ด้วยปีกแห่งรัก - นิยาย ด้วยปีกแห่งรัก : Dek-D.com - Writer
×

    ด้วยปีกแห่งรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    614

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    614

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    3
    จำนวนตอน :  8 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  9 ส.ค. 54 / 11:34 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         ด้วยปีกแห่งรัก
           
            
                                                                                                                บทที่ 1
                           
    วันสุดท้ายของปีการศึกษา
    นอกเมืองเขตชายแดนเหนือสุดของประเทศไทย ตึกโบราณก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงแบบอิตาลี   คอนแวนต์เก่าแก่แห่งนี้สร้างมานานหลายปี ก่อตั้งขึ้นในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตกอย่างกว้างขวาง มิชชันนารีเริ่มมีการเข้าเผยแพร่พระศาสนา เด็กมาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในตัวจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงคหบดีผู้มั่งคั่งมักนิยมส่งบุตรหลานมาเรียนที่คอนแวนต์แห่งนี้
    พิธีแจกประกาศนียบัตรกับนักเรียนชั้นเรียนในปีสุดท้าย ได้สิ้นสุดลง
    วันนี้มีการแจกประกาศนียบัตร นักเรียนสาวของคอนแวนต์ กลุ่มใหญ่กำลังส่งเสียงคุยกัน ในกลุ่มนั้นมีเด็กนักเรียนสาวรุ่นหน้าตาสะสวย ผิวพรรณดีและ กิริยาท่าทางเรียบร้อย ปะปนอยู่นั้นด้วย ผู้ปกครองของนักนักเรียนในคอนแวนต์ หลายคนที่มาในงาน มองดูอย่างชื่นชมและนึกกันว่าเธอเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ท่านใดกัน
    เสียงนุ่มไพเราะอ่อนหวานน่าฟังที่ขึ้นไปกล่าวขอขอบคุณเป็นตัวแทนของนักเรียนที่จบการศึกษาปีนี้ เมื่อลงมาจากเวทีเพื่อนต่างเข้าร่วมยินดีกับเด็กสาว ที่มือมีรางวัลการเรียนดีเด่นและมารยาทเรียบร้อย หลายรอบที่เธอเวียนขึ้นไปรับรางวัลบนเวที เด็กสาวดูโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเพื่อนๆนักเรียน ผิวหน้าตาไม่บอกเลยว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านเก็บมาเลี้ยง ได้ยินเสียงถามกันจากคณะแม่ชีที่มาร่วมงานครั้งนี้ที่มาจากที่อื่น ว่าเด็กสาวที่เวียนขึ้นไปรับรางวัลครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นลูกสาวของผู้ใด ท่านแอบยิ้มและภูมิใจเด็กสาวเหลือเกินไม่ได้ทำให้ท่านผิดหวังเลยสักนิด
