harry potter and the strange boy yaoi - harry potter and the strange boy yaoi นิยาย harry potter and the strange boy yaoi : Dek-D.com - Writer

    harry potter and the strange boy yaoi

    โดย baby inuyasha

    ไม่มีคำบรรยาย

    ผู้เข้าชมรวม

    3,864

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    3.86K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    20
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 พ.ค. 49 / 16:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฮร์รี่จะฝันถึงเหตุการณ์แปลกๆ แต่ครั้งนี้มันต่างไปจากทุกที
      เขาฝันว่าเขาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่กว้าง แต่ก็ดูแออัดไปด้วยเด็ก
      มากมาย แต่ละคนล้วนดูผอมโซอย่างเห็นได้ชัด- -
      "ขอโทษนะ แต่ที่นี่ที่ไหน" แฮร์รี่เอ่ยปากถามเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
      คนนึงขณะที่เธอกำลังรินน้ำชาให้กับตุ๊กตาเก่าๆของเธอ
      "ได้ยินฉันไหม" แฮร์รี่ถามอีกครั้ง แต่เด็กผู้หญิงก็ไม่มีทีท่าตอบ
      รับ- - ดูเหมือนกับว่าเธอจะไม่ได้ยิน - -แฮร์รี่เงยหน้าขึ้น
      และมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าเด็กคนอื่นๆก็มองไม่เห็นเขาเช่นกัน
      "เอนีลลลล!!!" แฮร์รี่สะดุ้งโหยงและหันขวับกลับไป- - หญิงร่าง
      ท้วม จมูกงุ้ม แววตาเป็นประกายอย่างมุ่งร้าย
      กำลังยืนประจันหน้ากับเขาอยู่
      "อะ..เออคุณพูดกับผมหรือฮะ" แฮร์รี่เสียงสั่น "คุณมองเห็นผม
      หรือฮะ"
      "ใช่สิ! นี่อย่ามาทำพูดตลกกับฉันนะ...เธอใช่ไหมที่ไปขโมย
      ขนมปังที่โรงครัว!! หาา...เอนีล" เธอตวาดเสียงดังจนเด็กที่อยู่รอบๆ
      ต่างก็สั่นด้วยความหวาดกลัว
      "เอ่อ..แต่ผมไม่ใช่เอ...."
      "อย่ามาแก้ตัว ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนทำ..มา..มานี่ฉันจะต้องลง
      โทษเธอ" แล้วเธอก็พาแฮร์รี่เดินมายังที่แห่งหนึ่ง
      มันช่างร้อนและเหม็นอับเสียเหลือเกิน และเขาก็เหลือบไปห็นป้ายเก่าๆอันนึงมี
      ข้อความเขียนไว้ ตอนนี้แฮร์รี่รู้แล้ว่าเขาอยู่ที่ไหน- - 'โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า'
      "มานี่เอนีล...มายืนตรงนี้!!" แฮร์รี่ฝืน แต่เธอก็จับแฮร์รี่หันกลับ
      พร้อมกับถลกเสื้อของเขาขึ้น
      "ฉ่าาาา" เสียงของไอที่เกิดจากของร้อนจัดที่จุ่มลงในน้ำ- -แฮร์รี่
      รู้ทันทีว่าเธอจะทำอะไร
      เด็กชายดิ้นรนแต่ก็ไม่มีประโยชน์
      "ไม่มมม..อย่าาาาาา!!!"

      แฮรรี่สะดุ้งตื่น เหงื่อไหลชุ่มราวกับว่าเขาลงไปวิ่งในสนามสัก 10 รอบ
      "แฮร์รี่..เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรไป" รอนมีน้ำเสียงลุกลนขณะ
      กำลังแหวกผ้าม่านเตียงของแฮร์รี่ออกท่ามกลางความมืด
      "ไม่มีอะไร..ฉันฝันร้ายน่ะ..แค่ฝัน.."
      "ฝันเหรอ..นายร้องซะจนฉันคิดว่ามีใครบุกเข้ามาฆ่านายงั้น
      แหละ..เล่นเอาฉันเกือบตกเตียงแน่ะ"
      "เกิดอะไรขึ้น!" ดีน โทมัส และเชมัส ฟินนิกัน แทบจะพูดเป็น
      เสียงเดียวกัน
      "อ๋อ..เออ...ไม่มีอะไรหรอก..แฮร์รี่เขาฝันร้ายน่ะ" รอนรีบพูด
      "ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...นายเล่นทำเอาพวกเราสะดุ้งตื่นเลยนะ..
      แฮร์รี่" ดีนพูดอย่างงัวเงีย และหลับต่อ
      "ฉันไม่เป็นไรจริงๆนะ...แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง"
      "งั้น...ฉันไปนอนต่อนะ" รอนพูดอย่างแคลงใจนิดหน่อย แล้วเขา
      ก็พยายามเดินฝ่าความมืดกลับไปยังเตียง

