อุณหภูมิที่คงความร้อนแรงซึ่งจ้องทำลายผิวผู้หญิงเราเสมอ ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนแสงแดดก็ไม่เคยหายไปเลยจริงๆ ครีมกันแดดจึงเหมือนคู่ขาที่ต้องอยู่กับเราในทุกๆ วัน วันไหนขาดเธอ ผิวหน้าขาดใจแน่นอน แต่เสาวๆเป็นกันไหมคะ ทาครีมกันแดดทุกวัน แต่ทำไมผิวยังคล้ำเสียอยู่อีกเปลี่ยนครีมกันแดด จนไม่รู้ว่าจะใช้ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดีแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เรามองข้ามก็ได้นะคะ นั่นก็คือการทาครีมกันแดดแบบผิดๆ เลยทำให้ผิวไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ไปดูพฤติกรรมการทาครีมทาแดดแบบผิดๆ กันค่ะว่าเรามีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า
เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันไม่ครบทุกแสง UV ข้อนี้เป็นจุดสำคัญเลยนะคะ เพราะว่าในแสงแดดมีรังสี UV อยู่หลายประเภท รังสีที่ส่งผลกระทบทำให้ผิวของเราคล่ำเสีย และแก่เร็วนั่นก็คือ UVA ส่วน UVB จะทำให้ผิวคล้ำขึ้นด้วยเช่นกัน ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องแสง UV ได้ครบทุกตัว โดยเลือกครีมที่มีทั้งค่า SPF และ PA ค่ะ
คิดว่าแค่ใช้เครื่องสำอางที่ผสมสารกันแดดก็เพียงพอแล้ว ทุกวันนี้มีเครื่อสำอางที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดแทบจะทุกตัวเลย แต่จริงๆ แล้วสารกันแดดในนั้นยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันผิวนะคะ ควรทาครีมกันแดดทับลงไปอีกทีหนึ่งด้วย
ใช้ครีมกันแดดหน้าและตัวรวมกัน ควรใช้ครีมกันแดดแบบเฉพาะจุดดีกว่านะคะบริเวณผิวหน้าก็ควรใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ลำตัวก็ควรใช้เฉพาะกันแดดผิวตัว เพราะว่าผิวหน้าและลำตัวมีความแตกต่างกัน เช่นผิวหน้าบอกบางกว่า ระคายเคืองได้ง่าย เกิดสิวได้ง่าย จึงไม่ควรรวมกันนะคะ
ไม่ทาครีมกันแดดในวันที่ฟ้าครึ้ม อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดมากว่าฟ้าครื้ม ฝนตก ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้เพราะต่อให้แสงแดดไม่แรงแต่รังสี UV ก็ยังมีอยู่รอบตัวเรานะคะ เพื่อไม่ให้ผิวคล้ำเสีย ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันดีกว่าน้า
ลองเลี่ยงวิธีทาครีมกันแดดผิดวิธีตามบทความด้านบนดูนะคะอาจจะช่วยให้ผิวมีการเกราะปกป้องทั้งวัน และไม่คล้ำเสียได้แล้วค่ะ การทา "ครีมกันแดด" ให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ควรทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อย้ำเกราะป้องกันรังสี UV ที่จะทำให้ผิวคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัยให้แน่นหนา สำหรับครีมกันแดดทาหน้า นอกจากทาใบหน้าแล้ว อย่าลืมทาให้ทั่วลำคอและใบหูด้วยนะคะ
ความคิดเห็น