ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #32 : ◣Fanfic◥ [LawxLuffy] Hey! you are my cutie code =) (Part9-END)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.17K
      61
      14 มิ.ย. 65

    Title: Hey! you are my cutie code =)
    Pairing: Law x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 9/9

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------













                  

     


     ตั้งแต่งานวันเกิดปู่นี่ก็ผ่านมาได้สามวัน... นี่ถ้าเปรียบเขาเป็นเครื่องจักรอะไรซักอย่าง ป่านนี้มันคงกำลังร้อนจัด และระเบิดตู้มจนควันโขมงไปแล้ว ต้องมาเจอหน้ากับคนที่สารภาพแบบอ้อมๆกับตัวเองไปแล้วทุกวัน... 

     

    ถึงจะซื้อบื้อขนาดไหน ก็ต้องรู้ความหมายของมันได้อยู่แล้ว... 

     

    รอยยิ้มแปลกๆที่รู้สึกได้จากใบหน้าคมคายนั้น กับการเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้นทำให้คนแบบลูฟี่แทบทำอะไรไม่ถูก ยามที่ดวงตาคมกริบนั้นมองมาที่เขาทีไร มันก็พาลให้ลูกตากลมๆของตัวเองกลิ้งออกไปด้านข้างโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะยังไงสายตาของคนๆนั้นก็อันตรายเกินไป... 

     

    วิธีแก้ปัญหาง่ายๆก็คือการไม่สบตาตรงๆ... เวลาคุยด้วยก็มองหู จมูก ปาก หรืออื่นๆไปแทน... 

     

    ก็ดูเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรแบบเขาดี... 

     

    สำหรับวันนี้ที่เป็นวันเฉลยพี่รหัส การอยู่กับเพื่อนและคนหมู่มากทำให้คนตัวเล็กพอจะสงบใจลงได้บ้าง แต่เรื่องที่ยังคงคิดไม่ตกก็คงจะเป็นเจ้าของโค้ดเนม 'HEART' ที่จนแล้วจนรอดลูฟี่ก็ยังไม่รู้อะไรซักอย่างอยู่ดี... 

     

    อุซปมั่นใจว่าพี่รหัสของเขาคือพิธีกรบอนเครย์คนสวยนั่นไม่ผิดแน่ จะมีพีรหัสซักกี่คนในโรงเรียนชายล้วนแบบนี้ ...ที่จะส่งจดหมายทักทายหน้าตาหวานเลี่ยนจนผู้หญิงยังอายแบบนั้นมาไว้ในล็อกเกอร์ของเขาทุกเย็น ส่วนซันจิก็ไปเจอผู้ชายคิ้วม้วนท่าทางขี้เก๊กชอบขยิบตาคนหนึ่ง ชื่อดูวัล... ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันอีท่าไหนเหมือนกัน ถึงได้ดูมั่นใจสุดๆ ว่าคนๆนี้คงจะกล้าเขียนชื่อโค้ดเนมที่ชวนให้ขยำทิ้งนั่นได้ไม่ผิดแน่ 

     

    การทักทายและการแนะนำตัวอีกครั้งของเหล่าพี่รหัสเป็นอันดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ...โรงเรียนแห่งนี้อย่างที่รู้กันดี ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนห้องแม้จะเลื่อนชั้นปีก็ตาม... นั่นก็ทำให้กิจกรรมรับน้องเกิดขึ้นกับชั้นม.ปลายปีสองทุกห้อง 

     

    ปากกาเมจิกหลายสีหลากยี่ห้อถูกแจกจ่ายสู่รุ่นน้องทุกคนอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะมีคำสั่งกลายๆจากรุ่นพี่ว่าให้พวกเขาเขียนชื่อคนที่กำลังสงสัยว่าเป็นพี่รหัสของตัวเองลงบนฝ่ามือ...

