ok-lets
ดู Blog ทั้งหมด

ยุคไซเบอร์ทำให้คนเปลี่ยน

เขียนโดย ok-lets
  

                เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเคารพนอบน้อมผู้ใหญ่ ซึ่งเราเป็นคนไทยก็ต้องรักษาวัฒนธรรมที่ดีไว้เป็นแบบอย่างให้รุ่นลูกรุ่นหลานนะคะ
 

              
ในปัจจุบันนี้วัฒนธรรมไทยเกี่ยวกับการเคารพผู้ใหญ่และการมีสัมมาคารวะได้ค่อยๆเลือนหายไปจากสังคมเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ก็จะหาเด็กที่มีสัมมาคารวะ เคารพผู้ใหญ่จริงๆนั้นได้ยากมากๆ เนื่องจาก สังคมไทยที่เปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากสื่อ เทคโนโลยีต่างๆ และรับวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามาซะเป็นส่วนใหญ่โดยไม่ได้มีการกลั่นกรองหรือมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของเรา ทำให้คนไทยส่วนมากเริ่มจะลืม...ลืมว่าเรานั้นเป็นคนไทย ต้องอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมืองสืบทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานสืบไป  อีกทั้งเทคโนโลยี และความเจริญทางด้านวัตถุเข้ามาก็ทำให้คนเปลี่ยนได้ แม้แต่กระทั่งกับเด็กๆ ผู้เป็นอนาคตของชาติ 

 

              
ในสมัยโบราณ เด็กๆถูกสอนให้รู้จักการไหว้ การมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ พ่อแม่ และครูบาอาจารย์ และรู้จักทำบุญเข้าวัด ฟังธรรม ส่วนใหญ่ครอบครัวจะอบอุ่น อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ทำให้เด็กๆเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี รู้จักนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ พูดจาก็ดูดีมีสัมมาคารวะ คงไม่มีใครกล้าพูดจาหยาบคาย ไม่เคารพผู้ใหญ่ เพราะคงจะถูกผู้ใหญ่ทำโทษด้วยการเฆี่ยน ตี หรือทำโทษอย่างอื่นที่คิดว่าเหมาะสมกับความผิด

                แต่ในปัจจุบันนั้น เนื่องจากสื่อและเทคโนโลยีเข้ามามากทำให้เด็กๆในยุคนี้หรือที่เรียกว่า ยุคโลกาภิวัฒน์เปลี่ยนไปจากเด็กสมัยโบราณอย่างสิ้นเชิง อาจจะด้วยไม่ได้รับการดูแลอบรมที่ดีจากครอบครัว หมกมุ่นอยู่กับสิ่งเร้าซึ่งก็คือ เทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย เช่น อินเตอร์เน็ต ที่ทำให้เด็กบางคนเปลี่ยนไปอย่างมาก จากเด็กเรียบร้อยน่ารัก กลายเป็นเด็กก้าวร้าวเพราะติดเกมส์  และอื่นๆอีกมากมายหลายปัญหานับไม่ถ้วน

 

              
เหตุการณ์แรกนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งดูแล้ว มันน่าสมเพชมากๆ ทำให้เห็นว่า โลกของเราทุกวันนี้นอกจากจะมีปัญหาปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ให้โทษแล้ว ยังมีปัญหาเกี่ยวกับมนุษย์และสังคมอีกมากมายนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว



