คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : Love is Special ตอน Superman chanyeol 2
Love is special ตอน Superman chanyeol
“นั่งยิ้มอะไรแบคฮยอน”
“อ่าวพี่จงอิน” ขยับกายให้พี่ชายนั่งลงข้างๆก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์ไปให้ดู
การเคลื่อนไหวของสี่พ่อลูกปรากฏอยู่บนหน้าจอ แม้อิริยาบถจะไม่ได้พิเศษอะไรแต่มันก็ทำให้คนมองยิ้มได้ไม่ยากเลย
“ใจร้ายไปหรือเปล่า แค่อยากเห็นมุมความเป็นพ่อของสามีถึงกลับต้องใช้แผนปล่อยให้เขาอยู่ลำพังกับลูกแบบนี้”
เอ๊ะ?
แผนเหรอ?
ใช่แล้วล่ะ มันเป็นแผน ใครบอกล่ะว่าเยซองกับเรียวอุคติดงานด่วนที่จีนแล้วใครล่ะบอกว่าตอนนี้แบคฮยอนอยู่ที่มกโพ…โกหกทั้งเพ!
ตอนนี้แบคฮยอนอยู่ที่บ้านของจงอินและพี่อินนาที่โซลนี่แหละ
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่แบคฮยอนอยากเห็นชานยอลเลี้ยงลูกด้วยตัวเองโดยที่ไม่มีเขาอยู่ด้วย
มันอาจเป็นเรื่องที่น่าสนุกแต่ก็ไม่ทั้งหมด
ที่ต้องทำแบบนี้เพราะแบคฮยอนอยากเห็นความเป็นคุณพ่อของสามีต่างหากถึงต้องใช้วิธีแบบนี้
ถามว่าวิธีอื่นมีไหม มันก็มีแต่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะใช้วิธีนี้แน่นอน
ไม่ได้อยากจะแกล้งหรือเล่นกับความรู้สึกกับคนรัก
เขาแค่อยากจะเห็นว่าลูกๆจะสนิทกับคุณพ่อได้มากน้อยแค่ไหน จะดื้อหรือต่อต้านบ้างหรือเปล่าเพราะชานยอลค่อนข้างเข้มงวด
อีกทั้งบางเวลาลูกๆยังเอาแต่ใจจนบางครั้งแม่อย่างแบคฮยอนก็เอาไม่อยู่ด้วยซ้ำ
แต่จากที่ตามดู…แน่นอนว่าถ้าลงทุนทำแบบนี้ก็ต้องติดตามผลงานกันหน่อย
ตลอดทั้งวันนี้แบคฮยอนทำตัวเป็นสโตรกเกอร์ติดตามสามีและลูกๆตลอดเวลาเพื่อสังเกตทุอย่างที่พ่อลูกเขาทำ
เห็นทุกด้าน รู้ทุกเรื่อง รู้แม้กระทั่งว่าชานยอลแอบซื้อนมช็อคโกแลตให้ชานซองดื่ม เอาเป็นว่าข้อนี้ค่อยคิดบัญชีตอนครบ
48 ชั่วโมง…
และสิ่งที่เห็นมันก็ทำให้เบเคฮยอนพอใจเป็นอย่างมากกับแผนการของตัวเอง
“แต่ถ้าผลตอบแทนมันออกมาดีก็ถือว่าคุ้มไม่ใช่เหรอฮะพี่จงอิน” ยิ้มบอกอย่างเจ้าเล่ห์จนคนเป็นพี่ถึงกับส่ายหน้ากับความขี้แกล้งของน้องชาย
ก่อนสนใจภาพจากล้องวงจรปิดที่ถ่ายจากห้องนอนของแบคฮยอนเพื่อดูว่าครอบครัวปาร์คตอนที่ไร้คุณแม่แบคฮยอนเป็นยังไง
เวลาสองทุ่มเศษภายในห้องนอนใหญ่ของชานยอล
เสียงเพลงจากการ์ตูนเรื่องโปรดยังเปิดคลออยู่ตลอดเวลาแม้ว่าเจ้าแฝดทั้งสองยังไม่เข้ามาในห้องนี้
มีเพียงแค่ชานซองที่นั่งจุมปุ้กอยู่ที่พรมด้านล่าง
มือเล็กๆหยิบจับตัวต่อเลโก้ที่พ่อลากออกมาให้เล่นด้วยท่าทางอารมณ์ดีรอพี่ๆมาเล่นด้วย
ตึกๆ ๆ ๆ
“ป๊า!!!”
