-
"ปรากฏการณ์"
Dr.Pop ใช้คำนี้ในคำโปรยเปิดตัว บันทึกพลิกโลก หรือ Fate Diary
ผลงานล่าสุดที่จะการันตีถึงความเป็นมืออาชีพด้าน Sci-Fi ของนักเขียนที่ครองใจเยาวชนไทยและคนอ่านอีกหลากหลายที่ติดตาม
สิ่งแรกที่ผู้วิจารณ์คาดหวังจาก บันทึกพลิกโลก คือ ความแปลกใหม่
การเดินเรื่องที่ไม่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
แต่มีปมปัญหามากมายที่ยังไม่คลี่คลายโปรยไว้ตามทาง
เรื่องย่อ...
เนื่องจาก Fate Diary ตัวของ Dr.Pop ต้องการให้เป็นซีรี่ส์แยกต่างหากจากผลงานก่อนหน้า ทำให้ผู้อ่านสามารถรับรู้เรื่องราวได้ 100% เรื่องเริ่มต้นกล่าวถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไล่ตามลำดับจากสมุดบันทึกช่วยจำของ แอนดี้ เราซ์ ผูกโยงสู่ปมความลับที่นำไปสู่
บางอย่างที่ลึกลับนามว่า ซอด และ เด็กชายที่มีรูปดวงตาสีเลือดนามว่า มีก้า ความเกี่ยวโยงต่างๆ ถูกตัวเอกนำมาร้อยต่อ เพื่อคลี่คลายปริศนา โดยเรื่องเริ่มต้นด้วยการเดินทางเพื่อตามหาคำตอบของปริศนาที่ยังไม่ถูกเฉลยออกมา ตัวละครที่กุมความลำสำคัญกำลังจะถูกสอบสวนเพื่อนำไปผู้อ่านไปสู่ความจริง...
เมื่อกวาดสายตาดูอย่างถ้วนทั่ว..
Fate Diary ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เป็นจริงแก่ผู้วิจารณ์
ด้วยจุดเด่นของ โครงเรื่อง ที่มีความเป็นแฟนตาซีผสานกับจินตนาการ เปิดหัวด้วยมุมมองของการเล่าเรื่อง ซึ่งกล่าวโดยตัวเอกของนิยาย ส่งผลให้บทบาทและมุมมองของเรื่อง ไม่ล่วงรู้ หรือตัดสินความรู้สึกนึกคิด จิตใจของตัวละครตัวใดไปเสียทีเดียว
ตรงกันข้าม...
Dr.Pop ได้เชิญชวนให้ผู้อ่าน มีโอกาสพิจารณา มองบทบาทของตัวละครในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างอิสระ และเต็มไปด้วยจินตนาการที่ถ่ายทอดผ่านวลีที่เป็นลักษณะเฉพาะของ Dr.Pop เอง
ตัวละคร...
ใน Fate Diary แต่ละตัวละครอ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือน เป็นคนที่เรารู้จัก และพบเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน ไม่ดีสุดโต่ง หรือ ชั่วสุดขีด ต่างก็มีปมของตัวเอง และปริศนาที่เหมือนส่วนของจิ๊กซอว์นำมาต่อร้อยเรียงให้เกิดความสมบูรณ์
การเลือกฉาก...
ยังคงหยิบยกเอาสิ่งที่กลุ่มผู้อ่านจะสามารถนึกถึงและจินตนาการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แรงจูงใจของตัวละครมีความสมเหตุสมผลในระดับที่ต้องติดตาม
นอกเหนือจากนั้น...