               
วันนั้นฉันเรียนวิชาทำอาหารในห้องทำอาหาร อาจารย์ผู้สอนนั้นก็เป็นคนดุ...ดุมาก...มากจนถึงมากที่สุด  เจ้าระเบียบ ซึ่งเป็นใครใครก็ไม่ชอบให้มีคนมาจู้จี้ขี้บ่นเจ้าระเบียบหรอก ฉันก็คนหนึ่งล่ะ ที่ไม่ชอบเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า ฉันจะทำตัวให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ถูกจู้จี้ขี้บ่นนั่นเอง     ในโรงเรียนของทุกๆคน มันก็ต้องมีคนดีกับคนไม่ดี และสิ่งที่ฉันคิดว่า ซวยที่สุด ก็คือ ดันไปเรียนห้องเดียวกับไอ่พวกเด็กมหาประลัยของโรงเรียนเนี่ยสิคะ ฉันไม่ได้รังเกียจ เพียงแต่ฉันแค่ไม่ชอบการกระทำที่พวกเขาแสดงออกมาอย่างก้าวร้าวก็เท่านั้นเอง  พวกเขาเดินเข้ามาในห้อง เดินเข้ามาถึง อาจารย์ที่สอนก็เรียกเก็บงานที่ให้ส่ง ปรากฏว่า พวกเขาไม่มีส่งค่ะ
!!! แล้วอย่างไรต่อรู้ไหมคะ อาจารย์ผู้สอนก็เรียกไปดุด่าว่ากล่าวตักเตือนไปตามเรื่องของอาจารย์ นั่นแหละค่ะ พวกเขาก็เดินเข้ามาอย่างเงียบๆแล้วมานั่งโต๊ะข้างๆฉัน สักพัก มีอยู่คนหนึ่งในกลุ่มก็ตะโกนขึ้นมาว่า ตัวเงินตัวทองเรียกสั้นๆว่าอย่างไรคงรู้กัน ซึ่งก็เหมือนครูจะไม่สนใจและสอนต่อไป แต่พวกนั้นก็ยังกวนประสาท ต่อไป เวลาอาจารย์ถามคำถามอะไร พวกเขาก็จะตอบว่า ถามแม่มึ_สิแต่อาจารย์ก็คงไม่ได้ยินหรอก เพราะว่าถ้าได้ยินพวกนั้นคงจะโดนไปนานแล้ว  ฉันได้แต่นึกสมเพชอยู่ในใจว่า ทำไมถึงต้องไปด่าอาจารย์ด้วย ในเมื่ออาจารย์เขาหวังดีกับเรา ตั้งใจอบรมสั่งสอนให้เราเป็นคนดี แต่ทำไมถึงยังไปว่าไปด่าอาจารย์เขาอีก แน่จริงก็พูดออกมาดังๆสิ อาจารย์จะได้ได้ยิน สงสารอาจารย์ที่นั่งงกๆสอนไป แต่เด็กก็ไม่สนใจฟัง กลับมาด่ามาว่าอีก นี่แหละ คือเด็กยุคปัจจุบันของจริง ไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งปัญหานี้ ฉันคิดว่า ควรจะได้รับการแก้ไขได้แล้ว



               
หลายๆคนอาจจะมองว่า ฉันเป็นพวกประหลาด ไม่ค่อยเข้ากับคนในวัยเดียวกันได้ ก็จริงอยู่ เพราะว่าฉันเข้ากับเพื่อนในวัยเดียวกันไม่ได้แต่ก็เฉพาะพวกที่ชอบทำตัววัยรุ่น วัตถุนิยม เปลี่ยนโทรศัพท์มือถืออยู่เป็นประจำ ไม่รู้สำนึกว่า เงินที่พ่อแม่หามานั้น มันได้มายากขนาดไหน ไม่สงสารพ่อแม่หรืออย่างไร ที่ท่านต้องมาซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นกับชีวิตให้ ฉันว่า มันไร้สาระเกินไป


               
เหตุการณ์ต่อมา เกิดขึ้นในห้องเรียนห้องเดียวกับฉันเอง ฉันไม่คิดว่า ในห้องของฉัน ซึ่งเป็นห้องที่โรงเรียนตั้งเป้าไว้สูง จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ ซึ่งมันส่อให้เห็นถึงความไม่มีมารยาทเอามากๆสำหรับฉัน

 

              
หลายๆคนอาจจะเคยเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องเรียน ซึ่งฉันก็เป็นนะคะ แต่จะเล่นในช่วงพักเท่านั้น เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์สอนศิลปะ เขาเป็นอาจารย์ที่ดุมาก ยิ่งเรื่องโทรศัพท์มือถือ เขาจะยิ่งแอนตี้เกลียดมากๆ แค่หยิบมือถือขึ้นมาดูเวลานิดเดียว ถ้าสายตาของอาจารย์มองไปเห็น เป็นอันว่า มือถือเครื่องนั้นจะโดนยึดทันที  แล้วก็ต้องให้ผู้ปกครองมารับคืนด้วย แต่เพื่อนในห้องคนนี้ เขาไม่กลัวค่ะ ก็คล้ายๆพวกที่อยู่ในเหตุการณ์แรก แต่ดีกว่าก็คือ เรียนเก่งกว่า ก็เลยได้อยู่ห้องดีๆแบบนี้

 

              
เขาเอาโทรศัพท์ของเพื่อนอีกคนมาเล่น มานั่งฟังเพลงในชั่วโมงเรียน ซึ่งอาจารย์ที่กล่าวไว้ข้างต้นเขาไม่อยู่ แต่พอเขากลับมาเห็นเล่นมือถืออยู่ ก็โดนยึดทันที แล้วบอกว่าวันรุ่งขึ้นให้มาพบ พอวันรุ่งขึ้นไปพบอาจารย์ปุ๊บ  เขาก็ใส่อารมณ์กับอาจารย์ทันที ซึ่งกิริยาแบบนี้ เป็นใครใครก็ไม่ชอบกันทั้งนั้นแหละค่ะ จริงไหม
?