“ฮวา ป๊าบอกว่าอย่าวิ่งเสียงดังตอนกลางคืนไงคะ” ยกหัวขึ้นมาเอ็ดลูกสาว
“ฮวาขอโทษค่ะป๊า ฮวาลืมตัว” ซอลฮวาเอ่ยในขณะที่ปีนขึ้นมาบนเตียงที่พ่อนอนอยู่ก่อนจะคลานเข้าไปนอนทับลงบนตัวไม่ลืมที่จะก้มลงจุ้บปากพ่อด้วยความออดอ้อน
“ฮยอนล่ะ”
“ฮยอนอยู่นี่ฮะ” ลูกชายเดินอุ้มตุ๊กตากระต่ายกับผ้าเน่าของตัวเองมาโยนไว้ที่เตียงแล้วผละไปนั่งตรงหน้าน้องชายที่นั่งอยู่
“หนูจะนอนเลยหรือเปล่าครับ”
“ยังค่ะ ป๊าขาหวีผมให้ฮวาหน่อย”
ลูกสาวลุกขึ้นแล้วดึงแขนป๊าให้ลุกตามก่อนจะยัดหวีใส่มือแล้วนั่งหันหลังให้เพื่อบอกให้ป๊าหวีผมที่ฟูหลังจากเพิ่งแห้งไป
งานเข้าละสิ ก่อนหน้านี้อดีตเสืออย่างปาร์คชานยอลมีแฟนเป็นผู้หญิงมาแล้วแทบนับจำนวนไม่แต่ไม่เคยมีเลยสักคนที่เขาจะต้องมานั่งหวีผมให้แบบนี้
พูดก็พูดเถอะนอกจากสัมผัสร่างกายพวกเธอเหล่านั้นตอนกอด จูบ หรือมีอะไรกันชานยอลก็แทบไม่ได้แตะต้องอะไรอีกเลย
จะมีพิเศษกว่าหน่อยก็คงจะเป็นแบคฮยอนที่คอยเช็ดตัว นวดขา นวดเท้าให้แต่นั่นมันก็เฉพาะตอนที่ภรรยาปวดเมื่อยตอนอุ้มท้องลูกๆ
อ่า…อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าชานยอลไม่ได้ดูแลแบคฮยอนหลังจากคลอดนะ
เขาก็ดูแลทุกเรื่องนั่นแหละแต่เรื่องเล็กๆแบบนี้ถ้าไม่ได้ทำให้ชานยอลก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องที่น่าอายอะไร
“ป๊า เร็วๆสิคะ ฮวาอยากไปเล่นกับน้องแล้วววว”
“โอเคค่ะๆ เดี๋ยวป๊าหวีให้นะ” เข้ายกหวีขึ้นด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ
นิ้วเรียวยาวค่อยๆสางไปที่กลุ่มผมนุ่มของลูกสาวสลับกับใช้หวีๆตามลงไปด้วย
เขาค่อยๆบรรจงหวีอย่างเบามือเพราะกลัวว่ามือใหญ่ๆของตัวเองจะทำหนักเกินไปจนลูกสาวเจ็บ
มือของชานยอลข้างเดียวใหญ่กว่าศีรษะของลูกๆด้วยซ้ำ
“ป๊าขาเร็วซี่”
“ค่ะๆๆ”
.
.
.
.
“โอ๊ยป๊า!”
!!!
“ป๊าขอโทษค่ะฮวา”
มือหนาทั้งหวีและปล่อยจากผมลูกสาวหลังจากที่เธอร้องเสียงลั่นเพราะเขารีบจนหวีไม่สุดปลายพอยกขึ้นหวีรอบใหม่ผมก็เลยพันกันจนลูกต้องร้องออกมา
“เบาๆสิคะ ผมฮวาหลุดมาเป็นกระจุกแล้วมั้งเนี่ยยย” ป๊าอยากจะบ้า
ไม่คิดว่าแค่หวีผมให้ลูกมันจะยากขนาดนี้ เห็นทีว่าหน้าที่นี้คงจะไม่เหมาะกับป๊าชานยอลเสียแล้วสิ
ใช้เวลาไปเกือบสิบนาทีกว่าจะหวีเสร็จ
พอผมยาวสลวยสวยงามอย่างที่เจ้าของพอใจแล้วซอลฮวาก็ลุกขึ้นจุ้บแก้มป๊าเป็นการขอบคุณแล้วกระโดดลงไปเล่นกับน้องชายที่พรม
ชานยอลยิ้มขำกับตัวเองในมือยังคงถือหวีสีครีมที่มีเศษเส้นผมของลูกติดอยู่
ภายในหัวกำลังคิดว่าตัวเองมาอยู่จุดนี้ได้ยังไง
จุดที่ต้องมานั่งบรรจงหวีผมให้ลูกสาว…
แน่นอนว่าการกระทำทั้งหมดตกอยู่ในสายตาคนเจ้าแผนการที่นั่งสังเกตผ่านกล้องบันทึกภาพที่ยิงตรงมาจากบ้านของสามี
แบคฮยอนยิ้มกับภาพน่ารักๆที่ไม่คิดว่าจะเห็นจากสามี ต้องขอบคุณซอลฮวานะที่ทำให้แม่เห็นมุมน่ารักแบบนี้
“ทำได้ดีนิปาร์คชานยอล”
-เช้าวันใหม่-
กว่าสี่พ่อลูกจะตื่นกันครอบก็ปาเข้าไปตั้งแปดโมง แน่นอนว่ามันได้เวลาของอาหารเช้าแล้วและเมื่อครู่แม่บ้านก็มาตามให้ทั้งหมดลงไปทานมื้อเช้าที่เตรียมไว้ได้แล้ว
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่พ่อของลูกยังไม่ยอมลุกไปอาบน้ำนี่สิ มีแค่แฝดเท่านั้นที่กลับไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเองแล้ว
“ปะ ปะ ปะ คิก ๆ ๆ ๆ ” รู้สึกจุกจากการกระทำของลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้ขึ้นมานั่งทับอยู่บนแผ่นหลังก่อนจะยกตัวขึ้นลงกระแทกก้นอยากหนักใส่ป๊า
ไม่รู้ว่าเขาต้องการปลุกหรือเล่นกันแน่
“อั่ก! ซอง…ป๊า…อึ่ก…จุก…”
“คิกๆ ๆ ๆ”
ยังไม่หยุดอีกนะ… ร่างสูงค่อยๆพลิกตัวจนลูกร่วงลงมาเสียงหัวเราะคิกคักยังคงดังไปทั่วห้อง
ชานยอลนึกหมั่นเขี้ยวลูกชายแต่เช้าพอลุกขึ้นได้เขาก็ดึงขาลากลูกเข้ามาใกล้เปิดเสื้อขึ้นจนเห็นพุงขาวๆป่องๆก่อนจะจัดการฟัดหนักๆ
“คิกๆ ๆ ๆ ปะ คิกๆ ๆ ” ชอบใจซะด้วยนะเจ้าลูกชาย
เล่นไปลอกคราบไปจนตอนนี้ชานซองไม่เหลือเสื้อผ้าติดกายแล้วแม้แต่ผ้าอ้อมไซส์ใหญ่ก็ถูกโยนลงข้างเตียงไปแล้ว
เหงื่อเม็ดเล็กซึมที่ไรผมน้อยนิดเพราะล่นกับป๊าแต่เช้าแต่ถึงจะเหนื่อยชานยอลก็ยิ้มออกเพราะวันนี้เจ้าตัวเล็กยิ้มให้เขาแต่เช้าผิดกับเมื่อวานที่พอลืมตาตื่นมาก็ร้องไห้งอแง
“ป่ะลูก อาบน้ำเช้ากันเนอะ”
“อือ”
“หืม…หนูตอบป๊าเหรอ?” ตาที่โตอยู่แล้วยิ่งโตเข้าไปอีกเมื่อลูกขานรับ
“คิก~”
“ลูกชายป๊าน่ารักที่สุด มาจุ้บที”
จุ้บ!
