ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Colorful Review รับวิจารณ์นิยายหลากแนว

    ลำดับตอนที่ #10 : Specila Review.เจ้าชายตุ๊กตากับกาลครั้งหนึ่ง.....ความรัก: Veranda

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 130
      0
      6 ม.ค. 57

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” จุดเริ่มต้นที่มักมาแพ็คคู่กับจุดจบที่เรียกว่า “อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดกาล” แต่...ในเมื่อชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง...จินตนา ศุภอมรชัย ไม่ได้เริ่มต้นด้วย กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แล้วมันจะจบอย่างมีความสุขตลอดกาลได้ยังไงล่ะ!

    1.โครงเรื่อง

    วางโครงเรื่องดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยินดีด้วยนะคะพี่วี พี่วีมีชัยไปว่าครึ่งแล้ว...พล็อตหรือโครงเรื่องของพี่วี ทำออกมาได้ดีถึงดีมากเลยแหละค่ะ เพราะทุกสถานการณ์ที่พี่วีสร้างขึ้นล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น การจัดลำดับเหตุการณ์ก็เป็นไปตามสเต็ปไม่แหกโค้งไม่ออกทะเลอีกทั้งยังมีการยอดปมตลอดทั้งเรื่องทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อด้วย

                เปิดฉากมาด้วยชื่อตอน ‘Once upon the time’ ใครๆก็รู้ว่ามันแปลว่า ‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วซึ่งคำว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมักมากับสิ่งสวยงามที่เรียกว่าความสุขเสมอ หากแต่รีดเดอร์อย่างเราก็ต้องแปลกใจเพราะเนื้อหาภายในนั้นไม่ได้แสดงถึงความสุขของตัวนางเอกเลยสักนิดแต่มันแสดงถึงความผิดหวังของเธอที่เธอดันไปตกหลุมรักกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทที่เธอทำงานอยู่แต่เขาก็เป็นได้แค่ดวงดาวที่นางซินอย่างเธอไม่มีวันเอื้อมถึง เห็นมั้ยจุดเริ่มต้นของจินตนา ไม่ได้สุขใจเหมือนในนิทานหากแต่มันทั้งเจ็บและปวดไปทั่วเหมือนชีวิตจริง และสิ่งที่ทำให้เราปลื้มกับนิทาน เอ้ยนิยายเรื่องนี้คือการการเรียงลำดับเหตุการณ์ที่ดีเพราะการเรียงลำดับเหตุการณ์ของพี่วีนั้นส่งผลให้เนื้อเรื่องสามารถดำเนินไปได้อย่างมีเหตุมีผลและเป็นระเบียบถึงพี่วีจะมีปมตลอดทั้งเรื่องก็จริงแต่ปมของพี่วีก็ไม่เป็นปัญหาต่อการจัดลำดับเหตุการณ์เลยอีกทั้งปมของพี่ยังเป็นตัวทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจและมีเหตุผลมากขึ้นอีกด้วย  