    ช่วงบ่ายหลังจากเสร็จการกินเลี้ยงร่วมกันระหว่างคณะอาจารย์นักเรียนและแขกผู้มาร่วมงาน เริ่มแยกย้ายกันไปหามุมสวยๆถ่ายภาพ เสียงเพื่อนในกลุ่มร้องชวนเด็กสาวมาร่วมภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก หลายครั้งที่เพื่อนๆในกลุ่มวิ่งมาจูงมือ เสียงหัวเราะเบาๆที่ได้ยินบอกให้ผู้พบเห็น รู้ได้ว่าพวกสาวๆทั้งหลายมีความสุขหลังจากที่เรียนกันหนักมาในหลายปีที่ผ่านมา
    แม่อธิการหญิงสาวสูงวัยรูปร่างอ้วนใหญ่ สวมชุดแม่ชีสีดำ ที่คอสวมสร้อยประคำ ท่านเดินมาหยุดยืนตรงเก้าอี้ที่เด็กสาวนั่งอยู่แม่อธิการมองที่ใบหน้ารูปไข่ งดงาม นวลผ่อง ผิวเป็นสีชมพูจัด ตาโตดำสนิท คิ้วเรียวสวยขนตาหนางอนเป็นแพ รับจมูกโด่ง ปากอิ่มเต็ม ผมยาวตรงสีดำและนุ่นน่าสัมผัส อกเต่งตึงเอวรับกับสะโพกและช่วงขายาวเพรียว รูปทรงสูงระหง แม้จะอยู่ในนักเรียน ก็ดูสวยงดงามสะดุดตา
    สวัสดีค่ะแม่อธิการ
    กลุ่มสาวๆกล่าวทักเมื่อท่านเดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ ท่านยิ้มตอบให้เหล่าสาวๆ
    บีย่า
    ค่ะ แม่อธิการ
    แม่อธิการ มีธุระจะคุยด้วย
                      แม่อธิการกล่าวรอยยิ้มเบาๆ
    เด็กสาวหันไปขอตัว เดินตามท่านออกมา แยกตัวจากกลุ่มเพื่อน แม่อธิการท่านเห็นว่าไกลออกมาพอสมควรที่จะคุยกันสะดวก ท่านหยุดนั่งลงที่เก้าอี้หันหลังมองกลับไปท่าน เห็นบรรดาญาติๆของนักเรียนที่มารับบุตรหลานกลับบ้าน กำลังถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกให้กับบุตรหลานในวันจบการศึกษา
    หนูคงรู้แล้ว วันนี้เพื่อนของหนูเกือบจะทุกคนคงกลับบ้านพร้อมผู้ปกครอง
    ท่านกล่าวพร้อมถอนหายใจเบาๆ
    แล้วที่เหลือก็คงอีกไม่กี่วันผู้ปกครองก็คงมารับกลับกันไปหมด
    แม่อธิการบอก ท่านเองก็ลำบากใจที่จะพูดเช่นกัน         
    เด็กสาวก็พอจะเข้าใจกฎระเบียบของที่นี่ เธอก็เป็นเด็กกำพร้าของที่คอนแวนต์แห่งนี้เพราะความเมตตาจากคณะแม่ชีเลี้ยงดูเธอมา ทุกคนมีผู้ปกครองมารับกับบ้านแต่เธอไม่มี เด็กสาวสำนึกในบุญคุณเสมอมาเธอเปลี่ยนจากนั่งเก้าอี้ ลงมาคุกเข่าที่พื้นกราบลงที่ตักของท่าน แหงนหน้าน้ำตาคลอมองแม่อธิการ มือของผู้อาวุโสลูบที่หลังของเด็กสาวเบาๆ ความชื้นหยดลงที่ตักทำให้แม่อธิการลอบถอนหายใจ สงสารเด็กสาวอย่างจับใจมืออูมลูบที่ผมเบาๆ ท่านหันหน้าขึ้นมองไม้กางเขน ที่มีรูปปั้นพระเยซูคริสต์เจ้าที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนของผนังวิหาร
    ลุกขึ้นมาเถอะลูก นั่งตามสบาย
    ท่านเอื้อมมือไปแตะที่แขนให้เธอลุกขึ้น
    เด็กสาวลุกขึ้นนั่งเก้าอี้ถัดไปอีกตัว มือวางประสานที่ตัก หลังตรง ก้มหน้าต่ำ
    แม่อธิการขยับเข้ามาใกล้เด็กสาวใช้มือทั้งสองข้างกุมมือเธอไว้ พร้อมถอนหายใจ
    เมื่อเรียนจบแล้ว หนูคิดไว้หรือยังจะทำอะไรต่อ
    ท่านถามอย่างเอ็นดู
    เด็กสาวนั่งก้มหน้าเงียบ 