วันนี้คงเป็นอีกวันนึงที่ปาร์คชานยอลคุณพ่อลูกสี่มีความสุขที่สุดและคงจะสุขไปทั้งวันแน่ๆเมื่อเจ้าลูกชายที่มักจะเอาแต่ทำหน้านิ่งใส่จะยิ้มเฉพาะเวลาที่อยู่กับแม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมาแบบนี้
คงจะสนิทกับป๊ามากขึ้นหลังจากอยู่ด้วยกันมาหนึ่งวันเต็มๆแล้วล่ะสิ
30%
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก็ดูเหมือนว่างานจะเข้าคุณป๊าสุดหล่ออีกแล้วเพราะตอนนี้ลูกสาวสุดที่รักได้ส่งมอบหวีอันเมื่อคืนมาให้พร้อมกับ…
“ป๊าขา ถักเปียให้ฮวาหน่อย”
แบคฮยอนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? T^T
เกิดมาสามสิบกว่าปีวันนี้แหละคือวันที่ชานยอลรู้สึกได้ว่าเป็นวันที่ยากที่สุดของชีวิต
สอบเข้ามหาลัยยังไม่มีความรู้สึกว่ามันยากเท่านี้เลย แต่ก็นะ…ในเมื่อมีลูกสาวแล้วเขาก็ต้องทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด!
จากที่ซอลฮวาบอกให้ถักเปียให้ชานยอลก็เจรจาต่อรองว่าขอเป็นผูกผมธรรมดาได้ไหมเพราะป๊าไม่สามารถถักเปียให้ได้จริงๆ
ซอลฮวาก็ทำท่าจะงอนแต่พอได้ฟังเหตุผลพร้อมกับคำสัญญาเด็กหญิงคนสวยก็ต้องยินยอม
“ป๊าไม่เคยถักผมให้หนูเลย
เอาไว้ป๊าให้คุณแม่สอนให้เก่งแล้วค่อยมาให้ป๊าถักให้ได้ไหมคะ?”
“เรียบร้อยค่ะ” ผูกโบว์สีชมพูที่หางม้าพร้อมกับติดกิ๊บรูปดอกไม้ที่ผมด้านหน้าเสร็จก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ประสบการณ์จากการหวีผมให้ลูกสาวเมื่อคืนทำให้ชานยอลรู้ว่าเขาควรจะเบามือและค่อยเป็นค่อยไปเพราะผมของลูกค่อนข้างบางเกิดลงมือหนักหวีแรงลูกอาจจะเจ็บหัวได้
“ขอบคุณค่ะป๊า”
แม้ทรงผมหางม้าที่ป๊าผูกให้จะไม่ได้เรียบร้อยเหมือนที่แม่ทำแต่ซอลฮวาก็พึงพอใจกับผลที่ออกมา
“ป๊าฮะ วันนี้เราจะไปไหนกันดีฮะ”
“หนูไม่อยากอยู่บ้านเหรอครับ?” ไม่มีแม่อยู่ด้วยเด็กๆอาจจะเบื่อ
ถ้าพวกเขาอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอกชานยอลก็เห็นด้วย
“อยู่บ้านไม่มีไรให้ทำเลยฮะป๊า ออกไปข้างนอกกันเถอะ”
“หนูอยากไปไหนล่ะ” ชานยอลเดินมาอุ้มลูกชายคนเล็กขึ้นทั้งที่ยังสบตากับฮยอนอิน
แฝดน้องทำท่านึกในสิ่งที่อยากจะทำวันนี้ร่วมกับป๊าและพี่น้อง ปกติแล้วเสาร์อาทิตย์แฝดจะอยู่ที่โรงเรียนสอนว่ายน้ำเสียเกือบครึ่งค่อนวัน
พอได้หยุดแบบนี้จะเบื่อก็ไม่แปลก แต่ไม่ว่าใช้สมองน้อยๆคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกสักที
ป๊าสุดหล่อเห็นแบบนั้นก็เลยตัดสินใจให้ซะเลย
“เราไม่ต้องออกไปไหนหรอก อยู่ที่บ้านนี่แหละ”
“ง่าป๊า” ฮยอนอินเบะปากใส่
“อยู่บ้านแต่ไม่เบื่อแน่นอนป๊าจะพาหนูทำอะไรสนุกๆดีไหม?”
แฝดสบตากันอย่างไม่เข้าใจในประโยคของคุณพ่อ
แต่ด้วยความที่มองว่าป๊าเป็นคนที่พวกเขาสามารถเล่นด้วยได้ทุกอย่างและแต่ละครั้งที่เล่นมันก็สนุกและมีเสียงหัวเราะเสมอแฝดก็เลยยิ้มกว้างออกมา
แทบรออะไรสนุกๆที่ว่านั่นไม่ไหวแล้ว
แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรกันชานยอลก็ต้องไปอุ่นนมที่แบคฮยอนปั๊มไว้ให้ลูกชายคนเล็กดื่มก่อน
คุณพ่อลูกสามเดินถือขวดนมเข้ามาในห้องรับแขกที่ลูกๆเล่นรออยู่
ชานซองพอเห็นนมของโปรดก็คลานหนีพี่สาวมาหาป๊าที่นั่งลงข้างเบาะนอนของตัวเอง
เจ้าตัวเล็กคลานเข้ามาใกล้หัวกลมๆเล็กๆหนุนลงที่ตักของป๊าพร้อมส่งมือทั้งสองข้างไปหาขวดนมในมือป๊า
แต่มีเหรอจะได้ไปง่ายๆ
“อยากได้หม่ำๆต้องมีของแลกเปลี่ยน”
“?”