      ***********************************

      รุ่งเช้าแฮร์รี่ก็ลงมานั่งที่โต๊ะอาหารของกริฟฟินดอร์ตามปกติ
      "ได้ข่าวว่าเมื่คืนฝันร้ายใช่ไหมแฮร์รี่...รอนบอกฉันแล้ว" เฮอร์
      ไมนี่ถามแฮร์รี่ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
      "อืม...ฝันร้ายมาก แต่ฝันน่ะฆ่าใครไม่ได้สักหน่อย ไม่ต้องห่วง
      นักหรอก"
      "แต่เสียงนายเกือบจะทำให้ฉันหัวทิ่มพื้นตายแน่ะ" รอนพูด
      แซวแล้วตักข้าวโอ๊ตต้มผสมนมเข้าปาก
      "จะเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเธอฝันว่ายังไง" เฮอร์ไมนี่พูดอย่าง
      สนอกสนใจ แฮร์รี่จึงเล่าเรื่องฝันเมื่อคืนให้เพื่อนทั้งสองฟัง
      "แปลกแฮะ...คราวนี้นายฝันเห็นว่าเป็นคนอื่นงั้นเหรอ"
      "นั่นสิ..ผู้หญิงที่เห็นในฝันเขาเรียกฉันว่า..เอนีล"
      "อยากรู้จริงว่าเอนีลนี่ใครกัน...เขาต้องเป็นตัวแสบสุดๆเลยล่ะ
      ถึงได้ถูกเหล็กร้อนนาบน่ะ"
      "แต่ยังไงก็โหดเกินไปนะแบบนี้" เฮอร์ไมนี่พูดอย่างหวาดๆ "คง
      ปวดแสบปวดร้อนน่าดู"
      ขณะที่ทั้งสามกำลังสนทนากัน ก็มีเสียงกระพืดปีกพั่บพั่บดัง
      ขึ้นเหนือหัว นกฮูกกว่าร้อยตัวก็บินเป็นสายเข้ามา
      มันบินวนทิ้งจดหมายและห่อของให้ผู้คนในห้องโถง แฮร์รี่ก็ได้รับจดหมายเช่น
      กัน- - เฮ็ดวิกคาบซองจดหมายหย่อนลงบนตักของแฮร์รี่- -
      จดหมายจากแฮเกร็ดนั่นเอง... 

      แฮร์รี่ที่รัก
      มาดื่มน้ำชากับฉันไหม เอาซัก 6 โมงล่ะกัน ชวนรอนกับเฮอร์ไมนี่มา
      ด้วยนะ แล้วเจอกัน
      แฮเกร็ด

      "แฮเกร็ดชวนพวกเราไปดื่มน้ำชาล่ะ" แฮร์รี่พูด
      "วิเศษ..ฉันกำลังเซ็งๆพอดี" รอนพูดอย่างดีใจ
      แต่แล้วทั้งสามก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เสียงดังกัมปนาทที่กึกก้องจน
      แสบแก้วหูแทบแตกดังมาจากโต๊ะฮัฟเฟิลพัพ
      "คงต้องมีใครได้จดหมายกัมปนาทแน่ๆ" รอนพูดอย่าง
      ขยาด "ฉันล่ะเข็ดจริงๆ ไม่อยากจะคิดถึงมันอีกเลยให้ตายสิ"
      แล้วเขาก็มองไปทางเนวิลล์ ลองบัตท่อมซึ่งก็คงจะคิดเช่นเดียวกันกับเขา
      "ว่าไงวิสลีย์ นายอยากได้จดหมายนั่นอีกหรือไง" มัลฟอยนั่น
      เอง "ฉันว่าไม่มีอะไรเหมาะกับนายได้มากกว่านี้แล้ว...
      ฉันยังจำได้นะตอนที่มันระเบิดเสียงใส่นาย..เล่นมุดใต้โต๊ะซะก้นโด่งเลย" มีเสียง
      หัวเราะจากโต๊ะบ้านสไลธีรินดังขึ้น
      "อย่าไปฟังเขาเลย..ไม่คุ้มหรอกที่จะไปยุ่งด้วย" เฮอร์ไมนี่พูดขึ้น
      มา
      "เงียบนะยัยเลือดสีโคลน ฉันไม่ได้พูดกับเธอซักหน่อย"
      "นายไม่ควรพูดแบบนั้นนะมัลฟอย" คราวนี้แฮร์รี่พูดเสียงดังขึ้น
      มาจนคนข้างๆหันมามอง
      "โอ...แฮร์รี่ เธอนี่ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริง ที่คอยปกป้อง
      สุภาพสตรีเลือดโคลน" มัลฟอยทำเสียงแหลมล้อเลียน
      "ก็ดีกว่านายล่ะ ที่พอมีเรื่องอะไรก็เอาแต่หลบหลังพ่อตัวเอง"
      มัลฟอยหน้าแดงจัด พร้อมกับพูดว่า
      "นายจะไปรู้อะไรล่ะ เจ้าพวกไม่มีพ่อแม่!"
      ทั้งรอนและเฮอร์ไมนี่ถึงกับตะลึง รวมทั้งเด็กคนอื่นๆที่ได้ยิน
      ด้วย เพราะไม่คิดเลยว่ามัลฟอยจะพูดขนาดนี้- -
      แฮร์รี่อึ้งและเงียบไปก่อนที่เขาจะอ้าปากพูด เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
      "พูดเกินไปแล้วมัลฟอย นายไม่ควรพูดถึงเรื่องแบบนี้นะ" ทุกคน
      ถึงกับประหลาดใจที่จู่ๆก็มีคนพูดแทรกขึ้นมา
      แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นก็คือ- -เสียงนั้นดังมาจากโต๊ะบ้านสไลธีริน...
      - -เด็กชายคนหนึ่งยืนขึ้น เท่าที่ดูเขาคงสูงเกือบจะพอๆกับแฮ
      ร์รี่ ผมสีดำขลับ แต่ก็มีปอยที่เป็นสีน้ำตาลแดงแซมอยู่ประปราย
      "ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะพูดขอโทษแฮร์รี่" เขาพูดด้วยน้ำเสียง
      เรียบๆพร้อมกับเดินออกไป
      พวกบ้านสไลธีรินยังคงตกตะลึงอยู่เหมือนกับว่าอยู่ดีๆรูปปั้น
      หินก็พูดได้
      "อะไรกันเจ้าหมอนี่ ทุกทีเห็นเงียบเป็นตอไม้ แต่ทำไมคราวนี้
      ถึงมาทำเป็นพูดดี" ดูเหมือนว่ามัลฟอยจะเรียกสติกลับคืนมาได้เป็นคนแรก
      "ตายล่ะ! ถึงเวลาเรียนคาบแรกแล้ว รีบไปกันเถอะ" เฮอร์ไม่นี่
      พูดตัดบทด้วยน้ำเสียงกระตือรือล้นพร้อมกับ
      ฉุดแฮรี่กับรอนออกไปอย่างรวดเร็ว