    ท่านเองเห็นภาพนี้แล้ว ก็สะท้านใจจนต้องเปลี่ยนความตั้งใจเดิมที่จะมาพูดกับเด็กสาว
    หนูอยากเรียนไหม เรียนต่อก็ได้นะ
    แม่อธิการเอ่ยถาม
    หนูมีสิทธิ์ที่จะเรียนต่อเหมือนเพื่อนๆ แม่จะหาทุนให้หนูเรียนต่อทางศาสนาเพื่อกลับมาเป็นครูสอนที่คอนแวนต์ หรืออาจจะต้องเดินทางไปทำหน้าที่ในดินแดนที่ยังไม่เจริญเพื่อรับใช้พระศาสนา นั้นหมายถึงหนูต้องบวชก่อนเดินทางไปเรียนต่อ   แม่จะส่งหนูไปเรียนต่อที่โรมว่าอย่างไร มันเป็นเพียงความคิดเห็นของคณะแม่ชีที่นี้เท่านั้น หนูน่าจะรู้ระเบียบของที่นี่เมื่อเรียนจบ ทุกคนต้องกลับบ้าน จะอยู่ต่อไปได้ต้องเป็นแม่ชีเท่านั้น หนูเป็นลูกของพระเจ้าพระองค์เป็นผู้เลือกทางเดินให้หนูต่างหากว่าจะต้องไปทางไหน ไม่มีการบังคับ ทุกอย่างอยู่ที่น้ำพระทัยของพระองค์ ไม่มีใครรู้จิตกุศลจะดลใจของหนูเอง
    หนูเป็นเด็กกำพร้าชีวิตของหนูเป็นสมบัติที่นี่ของคอนแวนต์ สุดแท้แต่แม่อธิการเห็นสมควรค่ะ
    หล่อนไม่กล้ากล่าวอะไรออกไปอีกน้ำตาพาลจะไหลออกมา
    ไปหาเพื่อนเถอะลูก อีกนานกว่าจะได้เจอกัน
    ท่านอนุญาตเมื่อคุยธุระกับเด็กสาวเสร็จแล้ว
    แม่อธิการเดินเข้าไปในวิหาร ตามองตรงที่รูปปั้นพระเยซูคริสต์เจ้าท่านหยุดเดิน นั่งคุกเข่าที่แท่นอธิฐาน
    ข้าแต่พระแม่และพระบุตร
    ท่านสวดอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ทรงพระเมตตาดลจิตใจให้เด็กน้อยผู้งดงามดั่งเทพเนรมิตให้มีจิตใจกุศลถวายตัวต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยเถิด คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยทางศาสนา
    แม่เทพธิดาตัวน้อยหนูเติบโตมาอย่างบริสุทธิ์แวดล้อมด้วยความรักที่ไร้พิษภัย ในอ้อมแขนของพระแม่และพระบุตร   ของพระผู้สถิตอยู่ ณ เบื้องบนได้โปรดประทานพระพร จึงทำให้เด็กน้อยเติบโตงดงามดั่งเทพธิดา อีกทั้งมีสติปัญญาความเฉียบแหลมเพียบพร้อมทุกอย่าง ตามประสงค์ของระองค์
     
    ผ้าเย็น ค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
    ถึงเชียงราย แล้วหรือค่ะ
    เสียงผู้โดยสารถามพนักงานต้อนรับที่กำลังเดินแจกผ้าเย็น                             
    อีกประมาณสิบห้านาทีค่ะ
    แสงไฟดวงน้อยในรถโดยสาร ทยอยเปิดขึ้นที่ละดวงๆ
    แสงสลัวๆ จากนอกหน้าต่างรถ เริ่มสว่างทำให้มองเห็นบ้านหมู่บ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นใหม่ เต็มไปหมด ตลอดสองข้างทาง แทนนาข้าวที่เคยเห็นเมื่อก่อน
    สี่ปีแล้วสินะ
    หญิงสาวเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯกลางดึก มาถึงในเช้ามืดของวันใหม่  
    ถึงบ้านแล้ว
    หญิงสาวยิ้มบอกกลับตัวเอง
    มองทุกอย่างรอบๆตัว ที่เปลี่ยนแปลงไปมากจากสี่ปีที่แล้ว 