      

    ...ซึ่งตอนนี้ ฝ่ามือของลูฟี่ก็ยังคงว่างเปล่า 

     

    นอกจากโทราโอะกับบอนจังแล้ว... เขาก็ไม่รู้จักชื่อใครอีกเลย 

     

    แต่เรื่องนั้นก็เป็นอันต้องตกไป เมื่ออยู่ๆโลกตรงหน้าของลูฟี่ก็มืดลงกะทันหัน ผ้าสีดำที่มาจากใครก็ไม่รู้พาดผ่านบริเวณดวงตาของคนตัวเล็กที่จำเป็นต้องปิดเปลือกตาลงอย่างช่วยไม่ได้ ผูกปมด้านหลังให้พร้อมกันหลุด
    ...และเหมือนจะเป็นรุ่นน้องทุกคนที่ถูกทำแบบนั้น 

     

    มือบอบบางถูกกอบกุมไปด้วยมือของคนที่มองไม่เห็นหน้า เป็นความอบอุ่นแบบที่ตัวเขาเองก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันดี ...ผ้าปิดตาที่ผูกติดเอาไว้ค่อยๆถูกแกะออก พร้อมๆกับเสียงประกาศก้องจากลำโพงในโรงยิมว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของร่างบางและรุ่นน้องทุกคนตอนนี้ ก็คือโฉมหน้าของพี่รหัส... 

     

    เปลือกตาบางเปิดขึ้นแทบจะทันที ความสว่างจากภายนอกทำให้ต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่แล้วภาพตรงหน้าของเขาก็ค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ชายร่างสูงโปร่งสวมหมวกสีขาวที่กำลังเผยรอยยิ้มน้อยๆ เร่งให้ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น พร้อมกับเสียงเล็กที่เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว 

     

    “ ใครอ่ะ... ” 

     

    ใบหน้าเล็กเอียงออกไปด้านข้างพร้อมคิ้วเรียวที่ขมวดพันกันยุ่ง เพราะเป็นคนที่ไม่เคยจำหน้าใครได้อยู่แล้วอย่างเขา ...จะว่าไม่เคยจำหรือไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนดี... แต่จมูกเหลี่ยมๆที่ยาวออกมานั่นทำให้รู้สึกสะกิดใจแปลกๆ 

     

    พี่ชายอุซปหรอ... เอ๊ะ... หรือว่าจะเป็นอุซปอีกคน 

     

    คนๆนี้เป็นพี่รหัสของเขาจริงๆหรือ... ไม่เคยรู้มาก่อนเลย 

     

    แล้วคนที่จับมือเขาก่อนหน้านี้ล่ะ... คิดว่าไม่ใช่ผู้ชายคนนี้แน่ๆ 

     

    พร้อมๆกับความคิดหลายๆอย่างที่กำลังปนกันยุ่งของร่างเล็ก คำสารภาพมากมายก่ายกองที่ยากจะเชื่อจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้ลูฟี่รู้สึกแปลกใจ... คนๆนี้บอกว่าคอยอยู่ใกล้ๆตัวเขามาตลอด ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะไม่ได้ทันรู้ตัว ใบหน้าที่เผยรอยยิ้มทะเล้นของชายคนนี้ทำให้ต่อมเชื่อคนง่ายของลูฟี่เริ่มทำงาน 

     

    ตั้งแต่ตอนไหน... แล้วโทราโอะล่ะ...

      

    ที่ถามว่ารู้จักกันแบบไหนในตอนนั้น... ที่เข้ามารู้จักกันตั้งแต่ตอนแรก เพราะว่าไม่เกี่ยวกับการเป็นพี่รหัสน้องรหัสกันอย่างนั้นหรอ... 

     

                ฝ่ามือเล็กถูกพลิกขึ้นโดยคนตรงหน้า ความว่างเปล่ากับปากกาเมจิกที่ยังไร้ร่องรอยการเปิดฝาทำให้ชายร่างสูงต้องเลิกคิ้วขึ้น 

     

    “ นายไม่รู้เลยอย่างงั้นหรอว่าพี่รหัสเป็นใคร... แบบนี้ก็ต้องลงโทษน่ะสิ ” รอยยิ้มที่ส่งมาอีกครั้งจากคนสวมหมวกแก๊ปยิ่งทำให้ใบหน้าหวานออกไปทางซีด เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาเป็นหย่อมๆ 

     

    “ ไม่อยากโดนลงโทษเลย... ” 