      ***********************************

      เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ทั้งสามคนต่างเดินไปห้องโถง
      ใหญ่ เพื่อรับประทานอาหาร
      "ฉันอยากจะอัดหน้าเจ้ามัลฟอยซะจริงๆ..ยุ่งไม่เข้าเรื่อง" รอน
      บ่นอุบอิบอย่างไม่สบอารมณ์
      "ช่างมันเถอะ เขาก็ได้แต่พูดน่ะแหละ" เฮอร์ไมนี่พูด
      "แต่ที่น่าสนใจก็คือ คนที่บอกให้มัลฟอยขอโทษน่ะ" แฮร์รี่พูด
      อย่างสงสัย
      "นั่นสิ..ไม่คิดเลยว่าเด็กบ้านสไลธีรินจะมีคนที่กล้าพูดแบบนั้น"
      รอนเสริม
      "ดูเหมือนว่าพวกสไลธีรินจะตกใจมากที่จู่ๆเขาก็พูดเข้าข้างแฮ
      ร์รี่..." เฮอร์ไมนี่ก็เห็นด้วยกับทั้งสอง "ก็ทุกทีพวกบ้านนั้นน่ะ
      เข้าข้างมัลฟอยกันจะตายไป"
      "เหลือเชื่อจริงๆ ที่คนแบบนั้นจะอยู่บ้านสไลธีริน ใครๆก็รู้ว่า
      พวกบ้านนั้นนิสัยเป็นยังไงอยู่แล้ว..ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่เล๊ย"
      "แต่ถ้าเขาดีจริงก็คงไม่ถูกส่งไปสไลธีรินหรอก บางทีเขาอาจจะ
      อยากเด่นเลยพูดแบบนั้นขึ้นมา" รอนเสนอความคิด
      "แต่เราไม่ค่อยจะคุ้นหน้าเขาเลยนะ คงจะเป็นเด็กปีอื่น" แฮร์รี่
      พูด
      "ก็ดูสิ ขนาดพวกบ้านงูยังตกตะลึงเลยที่เขาพูดขึ้นมา แสดงว่า
      วันๆคงจะไม่ปริปากเลย" เฮอร์ไม่นี่เอ่ยปากขณะที่กำลัง
      ส่งจานสตูให้อีก 2 คน

      ***********************************

      ในตอนเย็นแฮร์รี่ก็นึกขึ้นได้ว่า แฮเกร็ดนัดดื่มน้ำชา ทั้งสามจึง
      ตรงไปยังกระท่อมของแฮเกร็ดด้วยกัน และดูเหมือนว่า
      เขาจะลืมเรื่องของเด็กชายคนนั้นไปเสียแล้ว
      "มาสิ..เข้ามากันเลย" แฮเกร็ดพูดอย่างอารมณ์ดี ขณะกำลังชงชา
      "เป็นไงกันบ้างล่ะวันนี้"
      "ก็ดีฮะ" แฮร์รี่เอ่ย
      "แต่เมื่อคืนแฮร์รี่เขาฝันร้ายล่ะ ละเมอซะลั่น ผมตกใจหมดเลย"
      รอนพูดขึ้น
      "ฝันเหรอ...ฝันว่าไงล่ะ" แฮเกร็ดถามอย่างสนใจ รอนจึงจัดแจง
      เล่าเรื่องทุกอย่างแทนแฮร์รี่อย่างเสร็จสรรพ
      แล้วแฮเกร็ดก็พึมพำขึ้นมาขณะที่กำลังรินน้ำชา พร้อมกับหยิบแซนวิชใส่จาน
      "เอนีลนี่ใครกันนะ.."
      "ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ...แต่มันก็เป็นแค่ฝัน..อย่าคิดมากเลย
      ฮะ" แฮร์รี่พูด แต่ความจริงแล้วคนที่คิดมากคงจะเป็นเขาเองมากกว่า
      เพราะความฝันนั่นช่างเหมือนจริงเสียเหลือเกิน และคืนนั้น แฮร์รี่ก็เริ่มฝันอีกแต่
      คราวนี้มันต่างออกไป.......

