศาสตร์สาวซึ่งเป็นคนรักของร่างตรงหน้าที่ใกล้สิ้นใจ กุมมือคนรักที่ขาดรุ่งริ่งเบาๆอย่างทะนุถนอม เธอดีใจเหลือเกินที่เขายังไม่ตาย
“อ...อา...แอลลี่....อ...แอล...แอล...”
“นายว่าไง... มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ..... ไอแซค...” เธอขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆร่างตรงหน้า เพื่อนให้ได้ยินชัดขึ้น
“อ....อาาา” ร่างตรงหน้าขยับริมฝีปากที่ฉีกขาดออกอย่างช้าๆ เลือดค่อยๆไหลออกมา หยดเปรอะใบหน้านักวิทยาศาสตร์สาว ก่อนที่จะ....
กัดเข้าที่ลำคอของเธอเต็มแรง......
“กรี๊ดดดดดดดด!!!!!”
.......................................................
ความคิดเห็น