    ตึกหลังโตๆขึ้นมาแทนบ้านไม้หลังเล็ก ร้านค้าจากเมื่อก่อนมีเพียงไม่กี่ร้าน  แต่ตอนนี้ที่เธอเห็นมีเต็มไปหมด
    หญิงสาวเดินไปหยุดมองที่ป้ายข้างรถสองแถว เขียนบอกว่า คอนแวนต์
    คอนแวนต์ หมู่บ้านริมดอย เชียงสอง ครับ
    พี่คนสวย ไปไหมครับ รถจะออกแล้ว
    พี่ไปด้วยคนจ๊ะ
    รถสองแถวจอดส่งเธอที่หน้าคอนแวนต์
    มือของหญิงสาวที่ถือกระเป๋ากระชับกำแน่นขึ้น ที่อื่นเปลี่ยนแต่สำหรับที่นี้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เท้าที่ก้าวเดินอย่างมั่นคง
    เสียงระฆัง ตีดังขึ้น
    สายตาของเธอมองตรงไปบนยอดวิหาร ระฆังใบโตกำลังตีสลับไปมา
    เสียงคณะแม่ชีและนักเรียนร้องเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้าดังมาจากในโบสถ์หลังเก่า
    ความรู้สึกเดิมๆ ความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับจากเล็กจนโต เมื่อคิดถึงก็อดทำให้น้ำตาพาลจะไหล
    เด็กกำพร้าเช่นเธอ
    ซึ่งไม่รู้ว่าในโลกใบนี้เธอ ยังมีญาติอยู่ที่ไหนของมุมโลก
    ตอนเป็นเด็กเธอเคยสงสัยว่าทำไม ไม่มีใครมารับหล่อนกลับบ้านในช่วงปิดเทอมเหมือนเพื่อนๆ หลายครั้งที่ยืนแอบมองดูครอบครัวเพื่อน แล้วร้องไห้
    นานวันเข้า จึงกลายเป็นความชาชินในใจดวงน้อยนี้ของเธอ
    บอกกับตัวเองว่า คอนแวนต์ คือบ้าน คนที่นี่ คือญาติของเธอ
    เมื่อสี่ปีก่อน
    แม่อธิการช่วยหาทุนจากผู้ใจบุญในต่างประเทศ เพื่อช่วยให้เธอได้เรียนต่อ
    เธอได้เรียนต่อเพราะ ความเมตตาจากท่าน ไม่เช่นนั้นเด็กกำพร้าอย่างเธอก็คงไม่มีโอกาสเช่นวันนี้
     
    เคาะๆ
    ขออนุญาตคะ แม่อธิการ
    เชิญ จ๊ะ
    หญิงสาวค่อยๆเปิด ประตูไม้สีน้ำตาลบานหนา เดินเข้ามาอย่างสำรวมหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานของท่าน
    แม่อธิการเงยหน้าจากเอกสารที่อ่านอยู่
    บีย่าเหรอลูก ทำไมหนูไม่โทรศัพท์ มาบอกก่อนว่าจะกลับมาถึงวันนี้ จะได้ให้คนไปคอยรับที่ท่ารถ
    ขอบคุณค่ะ หนูมาเองก็ไม่ลำบากอะไรค่ะ
    หญิงสาววางกระเป๋าลงที่พื้น ก่อนเดินอ้อมเข้าไป ก้มลงกราบที่ตักผู้อาวุโสกว่า
    หนูเก่งมาก ทุกคนที่นี่ภูมิใจในตัวหนู
    มืออบอุ่นคู่เดิมที่โอบอุ้มดูแล โอบกอดเธอ
    สี่ปีแล้วสินะ ที่หนูไปเรียนที่กรุงเทพฯ
    หนูคิดถึง ที่นี่ตลอดค่ะ
    ไหนขอแม่อธิการดูให้เติมตาสิ
    ท่านเชยคางมองหน้าหญิงสาว
    หนูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก
    เห็นว่าได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยใช่ไหม
    หญิงสาวเงยหน้ายิ้มกับท่าน
    หนูมีวันนี้ได้เพราะแม่อธิการเมตตาคะ
    เพราะตัวหนูเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้น