จุดเด่นที่ผู้วิจารณ์ไม่อาจละเลยได้ คือ Dr.Pop ยังคงสอดแทรกแนวคิด การใช้ชีวิต มิตรภาพ และคำว่าเพื่อน การเคารพคุณค่าของตัวเองไว้ด้วยเสมอ เช่นเดียวกับในบทที่หนึ่ง ซึ่ง "เสียดสี" การอ่านหนังสือรวยทางลัดของวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่เพิ่มพูน และกระหายความสำเร็จชั่วเวลาอันข้ามคืนอย่างไม่หยุดหย่อน
โดยลืมมองไปว่า ต้นตอของปัญหา คือความไม่พยายามของตัวเอง
หากคุณอ่าน Fate Diary แล้วไม่หยุดคิดตาม
นั่นแปลว่าคุณ "แค่อ่านผ่านๆ" โดยลืมมองแก่นของมันไป
ผู้วิจารณ์เชื่ออย่างเต็มหัวใจว่า
บันทึกพลิกโลก บทต่อไป จะพิสูจน์ตัวเองแก่ผู้อ่าน
ว่าควรค่าแก่คำว่า "ปรากฏการณ์" เพียงใด...
ความคิดเห็นที่ 19
By Aler 49 อัพเดท 2015-03-18 18:14
ความคิดเห็นที่ 18
By RaIn-Ing อัพเดท 2015-03-12 02:10
ความคิดเห็นที่ 17
By RaIn-Ing อัพเดท 2015-03-12 01:49
ความคิดเห็นที่ 16
ข้อความนี้ถูกลบแล้ว
By RaIn-Ing อัพเดท 2015-03-12 01:47
ความคิดเห็นที่ 15
ด้วยเหตุนี้เราว่าหากฟัง Brand loyalty มากไป รับรองว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีวันก้าวพ้นจากปัญหาได้แน่
อย่างน้อยเป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่สายนิยายก็อยากให้ลงนิยายคุณภาพสูงออกมาสักหน่อย เนื่องจากเราก็จะได้ประโยชน์ด้วย เพราะที่เคืองอยู่ก็แค่คุณภาพผลงานที่ไม่สมกับการเป็นไอดอลอย่างเดียวนี่แหละ
ส่วนคำแนะนำว่าควรจะทำยังไงต่อ
คิดว่าควรจะเลิกโฟกัสที่ยอดวิวไปนะ (โฟกัสแน่นอน ลงวันที่ 1 มีค. พอดีเลย แถมโฆษณาทุกตอนอีก) รวมถึงการสัญญาว่าจะลงวันละตอนด้วย (เพราะเอาเข้าจริง อัพเดทวันนึงหลายครั้งจะได้ยอดวิวมากกว่าลงวันละตอนนะ)
โดยตอนนี้ปัญหาสำคัญคือ ตัวนิยายยังไม่สนุก มีคำผิดมาก... อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะสำหรับคำผิด เพราะคนที่อ่านเอาอรรถรสไม่เอาการอวยเข้าจะรำคาญใจเอามาก ๆ ยิ่งเจอบ่อยถึงเรื่องสนุกแค่ไหนก็จะทำให้เบือนหน้าหนีแทน
ดังนั้นถึงอัพเดทวันละตอน ก็จะมี Brand loyalty เท่านั้นที่มาดู แต่นักอ่านใหม่หรือคนนอกไม่เข้ามากันหรอก ทำให้นิยายเรื่องนี้จะกลับมาฮิตติดท็อปคงจะเป็นไปได้ยาก (อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ชี้วัดคือวันแรกนั่นแหละ คนเข้ามาดูให้เพียบ แต่ส่วนใหญ่อ่านแล้วก็คิดว่าไม่สนุกเท่าคำกล่าวอ้าง เลยเฟดตัวหายไปดื้อ ๆ โดยไม่กลับมาอ่านอีก)