    ปมของพี่วีเป็นปมที่น่าสนใจเพราะมันไม่หลวมและไม่แน่นเกินไปจนแก้ไม่ออก บางปมก็เป็นปมง่ายๆที่รีดเดอร์หลายคนอ่านไปเรื่อยๆแล้วสามารถเดาออกได้อย่างง่ายดาย บางปมก็เป็นปมที่เราคาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันจะมีปริศนาซ่อนอยู่ แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนเรื่องปมของพี่วีมีอยู่อย่างคือ ปมที่พี่วีสร้างไม่ว่าจะเป็นปมที่เราทั้งเดาออกและเดาไม่ออกก็ตาม ปมเหล่านั้นล้วนเป็นปมเล็กๆที่อยู่แค่ประมาณ 2-3 ตอนก็คลายออกแล้ว บางปมไม่ถึงตอนด้วยซ้ำ โดยปกติแล้วปมที่แปบเดียวก็คลายออกมันจะค่อนข้างสร้างความน่าเบื่อให้คนอ่านได้เช่นกัน ความรู้สึกประมาณว่าอะไรกัน แค่ดีดนิ้วก็ออกแล้วหรอ ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นเลยแต่พี่วีก็สามารถปิดจุดอ่อนนี้ได้อย่างแนบเนียนคือ อย่างที่เรากล่าวไว้ว่าปมของพี่วีมีตลอดทั้งเรื่อง ใช่มันมีตลอดทั้งเรื่องแล้วใครบอกล่ะว่ามันเป็นปมเดียวกันหมดเลย...เท่าที่เราสังเกตดูพี่วีจะใช้วิธีแบบพอปมหนึ่งคลายออกแล้วก็เอาปมที่สองเข้ามาแทรกทันที สิ่งที่เรายกตัวอย่างต่อไปนี้อาจเป็นการสปอยล์บางส่วนนะคะ ถ้าไม่อยากเสียงอรรถรสข้ามได้ เช่น เราจะยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมากที่สุดนะ อาของจินตนาเป็นคนเล่านิทานเรื่องเจ้าชายตุ๊กตาให้เธอฟังตอนเด็กๆและก่อนที่อาเธอจะกลับไปฝรั่งเศสอาเธอได้พูดกับเธอว่าเขาจะกลับไปหาทีมิเน่(นางเอกในเรื่องเจ้าชายตุ๊กตา) ซึ่งปัจจุบันจินตนาได้มาอยู่กับพระเอกที่ฝรั่งเศสและพบว่ามีคนหน้าเหมือนอาเธอ เธอจะต้องสืบให้ได้ว่าผู้ชายคนนี้ใช้อาเธอหรือไม่ นี่คือปมแรกที่นางเอกจะต้องไขให้ออกค่ะ และเมื่อเธอคลายปมตัวนี้ออกอีกปมก็เข้ามาแทรกให้เราลุ้นโดยทันใดคือ อาของเธอได้ทิ้งปริศนาเอาไว้ที่ฝรั่งเศสเพื่อให้คนรักของเขา ไม่สิ เพื่อทิ้งไว้ให้นางเอกตามหามากกว่า(เราว่าอาของนางเอกจงใจมากเหมือนรู้อนาคตว่าเธอจะมาเหยียบที่นี่)โดยทิ้งปริศนาไว้ที่นิทานที่เขาเล่าให้เธอฟัง แล้วเราก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าปมที่สองนี้จะแก้กันอย่างไร เป็นต้น

                ส่วนการดำเนินเนื้อเรื่องก็ทำได้ดีพอๆกับการวางโครงเรื่องเลยค่ะ อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว การเรียงลำดับเหตุการณ์ของพี่วีค่อนข้างดีเลยทีเดียวเพราะทุกสถานการณ์นั้นล้วนแต่ส่งผลซึ่งกันและกันทำให้เนื้อเรื่องดูสมจริงและเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น อ่านแล้วไม่ดูเวอร์เกินไปเหมือนทั้งเรื่องมีแต่ความบังเอิญ นี่ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้การดำเนินเรื่องของพี่วีไม่น่าเบื่อและไม่ยึดเยื้อจนเกินไปแล้วก็ยังไม่เร็วจนเกินไปด้วยแม้จะมีการตัดฉากแต่มันก็ยังดูต่อจากฉากเมื่อกี้ไม่ปุบปับเหมือนวาร์ปมา

    2.ตัวละคร

    ตัวละครที่พี่วีสร้างมีความเอกลักษณ์มากเลยค่ะ ตอนอ่านรู้สึกได้เลยว่าตัวละครแต่ละตัวแสดงบุคลิกและลักษณะนิสัยของตนออกมาอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งบทสนทนาของพวกเขาพี่วียังเขียนได้เหมาะกับนิสัยของตัวละครนั้นๆทำให้เป็นการเสริมสร้างเอกลักษณ์ของตัวละครไปในตัวและยังทำให้เรามองเห็นง่ายด้วยว่าตัวละครเหล่านั้นเป็นคนยังไง คงเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เวลาอ่านรู้สึกว่าเรามีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครนั้นๆไม่ว่าจะร้าย จะดี หรือจะเจ้าวางแผนขนาดไหน เราก็สามารถเข้าถึงตัวละครนั้นได้ไม่ยาก นี่ก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้เนื้อเรื่องชวนน่าติดตามจนวางไม่ลง ต่อไปนี้ขอวิเคราะห์ตัวละครหลักแต่ล่ะตัวหน่อยนะคะ