     

    เสียงเอ่ยด้วยความอิดโรยนั่นส่งผลให้คนตัวสูงกว่าต้องหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ผ้าปิดตาสีดำอันเดิมถูกนำมาใช้อีกครั้ง ความมืดที่ลูฟี่ไม่สามารถมองออกได้ว่าสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร ได้แต่เตรียมตัวโดนรับการลงโทษอย่างช่วยไม่ได้... ฝ่ามือเล็กถูกกอบกุมเอาไว้อีกครั้ง ...แต่ครั้งนี้มันกลับเป็นสัมผัสจากคนที่ไม่คุ้นเคยเอาซะเลย 

     

    “ ยินดีที่ได้รู้จัก... ฉันชื่อคาคุ ที่ว่าเป็นพี่รหัสของนาย... ” เจ้าของจมูกยาวขยับเข้ามาพูดใกล้ๆ จนกระทั่งคนตัวเล็กได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นชัดเจนอยู่ข้างหู ประโยคต่อไปเป็นอันทำให้ความวุ่นวายต้องเกิดขึ้น... 

     

    “ โก-หก-น่ะ... ” 

     

    “ หา...!! ” 

     

    เสียงระงมดังขึ้นจากความแปลกใจของเหล่าคนอายุน้อยกว่า ฝีเท้าของคนหลายคนที่ดังขึ้นรอบๆแสดงให้รู้ว่า รุ่นพี่คงกำลังจะมีแผนต่อไปเป็นแน่ อยู่ๆร่างบอบบางก็รู้สึกเหมือนถูกแรงจากมือหนาของใครบางคนดึงตัวเองให้เข้าไปจนชนเข้ากับแผงอกแกร่ง อ้อมกอดอบอุ่นที่ถูกมอบให้อย่างกะทันหันให้ทำเอาคนตัวเล็กที่ยังลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ทำอะไรไม่ถูก 

     

    ผ้าที่ปิดตาอยู่เป็นอุปสรรคในการมองเห็นอย่างมาก เสียงประกาศว่า พี่รหัสตัวจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว ยิ่งทำให้บรรยากาศตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้นอีก คิ้วเรียวของลูฟี่ขมวดชนกันยุ่ง ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาดยิ่งทำให้คนตัวเล็กรู้สึกประหม่า... 

     

    มือหนาของคนตรงหน้าค่อยๆบรรจงแกะผ้าออกอย่างเชื่องช้าเหมือนกับจงใจ ร่างที่สูงกว่าเขาอยู่มากโขค่อยๆวนมาอยู่ด้านหน้า พร้อมๆกับผ้าผืนนั้นที่ถูกปลดออกให้เป็นอิสระ ...ใบหน้า ท่าทาง ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ลูฟี่รู้จักดีทั้งหมด

      

    หมวกขนสัตว์... รอยสักที่แขนและมือ ผิวสีแทน ร่างสูงชะลูดกับใบหน้าคมคายที่เผยรอยยิ้มน้อยๆแบบนั้น... 

     

    “ ..โทราโอะ!! ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมกับกระพริบปริบๆ นิ้วมือเรียวยกขึ้นมาชี้หน้ารุ่นพี่แบบสั่นๆ รอยยิ้มบนริมฝีปากหนาค่อยๆขยับกว้างกว่าเดิม จังหวะเดียวกันกับที่เสียงหัวเราะในลำคอที่เขาชอบทำจะดังขึ้น 

     

    “ ไง... ” 

     

    รอยยิ้มที่ดูเหมือนกำลังทักทายแต่ก็ยียวนสายตาคนตัวเล็กอยู่ ทำให้ความรู้สึกร้อนๆตีขึ้นมาบนใบหน้าของลูฟี่อย่างไม่ทันตั้งตัว 

     

    เป็นคนๆนี้... ทำไมถึงเป็นคนๆนี้ล่ะ

     

    ก็ไหนว่าไม่ใช่... ทั้งที่อุตส่าห์วางใจเชื่อแท้ๆ 

     

    นี่เขากำลังโดนหลอกงั้นหรอ...!! 