“จุ้บหน่อย”
แขนเล็กดึงเอาผมข้างหน้าของผู้เป็นพ่อลงมาเพื่อให้ต่ำกว่าเดิมแล้วยกหัวขึ้นจุ้บเบาๆแต่ก็สามารถฝากคราบน้ำลายไว้ได้
ชานยอลขำกับสิ่งที่ชานซองทำเขาส่งขวดนมใส่มือลูกแล้วอุ้มเจ้าตัวขึ้นมานอนบนตักดีๆ
ชานซองดูดนมจากขวดดังจ๊วบๆดวงตากลมโตที่ถอดแบบกันมาเป๊ะๆสบตากับพ่อที่ส่งยิ้ม
เด็กน้อยเผยรอยยิ้มเป็นบางครั้งเมื่อถูกหยอกเอิน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ใช่แบบนี้แน่ เวลาอยู่บนตักแม่แล้วป๊ามากวนเวลาดื่มนมทีไรมักจะฮึดฮัดอารมณ์เสียอยู่เรื่อย
แต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่ชานซองจึงอดทนต่อการกลั่นแกล้งของป๊าได้
ช่างเป็นลูกชายที่เดาอารมณ์ได้ยากเหลือเกิน
ก็ไม่รู้ว่าถ้าแม่กลับมาแล้วเจ้าลูกชายจะยังยอมเขาง่ายๆแบบนี้อยู่ไหม
พอลูกคนเล็กดื่มนมเสร็จเขาก็พาเด็กๆออกมาที่สนามหน้าข้างๆบ้านที่มีแปลงดอกไม้มากมายปลูกอยู่
แน่นอนว่าดอกไม้พวกนี้เป็นของแบคฮยอนที่ปลูกไว้เพื่อนำมันมาตกแต่งบริเวณของบ้าน
รวมไปถึงผักสวนครัวบางชนิดที่ปลูกไว้เพื่อทำอาหารให้ลูก
คุณแม่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะซื้อผักมาจากตลาดหรือซุปเปอร์เพราะไม่แน่ใจว่าปลอดสารพิษมากพอหรือเปล่า
ชานยอลอุ้มชานซองด้วยแขนข้างเดียวส่วนอีกข้างนั้นลากรถเข็นที่มีอุปกรณ์ทำสวนมาด้วย
ปล่อยเจ้าตัวเล็กลงนั่งกับเสื่อพลาสติกที่กางรอไว้แล้วแยกมาหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาเตรียมพร้อมกับเมล็ดพันธ์ของผักกาดขาว
“มาครับเด็กๆ”
“เราจะทำอะไรกันคะป๊า”
“ปลูกผักไงครับ”
“ทำไมต้องปลูกล่ะฮะ”
“ก็เราจะได้มีผักที่ปลอดสารพิษทานกันไง”
“เราซื้อทานก็ได้นี่คะ”
แฝดล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าป๊าจะปลูกผักไปทำไมในเมื่อไปซื้อมาทานก็ได้
แล้วเมล็ดแค่นี้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ล่ะกว่าจะได้กินน่ะ
“ปลูกทานเองนี่ล่ะดีที่สุด
มาเร็วลูกหนูหยิบส้อมพรวนมาคนละอันแล้วตามป๊ามาได้แล้ว”
แม้จะยังไม่เข้าใจแต่แฝดก็หยิบส้อมพรวนและถุงเมล็ดพันธ์ตามที่ป๊าบอก
แปลงสำหรับปลูกผักกาดถูกลุงคนสวนเตรียมไว้แล้วห้าแปลงใหญ่เพื่อรอเอาเมล็ดมาลง
ชานยอลเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะสอนให้ลูกๆได้รู้และทำเรื่องพวกนี้บ้าง
เพราะกว่าจะได้ผักมาทานแต่ละต้นมันต้องใช้เวลาและการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ไม่ใช่แค่ผัก ทุกๆอย่างที่เราต้องเจอก็ด้วย
ไม่มีอะไรที่ได้มาครอบครองอย่างง่ายดายทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลา ความอดทน
และการเอาใจใส่ของคนที่ทำเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ลูกของเขาเกิดมาในครอบครัวที่พร้อมและสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับตัวเขาเองเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว
แต่ใช่ว่าชานยอลจะเป็นคนรักสบายและเอาแต่ใช้ชีวิตติดหรู
ความเป็นลูกคนเดียวไม่เคยทำให้พ่อและแม่ของชานยอลต้องคอยตามเอาอกเอาใจตรงกันข้ามคุณพ่อของเขาสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับความลำบากบ้าง
การใช้ชีวิตเพียงตัวคนเดียในช่วงปิดเทอมตั้งแต่ระดับมัธยมและมหาลัยของชานยอลไม่ใช่การนอนตื่นสาย
เข้าร้านเกมส์เดินเที่ยวห้างหรู
แต่มันคือการเดินทางข้ามทวีปไปทำงานพาร์ทไทม์ที่อเมริกา อังกฤษและเยอรมัน
แต่ละประเทศเขาจะเลือกทำงานที่ต่างกัน
ไม่ใช่ทำเพื่อนำสิ่งที่ทำมาสานต่อในอนาคตแต่มันคือการหาประสบการณ์และอยู่กับความลำบากจากเงินที่หามาได้ด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง
และผลของการทำงานเหล่านั้นก็ทำให้เขามีความคิดที่จะเปิดโรงงานผลิตอาหารแปรรูปจากพืชพันธ์หรือเนื้อสัตว์ต่างๆที่มีอยู่ในประเทศ
งานที่บริษัทคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อช่วยสานต่อธุรกิจของคุณพ่อ
ส่วนโรงงานที่ปูซานคือสิ่งที่มาจากประสบการณ์ที่ได้รับ
มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะส่งมอบประสบการณ์ดีๆให้ลูกทั้งสามคนเชนเดียวกับตอนที่พ่อของเขาทำในช่วงที่ยังเด็กๆ
ช่วงวัยที่ลูกๆต้องเรียนรู้อาจต่างกัน
แต่ชานยอลก็เชื่อว่าเด็กๆจะต้องเรียนรู้และยอมรับมันได้