               
ฉันเลยได้แต่สงสัยว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ คนส่วนใหญ่ถึงไม่ค่อยมีความเคารพ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่เลยแม้แต่น้อย กลับด่าว่าเถียงกลับด้วยซ้ำ ครอบครัวสมัยนี้ไม่มีเวลาสอนลูกให้รู้จักกิริยามารยาทไทยบ้างหรือ? หรือว่าให้ลูกหมกมุ่น อยู่กับโลกไซเบอร์ เทคโนโลยีแปลกๆใหม่ๆจนเสียคนหมดแล้ว ฉันก็เล่นเหมือนกัน อินเตอร์เน็ต เพียงแต่....ฉันใช้มันในทางที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น ได้ใช้เป็นที่ลงบล็อกนี้ เป็นต้น



               
มีประโยคหนึ่ง ที่อาจารย์คนหนึ่งได้พูดไว้ แล้วประทับใจมาก อาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า สิ่งที่เราทำนั้น นานๆเข้าก็จะกลายเป็นนิสัย และยิ่งนานไป มันก็จะกลายเป็นสันดาน เพราะฉะนั้น ให้เราทำแต่สิ่งที่ดี เพื่อจะได้เป็นนิสัยที่ดี และกลายเป็นสันดานดี ติดตัวเราไปตลอดค่ะ

               

เป็นบล็อกเรื่องแรกอาจจะไม่ได้ยาวและแต่งได้ไม่ดีนัก  อีกทั้งง่วงอยู่ ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นแหละค่ะ  ถ้ามีโอกาสจะเอามาลงอีกเรื่อยๆนะคะ 

             

          

 



ความคิดเห็น

bung
bung 12 มิ.ย. 54 / 00:19
"เทคโนโลยีเจริญขึ้น สังคมยิ่งต่ำลง"
พี่ว่าคำนี้สื่อความหมายได้ชัดเจนอยู่แล้ว

ทุกวันนี้ระบบการศึกษาของไทย
เฝ้าปลูกฝังให้เด็กมองไปแต่ข้างหน้า
หรือมอง "ข้างบน" แต่ไม่เคยมองย้อนกลับ
ทุกโรงเรียนมีสื่อการสอนทันสมัยขึ้น
แต่ไม่มีการปลูกฝังจิตสำนึกเหมือนเมื่อก่อน

เด็กที่เคารพอาจารย์หลายคน
ถูกเพื่อนแบนว่าเป็นคนขี้ประจบ
หวังคะแนน หรือไม่ก็เป็นพวกหัวอ่อน
ส่วนเด็กวัยรุ่นทั่วไปกลับมองอาจารย์ก็แค่ "คน" ไม่ใช่ "ครู"

ไม่ใช่เพียงแต่เทคโนโลยีจะกล่อมเกลาจิตใจคนให้หยาบกระด้าง
มันยังทำให้คนเรามีความอดทนต่ำลง
ต้องติดตามข่าวสารให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ?
ทั้งที่ก่อนไม่มีทวิตเตอร์กับเฟซเราก็อยู่มาได้??
แล้วตอนนี้ต้องมี? ต้องเหมือนเพื่อน?
ไม่มี ไม่เหมือน จะเป็นคนไม่ทันโลก
แล้วไม่ทันโลกจะอย่างไร?... ไม่ทันคนงั้นรึ?
แล้วที่โดนหลอกทางอินเตอร์เน็ต
เพราะความทันโลก หรือทันคนกันแน่??

เทคโนโลยี ข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย
เพียงแต่ใครหลายคนใช้ในทางที่ผิด
แล้วก็ใช้ข้อเสียมากกว่าข้อดีเท่านั้นเอง

ปัญหานี้...แก้ได้ง่ายๆ ก็แค่เริ่มที่ "ตัวเรา" นั่นแหละ
เทคโนโลยีไม่ใช่ทางออกของทุกสิ่ง
สติ unfollow me
สติ unfollow me 13 มิ.ย. 54 / 09:01

ไม่รู้นะ ไม่ได้อ่านหมดเเต่อ่านคร่าวๆเเล้วก็..
ของเเต่ละอย่างมันก็มีทั้งข้อดีเเละข้อเสียของมันอยู่ในตัวเอง
อย่างสีขาวเเละสีดำ ทุกอย่างย่อมมีข้อดีเเละข้อเสียของมันเอง อย่างการดื่มนม ข้อดีคือสูง ข้อเสียมีคนวิจัยว่าทำให้ลำไส้เป็นเมือก   อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็คิดว่า การมีเน็ตก็มีคนตั้งเวปบทสวดธรรมมะ บ้างก็ตั้งเวป nc  คนเราไม่เหมือนกันมนุษย์มีทั้งต่ำสุดกว่าสัตว์เเละยังสูงกว่าทุกสิ่ง ง่ายๆครับ "ทำใจ"  ส่วนพวกที่ไม่เคารพผู้ใหญ่น่ะครับถ้ามองในเเง่ของผมคือ เขาอาจอยู่ในวัยคึกคะนอง ถ้าเขาโตขึ้นไปเขาก็จะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมัน "ไม่น่ารักเอาซะเลย"