     

    “ ..อะไรน้าาา!! นายหรอเนี่ยยย!! ” คนรู้ตัวช้าอ้าปากค้างอย่างรับไม่ได้ เสียงเล็กที่ตะโกนออกมาแบบแปลกใจอย่างสุดขีดนั่น ทำเอาร่างสูงอดหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้ 

     

    เหลือเชื่อจริงๆ... แบบนี้ถ้าโดนหลอกไปไหนก็ไม่ตามเขาไปหมดเลยหรือไง 

     

    “ หืม...? ” 

     

    “ เน่ๆ ไม่อยากโดนลงโทษอ่ะ... ฉันจะโดนอะไรล่ะโทราโอะ ” ใบหน้าหวานเริ่มมู่เข้าหากัน พอหาที่พึ่งไม่ได้ มือเล็กก็กระตุกชายเสื้อของคนตัวสูงด้วยสีหน้าหดหู่ ...มันดูน่าขำในสายตาของลอว์มากกว่าที่จะดูน่าสงสารเสียอีก 

     

    ริมฝีปากหนาขยับยิ้มขำออกมา บางทีเขาก็รู้สึกว่าคนตัวเล็กตรงนี้ดูน่าแกล้งไปพร้อมๆกับท่าทางน่ารักกระชากใจแบบนั้น เสียงทุ้มที่ตอบกลับร่างบอบบางไป พร้อมกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ๆนั้น ยิ่งทำให้ลูฟี่ขมวดคิ้วเข้าหากันได้มากกว่าเดิม 

     

    “ ลงโทษ... แบบไหนดีล่ะ ” 

     

    สัมผัสสากๆจากหัวปากกาเมจิกที่จรดลงบนผิวหน้านิ่มๆของลูฟี่ ทำให้เจ้าตัวต้องเผลอยู่หน้าไปด้วยความรู้สึกคันยุบยิบแปลกๆ มือหนาที่ไม่รู้ว่าเขียนคำว่าอะไรลงไปบนหน้าของเขาบ้างมาพักใหญ่ ดวงตากลมโตได้แต่หลับตาปี๋กลัวว่าหมึกปากกานั้นมันจะซึมเข้ามาในดวงตาของตัวเอง 

     

    การลงโทษคือการเขียนหน้าจากรุ่นพี่ หรือรุ่นน้องที่สามารถทายโค้ดเนมได้ถูกต้อง พอปลายปากกานั้นผละออกจากใบหน้าของตัวเองได้ ลูฟี่ก็เปิดเปลือกตาขึ้นและมองไปรอบๆเพื่อสำรวจปฏิกิริยาของคนรอบข้างถึงสิ่งที่เขียนอยู่บนหน้าที่เขามองไม่เห็น 

     

    และก็น่าแปลก.... ที่ทุกคนกำลังมองด้วยใบหน้าอึ้งๆ 

     

    และทำไมบางคนจะต้องหน้าแดงด้วย... 

     

    แล้วก็ต้องยักไหล่เข้าหากันอย่างชั่งใจ ...ถึงจะยังไม่รู้ว่าเขียนอะไรไว้ แถมของที่พอจะส่องได้ในโรงยิมนี่ก็ดันไม่มีอีกต่างหาก คนตัวเล็กก็เลยตัดสินใจเมินเฉยกับเรื่องนั้นไปอย่างหน้าตาเฉย ...แต่กับการลงโทษด้วยการเขียนหน้าแบบนี้มันก็ดูจะง่ายเกินไปสำหรับเขา นึกว่าจะมีอะไรที่มันดูน่าตื่นเต้นกว่านี้ไปซะอีก

     

     และมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปสังหรณ์ใจอย่างยิ่ง... 