ด้วยเหตุนี้ โฟกัสกับการเขียนไปอย่างเดียวเลย ไม่ต้องลงวันละตอนอีกต่อไป แต่อาจจะสามวันตอนหรือสัปดาห์ละตอนก็ได้
แล้วเขียนตุนไปให้เยอะ ๆ ก่อน สักสิบตอนก็ได้ แล้วค่อยลงทีละตอน เพราะทำแบบนั้นจะมีเวลานั่งทบทวนว่าตอนเก่าที่เคยเขียนควรที่จะกลับมาปรับแก้ตรงไหนให้สนุกขึ้นหรือไม่ และก่อนจะเอามาลงก็ตรวจทานและรีไรท์อีกสักรอบ ซึ่งจะทำให้คำผิดลดลงไปได้มากอย่างแน่นอน
ไม่รู้ว่ามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่านะ แต่เราก็แค่อยากให้เรื่องนี้สนุกขึ้น มีคุณภาพมากขึ้นก็เท่านั้น
อ๊ะ ลืมไปอีกเรื่อง ระวัง แมรี่ซู ด้วยล่ะ
By ซ่อนนาม อัพเดท 2015-03-11 10:23
ความคิดเห็นที่ 14
ส่วนบอกว่าไม่บอกสถานที่จะได้จินตนาการเองเราว่าไม่ใช่ เพราะรู้สึกไม่ได้เลยถึงความแตกต่างแต่ละสถานที่ ถ้าเคยไปแต่ละประเทศจะพบว่าแต่ละประเทศมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน อย่างน้อยก็ชุดที่สวมใส่ล่ะ เพราะร้อนหนาวชื้นแห้งไม่เท่ากัน แต่เรื่องนี้สัมผัสตรงนั้นไม่ได้เลย เหมือนใส่ชุดหุ่นกระบอกกำลังเล่นละครในห้องที่มืดมิดเท่านั้น ซึ่งที่จริงเรื่องพวกนี้ก็ทำได้ง่ายมากนะ เช่นการใส่เกร็ดเล็ก ๆ ไปเช่น แดดกรุงเทพร้อนมว๊ากกลับมาที่ออฟฟิตต้องรีบเปิดแอร์เบอร์แรงสุดทันที เดินเรียบหาดแม่ลำพึงลมทะเลพัดมาทำให้ตัวเหนียวไปหมดอยากอาบน้ำชะมัดไม่นาใส่สูทมาเดินแบบนี้เลย หรือตื่นเช้าในดอยสุเทพแม้จะเข้าฤดูหนาวแล้วแต่ยังมีไอสีขาวออกมาจากปากอยู่เลย อยากดื่มกาแฟร้อน ๆ สักแก้วจัง ซึ่งพวกนี้ชี้นำไปนิดหน่อยก็สามารถจินตนาการต่อได้ แถมยังทำให้ตัวละครดูมีมิติไม่เป็นแค่หุ่นกระบอกอีก ทว่าไม่เป็นกับเรื่องนี้ เพราะไม่มีอะไรชี้นำจึงเหมือนอย่างที่บอกหุ่นกระบอกเล่นละครให้ดูในห้องที่มืดมิด จนไม่อาจสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกหรือบรรยากาศของสถานที่ได้เลย
เรื่องเนื้อเรื่องเข้มข้นซับซ้อนก็... นิยายที่ติดท็อปหลายเรื่องทำได้ดีกว่านะ อย่างน้อยที่สุดซับซ้อนของเรื่องนี้ไม่คิดว่าซับซ้อนจริง แต่เพราะตัดฉากจนงงเลยดูซับซ้อนทั้งที่เอาเข้าจริง หากดำเนินเรื่องให้ดีก็ไม่อาจเรียกว่าถึงขั้นซับซ้อนได้ ยังไม่รวมถึงเนื้อหาที่สั้นแต่รีบซับซ้อนแล้วจะทำให้เกิดปัญหามากกว่า แน่นอนเรื่องความลับก็ด้วย การสร้างปริศนาต้องมาพร้อมกับการทำให้คนอ่านอินกับเนื้อเรื่องและตัวละครด้วย หากทำไม่ได้จะทำให้งงมากกว่าน่าติดตาม ทว่าเราคิดว่าเรื่องนี้ยังทำแบบนั้นไม่ได้นะ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ตามต่อก็เป็น Brand loyalty ทั้งนั้น