      แฮร์รี่ฝันเห็นเด็กชายอายุราวๆ 5-6 ขวบ กำลังนั่งชิงช้าใต้
      ต้นไม้ใหญ่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีผมยาวสลวยสีน้ำตาลแดง
      แล้วเด็กชายก็พูดขึ้นว่า
      "แม่ฮะ พ่อไปไหนเหรอฮะ ทำไมเดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยเห็นพ่อเลย"
      หญิงสาวตอบลูกชายของเธอว่า "ช่วงนี้พ่อเค้างานยุ่งจ้ะ..." แต่
      สีหน้าขณะพูดของผู้เป็นแม่ฝืนอย่างเห็นได้ชัด
      "ถ้าพ่อเขางานยุ่ง เขาก็พาผมไปเที่ยวสวนสนุกไม่ได้แล้วสิฮะ"
      "แต่ที่พ่อเขาทำงานก็เพื่อพวกเรานะจ๊ะ สวนสนุกน่ะไว้แม่จะ
      พาไปเองก็ได้ แต่ต้องสัญญานะว่าจะเป็นเด็กดีไม่ไปกวนคุณพ่อเขาเวลาทำงาน"
      "ฮะ" เด็กชายตอบรับและยิ้มอย่างร่าเริง- -ขณะนั้นเองแฮร์รี่ก็ได้
      ยินเสียงรถแล่นเข้ามา
      "พ่อมาแล้ว เราไปหาพ่อกันเถอะฮะแม่"
      แต่แล้วจู่ๆแฮร์รี่ก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ภาพทุกอย่าง
      หมุนติ้วและดับวูบไป แล้วภาพอื่นก็มาปรากฎอยู่ตรงหน้าแทน- -
      คราวนี้สิ่งที่เขาเห็นคือเด็กชายกำลังยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับชายหญิงคู่
      หนึ่ง ผู้ชายคนนั้นคงจะเป็นพ่อของเขาและผู้หญิงที่น่าจะเป็นแม่
      แต่ไม่ใช่- - ผู้หญิงคนนี้เป็นคนละคนกับคนที่นั่งบนชิงช้า
      "จากนี้ไป ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของลูก" ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น
      "ไม่! แม่ผมมีคนเดียว ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่ของผม!!"
      "โถ..เด็กหนอเด็ก ชอบพูดจาเพ้อเจ้อเหลือเกินนะคะ" หญิงสาว
      แปลกหน้าพูดพร้อมกับเอื้อมมือจะมาลูบผมเด็กชาย
      "อย่ามาแตะตัวผมนะ" เขาพูดพร้อมกับสะบัดตัวหนี
      "เอ๊ะ! นี่อุตส่าห์พูดดีๆ ไม่รู้เรื่องรึไง ช่างไม่น่ารักลยนะ" แววตา
      ของหล่อนเปลี่ยนไปเป็นแววตาอย่างมุ่งร้ายต่างจากท่าทีเอ็นดูเมื่อกี้ลิบลับ
      "นี่แกพูดแบบนี้กับแม่ของแกได้ยังไง..หา!" ผู้เป็นพ่อตวาดเสียง
      ใส่
      ตาเด็กน้อยเริ่มมีน้ำเอ่อคลอออกมาพร้อมกับคะโกนว่า "ผม
      เกลียดผู้หญิงคนนี้! ผมเกลียดพ่อ ผม...ผมจะไปหาแม่...แม่ของผมอยู่ที่ไหน"
      "แม่ของแกพักผ่อนอยู่..ใช่สิ! พักผ่อน..นอนอยู่ก้นหลุมนั่นไง"
      และแล้วเด็กชายก็วิ่งปรื๋อออกจากบ้าน กระแทกประตูเสียงดัง
      แต่ก็คงไม่ดังเกินกว่าเสียงฟ้าที่ผ่าแลบอยู่ข้างนอก เขาวิ่งฝ่าสายฝน
      มุ่งตรงไปยังสุสาน ไปยังป้ายหินหลุมศพที่สลักชื่อแม่ของเขาอยู่ แล้วเขาก็เริ่ม
      ตะโกนเรียกพร้อมกับน้ำตาผสมน้ำฝนที่ไหลอาบแก้ม
      "แม่ฮะ...แม่ได้ยินผมรึเปล่า...ตอบหน่อยสิฮะ...แม่ได้ยินผมใช่
      ไหม" แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เด็กชายไม่อาจจะเข้าใจ
      ความตายไปได้มากกว่านี้จึงเริ่มใช้สองมือน้อยๆและบอบบางของเขาขุดดินที่อยู่
      บนหลุมศพออก เขาคิดว่าถ้าทำแบบนี้เขาคงจะได้พบกับ
      คนที่เขารักอีกครั้ง
      "นี่แกคิดว่า แกกำลังทำอะไร หา!!" เสียงของชายที่วิ่งกระหืด
      กระหอบตามหลังเขามาดังขึ้น
      "ตายแล้วดูสิชุดของฉันเปียกหมดเลย" หญิงสาวที่รีบแบกร่มวิ่ง
      ตามมาก็พูดอย่างกระหืดกระหอบเช่นกัน แล้วเธอก็รีบไปกางร่มให้สามี
      อย่างประจบเอาใจ
      "หยุดนะหยุด แกจะทำแบบนี้ไม่ได้..เห็นทีต้องลงโทษกันบ้าง
      แล้ว" ผู้เป็นพ่อไม่รอช้า วิ่งรี่เข้าไปดึงตัวเด็กน้อยออกมา แต่เขาไม่ยอม
      และกอดป้านหินหลุมศพไว้แน่น
      "ไม่มม! ผมจะอยู่กับแม่ ปล่อยผมนะ"
      ทั้งสองฉุดกระชากกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเนื้อตัวเปรอะ
      เปื้อนไปด้วยโคลน
      หญิงสาวหวีดร้องออมาเมื่อโคลนกระเด็นขอบกระโปรงตัวสวย
      ของเธอ- - และแล้วการต่อสู้อย่างพัลวันก็รู้ผล เด็กชายสู้แรงผู้ใหญ่ไม่ได้
      และกระเด็นไปตกในปลักโคลนที่สูงประมาณโคนเข่าชองเขา ตอนนี้สารรูปของ
      เขาดูไม่ต่างอะไรจากลูกหมูที่กำลังเล่นโคลนอยู่
      "เป็นไง หมดฤทธิ์แล้วสิ อย่ามาทำอวดดีกับฉันนะ หล่อนน่ะไม่
      ใช่แม่ของแกแล้ว ผู้หญิงที่ยืนตรงหน้าแกนี่สิ ที่แกต้องเรียกว่าแม่!!"
      เด็กคนนั้นเงียบเสียงไป เขาได้แต่นั่งนิ่งๆ
      "ดีแล้ว ถ้ารู้จักสงบปากสงบคำบ้าง ฉันคงไม่ต้องลงมือกับแก
      หรอก"
      แต่แล้วเสียงๆหนึ่งก็ดังผ่านสายฝนเข้ามา "เพราะ..ผู้หญิงคนนี้
      สินะ ที่ทำให้พ่อเปลี่ยนไป...พ่อไม่รักผมแล้ว" คำพูดจบลงพร้อมกับ
      แววตาของเด็กชายที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาขว้าก้อนหินขนาดเท่าฝ่ามือที่
      อยู่ข้างตัวเขาที่สุด ได้ก้อนหนึ่ง เขากำมันไว้แน่น
      แล้วพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว แล้วเงื้อมือข้างที่ถือหินไว้และ- -
      เสียงกรีดร้อง เสียงฟ้าคำคำราม เสียงสายฝน- - ทำให้แฮร์รี่สับสนไปหมด
      แต่เสียงๆหนึ่งที่เขาได้ยินชัดเจนก็คือ
      "อย่า...เอนีล..อย่าาาาาาาาาาาาา!!!"