    หนูอยากจะเรียนจบเร็วๆ จะได้มีโอกาสไปช่วยเหลือคนในถิ่นกันดารอย่างที่แม่อธิการตั้งใจ ไงคะ
    แม่อธิการ ยิ้มบีบมือที่กุมไว้อย่างตื้นตันใจ
    หนูมีใจเป็นกุศล เป็นเด็กดี 
    เรื่องเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่โรม แม่อธิการคิดว่าคงหลังจากานรับปริญญาตรีสินะ
    ค่ะ หนูจะอยู่ที่นี่ช่วยคณะแม่ชีสอนเด็กๆ จนกว่าจำถึงกำหนดการเดินทางไปโรมคะ
    เพิ่งเรียนจบ หนูไม่เหนื่อยเหรอลูก แม่อธิการว่า พักสักหน่อยก่อนไม่ดีกว่ารึ
    ไม่เหนื่อยคะ พรุ่งนี้หนูว่าจะเริ่มสอนเลยได้ไหมคะ
    ก็ได้จ๊ะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้หนูเดินทางมาทั้งคืนแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ให้คนทำความสะอาดห้องหนูไว้ล่ะจ๊ะ
    ขอบคุณมากค่ะ แม่อธิการ
    ลมเย็นพัดผ้าม่านปลิว พากลิ่นหอมจากดอกไม้ป่า เข้ามาทางหน้าต่าง
    ห้องนอนยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเมื่อก่อน หญิงสาววางกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่บนเตียงนอน เปิดออกนำเสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่กี่ชุดไปจัดแขวนใส่ตู้ไม้ใบเก่า
    แรกๆนักเรียนต่างพากันกลัวกับข่าวที่ว่าจะมีคุณครูคนใหม่มาสอน
    ทุกๆห้องเรียน จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงดังลั่นห้องเกี่ยวกับเรื่องคุณครูคนใหม่ 
    รู้เพียงว่าคุณครูเป็นรุ่นพี่ของที่นี่เพิ่งเรียนจบมาจากกรุงเทพและเรียนเก่งมากด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
    แต่หลังจากที่ ได้เรียนกับคุณครูคนใหม่แล้ว ต่างก็บอกคุณครูใจดีและไม่ดุเลย
    ห้องพักครู
    หญิงสาวกำลังตรวจการบ้านของนักเรียน
    บีย่า แม่อธิการให้เธอไปหา นะจ๊ะ
    ขอบคุณค่ะ แม่ชีฟองจัน
     
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
    เสียงเคาะประตูสามครั้ง
    เข้ามา
    เสียงท่านอนุญาต
    นั่งลงสิ บีย่า
    แม่อธิการ มีเรื่องจะปรึกษา
    ค่ะ
    หนูจำท่านชิคได้ไหมลูก
    จำได้ค่ะ ท่านเป็นผู้ใจบุญมาบริจาคทุนให้หนูได้เรียนต่อค่ะ
    หล่อนตอบ
    ใช่จ๊ะ
    แล้วถ้าตอนนี้ ท่านมีความประสงค์อยากจะขอให้ทางเรา ช่วยท่านบ้างอย่าง หนูจะว่าอย่างไร
    กับหนูรึค่ะ
    จ๊ะ
    ถ้าหนูได้มีโอกาสตอบแทนท่านได้บ้าง หนูก็เต็มใจค่ะ
    คือว่า
    แม่อธิการ ถอนหายใจก่อนจะกล่าวขึ้น
    จะขัดข้องไหมถ้าการไปเรียนต่อปริญญาโทของหนู  จะขอให้เลื่อนออกไปสักปี
     ผู้อาวุโสกว่าขอความเห็นจากเด็กสาว
    คือว่า ท่านชิคต้องการคนที่ไว้ใจได้เป็นผู้หญิง ที่สามารถพูดฝรั่งเศส อังกฤษได้ เพื่อไปสอนภาษาให้องค์หญิงที่เป็นหลานสาวของท่าน