เขาไม่ได้หวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง แต่เขาหวังที่จะให้ซอลฮวา ฮยอนอินและชานซองพบเจอกับสิ่งใหม่ๆบนโลกใบนี้เพื่อความแข็งแรงของตัวเอง
มันไม่ใช่ความแข็งแรงของร่างกาย แต่มันคือความแข็งแรงของการใช้ชีวิต
เวลาสิบโมงกว่าๆแดดยังคงส่องลงมาไม่หยุดจนเม็ดเหงื่อเล็กใหญ่ไหลซึมออกมาตามไรผมของสี่พ่อลูกแต่ใช่ว่าทั้งหมดจะยอมแพ้
แม้แต่ชานซองเองที่ยังไม่เข้าใจและหยิบจับอะไรได้มากเท่าพี่ๆแต่เจ้าตัวก็สนุกไปกับการเล่นคลุกฝุ่นดินที่อยู่บริเวณนั้นจนเนื้อตัวมอมแมมลามไปถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบดินสีดำ
ชานยอลมองลูกแฝดที่ช่วยกันปลูกผักอยู่ด้านหลังเขายิ้มออกมาอย่างพอใจกับภาพที่เห็นเมื่อฮยอนอินเป็นคนออกแรงขุดดินให้เป็นหลุมเพื่อรอให้ซอลฮวาหยอดเมล็ดลงไป
เม็ดเหงื่อเล็กที่ไหลลงมาจากหน้าผากกำลังจะซึมเข้าตาลูกชายเห็นแบบนั้นคนเป็นพ่อก็รีบลุกขึ้นไปหาแล้วใช้แขนเสื้อฝั่งที่ไม่เลอะมาเช็ดออกให้
“ร้อนจังฮะป๊า” ฮยอนอินเงยหน้าบ่นแต่มือเขาก็ยังไม่วางส้อมพรวน
“พักก่อนไหมลูก เหงื่อหนูสองคนออกเยอะมากเลย”
“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วค่ะป๊า เสร็จแถวนี้ค่อยพักได้ไหมคะ”
“ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวป๊าพาน้องไปนั่งพักตรงนู้นนะ
ถ้าหนูสองคนไม่ไหวก็พักนะลูก”
“ค่ะ/ครับป๊า”
ชานยอลส่งยิ้มให้ลูกก่อนจะลุกขึ้นเดินไปอุ้มชานซองขึ้นและพาไปพักที่ศาลาที่อยู่ไม่ไกล
เจ้าตัวเล็กฮึดฮัดเล็กน้อยเพราะถูกรบกวนการเล่นดินแต่สักพักเขาก็นิ่งลง
มือหนารองเอาน้ำจากก๊อกมาล้างหน้าล้างตาให้ลูกชายคลายร้อนรวมไปถึงมือเล็กๆที่เลอะคราบดินนั่นด้วย
ของว่างที่แม่บ้างเตรียมมาไว้คือน้ำส้มคั้นสดๆและคุ้กกี้รสนม
“อื้ออ”
“น้ำส้มไงลูกหนูไม่ดื่มเหรอ”
“ฮื้อออ” มือเล็กๆปัดขวดน้ำส้มที่พ่อยื่นมาให้ออกอย่างหงุดหงิด
ก่อนจะคลานเข้าไปหาแก้วน้ำส้มสามแก้วที่วางอยู่ในถาดและทำสิ่งที่ชานยอลถึงกับต้องหลุดขำออกมา
ชานซองใช้สองมือน้อยๆค่อยๆประคองแก้วที่มีขนาดใหญ่กว่ามือพอสมควรขึ้นดื่ม
แน่นอนว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมากล้ามเนื้อมัดเล็กของเจ้าตัวจับแต่ขวดนมพอมาจับแก้วที่ทั้งใหญ่และหนักกว่าแบบนี้มันย่อมเกิดปัญหา
“อึ่กๆ แค่กๆ ๆ ๆ ”
ชานยอลรีบคว้าเอาแก้วนมออกจากมือลูกแล้วอุ้มขึ้นพลางลูบไหล่ลูบหลังเพื่อให้เขาหายจากอาการสำลักน้ำส้ม
ตอนนี้คราบน้ำส้มคั้นเลอะเสื้อเลอะปากลามไปถึงจมูกเล็กๆหมดแล้ว
สภาพของชานซองดูเละเทะยิ่งกว่าพี่แฝดทั้งสองเสียอีก
คิดดูนะว่าเลอะแค่ไหนก่อนมาดื่มน้ำเสื้อผ้าที่หอมสะอาดก็เต็มไปด้วยคราบดินแห้งบ้างเหนียวติดเสื้ออยู่บ้างพอมาโดนของเปียกทับเข้าไปอีกคือยิ่งเลอะกว่าเดิม
ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าชุดนี้คงต้องใช้เวลาแช่เพื่อทิ้งคราบนานกว่าตัวอื่นๆแล้วล่ะ
“งืออ”
“ค่อยๆดื่มสิลูก”
เจ้าตัวเล็กยกมือถูกไปมาที่ปลายจมูกคงเพราะรู้สึกแสบจากการสำลักแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังส่งยิ้มโชว์ฟันหกซี่ให้พ่อราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังไงอย่างงั้นแหละ
เห็นแบบนี้แล้วคนเป็นพอก็ถึงกับสายหัวเพราะความหมั่นเขี้ยวและมันอดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มกลมๆนั่นจริงๆ
14.34
ความเงียบที่เกิดขึ้นในห้องรับแขกในช่วงเวลานอนกลางวันของลูกๆคือช่วงเวลาที่สงบสุขของคุณพ่อ
เมื่อเช้าหลังจากปลูกผักกาดขาวไปได้แค่สองแปลงจากการช่วยเหลือและให้ความร่วมมือของแฝด
ชานยอลก็พาลูกไปล้างตัวก่อนจะไปอาบน้ำด้วยกันที่ห้องของเขา
เสร็จจากนั้นก็พากันทานมื้อเที่ยงและเล่นกันจนทั้งสามมีอาการปรือๆจนเขาต้องกล่อมให้นอน
และตอนนี้ซอลฮวา ฮยอนอิน ชานซองก็หลับไปแล้วโดยพี่แฝดนอนขนาบข้างน้องชายสุดที่รัก
ส่วนคุณพ่อน่ะเหรอ
ตอนนี้กำลังต่อสายหาภรรยาสุดที่รักเพื่อรายงานการเลี้ยงดูลูกและบอกความคิดถึงที่มีให้
[เป็นไงบ้าง]
“ก็ดี”
[หน้าดูเหนื่อยๆนะ ไหวหรือเปล่า?] ใบหน้าของชานยอลดูอิดโรยจนแบคฮยอนอดห่วงไม่ได้
“ไหวสิ ทำออกมาแล้วต้องเลี้ยงไหวอยู่แล้ว”
[…]
“อย่าทำหน้าแบบนั้น เค้าไหวจริงๆ”
[โอเคๆ ก็คนมันเป็นห่วงแล้วนี่ลูกไปไหน]
“นี่ไง…” หันจอไปให้คนรักเห็นว่าเด็กนอนหลับไปแล้ว
[ลูกจะนอนกลางวันประมาณสองชั่วโมงนะ
แต่ถ้านานกว่านั้นให้ปลุกเลยเดี๋ยวกลางคืนแกจะไม่นอน]
“โอเค ตัวเองกลับพรุ่งนี้ใช่ไหมให้ไปรับหรือเปล่า?”