      ***********************************

      ตาของแฮร์รี่เบิกโพลง เขาหายใจหอบ ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วย
      เหงื่อ ..ฝันนั่นอีกแล้ว แต่คราวนี้เขาไม่ได้ฝันว่าตัวเองเป็นคนอื่น
      แต่กลับเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น- - ที่แน่ๆเขาฝันถึงเด็กคนนั้นอีกแล้ว..เอนีล- -
      "ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องที่ฉันฝันเคยเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า" แฮร์
      รี่พึมพำกับตัวเองแล้วคลำหานาฬิกาปลุกมาดูเวลา- -
      เขาตื่นก่อนที่นาฬิกาจะปลุกเกือบ 1 ชม. เขาจึงลุกขึ้นแต่งตัวและออกจากหอ
      นอนไปอย่างเงียบๆ
      แฮร์รี่นั่งรอเวลาฟ้าสางอยู่หน้าเตาผิงที่ห้องนั่งเล่นรวม พลาง
      คิดไปว่า
      "ฉันไม่เคยฝันถึงเรื่องแบบนี้เลย..เป็นไปได้ไหมว่ามันจะเคยเกิด
      ขึ้นในอดีต หรือว่ามันจะเป็นลางบอกอนาคต..."
      แฮร์รี่ต้องคิดว่าตัวเองเสียสติแน่ๆที่เอาความฝันมาคิดเป็นจริง
      เป็นจังแบบนี้ มันอาจจะดีขึ้นถ้าเขาได้เดินเล่นสักหน่อย
      แฮร์รี่ตัดสินใจเดินไปรอเวลาอาหารเช้าที่ห้องโถงใหญ่ เขาจึงเดินลอดผ่านช่องรูป
      ภาพออกมาตามลำพัง
      "อรุณสวัสดิ์จ๊ะ ตื่นเช้าจังนะ" สุภาพตรีอ้วนเอ่ยปากทักทายแฮ
      ร์รี่
      "ฮะ" แฮร์รี่ตอบสั้นๆ แล้วเขาก็เดินฉับๆไปยังห้องโถงใหญ่
      เขาคิดว่าเขาคงจะเป็นคนแรกที่มาถึง- - แต่เขาก็ต้อง
      ประหลาดใจที่มีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงริมขอบโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์
      "สวัสดี เธอตื่นเช้าจังนะ" ผู้นั่งอยู่ก่อนกล่าวทักทายด้วยเสียง
      เรียบๆที่แฝงด้วยความฉงนเล็กน้อย
      "อา..ฮะ..เอ่อ..คุณ" แฮร์รี่เอ่ยปากถาม
      "เซลิน..เซลิน ลูมินาร์ นั่นคือชื่อของฉัน" เขาแนะนำตัว
      "สวัสดีฮะ คุณลูมินาร์ ผม..แฮร์รี่ พอต..." แต่ไม่ทันที่แฮร์รี่จะพูด
      จบ อีกฝ่ายก็โพล่งออกมาจนแฮร์รี่สะดุ้ง
      "แฮร์รี่..แฮร์รี่ พอตเตอร์เหรอนี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันได้ยินเรื่อง
      ของเธอมามากเลยทีเดียว"
      แฮร์รี่ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงถามคำถามที่เขาพอจะคิดได้ในขณะ
      นั้น
      "คุณเป็นนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เหรอฮะ ทำไมผมไม่เคยเห็น
      คุณเลย"
      ลูมินาร์เอามือเสยผมสีบรอนซ์ของเขาและเม้มปากเหมือน
      กำลังครุ่นคิดแล้วตอบว่า
      "ใช่ ฉันอยู่กริฟฟินดอร์ ..แต่แน่อยู่แล้วว่าเธอไม่เคยเห็นหน้าฉัน
      หรอก ..แบบว่ามันมีเกิดเรื่องนิดหน่อย.. เอาน่ะ เดี๋ยวเธอก็รู้เองล่ะ"
      เมื่อพูดจบ เขาก็เงื้อมมือไปหยิบหนังสือบทเรียนมาตรฐานปี 3 ขึ้นมาอ่าน
      "คุณอยู่ปี 3 เหรอฮะ" แฮร์รี่ถามอย่างสนใจ
      "ใช่" ลูมินาร์ตอบอย่างเรียบๆ เพราะสติของเขาจับจ้องอยู่กับ
      ตัวหนังสือมากกว่า
      ในหัวของแฮร์รี่เกิดคำถามขึ้นมามากมาย "ปี 3..ถ้างั้นก็ปีเดียว
      กับเราน่ะสิ...ไม่น่าเป็นไปได้..ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาสักหน่อย"
      แฮร์รี่กำลังจะอ้าปากถาม แต่ดูเหมือนว่าลูมินาร์จะไม่ได้สนใจแฮร์รี่อีก เขากำลัง
      อ่านหนังสืออย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมคนทั้งสอง...