                คนแรกนางเอกของเรา จินตนา ศุภอมรชัยหรือที่มีชื่อเล่นว่า จิน : สาวสวยชาวไทยนักครีเอทีฟ บุคลิกของเธอเป็นคนมั่นใจ ใครดีดีตอบใครร้ายมา มีหรือคนอย่างจินตนาจะยอม เธอมีฝีปากที่เฉียบคมไม่แพ้กรรไกรอีกทั้งปัญญาของเธอก็ยังเฉียบขาดอีกด้วยและด้วยความที่เธอมีฝีปากที่ขมกริบทำให้เธอเป็นคนไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆแถมยังเถียงเก่งอีกด้วย(ถึงเธอจะเป็นคนผิดหรือไม่ได้เป็นคนผิดก็ตาม) จินเป็นคนมีความสามารถและไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยมถึงแม้จะตกอยู่ในอันตรายแต่ก็มีสติและเอาตัวรอดได้เสมอ

    ต่อด้วยพระของเรา อเล็กซิส เอวีจินี่ หรือที่มีชื่อเล่นว่าเอล็กซ์ : หนุ่มนักธุรกิจไฟแรงผู้ที่เป็นคนขี้แกล้ง(มาก) แถมยังเจ้าเล่ห์ เจ้าวางแผนอีกด้วย ถือว่าเป็นผู้ชายอันตรายคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เขาค่อนข้างเคร่งเครียดกับงานจนเขาถูกชายคนหนึ่งเรียกว่าเป็นเจ้าเสือยิ้มยากแต่สิ่งที่ทำให้เสือยิ้มยากตัวนี้กลับมายิ้มได้อีกครั้งคือ....!!!!

                โอ๋ หรือ อมรรันต์ : ถึงโอ๋จะเป็นแค่ตัวประกอบและนางรองของเรื่องแต่เธอก็มีบุคลิกที่โดดเด่นคือ ‘ห้าวๆสมเป็นสาว’ โอ๋เป็นสาวนักครีเอทีฟเช่นเดียวกับจิน แถมยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกต่างหากและความเป็นห่วงเพื่อนของโอ๋คือนิสัยที่เราชอบ เธอมีผมซอยสั้นและหน้าตาหวานๆที่โดดเด่น แหนะเห็นแบบนี้คงคิดว่าเป็นสาวเรียบร้อยล่ะสิ ผิดสาวน้อยคนนี้คือ สาวห้าวตัวจริงแถมยังดื้ออีกต่างหาก อีกทั้งฝีปากของเธอก็ร้ายกาจไม่แพ้จินตนาเช่นกัน(ไม่แปลกใจทำไมเป็นเพื่อนกันได้) แต่เห็นแบบนี้ใจเธอเป็นหญิงแท้ไม่มีบิดเบือนนะจ๊ะ!

                แดนเนียล หรือ แดน : เพื่อนของเอล็กซ์อีกทั้งยังเป็นพี่ชายของคู่หมั้นเก่าของเขาอีกต่างหาก เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่น ทำอาหารเก่ง รูปหล่อ พ่อรวย ครอบครัวดีมีฐานะ อีกทั้งยังเป็นต่างชาติอีกความพยายามของเขาที่เรานับถือ ตอนแรกโอ๋ไม่สนใจเขาด้วยซ้ำแต่คงเพราะคนฝรั่งเศสนับถือคติ ‘ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก’ ล่ะมั้งเลยทำให้เขาได้หัวใจเจ้าหญิงผมสั้นไปครองโดยปริยาย

                อลิซาเบธ หรือ อลิซ : น้องสาวของแดลเนียล คู่หมั้นเก่าของเอล็กซ์ สาวเซ็กซี่คือตัวเธอ แต่ที่น่าแปลกคือเธอสามารถเข้ากับโอ๋ได้อย่างง่ายดาย