[ไม่ต้องๆ เดี๋ยวเค้าขับกลับเอง
ตัวเองเหนื่อยเลี้ยงลูกพอแล้วไม่ต้องลำบากมารับหรอก]
“คิดถึงนี่”
[เดี๋ยวก็กลับแล้วไง ทนคิดถึงอีกนิดนะเดี๋ยวก็ได้กอดแล้ว]
“อือ”
[ป๊าก็ไปนอนพักได้แล้ว ลูกตื่นแล้วยังต้องเหนื่อยอีกนะ]
“อือ…งั้นวางนะ”
[ฮะ]
หลังจากวางสายคุณแม่ลูกสามก็ถอนหายใจออกมาหนักๆด้วยความเป็นห่วงสามี
แบคฮยอนไม่เคยเห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของสามีแบบนี้มาก่อนเลย
พอเห็นแบบนี้แล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าตัวเองอาจจะทดสอบแรงไปหรือเปล่า
แน่นอนว่าพอคิดได้ก็รู้สึกผิด
เป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่การที่เห็นว่าสามีของตัวเองจะต้องมารับรู้ว่าการเลี้ยงลูกมันยากและเหนื่อยแค่ไหนแต่มันคือการที่เขาอยากจะเห็นความสัมพันธ์ของพ่อลูก
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างผิด
คนเป็นพ่อลูกกันทำไมจะไม่มีความสัมพันธ์ดีๆล่ะจริงไหม
ทำไมแบคฮยอนไม่คิดบ้างนะว่าแค่ชานยอลต้องทำงานหนักในแต่ละวันมันก็มากพอแล้ว
งานที่ชานยอลทำไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อครอบครัว เพื่อเมียและลูกทั้งสามคนต่างหาก
เงินทุกบาท
หยอดเหงื่อทุกเม็ดมันเพื่อความสุขสบายของครอบครัวแต่ทำไมแบคฮยอนถึงยังเลือกที่จะเพิ่มงานให้สามีแม้จะแค่สองวันก็เถอะ
…
ไม่ไหว!
รอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว
แบคฮยอนลุกพรวดออกจากห้องนอนที่บ้านของพี่ชายไปพร้อมกับกุญแจรถและของใช้ที่นำมาจากบ้าน
นี่มันก็หลายชั่วโมงมาแล้วแต่ใบหน้าที่เหนื่อยล้าของชานยอลกับความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นกับตัวเองมันก็ไม่จางหายไปสักที
ยังไงแบคฮยอนก็ต้องกลับบ้านคืนนี้ให้ได้
ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงมินิคูเปอร์สีแดงสดก็มาจอดเทียบหน้าบ้านในเวลาสองทุ่มตรง
ร่างบางลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านทันทีเสียงการ์ตูนเรื่องโปรดกับเสียงพูดคุยของพ่อลูกดังเข้าให้ได้ยินในตอนที่แบคฮยอนเดินมาที่ห้องรับแขก
ยืนยิ้มอยู่พักหนึ่งก็พบกับดวงตากลมโตน่ารักของลูกชาย
ฮยอนอินยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้ามาหา
“แม่ฮะ!!!”
!!!
ป๊าชานยอลที่นอนลูบพุงเจ้าตัวเล็กระหว่างดูการ์ตูนก็ถึงกับยกศีรษะขึ้นมองไปที่ประตูห้อง
ร่างนุ่มนิ่มของคนรักที่คิดถึงปรากฏพร้อมกับรอยยิ้ม
ถึงจะแปลกใจแต่ชานยอลก็ดีใจที่ได้เห็น ร่างสูงปล่อยลูกชายที่กำลังดิ้นลงให้เจ้าตัวเขาคลานไปหาแม่
“ซอง”
“อื้ออ มะ มะ” ตะเกียกตะกายขาขอให้อุ้ม
..
ฟอด
“คิดถึงจังเลย” หอมแก้มกลมๆของลูกๆไปคนละสองทีให้สมกับความคิดถึงที่มี
เด็กๆเองก็ล้อมรอบผลัดกันหอมแก้มบ้างกอดบ้างจนแบคฮยอนถึงกับยิ้มกว้างออกมา
ใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
รู้เพียงแค่ว่ามีสายตาของใครบางคนจ้องมองอยู่แล้วคนๆนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากสามีสุดที่รัก
แบคฮยอนอุ้มชานซองเดินเข้ามาหาคนรักแล้วนั่งลงข้างๆพร้อมกับส่งยิ้มให้
“ทำไมกลับเร็ว”
“ก็กลัวใครแถวนี้คิดถึง”
“…”
ไม่มีคำพูดใดนอกจากรอยยิ้มไม่ต่างกัน
“ทานข้าวกันหรือยัง?”