      สักพักเด็กนักเรียนก็เริ่มกรูกันเข้ามาในห้องโถง และเริ่มลงมือ
      รับประทานอาหารเช้า
      "ทำไมวันนี้นายตื่นเช้าจัง" รอนถามขณะทาเนยบนขนมปังปิ้ง
      "ก็ฝันนั่นน่ะสิ..มันเข้ามารบกวนฉันอีกแล้ว" แฮร์รี่เอ่ยเนือยๆ
      เฮอร์ไมนี่ที่กำลังหั่นปลาคิปเปอร์ก็รีบเอ่ยปากถามทันที
      "นายฝันว่าเป็นเด็กคนนั้น เอ่อ..เอนีลใช่ไหม"
      "ใช่..ฉันฝันถึงเอนีล แต่คราวนี้..ฉันไม่ได้กลายเป็นเขา...แต่ฉัน
      ฝันเห็นเขาตรงๆเลยล่ะ"
      ทั้งเฮอร์ไมนี่และรอนที่กำลังคาบขนมปังอยู่ต่างก็ทำสีหน้า
      ฉงนฉงายใคร่รู้ แฮร์รี่จึงต้องเล่าเรื่องให้ฟัง
      "คราวนี้ชักจะไปกันใหญ่แฮะ..เรื่องของเด็กมีปัญหาชัดๆ" รอนพูด
      "อยากรู้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น" เฮอร์ไมนี่ชักสนใจ
      แต่แล้วเสียงที่ดังจ้อกแจ้กอยู่ในห้องโถงก็ถูกขัดจังหวะลง
      "เอาล่ะ ช่วยเงียบๆกันก่อน" อาจารย์มักกอนนากัลที่ก้าวเข้า
      มาในห้องโถงเอ่ยขึ้น
      ทุกคนต่างพากันเงียบกริบ แล้วรอฟังว่าอาจารย์จะพูดอะไร
      "วันนี้ฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนทราบ โดยเฉพาะบ้านกริฟฟินดอร์"
      เธอหันมามองที่โต็ะกริฟฟินดอร์ แล้วพูดว่า "มานี่สิ..ลูมินาร์"
      ลูมินาร์ลุกออกจากโต็ะ แล้วก้าวไปยืนข้างๆอาจารย์มักกอนนากัล
      แฮร์รี่พึ่งจะสังเกตลูมินาร์ว่า นอกจากเขาจะมีผมสีบรอนซ์และ
      หน้าตาดูดีแล้ว เขายังตัวสูงอีกด้วย
      "เนื่องจากว่า เซลิน ลูมินาร์ นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ได้ขอดรอ
      ปการเรียนเอาไว้เพื่อไปจัดการเรื่องราวทางบ้าน
      ปีนี้เขาจะได้กลับมาเรียนอีกครั้งในชั้นปีสาม ขอให้ทำความรู้จักกันไว้นะ" เมื่อ
      พูดจบอาจารย์มักกอนนากัลก็เดินออกไป
      ส่วนลูมินาร์ก็หันมายิ้มให้แฮร์รี่แล้วจึงเดินตามอาจารย์มักกอนนากัลออกไปด้วย
      "นายรู้จักกับเขาเหรอ แฮร์รี่" รอนถามอย่างสงสัย
      "อืม..ตอนที่ฉันเดินมาที่นี่ฉันก็พบเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว"
      "สงสัยจะตื่นเต้นที่จะได้กลับมาเรียนอีกครั้งมั้ง" รอนหัวเราะ
      พร้อมทั้งยัดขนมปังที่เหลือเข้าปาก

      ***********************************

      ในชั่วโมงปรุงยาครั้งนี้ต่างจากทุกที คือลูมินาร์จะมาเริ่มเรียน
      กับทุกคนด้วย
      "เธอไปนั่งข้างๆพอตเตอร์ล่ะกัน..ลูมินาร์" สเนปพูดพร้อมกับ
      เหลือบตามองเขา
      วันนี้เด็กๆจะต้องปรุงน้ำยาขยายตัว ลูมินาร์จึงตั้งหม้อของเขา
      ถัดจากหม้อของแฮร์รี่และรอน
      "เจ้าหมอนี่ใครกัน" มัลฟอยที่ตั้งหม้ออยู่ข้างๆเช่นกันเอยถาม
      "นักเรียนใหม่..เออจะว่าไปก็ไม่เชิงนะ ปีที่แล้วเขาขอดรอปการ
      เรียน ปีนี้ก็เลยกลับมาเรียนต่อไป" รอนตอบอย่างรำคาญใจ
      "เออเหรอ ทำไมไม่ลาออกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยล่ะ กลับมา
      เรียนทำไมกันนะ" น้ำเสียงของมัลฟอยแสดงความดูถูก
      "รู้สึกว่านายจะต้องปรับปรุงนิสัยเสียใหม่นะ โดยเฉพาะปาก
      ของนาย" ลูมินาร์ตอบกลับอย่างไม่เกรงใจแล้วทำตาขวางมาที่มัลฟอย
      มัลฟอยหน้าแดงด้วยความโกรธแต่เขาก็ไม่พูดอะไรตอบกลับ
      ไป- - เขาหันกลับไปเตรียมเครื่องปรุง เขาคงจะคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะ
      ตอแยกับคนที่สมควรจะเป็นรุ่นพี่เขาปีนึงคนนี้หรอก - -
      "มันต้องสั่งสอนกันบ้าง" ลูมินาร์กระซิบ แล้วเขาก็เอามือล้วง
      กระเป๋า และสิ่งที่เขาหยิบออกมาเป็นลูกบอลนิ่มๆเหมือนลูกโป่งที่ใส่น้ำเอาไว้
      พอคนอื่นๆเผลอ เขาก็โดยมันลงในหม้อของมัลฟอย- - สักพักก็มีเถาไม้สีเขียว
      เหี่ยวๆ เลื้อยออกมาจากหม้อ
      แนนซี่ พาคินสัน นักเรียนหญิงบ้านสไลธีรินถึงกับหวีดลั่น เพราะว่ามันเลื้อยเข้า
      รวบตัวมัลฟอยเอาไว้แล้วเหวี่ยงไปมา แล้วทั้งห้องก็เกิดความชุลมุน- -
      หัวของมัลฟอยไปกระแทกหม้อของเนวิลล์จนน้ำยาหกเลอะเทอะ
      "นี่มันอะไรกัน" เสียงของสเนปตะโกนขึ้นมา ขณะนี้นักเรียน
      บ้านสไลธีรินต่างพากันตกอกตกใจ แต่พวกกริฟฟินดอร์กลับรู้สึกว่า
      เป็นเรื่องน่าขบขัน ดีน โทมัส ถึงกับหัวเราะออกมาจนปาราวตีต้องเอามือปิด
      ปากเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้สเนปเห็น
      ทั้งรอนแฮร์รี่ทั้งรู้สึกทึ้งและประหลาดใจที่ลูมินาร์กล้าทำแบบ
      นี้ แต่ถึงยังไงทั้งสองก็รู้สึกสะใจไม่น้อยที่มัลฟอยจะได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง
      สเนปรีบวิ่งมาที่หม้อของมัลฟอยพร้มทั้งหยิบตัวยาบางอย่าง
      ใส่ลงไป- - เถาไม้นั้นก็ค่อยๆหดตัวกลับลงหม้อ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่
      มัดตัวมัลฟอยไว้แน่น ซึ่งไม่ว่าเพื่อนๆจะพยายามแกะยังไงก็ไม่ออก
      "พามัลฟอยไปห้องพยาบาลซิ" สเนปสั่งแล้วแครบกับกอยล์สอง
      ลูกสมุนของมัลฟอยก็ช่วยกันแบกมัลฟอย
      ซึ่งดูเหมือนก้อนสาเก็ตตี้ออกไปจากห้อง
      "อย่าให้รู้นะว่าเป็นฝีมือของใคร..เอ้าเลิกเรียนแค่นี้ก่อน" เสน
      ปฉุนเฉียว เขามองมาที่แฮร์รี่แวปหนึ่งแล้วเดินออกไปจากห้อง
      "ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งแน่ะ" รอนพูดอย่างอารมณ์ดี "สงสารมัล
      ฟอยจริงๆ เอาคงต้องอยู่ในสภาพนั้นไปอีกสักพักเลยล่ะ"
      "ขอโทษทีนะ แฮร์รี่...รู้สึกว่าสเนปจะสงสัยว่าเธอเป็นคนทำ...
      ฝีมือฉันแท้ๆ" ลูมินาร์เอ่ยกับแฮร์รี่
      "ไม่เป็นไรหรอก เซลิน...เขาก็จ้องแบบนั้นกับฉันทุกทีน่ะแหล่ะ"
      แฮร์รี่พูดพร้อมแสดงสีหน้าว่ามันเป็นเรื่องปกติ
      "นี่ถ้าเฟร็ดกับยอร์ชเห็นนะ พวกเขาต้องติดต่อขอเป็นหุ้นส่วน
      กับนายแน่..สองคนนั้นเขาสนใจพวกอุปกรณ์ที่ใช้แกล้งคนน่ะ"
      รอนมีสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อพูดถึงสองพี่ชายฝาแฝดตัวแสบของเขา
      "แล้วนี่เราจะไปไหนดีล่ะ..ห้องสมุดเอาไหม" คำพูดของเฮอร์ไม
      นี่ที่แทรกขึ้นมาทำเอาทุกคนหน้าแหย
      "ฉันว่าเราออกไปสูดอากาศที่สนามข้างนอกเป็นไง" ลูมินาร์
      เสนอความคิด
      แล้วทั้งหมดก็ตกลงใจเดินไปที่สนามควิชดิช- - 