    ตัวละครเรื่องนี้มีเยอะก็จริงแต่พี่วีสามารถเกลี่ยบทให้ทุกคนสำคัญได้ พี่วีไม่ได้เกลี่ยบทแบบอยากให้ทุกคนเด่นแต่พี่วีเกลี่ยบทแบบช่วงไหนใครสำคัญเลยทำให้ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้สำคัญหมดไม่ว่าตอนไหนขาดใครไปก็ไม่สนุก ขอปรบมือให้กับการเกลี่ยบทของตัวละครจริงๆ ยอดเยี่ยมใช้ได้เลยค่ะ

                อีกเรื่องคือคำพูดของแต่ล่ะคนก่อนเริ่มเรื่องค่ะ ในส่วนนี้เราชอบมากเป็นพิเศษเพราะยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างที่ตัวละครทุกตัวพูดล้วนเป็นความจริงของชีวิตทั้งนั้น แล้วคำพูดเหล่านั้นก็ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาด้วย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่แสดงถึงการพัฒนาทางด้านอารมณ์และความรู้สึกของพวกเขานะคะ เช่น บทที่1เปิดมาเหมือนพี่วีตั้งใจให้นางเอกของเราพูดนิยามความรักของตนเองในขณะนั้นหรือพูดง่ายๆคือ ตอนนี้ความรักของเธอคืออะไรซึ่งเธอได้พูดว่า “.......ความรักมันก็เหมือนกับเล็บของผู้หญิงนั่นแหละ ที่มันจะยาวเพิ่มขึ้นทุกวันแต่เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องตัดมันทิ้ง ก่อนที่เราจะต้องเสียเวลาทั้งชีวิตเพื่อดูแลมัน...... จะเห็นได้ว่าเธอนั้นไม่มีความเชื่อในเรื่องรักที่สมหวังเลยสักนิดอีกทั้งยังมองว่าความรักเป็นเรื่องวุ่นวายจนต้องตัดทิ้งอีกต่างหาก แต่เมื่อเธอเริ่มรู้จักที่จะรัก ความรักก็ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ พระเอกก็เช่นเดียวกัน ในบทที่2 เขาพูดว่า “….ความรักก็เหมือนกับเนคไทที่ผู้หญิงเขาชอบเอาให้ผมน่ะแหละครับ เขาคิดว่ามันเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เค้าไม่เคยสังเกตเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งสามารถมีเนคไทได้หลายเส้น.... จะเห็นได้ว่าเอล็กซ์มองว่าผู้ชายไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้และสามารถมีเนคไทได้หลายเส้น : ) เอล็กซ์ก็เช่นเดียวกับจินตนา เมื่อเขาเริ่มรู้ตัวว่าเขารักเธอ ความคิดที่ว่าเขาจะหยุดที่อยู่ที่เธอเป็นคนสุดท้ายก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัว

    3.การใช้ภาษา

    เจ้าชายตุ๊กตากับกาลครั้งหนึ่ง.....ความรัก เป็นชื่อเรื่องที่ดีค่ะ มีใจความสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง จำง่าย แถมยังให้ความรู้สึกเล็กๆที่เรียกว่า เวทมนต์แห่งนิทานด้วย เป็นชื่อเรื่องที่ดีและดึงดูดนักอ่านมากค่ะ

    ก่อนอื่นต้องขอชมก่อนนะคะว่าการบรรยายของพี่วีนั้นบรรยายได้อรรถรสมากอ่านแล้วรู้สึกว่าเหมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องนั้นจริงๆเลยค่ะ โอเคมาเริ่มความเห็นของเราเลยนะคะ การบรรยายของพี่วีในช่วงแรกมีทั้งการบรรยายแบบบุรุษที่1และการบรรยายแบบบุรุษที่3จนทำให้เรางง   ในบทที่1และบทที่ 3:มีการบรรยายที่เหมือนกันคือ เกริ่นนำแรกๆเป็นการบรรยายแบบบุรุษที่3ก่อนแล้วจึงค่อยมาบรรยายในมุมมองของจินตนาหรือพูดง่ายๆคือเป็นการบรรยายแบบบุรุษที่1 บทที่ 2:เกริ่นเป็นบุรุษที่3ก่อนแล้วค่อยบรรยายบุรุษที่1ในมุมมองของพระเอกแล้วตอนท้ายๆก็กลับมาบรรยายแบบบุรุษที่3ใหม่ พอบทที่4(คล้ายกับบทที่2):การบรรยายสองแบบแอบตีกันเล็กน้อยคือ ช่วงแรกบรรยายแบบบุรุษที่3 ช่วงกลางๆบรรยายแบบบุรุษที่1ในมุมมองของจินตนาได้สัก3-4ประโยคก็กลับมาบรรยายแบบบุรุษที่3อีก ต่อจากนี้ทั้งเรื่องการบรรยายควบทั้ง2แบบก็เพลาลง(แต่ก็ยังมีบ้างในบทที่5-6)จนในที่สุดพี่วีก็ตัดสินใจใช้เป็นบุรุษที่3ทั้งเรื่องซึ่งเราดีใจมากๆที่พี่วีตัดสินใจได้ จริงอยู่ค่ะที่การบรรยาย2แบบนี้ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเด่นชัด(บุรุษที่1)อีกทั้งยังรู้เรื่องราวเหตุการณ์และความคิดของคนอื่นๆอีก!(บุรุษที่3)แต่ในทางกลับกันมันก็แสดงถึงความโลเลของผู้เขียนเช่นกันค่ะ