     จากผลการเรียนของหนูที่ส่งไปให้ท่านดูทุกปี ท่านพอใจมากกับผลการเรียนของหนู ภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ อีกทั้งอารบิคซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของที่นั้นด้วย
    ท่านเลย ขอตัวหนูมา
    เจ้าหน้าที่จากสถานทูต นำจดหมายของท่านมาให้ เมื่อเช้านี้เอง
    แม่อธิการใช้สายตามองเด็กสาวนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของท่าน พร้อมถอนหายใจ อีกครั้ง ท่านเองก็อยากที่เดาได้
    จากเด็กหญิงสาวตัวน้อยๆ แต่ตอนนี้ท่านเองก็มิอาจจะเถียงได้ว่า เด็กน้อยคนนั้นตอนนี้ได้กลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง เด็กสาวเติบโตขึ้นมาในโลกที่ขาวสะอาดจากคอนแวนต์ แม้แต่กำหนดการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็จะในการดูแลของคณะแม่ชี 
    แต่ความรู้สึกตอนนี้ ต่างกันท่านจึงเป็นห่วงและกลัว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี 
    หนูต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ
    หญิงสาวพอมองออกว่าท่านลำบากใจที่จะพูด
    ต้องไปอยู่ที่โน้นหนึ่งปี ก่อนที่เจ้าหญิงจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ
    ความรู้สึกลึกๆแล้วในใจ ของท่านเองก็กลัว ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้นั้นเกิดขึ้นมาเพราะอะไร  
    ถ้าแม่อธิการเห็นสมควร หนูก็ไม่ขัดข้องค่ะ
    แม่อธิการ ท่านเว้นระยะสักครู่ ก่อนจะเอยต่อกับเด็กสาว
    ครบหนึ่งปีหนูสามารถจะไปเรียนต่อที่ไหนใดก็ได้ ท่านจะออกทุนการศึกษาให้เรียนต่อตามสาขาที่ต้องการอยากเรียน นั้นคือจะได้เรียนต่อโดยไม่ต้องบวชเป็นแม่ชี หรือถ้าจะอยากอยู่ทำงานที่โน้นก็ได้นะ
    เรียนอะไรต่อก็ได้
    หญิงสาวเผลอลืมตัวเงยหน้าขึ้น
    โบราณคดี คือสิ่งที่เธออยากเรียนมากที่สุด แต่เธอก็ไม่อาจเลือกเรียนได้
    สบตาโดยบังเอิญกับแม่อธิการ ดวงตามีแววสดใส ประกายแวบเดียวก่อนที่จะเศร้าเช่นเดิม 
    แต่แม่อธิการก็ทันมองเห็นแววตาแวบนั้นของหญิงสาว ทำให้พอจะเข้าใจว่าจริงแท้แล้ว อย่างไรเสีย หญิงสาวก็คงอยากออกไปโบยบินในโลกกว้างมากกว่า เป็นปกติวิสัย 
    แม่อยากให้หนูเอาไปคิดดูดีๆก่อนให้คำตอบแม่ก็ได้
    แม่อธิการถามความเห็นจากหญิงสาว
    แม่อธิการเองกับคณะแม่ชีที่ก็ปรึกษากันแล้วว่า ก่อนที่ลูกจะถวายตัวในพระศาสนา น่าจะให้โอกาสลูกได้ใช้เวลาในช่วงหนึ่งปีนี้ก่อนตัดสินใจ
    แม่อธิการบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
    จะไม่มีการบังคับหนูนะ จะไปหรือไม่ อยู่ที่ความเต็มใจ หนูมีสิทธิ์ที่จะเลือก
    น้ำเสียงที่เอื้ออาทรจากผู้อาวุโสกล่าวต่อ