      ที่สนามควิชดิชมีกลุ่มนักเรียนกำลังเรียนวิชาขี่ไม้กวาดอยู่ - -
      มาดามฮูซ อาจารย์ที่สอนการขี่ไม้กวาดให้นักเรียนปีสองหัดบินแบบซิกแซก
      "อะไรกัน แค่การบินพื้นฐานพวกเธอยังทำกันไม่ค่อยจะได้เลย
      รึ" มาดามฮูซพูดอย่างเหนื่อยใจขณะที่ดูนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์และ
      สไลธีรินบินกันอย่างลำบากลำบน
      "อ้าว..พอตเตอร์ มาพอดี ชั่วโมงนี้ไม่มีเรียนเหรอ" มาดาม
      ฮูซถามแฮร์รี่ขณะที่เธอหันไปมองเขา
      "อาจารย์ให้เลิกก่อนเวลาครับ" แฮร์รี่ตอบ
      "จะมีอะไรไหม ถ้าจะขอให้เธอช่วยขี่ไม้กว่าให้รุ่นน้องดูสัก
      หน่อย"
      "ได้ครับ" แล้วมาดามฮูซก็ส่งไม้กวาดให้แฮร์รี่ เขารับมันไว้และ
      ขึ้นขี่อย่างรวดเร็วพร้อมกับถีบเท้า เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างชำนิชำนาญ
      และกลับลงพื้นอย่างนิ่มนวล - - เด็กๆที่มองเขาอยู่เบื้องล่างต่างตื่นเต้นด้วยความ
      ชื่นชม แต่ก็มีเด็กบ้านสไลธีรินบางคนที่แสดงสีหน้าหมั่นไส้
      อย่างเห็นได้ชัด
      "เห็นไหม! มันไม่ยากหรอก" มาดามฮูซพูดสร้างกำลังใจให้นัก
      เรียน
      "ไหนใครอยากจะลอวขึ้นไปบินกับพอตเตอร์บ้าง" ทุกคนต่าง
      เงียบกริบ แม้แต่คอลิน ครีฟวีย์ เด็กรุ่นน้องที่ชื่นชมในตัวแฮร์รี่
      ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปาก
      "ผมครับ" เด็กชายคนหนึ่งยกมือขึ้น - - แฮร์รี่พึ่งสังเกตเห็น เขา
      คือเด็กคนที่บอกให้มัลฟอยขอโทษเขาตอนมื้อเช้าของเมื่อวาน
      "ดีมาก..ธอมพ์สัน เดี๋ยวครูจะนับถึงสาม แล้วเธอก็บินขึ้นไป
      พร้อมๆกับพอตเตอร์นะ ..หนึ่ง..สอง..สาม"
      เด็กชายทั้งสองต่างถีบเท้า แล้วต่างก็พุ่งทะยานขึ้นไปยังท้อง
      ฟ้า
      เสียงโห่ปรบมือข้างล่างดังขึ้น แฮร์รี่คิดในใจว่าเด็กคนนี้บินได้ดี
      ทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นท่าไหน เขาก็สามารถบินตามได้อย่างไม่มีบกพร่อง
      "ยอดเยี่ยมมาก ลงมาได้แล้วทั้งสองคน" มาดามฮุซตะโกน
      เรียก "เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน..จำไว้นะ การขี่ไม้กวาดไม่ใช่เรื่องยาก"