นอกจากนี้ คำวิจารณ์ในด้านบวกเรื่องอื่น ๆ ค่อนข้างเป็นกลางเกินไป ลองปิดชื่อเรื่องชื่อคนแต่งแล้วเอาไปใส่ในนิยายเรื่องอื่นดูนะ ถ้าเป็นเรื่องที่เข้าข่ายมีองค์ประกอบเดียวกัน ร้อยทั้งร้อย ก็ใช้คำวิจารณ์เชิงบวกแบบนี้ร่วมกันได้ทั้งหมด กลับกันยังเข้ากับเรื่องพวกนั้นมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเรื่องอื่นมีเนื้อหาที่เยอะกว่า เนื้อเรื่องและตัวละครก็อินได้มากกว่า
By ซ่อนนาม อัพเดท 2015-03-11 10:23
ความคิดเห็นที่ 13
นอกจากนี้ยังมีจุดหนึ่งที่อันตราย
"แฟนคลับ"
ลองดูได้ ว่าต่างจากเรื่องอื่นมาก เพราะเรื่องนี้จะมีความเห็นที่เป็นแฟนคลับทั้งนั้น ไม่เห็นคนอ่านทั่วไปเลยนะ
ดังนั้นคนที่เข้ามาอ่านมีแต่แฟนคลับหรือเปล่า ?
จุดนี้อาจจะเป็นข้อดี แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นข้อเสีย อย่างน้อยที่สุดแฟนคลับที่้เหนียวแน่นเกินไปจะพูดอวยอย่างเดียว ซึ่งจุดนี้จะไม่มีการติเพื่อก่อเกิดขึ้น เพราะคนอ่านทั่วไปจะไม่กล้าเข้ามาติหรอกกลัวโดนรุม และเคยเกิดขึ้นมาแล้วด้วย (มีแต่เรานั่นแหละที่ยังบ้าพออยู่ - ฮา) ทำให้ไม่อาจรู้ได้เลยว่านิยายมีจุดอ่อนอะไร ซึ่งเราว่าเรื่องนี้มีจุดอ่อนเพียบ เจอแบบนี้รับรองว่าไปถึงไหนไม่ได้แน่
และเน้นอีกครั้ง คนอ่านมีแต่แฟนคลับหรือเปล่า ?
เพราะพูดตามตรงอันดับในหมวดนิยายลดฮวบจนน่าตกใจมาก ตอนแรกวันที่ 1 มีค ติด 1 ใน 5 ไม่ใช่เหรอ ? แต่วันนี้กลับหลุด 1 ใน 20 ไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับนิยายของผู้เขียนที่มาทีไรก็ได้อันดับ 1 อยู่ตลอด ?
ถ้ามีคนนอกเข้ามาอ่านด้วย อันดับก็ไม่น่าจะลดฮวบเท่านี้สิ
ยังไม่รวมถึงคนกดไลค์เพจมีตั้ง 5 แสนคนไม่ใช่เหรอ ? ถ้าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาหน่อย อันดับ 1 หนีไปไหนไม่พ้นแน่
แต่ทำไมอันดับถึงยังลดได้ ? เป็นเพราะคนส่วนใหญ่ตระหนักว่าที่จริงมันไม่สนุกหรือเปล่า ?
ตอนนี้เราว่า Brand loyalty จะทำให้เกิดปัญหามากกว่า เพราะมีไม่มากพอจะให้ขึ้นสู่อันดับหนึ่ง กลับกันยังจะไปบดบังจนไม่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแทน
By ซ่อนนาม อัพเดท 2015-03-11 10:21
ความคิดเห็นที่ 12
ข้อความนี้ถูกลบแล้ว
By 12edBlade อัพเดท 2015-03-11 08:57
ความคิดเห็นที่ 11
By 12edBlade อัพเดท 2015-03-11 08:53
ความคิดเห็นที่ 10
By cheetaPonlawat อัพเดท 2015-03-11 00:48