“ทานแล้วค่ะแม่”
“แม่ทานยังค๊าบ”
“แม่ทานเรียบร้อยแล้วครับ แล้วพวกหนูอาบน้ำกันหรือยังลูก”
“ยังเลยค่ะ ป๊าบอกว่าให้ดูการ์ตูนจบก่อนค่อยไปอาบแล้วค่อยนอน” ซอลฮวารายงาน
“แต่แม่ว่าแฝดควรไปอาบน้ำนอนแล้วนะ พรุ่งนี้หนูต้องไปโรงเรียนกันนินา”
“ฮ้าวววว ฮยอนก็ง่วงแล้ว งั้นฮยอนไปอาบน้ำรอให้แม่ไปกล่อมนอนนะค้าบ”
“โอเคครับ เดี๋ยวแม่ตามไปนะ” ลูบหัวกลมๆของแฝดก่อนจะให้ทั้งคู่ขึ้นไปอาบน้ำ
พอแฝดเดินไปจนลับตาแล้วก็หันมาหาเจ้าลูกชายคนเล็กที่ยังเอาแต่ซบตักไม่เลิกคงจะคิดถึงแม่มากล่ะสิชานซอง
“เหนื่อยหรือเปล่า”
“หือ…เค้าสิต้องถาม
อยู่กับเด็กๆเหนื่อยหรือเปล่าฮะป๊า” สางกลุ่มผมสีดำขึ้น
ความอิดโรยบนใบหน้ายังปรากฏให้เห็น
“ไม่เหนื่อยหรอก” ชัดเจนขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับอีกนะ
แต่เอาเถอะแบคฮยอนรู้ว่าชานยอลไม่อยากทำให้ตนเป็นห่วง
“ตัวเองขึ้นไปพักเถอะ เดี๋ยวเค้าเอาลูกนอนแล้วตามไป”
ชานยอลพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
เขาบิดเอวเล็กน้อยคลายความเมื่อยล้าเพราะนอนเป็นเบาะให้ชานซองเป็นเวลานานไหนก่อนหน้านั้นจะเป็นพาหนะให้ลูกๆเล่นอีก
ตอนนี้ทั้งร่างกายของชานยอลปวดเมื่อยไปหมดแล้ว
จุ๊บ!
“เก่งมากเลยป๊า นอนพักไปก่อนนะ……เดี๋ยวลูกหลับแล้วเค้ากลับมาให้รางวัล”
หอมแก้มคนรักไปฟอดใหญ่ส่งท้ายก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปปล่อยให้คุณพ่อคนเก่งนอนแผ่หราอยู่บนเตียงเช่นเดิม
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากหลังเสียงประตูห้องปิดลง ใช่แล้ว…ชานยอลยังไม่หลับสนิทดีนักตอนแรกว่าจะนอนเลยโดยที่ไม่รอภรรยาแต่ประโยคเมื่อครู่ที่ได้ยินมันทำให้ความเหนื่อยที่มีมาสองวันเต็มๆจางหายไปบ้างแม้จะไม่ทั้งหมด
เขาไม่แน่ใจว่าแบคฮยอนรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่ได้หลับสนิทเพียงแค่เคลิ้มๆเท่านั้น
ชานยอลไม่ได้ใจจดใจจ่อรอรางวัลที่คนรักบอกแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ว่าคืออะไร
โอเคยอมรับก็ได้ว่าคิดถึงร่างกายนุ่มนิ่มของแบคฮยอนแล้วก็ยอมรับว่าตัวเองต้องการอยู่มาก
มันก็ช่วยไม่ได้เพราะร่างกายของแบคฮยอนเรียกร้องให้เข้าไปฟัดไปนัวเนียอยู่ได้ตลอดเวลา
มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ทั้งคู่แสดงความรักต่อกันแบบนี้
ลูกสามแล้วยังไง…อายุเข้าวัยกลางคนแล้วยังไง
ตราบใดที่เขายังฟิตและมีแรงชานยอลก็สามารถทำให้เมียสุดที่รักร้องครางได้เหมือนเดิมก็แล้วกัน
21.43
กลิ่นหอมอ่อนๆจากครีมอาบน้ำลอยมาแตะจมูกบวกกับความเย็นที่ได้รับบริเวณผิวแก้มเปลือกตาสีอ่อนค่อยๆหรี่เปิดขึ้นจนเมื่อเห็นดวงตากลมโตทั้งสองข้าง
รอยยิ้มหวานจากคนตรงหน้าทำเอาคนที่เพิ่งตื่นจากการงีบยิ้มตาม
ใบหน้าหล่อเอียงปรับองศาให้ปลายจมูกเย็นๆของคนรักจรดลงอย่างตามใจ
ริมฝีปากบางไล่จูบลากมาตั้งแต่ใบหูจนถึงอวัยวะเดียวกันอดไม่ได้ที่จะเผยองับเอากลีบปากบางจนได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆของคนขี้ยั่ว
“ลูกหลับแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มถามทั้งที่จมูกของทั้งคู่ยังคลอเคลียกันอยู่
“ฮะ”
นานแล้วที่ไม่ได้ยินคำพูดน่ารักๆแบบนี้
ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาแบคฮยอนพูดจาไม่เพราะกับสามีแต่ว่าตั้งแต่เปลี่ยนสรรพนามเรียกกันจากคุณกับผมเป็นเค้ากับตัวเอง
แบคฮยอนก็ไม่ค่อยขานรับหรือตอบคำถามที่ลงท้ายด้วย ‘ฮะ’ เลย
มากสุดก็แค่น้ำเสียงหวานที่แสนอ่อนโยนเท่านั้น
พอมาได้ฟังแบบนี้หัวใจของปาร์คชานยอลก็เต้นตุ้บๆเลยล่ะ
“คิดถึง”
“คิดถึงเหมือนกัน อยากกอด อยากหอม”
“งั้นคืนนี้ก็ชดเชยสิ”
“ได้เหรอ ไม่เหนื่อยหรือไง”
“เหนื่อยแค่ไหนถ้าได้ฟัดเมียย่อมได้อยู่แล้ว”
“ป๊าชานยอลคนหื่น”
“ไม่หื่นจะได้ลูกสามเหรอครับเมีย”
“บ้า”
“รัก”
>////<
ตายๆๆๆๆ นี่แบคฮยอนจะตายเพราะคำพูดหวานๆของสามีไหมเนี่ย
“ไหนคิดถึงแค่ไหนบอกสิ” ยกร่างเล็กของภรรยาที่กึ่งนอนกึ่งนั่งขึ้นมาวางทับร่างของตัวเองไว้
มือหนาลูบไล้ปัดผ่านผิวเนียนผ่านเนื้อผ้าบางเบา
แบคฮยอนนี่ร้ายกาจไม่เบาเลยนะถึงได้จงใจสวมแค่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขากับกางเกงชั้นในตัวจิ๋วแบบนี้
ถ้าไม่ติดว่าเขาทำหมันแล้วล่ะก็
แบคฮยอนได้ตั้งท้องที่สามของลูกคนที่สี่แน่บอกเลย!