      ***********************************

      "นายนี่ขี่ไม้กวาดเก่งจริงแฮร์รี่!" ลูมินาร์เอ่ยอย่างชื่นชม
      "นายไม่รู้อะไร แฮร์รี่น่ะเป็นถึงซีกเกอร์ของเราเชียวนา" รอนพูด
      อย่างปลื้มๆ ราวกับว่าเขาเป็นซีกเกอร์ของบ้านกริฟฟินดอร์เสียเอง
      "แต่เด็กบ้านสไลธีรินคนนั้นก็บินได้ดีนะ...จำได้รึเปล่าแฮร์รี่ เด็ก
      คนนี้ไงที่เป็นคนบอกให้มัลฟอยขอโทษเธอ" เฮอร์ไมนี่พูดขึ้นมา
      "ฉันจำได้..แต่ถึงยังไงก็ไม่มีโอกาสคุยกับเขาสักที" แฮร์รี่ตอบ
      เบาๆ

      ***********************************

      หลังอาหารเย็น เด็กๆบ้านกริฟฟินดอร์ต่างก็พากันมานั่งอยู่ใน
      ห้องนั่งเล่นรวม - - แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมนี่ กำลังง่วนอยู่กับ
      การทำการบ้านวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนต์
      "ฉันว่าน่าจะมีข้อมูลเพิ่มอีกสักหน่อยนะ" รอนบ่นเพราะ
      รายงานของเขาสั้นเกินกว่าที่จะส่งให้อาจารย์ได้
      "ถ้างั้นฉันจะไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดมาให้ล่ะกัน" แฮร์รี่พูด
      พร้อมทั้งเดินลอดผ่านช่องรูปภาพตรงไปยังห้องสมุด
      โครมมม!! แฮร์รี่ล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง ดูเหมือนว่าเขา
      จะเดินชนกับใครบางคนเข้า
      "แฮร์รี่ ผมขอโทษฮะ" คอลิน ครีฟวีย์นั่นเอง
      "นายจะรีบไปไหนน่ะคอลิน" แฮร์รี่เอ่ยปากถามขณะที่พยุ่งตัว
      ลุกขึ้น
      "ผมไปยืมหนังสือ "วิธีบินไปกับไม้กวาด" มาอ่านฮะ ผมอยากขี่
      ไม้กวาดได้เก่งๆแบบคุณจังเลยฮะ แฮร์รี่ ผมรู้สึกขายหน้าจริงๆ
      ที่ยังบินได้ไม่ดีเท่าไหร่...ไม่เหมือนกับธอมพ์สัน"
      "ธอมพ์สัน เด็กที่บินพร้อมกับฉันวันนี้น่ะเหรอ"
      "ใช่ฮะ เขาเป็นเด็กที่ขี่ไม้กวาดเก่งที่สุดในบรรดานักเรียนปี
      สอง...เสียอย่างเดียวเขาไม่ค่อยจะพูดกับใครเลย" - - แฮร์รี่นึกถึง
      ภาพที่มัลฟอยและเด็กบ้านงูคนอื่นๆที่ต่างตกตะลึงเมื่อธอมพ์สันเอ่ยปากพูดขึ้น
      มา คงจะจริงอย่างที่คอลินว่า - -
      "เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วเหรอ" แฮร์รี่ถาม
      "ฮะ..ตั้งแต่ปีหนึ่ง ความจริงเขาเกือบได้อยู่กริฟฟินดอร์แล้ว
      ตอนที่สวมหมวกคัดสรร ผมเห็นเค้ายิ้มด้วย หมวกกำลังจะตะโกนว่า
      กริฟ.. ปล้วอยู่ดีๆก็เปลี่ยนเป็นสไลธีริน ผมยังจำได้ดีเลย ตอนที่อาจารย์มักกอนนา
      กัลขานชื่อ เอนีล ธอมพ์สัน"
      "ชื่ออะไรนะ!!" แฮร์รี่รีบพูดให้คอลินทวนคำถามอย่างตื่นตรก
      หนก
      "อะ..เอนีล ธอมพ์สันครับ" แม้แต่น้ำเสียงของคอลินก็พลอยสั่น
      ไปด้วย
      แฮร์รี่รีบวิ่งกลับไปยังห้องนั่งเล่นรวม ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไป
      เสียแล้วว่าเขาออกมาทำอะไร เขาวิ่งผ่านช่องรูปภาพไปหารอน และเฮอร์ไมนี่
      พร้อมทั้งพูดว่า
      "ฉันรู้แล้วว่าเด็กที่พูดกับมัลฟอยคนนั้นชื่ออะไร"
      "เอ๋?" ทั้งรอน และเฮอร์ไมนี่พูดพร้อมกันด้วยความประหลายใจ
      กับท่าทางของแฮร์รี่
      "...เอนีล"

      ***********************************

      "นายแน่ใจได้ยังไงแฮร์รี่ บางทีอาจจะมีคนชื่อนี้เนอะก็ได้" รอนพูด
      "ไม่รู้สิ..แต่อาจจะเป็นเด็กคนนี้ก็ได้นะ" แฮร์รี่พูดออกไปโดยที่ตัว
      เองก็ยังไม่แน่ใจ
      "ฉันว่าเราน่าจะทำการบ้านให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพูดถึงเรื่องนี้
      กันนะ" คำพูดของเฮอร์ไมนี่ทำให้แฮร์รี่นึกขึ้นได้ว่าเขากำลังจะทำอะไร
      เขาจึงเดินผ่านช่องรูปภาพ และตรงไปยังห้องสมุดอีกครั้ง - - หลังจากคืนนั้น แฮร์รี่
      ก็ไม่ได้ฝันถึงเอนีลอีก แต่ความกังวลใจเรื่องใหม่ก็เข้ามาแทนที่ - -
      "การแข่งควิชดิช

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×