    ส่วนการใช้ภาษานั้นพี่วีทำออกมาได้ดีค่ะ ถึงแม้คำผิดจะเยอะไปหน่อยก็เถอะ พี่วีใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้สึกสนุกเพลินๆ แต่ข้อเสียที่อยากติที่สุดคือคำผิดเยอะมากอาจจะเพราะพี่วีไม่ได้แสกนก่อนลง บางคำก็เขียนผิด เช่น วาเลนไทน์ พี่วีเขียนเป็น วาเลนไทร์ แล้วก็คำว่า บุบเพอาละวาด พี่วีเขียนเป็น บุพเพอาระวาด แล้วก็ มโหราณ ต้องเขียนเป็น มโหฬาร ส่วน เคริ้ม ต้องเขียนเป็น เคลิ้ม นะคะ อนุญาต ก็สำคัญพี่วีเขียนเป็น อนุญาต ค่ะ ที่เด่นๆก็จำได้แค่นี้แหละค่ะ อ่อ...แล้วก็ยังมีบางคำที่พี่วีเขียนตกๆหล่นๆอีกทำให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องและเสียอรรถรสในการอ่านอย่างยิ่ง เช่น ด้วย พี่วีเขียนเป็น ด้วสย สำลัก พี่วีเขียนเป็น สำรัก และคำอื่นๆอีกมากมาย ทั้งนี้เลยอยากให้พี่วีลองตรวจทานดูอีกสักรอบค่ะ แล้วก็ยังมีบางประโยคที่อ่านแล้วยังไม่ลื่นไหลพอนะคะ เช่น หญิงสาวที่ตอนนี้อยู่บนสองแขนเขาเรียบร้อยแล้วเริ่มดิ้น เราว่าถ้าเติมคำว่า ของ เข้าไป น่าจะดูลื่นไหลกว่าก็จะเป็น หญิงสาวที่ตอนนี้อยู่บนสองแขนของเขาเรียบร้อยแล้วเริ่มดิ้น แล้วก็ จินตนาทำเสียงฮึดฮัดอยู่พักนึงเพราะไใม่รู้ว่าจะตอกกลับไปว่ายังดี จะเห็นได้ว่าคำว่า ไม่ มีการพิมพ์ผิดเล็กน้อย ส่วนรูปประโยคเราแนะนำว่าน่าจะเปลี่ยนเป็น จินตนาทำเสียงฮึดฮัดอยู่พักนึงเพราะไม่รู้ว่าจะตอกกลับไปอย่างไรดี จะดีกว่าเพราะมีการใช้คำว่า ‘ว่า ไปแล้วเลยไม่อยากให้ใช่คำซ้ำเพราะจะทำให้อ่านแล้วไม่ลื่นไหล บางประโยคก็ยังใช้คำว่า จ้ะ จ๊ะ ไม่ถูกนะคะ เช่น ผู้หญิงยังไงก็เป็นผู้หญิงนะจ้ะ ประโยคนี้เราว่าถ้าใช้ จ๊ะ จะดูเหมาะสมกว่านะคะ ลองออกเสียงดูสิ ผู้หญิงยังไงก็เป็นผู้หญิงนะจ๊ะ

