Reindeer_CtRd
ดู Blog ทั้งหมด

คุณรู้หรือไม่ว่า...ทับทิมมีประโยชน์อย่างไร ?

เขียนโดย Reindeer_CtRd

คุณรู้หรือไม่ว่า...ทับทิมมีประโยชน์อย่างไร ?
.......................................................................................................................
 
ที่มา : http://www.thaibirdboard.com/board/index.php?topic=827.0

                  หลังจาก (เริ่ม) เขียน blog เป็นบ้างแล้ว เน้นนะคะว่าแค่ เริ่มเท่านั้น เพราะหนทางยังอีกยาวไกล 5555 วันนี้ก็จะมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักกับผลไม้ไทยสารพัดประโยชน์กันค่ะ ผลไม้ที่จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกันก็คือ ทับทิมนั่นเอง

                ทับทิม (Pomegranate) เป็นผลไม้ขนาดเล็ก มีขนาดต้นประมาณ 5-8 เมตร เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศอิหร่าน และทางใต้ของประเทศอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้ชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย

ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ทับทิมจึงเป็นผลไม้ที่ได้รับการปลูกอย่างแพร่หลาย โดยมีการใช้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้ ถือว่าเป็นผลไม้จากสวรรค์ หรือของขวัญจากพระเจ้า ในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิต และระบบการหมุนเวียนในร่างกาย

ทับทิม ถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ เนื่องจากผลของทับทิมมีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูง และยังประกอบไปด้วยเกลือแร่ต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี นอกจากเม็ดทับทิมจะมีรสชาติชวนลิ้มลองแล้ว เปลือกทับทิมก็ยังสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ โดยการศึกษาวิจัยพบว่า ในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนินสูง 22-25% โดยประกอบด้วยสารแทนนินในกลุ่ม Gallotannin จึงสามารถใช้เป็นยาแก้ท้องเดิน และโรคบิดได้

                จากการวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่า ในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน และแข็งตัว ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมา รวมทั้งทำให้เส้นเลือดที่หนาตัว และมีไขมันสะสมมีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย ช่วยบำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้น และยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งอีกด้วย

                จากตำรับการแพทย์โบราณของเปอร์เซียระบุว่า ทับทิมมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยฟอกไตและท่อปัสสาวะ ช่วยการทำงานของหัวใจและตับ เป็นยาบำรุงกำลัง ฟอกโลหิต ช่วยในการย่อยอาหาร ขจัดไขมันส่วนเกิน ปรับฮอร์โมนในสตรีวัยทอง ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืม และช่วยให้ผิวพรรณดี

                ส่วนในตำรับการแพทย์แผนไทยได้บอกถึงสรรพคุณ และประโยชน์ของทับทิมว่า

                ใบ : มีรสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด สมานแผล

                ดอก : มีรสฝาดหวาน ต้มดื่มแก้หูชั้นในอักเสบ บดโรยแผลที่มีเลือดออก

                เนื้อ : มีรสหวานอมเปรี้ยว เป็นยาระบายอ่อนๆ บำรุงหัวใจ

                เปลือก : มีรสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ถ่ายพยาธิ แก้ตกขาว สมานแผล  
                               ฆ่าเชื้อโรค

                เปลือกราก : ต้มดื่มแก้ระดูขาว แก้ตกเลือด ถ่ายพยาธิ

                ในประเทศญี่ปุ่นมีรายการแนะนำทับทิมทางโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ว่า ทับทิมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ทำให้ทับทิมเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง สภาพตลาดทับทิมระหว่างประเทศในปัจจุบันได้มีการค้นคว้าและแปรรูปทับทิมมากมายจากหลายประเทศทั่วโลก น้ำทับทิมจึงเป็นน้ำผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ และเป็นที่มาของธรรมชาติ นับเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่มีผลบำรุงร่างกายที่แท้จริง

สรุป 41 คุณประโยชน์ของทับทิมได้ ดังนี้

1.       ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส

2.       ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย

3.       น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก

4.       น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี

5.       ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย

6.       ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด

7.       ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด

8.       ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย

9.       ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่างๆที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี

10.    นำมาใช้ทำเป็นขนมหวาน อย่างทับทิมกรอบ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน เพราะให้ความสดชื่นคลายร้อนได้เป็นอย่างดี

11.    ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์

12.    ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน

13.    ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ

14.    ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน

15.    ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ

16.    น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้

17.    ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น

18.    ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

19.    ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง

20.    ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน

21.    ช่วยลดความดันโลหิตสูง

22.    ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด

23.    ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ

24.    ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง

25.    มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้เป็นอย่างดี

26.    ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด

27.    ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง

28.    มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย

29.    เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก

30.    เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ

31.    เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน

32.    เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ

33.    ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่าย และทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

34.    เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิม สามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสดๆประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูวงไปเล็ก น้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจกเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไป อีกครั้งหนึ่ง

35. ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล

36.    ดอกทับทิม ช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ

37.    ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอ หรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้

38.    ช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ

39.    ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ

40.   ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น

41.   ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่

อ้างอิง :
1     2     3

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น