    แม่อธิการค่ะ ชีวิตของหนูมีวันนี้ได้เพราะคอนแวนต์ ที่เมตตาหนูค่ะ
    หญิงสาวรู้สึกผิดที่เผลอแสดงสยตาออกไปเช่นนั้น ท่านคงรู้และคงเสียใจในตัวเธอ ยิ่งได้ยินสิ่งที่แม่อธิการกล่าวกับเธออย่างห่วงใย เธอยิ่งเสียใจ
    ทำไมถึงพูดเช่นนี้ล่ะ หนูเป็นสิ่งที่พระเจ้าประท่านมาให้คอนแวนต์แห่งนี้
    แม่อธิการถอนหายใจเฮือกใหญ่ ท่านเลี้ยงดูเด็กสาวจากเด็กตัวน้อยๆ
     แม่อยากเห็นหนูมีความสุขนะ
    แม่อธิการบอก
     หนูเปลี่ยนใจได้ลูก
    แม่อธิการบอกอย่างปราณี
    คิดเสียให้ดีอีกที แล้วค่อยมาให้คำตอบกับแม่
    หนูไม่เปลี่ยนใจค่ะ
    หล่อนยืนยันคำตอบเสียงหนักแน่น
    หนูจะกลับมาบวชถวายตัวเพื่อไปเรียนต่อที่โรม ตามที่แม่อธิการและคณะแม่ชีต้องการค่ะ ที่นี่คือบ้านและญาติของหนู หนูต้องกลับมาค่ะ
    บีย่า หนูไม่ต้องให้สัญญาก็ได้ สักวันหนูอาจจะเสียใจก็ได้ ที่ให้สัญญาแบบนี้
    ท่านเดินไปยกมือของเด็กสาวมากุมไว้
    หนูจะไม่เสียใจค่ะ หนูจะกลับมา ตามสัญญาค่ะ
    สัญญาที่แม่จะขอจากหนูมีแค่เพียง หนูให้สัญญากับแม่ว่าถ้าอยู่ไม่ได้ หนูต้องกลับมาที่นี่คือบ้านของหนู ทุกคนที่นี่รอหนูกลับมานะลูก
    แม่อธิการกอดสาวน้อยไว้แน่น 
    ก่อนเดินไปที่ตู้กระจกหยิบกล่องกำมะหยี่เล็กๆเปิดออกมาหยิบสร้อยคอทองคำขาวเส้นเล็ก จี้ดอกบัวกลีบดอกทำด้วยไพลินน้ำงามล้อมเกสรสีเหลืองด้วยเพชรลูก แสงสะท้านไฟระยิบจับตาจนแทบตะลึง
    สร้อยเส้นนี้อยู่ในห่อผ้าที่ห่อหนูมา ท่านกดสปริงออกสวมให้เด็กสาว
    หลังจากที่คณะแม่ชีทำเรื่องเพื่อไม่ให้หนูเธอถูกส่งไปอยู่สถานสงค์เคราะห์ บาทหลวงอีกท่านที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้ เมื่อท่านเห็นจี้รูปดอกบัวสีน้ำเงินท่านก็ตั้งชื่อหนูว่า บีย่า ท่านบอกแม่เพียงว่า บีย่าคือชื่อดอกบัวโบราญเป็นดอกเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวแทนแห่งความรัก ของคนนูเบีย
    แม่เห็นว่า หนูโตพอที่จะเก็บรักษามัน ไว้เองได้แล้ว
    ตัวแทนแห่งความรัก จ๊ะ ชื่อหนูแปลว่าตัวแทนแห่งความรัก
    เด็กสาวเอยเสียงสั่น น้ำตาคลอ มือลูบคลำสร้อยกำจี้ไว้แน่น เหมือนจะขอความอบอุ่นจากมัน
    ขอบคุณคะ แม่อธิการ
    เด็กสาวพนมมือไหว้ขอบคุณ
    บรรยากาศในห้องมีแต่ความเงียบผู้อาวุโสกลับมีทีท่าสงบเยือกเย็นยิ่งขึ้น   เหมือนจะเป็นลางสังหรณ์บอกให้รู้ว่าอะไรหนอ ที่กำลังรอให้เด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ราวเทพธิดาคนนี้จะได้พบเจอ
    ทางโน้นเค้า ก็ต้องการให้ไปเร็วที่สุดนะลูก
    ค่ะ หนูพร้อมค่ะ
    ถ้าหนูไม่ติดขัดอะไร
    ค่ะ
    ยิ่งได้ยินหนูพูดแบบนี้ แม่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย
    หนูสัญญาจะดูแลตัวเองดีๆคะ