    ส่วนบทสนทนา ลื่นไหลดีมากค่ะ เราได้บอกไปแล้วว่า บทสนทนาของพี่วีเหมาะกับลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆจึงทำให้บทสนทนาดูลื่นไหลแล้วก็ใช้ภาษาที่เป็นภาษาพูดด้วยเลยยิ่งทำให้เหมือนคนพูดจริงๆเข้าไปอีก ในส่วนของบทสนทนาไม่มีอะไรจะติจริงๆค่ะ

    4.แก่นเรื่อง

    ความรัก...คำสองพยางค์นี้สามารถสื่อถึงแก่นเรื่องของนิยายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด พี่วีตีโจทย์แตกเพราะสามารถสร้างให้นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มองความรักในแง่เดียวและยังสร้างให้ความรักมีหลากหลายรูปแบบอีกต่างหาก  ทั้งรักที่ไม่มีวันเป็นจริงเพราะครอบครัวขัดขวาง รักที่สมหวังถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมาย รักที่ต้องแย่งชิง รักที่ต้องตามตื้อและเทคแคร์จนเขารู้ว่าเรารักเขาจริงๆ จนถึงความรักที่ต้องรู้จักเลิกรักเพราะเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเราจริงๆ เป็นต้น และมันทำให้เรารู้ว่าความหมายของความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวร้ายหรือตัวดีพวกเขาล้วนมีความรักแต่ขึ้นอยู่กับว่าความรักของพวกเขาจะเป็นรูปแบบไหนเท่านั้นเอง   ที่ประทับใจเราสุดๆนอกจากความรักที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความรักที่ตื้อครองโลกแล้วยังมีรูปแบบความรักที่เรายกตัวอย่างเป็นอันสุดท้ายด้วยมันคือความรักที่ต้องรู้จักเลิกรักเพราะเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเราจริงๆไงล่ะอันนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ฉึกหัวใจสุดๆ(เนื้อหาต่อไปนี้อาจเป็นการสปอยล์ไม่ชอบโปรดข้าม) อย่างอลิซ...เธอรักเอล็กซ์แต่เมื่อเธอความรักที่จินมีให้เขาและความรักที่เขามีให้จิน ก็คงถึงเวลาแล้วสินะที่ตัวร้ายต้องกลับใจเป็นตัวดีเสียบ้าง เรื่องนี้ต้องขอยกนิ้วให้พี่วีอีกเช่นกัน เพราะถ้าอลิซไม่เลิกถอดใจจากเอล็กซ์ ทั้งเรื่องคงไม่เข้มข้นและสนุกขนาดนี้ ที่เราอยากจะสื่อก็คือ พี่วีสร้างตัวละครที่ รู้ว่าเวลาไหนควรเลิกและเวลาไหนควรถอดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีตัวร้ายที่ไม่ยอมกลับใจอีกเช่นกัน เราถึงได้บอกไงว่าเรื่องเป็นนิยายที่สื่ออามรณ์ของคนออกมาหลายรูปแบบ และอีกอย่างคือ นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นและจบที่จุดเดียวกัน สำหรับจินตนาในตอนแรกเธอคิดแค่ว่า ชีวิตคนเราถ้าไม่ได้เริ่มต้นด้วย ‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว’ แล้วมันจะจบด้วย ‘มีความสุขตลอดกาล’ ได้ยังไงล่ะก็ในเมื่อมันเป็นชีวิตจริงไม่ใช่นิทาน แต่เมื่อเธอได้รู้จักกับความรักที่คนสองคนมีให้กันเธอก็ต้องพบคำตอบที่ว่า ไม่สำคัญว่าชีวิตคนเราจะเริ่มด้วยอะไร แค่เราพยายามทำให้มันจบด้วยคำที่ว่ามีความสุขตลอดกาลก็พอ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ รักษาชีวิตและความรักของคุณไว้ตราบนานเท่านานที่คุณพอใจเถอะ ถึงแม้มันจะเป็นแค่1วินาทีแต่สำหรับคุณมันก็สามารถเป็นตลอดกาลนานได้เช่นกัน