CUT
อยู่ที่เดิมเลยฮับ!
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจ(?)แบคฮยอนก็หลับไปด้วยความเหนื่อย
ทั้งๆที่ความจริงแล้วควรจะเป็นชานยอลมากกว่าเพราะเขาต้องเลี้ยงลูกด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
แต่ก็นะเขาเป็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีและพ่อของลูกความแข็งแรงนั้นย่อมมีมากอยู่แล้ว
“อื้อ”
“นอนนะ เดี๋ยวเค้าเช็ดตัวให้” คงเป็นเพราะแบคฮยอนรู้สึกวูบวาบบริเวณที่สามีเช็ดตัวให้ถึงได้ตื่นขึ้นมา
แต่พอได้ยินสุ้มเสียงอ่อนโยนก็หลับไปอีกครั้ง
ใช้เวลาเพียงไม่นานชานยอลก็เช็ดตัวให้คนรักจนเสร็จแล้วเขาก็เข้าไปอาบน้ำชำระกายบ้าง
เวลาล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มแล้ว กายสูงที่อยู่ในชุดนอนเดินออกจากห้องของตัวเองไปที่ห้องของแฝดเพื่อไปรับลูกชายคนเล็กมานอนด้วยเพราะเกรงว่าถ้าปล่อยให้เจ้าตัวเล็กตื่นมาในตอนเช้าโดยไม่มีพ่อแม่นอนอยู่ด้วยจะเกิดการงอแงได้
ภาพที่เห็นทำเอาคุณพ่อลูกสามยิ้มออกมาเมื่อลูกทั้งสามมานอนรวมกันอยู่ที่เตียงเดียวกันโดยชานซองนอนอยู่ตรงกลางเหมือนทุกครั้ง
ชานซองน้อยหันหน้าเข้าหาพี่ชายใบหน้าของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกันและห่างกันไม่มาก
ดูดีๆแล้วเหมือนชานยอลได้เห็นตัวเขาและแบคฮยอนในวัยเด็กเลย
คุณพ่อค่อยๆนั่งลงข้างลูกสาวที่นอนกอดพี่กระต่ายเน่า จมูกโด่งสูดความหอมจากกลุ่มผมนุ่มฟอดใหญ่แถมด้วยจุ้บที่หน้าผากมนไปอีกหนึ่งทีแล้วเผื่อแผ่ความรักไปให้ฮยอนอิน
มือหนาลูบหัวลูกเบาๆ เพียงแค่ได้นั่งมองลูกทั้งสามก็ทำให้หัวใจของคุณพ่อพองโตราวกับว่ามีความรักเบ่งบานอยู่ตลอดเวลา
ความรักที่บริสุทธิ์และความรักที่เติบโตอยู่ตลอดเวลาและไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด…
ค่อยๆประคองอุ้มร่างของชานซองขึ้นอย่างเบามือด้วยกลัวว่าจะตื่น
เจ้าตัวเล็กบิดดายเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาจนเมื่อได้มานอนลงที่เตียงข้างๆแม่ที่นอนหลับไปก่อนแล้ว
บางทีชานซองอาจจะรู้ตัวหรือเปล่าถึงได้หันหน้าเข้าหาแบคฮยอนและเบียดกายไปใกล้กว่าเดิม
ในช่วงเวลานี้ความสุขที่ชานยอลได้รับและไม่เคยคิดจะหาสิ่งใดมาแทนสิ่งๆนี้คือการที่ได้มองเห็นคนที่รักที่สุดก่อนจะนอนและช่วงเวลาตื่นนอนเป็นสิ่งแรก
ซึ่งตอนนี้เขากำลังซึมซับมันอยู่
ความสุขที่ได้มาโดยไม่ต้องไขว่คว้าเพราะบุคคลทั้งสี่นี้ได้เต็มใจหยิบยื่นมาให้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักและความสุขเช่นกัน
.
.
.
.
“ฝันดีครับ ที่รักของป๊า”
Talk…จบแล้วค่า สำหรับตอนพิเศษ
กว่าจะจบได้นี่ใช้เวลานาน…มว็ากกก ณ จุดนี้ไรเตอร์ต้องขออภัยจริงๆค่ะ หวังว่าตอนพิเศษนี้จำให้หลายๆคนยิ้มได้นะคะ
เอ็นจอยรีดดิ้งค่ะ
ปูลงรู…ตามที่เคยเกริ่นไว้ว่าจะมีตอนพิเศษมาอีกหนึ่งเรื่อง
คอยติดตามได้เร็วๆนี้ค่ะ
อย่าลืมสกรีม #ฟิครักคือชานแบค ร่วมกับ #ซุปเปอร์แมนชานยอล นะคะ
ความคิดเห็น