     

    เมื่ออยู่ๆร่างของรุ่นพี่ที่รู้จักดีจะเดินมาพร้อมกับกล่องกระดาษสีพื้นที่มีตัวอักษรเขียนเอาไว้ด้านข้างอย่างชัดเจนว่า 'บทลงโทษด้านบนมีช่องว่างรูปสี่เหลี่ยมที่กว้างพอจะให้คนล้วงมือเข้าไปหยิบฉลากขึ้นมาได้ บอนจังที่ดูท่าทางเปลี่ยนไป ดูสะดีดสะดิ้ง(?)อย่างผิดปกติตั้งแต่หันมาเจอหน้าของคนตัวเล็ก คอยยืนเป็นพิธีกรบอกเล่าขั้นตอนคร่าวๆ สายตาทุกคู่ในโรงยิมย้ายมาหยุดที่ร่างบอบบางของลูฟี่ 

     

    เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน... บทลงโทษเบื้องต้นที่คนซื้อบื้ออย่างเขาลองเดาสุ่มและพอจะคิดได้ก็มีไม่กี่อย่าง...

     

     อาจจะเป็นการให้ออกไปเต้นด้วยท่าทางที่คิดว่าน่าเกลียดในสายตาของตัวเองอย่างสุดๆ... ซึ่งนั่นมันก็พอจะทำได้อยู่ 

     

    หรืออาจจะเป็นการยอมเป็นเบ๊ให้พี่รหัสซักหนึ่งอาทิตย์... คนไม่ชอบทำตามคำสั่งใครอย่างเขาต้องทนไม่ไหวแหงๆ 

     

    หรือไม่ก็ให้สารภาพความลับที่น่าอายของตัวเองต่อหน้าคนทั้งยิม... คงเป็นอะไรทำนองนี้ล่ะมั๊ง

      

    มือเล็กค่อยๆล้วงเข้าไปในกล่องปริศนานั้นด้วยความตื่นเต้น จังหวะหัวใจที่กำลังเต้นแปลกๆมันเตือนเขาว่ากำลังมีลางไม่ดีชอบกล ทั้งที่คนตัวสูงตรงหน้าก็ยังมีท่าทางนิ่งเฉย ฉลากใบที่ถูกหยิบมาค่อยๆถูกคลี่ออกโดยร่างเล็กที่พยายามปกปิดข้อความจากโลกภายนอกอย่างสุดๆ ข้อความที่ถูกเขียนอยู่ในนั้นทำเอาลูฟี่ต้องชะงักค้างไปทั้งอย่างนั้น... 

     

    กึก...

      

    รู้สึกเหมือนถูกค้อนหนักซักสิบตันได้ทุบลงมาบนหัว ...โกหกหรือเปล่าเนี่ย

      

    “ ได้อะไรงั้นหรอหมวกฟางจัง ” รุ่นพี่ใจหญิงเดินบิดตัวเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางร่าเริง นั่นยิ่งเร่งให้มือของลูฟี่รีบยัดฉลากใบนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองไปอย่างรวดเร็ว 

     

    ระเบิดเวลาเหมือนถูกตั้งค่าให้เริ่มทำงาน... มันกำลังนับเวลาถอยหลังไปเรื่อยๆ

      

    บางทีลางสังหรณ์ของเขามันก็แม่นเกินไปจนน่าโมโห...

     

     ใบหน้าหวานกำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อมากกว่าเดิม แถมยังเอาแต่ก้มมองลงต่ำซะจนคนอื่นไม่อาจสังเกตสีหน้าตอนนี้ของเจ้าตัวได้ ร่างเล็กๆก้าวไปหยุดตรงหน้าพี่รหัสตัวเองอย่างเงียบๆ ค่อยๆเงยใบหน้าที่ดวงตากำลังเบนออกไปด้านข้างขึ้นมา

     

     ติ๊ก ตอก

      

    มันทำให้คนอย่างลอว์ต้องแปลกใจไม่น้อย... ใบหน้านั่นแดงแจ๋จนน่าตกใจ

     

     “ ..เอ่อ... คือว่านะโทราโอะ... ”

     

            เสียงเล็กๆที่กำลังสั่น กับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงเรื่อๆนั่น ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังดูฉากสารภาพรักของสาวน้อยบนชั้นดาดฟ้า คนตัวสูงรู้สึกว่าใบหน้าของเขาเองก็เริ่มจะร้อนขึ้นมาบ้างเหมือนกัน สถานการณ์ตอนนี้กำลังชวนให้คิดเข้าข้างตัวเองอย่างสุดๆ

      

    ติ๊ก ตอก

      

    “ คือว่า...ฉันน่ะนะ... ”

      

    พร้อมกับเวลาระเบิดที่เริ่มจะถอยร่นลงมาทุกวินาที... ประโยคหนึ่งยังคงดังก้องอยู่ในหัวของลูฟี่

      

    ติ๊ก ตอก

     

     “ ฉันน่ะ... ชอบ..! ”

     

     “ ชอบโทราโอะชอบมากๆ...! ชอบที่สุดเลยล่ะ! ”

     

     ตู้มมม !!