    แต่หนูโตและใช้ชีวิตข้างในนี้มาตลอด ชีวิตข้างนอกนั้นมันช่างแตกต่างกับในคอนแวนต์ ทำให้แม่อดห่วงหนูไมได้
    หนูสัญญาค่ะ แม่อธิการหนูจะดูแลตัวเองดีๆ จะไม่ให้แม่อธิการต้องเป็นห่วง
    หนูอย่าคิดอย่างนั้นสิ แค่นี้ทางคอนแวนต์ก็เหมือนเห็นแก่ตัวแล้ว
    ไม่ค่ะ แม่อธิการ หนูต่างหากที่ดีใจที่มีโอกาสได้ทดแทนคุณ คอนแวนต์เลี้ยงดูหนูมาอย่างดี
    แม่รักหนูนะ
    ผู้อาวุโสอดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอด เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเด็กสาว
    หนูก็รักแม่อธิการเหมือนแม่แท้ๆค่ะ
     หนูอย่าลืม ที่แม่อธิการบอกนะลูก ว่าที่นี่ยังต้อนรับหนูเสมอ
    เด็กสาวซาบซึ้งในความกรุณาของท่าน เดินเข้าย่อตัวลงก้มกราบที่เท้า เงยหน้าบอกท่าน น้ำตาคลอ
    ค่ะเมื่อครบสัญญาหนูจะกลับมาค่ะ แม่อธิการดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ
    หนูไม่ต้องกังวลอะไรนะถ้าไปแล้วไม่อยากจะอยู่ต่อ แม่ฝากหนูให้ท่านทูตไทยประจำที่โน้น ช่วยดูแลหนู
    ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอำนวยพรและทรงสถิตอยู่กับลูกตลอดไป ขอให้ปลอดภัยจากสิ่งร้ายๆทุกอย่าง
    แม่อธิการกล่าวคำอวยพรแก่เด็กสาว
     
    ท่านมองตามหลังหญิงสาวจนลับสายตา
    แม่อธิการลำดับเหตุการณ์ สิบเก้าปีที่แล้ว เช้าวันนั้น ท่านเปิดประตูวิหาร   ลมเย็นสดชื่นหลังเมื่อคืนฝนตกอย่างหนัก นกน้อยส่งเสียงเจื้อยแจ้ว แข่งกับเสียงกระดิ่งสายลม กระรอกหางพวงกระโดดไปมาตามกิ่งไม้ ซุ้มดอกแก้ว ดอกพุฒกลิ่นหอมอบอวล เล็บมือนางเลื่อยตามซุ้มประตูรูปโค้งหน้าวิหาร 
    แต่ท่านชักเท้ากลับแทบไม่ทัน ชายผู้นั้นแต่งตัวมอมแมมพูดว่าอะไรท่านฟังไม่เข้าใจ ดูเขาอ่อนแรงมากนั่งพิงเสาวิหาร หน้าตาอิดโรย ข้างๆตัวมีผ้าห่อเด็กน้อยนอนดูดนิ้วเล็กๆลืมตาแป๋วจ้องมองดูท่าน ชายผู้นั้นยกมือขึ้นไหว้ท่าน สายตาท่าสงบนิ่งยากแก่การรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของท่าน ท่านถอยก่อนที่จะทรุดลงนั่งใกล้ๆเด็กน้อย ชายคนนั้นใช้มือผลักห่อผ้าที่มีเด็กเบาๆไปให้ท่าน ท่านมองชายผู้นั้นอีกครั้ง ก่อนเอื้อมมือไปทั้งสองข้างประคองห่อผ้าที่มีเด็กน้อย เมื่อมองใกล้ๆผิวเนื้อใสของเด็กน้อยแดงกล่ำและไอร้อนสัมผัสได้ ทำให้รู้ได้ว่าเด็กน้อยไม่สบายอาจตากฝนเมื่อคืนนี้   ผ้าที่ห่อดูจะชื้นท่านจึงอุ้มเด็กน้อยลุกขึ้นเดินเข้าข้างในวิหาร มีแม่ชีท่านหนึ่งเดินสวนออกมาท่านจึงฝากให้พาเด็กน้อยไปห้องพยาบาล แล้วเดินกลับออกไปดูชายคนนั้น   แต่ชายคนนั้นได้หายไปแล้ว จากวันนั้นมาท่านก็ได้รับอุปการะเด็กคนนี้ไว้ โดยไม่รู้ว่าเป็นใคร
                         

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น