    โดยรวมแล้ว เรื่องนี้เป็นนิยายที่ดีนะคะ(ฉันพูดมากี่รอบแล้วเนี่ย) ใจจริงด้วยความลำเอียงอยากให้เต็ม 10 เลยค่ะ!! แต่ก็คงไม่ได้เพราะไปพลาดเอาตรงการบรรยายสะส่วนใหญ่ จริงๆแล้วการบรรยายของพี่วีมีข้อตินะคะอย่างที่เราบอกไปคือบางประโยคก็เรียงลำดับไม่ค่อยดีเท่าไรเลยทำให้อ่านแล้วไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แต่ถ้าสมมุติว่าการบรรยายของพี่วีดีไม่มีข้อติแต่คำผิดเยอะก็สามารถทำให้ผู้อ่านเสียอรรถรสได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นเรื่องคำผิดก็เป็นเรื่องสำคัญนะคะ ทั้งนี้เราเลยให้คะแนนนิยายเรื่องนี้ 8/10 ค่ะ

    จากใจเราถึงพี่วี : นิยายเรื่องนี้แต่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(โอ้พระเจ้าแล้วเราไปขุดมาได้เยี่ยงไร) ตั้งแต่ปี48-ปัจจุบันปี56 ก็ 8 ปีมาแล้ว(ถ้าเราลบเลขไม่ผิดนะ) เราบอกเลยค่ะว่าเพิ่งอ่านจบเมื่อวาน(10.11.56)แต่มันให้ความรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี้มากๆเหมือนอ่านจบเมื่อตอน 8 ปีที่แล้ว ใช่ค่ะ...มันนานมาแต่สำหรับคนที่เคยอ่านเรื่องนี้เราบอกเลยว่าต้องไม่เคยลืมเลือนไปจากหัวใจของท่านแน่ๆ พอเราอ่านจบเราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนยังประทับใจเรื่องนี้อยู่ เพราะความหมายของความรักที่พี่วีสร้างขึ้นล้วนเกิดจากเหตุผลในชีวิตจริงทั้งสิ้น ถึงแม้มันจะไม่ซึ้งจนบ่อน้ำตาทะลักเหมือนน้ำตกไนแองการ่าแต่มันก็สามารถฝังอยู่ในหัวใจของเราได้ตลอดไป เวลาเรานึกถึงรูปแบบความรักต่างๆและมุมมองความรักของจินตนา โอ๋รวมถึงเอล็กซิส แดนเนียลและคนอื่นๆแล้ว เรารู้สึกว่ามันทำให้คนเรารู้จักกับความรักมากขึ้นอีกทั้งยังมีการใส่ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตจริงของคนเราเข้าไปอีกด้วย เรามั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องเป็นอะไรที่กินใจและโดนใจหนุ่มสาวแน่ แม้มันจะเป็นนิยายรักแต่เรามั่นใจว่าผู้ชายก็อ่านได้เพราะมันไม่ได้เน้นฉากรักโรแมนติกแต่เน้นความรู้สึกแห่งความรักปนนิทานแห่งเวทมนต์ของชีวิตคนเราที่สะกดให้เราตราตรึงอยู่กับมัน ปัจจุบันเรารู้มาว่าพี่วีกลับมาแต่งนิยายอีกครั้งและกำลังแต่งนิยายชุด เรือนพระจันทร์ อยู่ ทั้งนี้เราเลยอยากให้พี่วีกลับมา รีไรท์ เรื่องนี้เช่นกัน สิ่งที่เราอยากให้รีไรท์ที่สุดคือ คำผิด การจัดหน้ากระดาษ การลำดับประโยคนิดๆหน่อยๆ และรวมถึงตัวอักษรด้วย อยากให้พี่วีไปพิมพ์ใน Word ก่อน จัดหน้ากระดาษให้เรียบร้อยแล้วค่อยเอามาลง ถ้าให้ดีตีพิมพ์เป็นเรื่องสั้นเลย(ไม่ว่าจะตีพิมพ์แบบส่งสำนักพิมพ์หรือนิยายทำมือก็ตาม) นิยายดีๆแบบนี้อยากเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ยระลึกในความทรงจำค่ะ  

     

    BlackForest

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×