     

            ความคิดทุกอย่างเป็นอันแตกกระเจิง ใบหน้าหวานแดงโร่ไปจนถึงใบหู มือไม้เริ่มสั่น พอๆกับริมฝีปากที่ไม่รู้จะขยับพูดคำไหนต่อ หัวใจเต้นรัวเหมือนกับจะหลุดออกมาข้างนอกให้ได้ ใบหน้าคมคายของลอว์ในตอนนี้เองก็กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างหาได้ยาก สีหน้าของเขากำลังอึ้งจนไม่อาจจะหาคำใดมาเปรียบได้

      

    กะทันหันมาก... กะทันหันเกินไปแล้ว !

      

    “ ว้ายยยยย หรือว่าจะเป็นฉลากที่ให้บอกรักพี่รหัสตัวเองกันแน่นะฮ้า ...โรแมนติคโรแมนติคสุดๆเลยฮ้า! ”

      

    เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยเสียงแหลมปรี๊ดของพิธีกรที่โดนปากกาเมจิกละเลงใบหน้าจนไม่เหลือเค้าเดิม ใบหน้าประดับไปด้วยเครื่องสำอางนั้นหันไปมองร่างบอบบางที่ยังคงทำอะไรไม่ถูก สายตาจากคนในโรงยิมพากันมองสลับใบหน้าของโจทก์และจำเลยสำคัญของการลงโทษครั้งนี้ไปมารัวๆ

     

     นั่นมันการสารภาพของสาวน้อยชัดๆเลย...!

     

            ริมฝีปากบางของลูฟี่หุบฉับลงอัตโนมัติ เม้มเข้าหากันพร้อมกับดวงตากลมโตที่ดูจะเบิกค้างทิ้งไว้อย่างนั้น พยายามรักษาท่าทางให้ดูสงบเสงี่ยมมากที่สุดถึงแม้หน้าจะกำลังรู้สึกร้อนและหัวใจกำลังเต้นโครมครามขนาดนี้ ปลายเท้าเล็กค่อยๆพาร่างของตัวเองก้าวออกไปจากประตูโรงยิมอย่างเก้ๆกังๆโดยไม่มีคำอำลา 

     

    รู้แค่ว่าอยู่ตรงนี้อีกไม่ได้แล้ว... ไม่งั้นทนไม่ไหวแน่ๆ

     

      

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากการเฉลยพี่รหัสเรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กของลูฟี่ทิ้งตัวลงนั่งกับปลายเตียงของตัวเองหลังจากเพิ่งกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานนัก... จังหวะหัวใจที่เต้นแปลกๆยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตัดสินใจพูดกับโทราโอะออกไปแบบนั้น

      

    พรุ่งนี้จะเริ่มพูดคุยกันด้วยประโยคแบบไหน... แล้วไหนจะสายตาที่ทำให้รู้สึกแปลกๆไปของคนๆนั้นอีก

      

    ปลายเท้าเล็กยันขึ้นเร่งความเร็วผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องนอนเพื่อตรงเข้าสู่ห้องอาบน้ำ ดวงตากลมโตสะดุดเข้ากับลวดลายที่น่าจะเป็นตัวอักษรอยู่บนใบหน้าของตัวเอง... ทำให้ลูฟี่สะกิดใจแปลกๆ

     

     พอกลับมาถึงที่บ้าน ตั้งแต่เอสเจอหน้าเขาก็เอาแต่จ้องแล้วก็ทำท่าทางโมโห... เพราะอะไรกันนะ

      

    เลยตัดสินใจเดินกลับมาอีกครั้ง... ร่างบอบบางสะท้อนอยู่ในกระจกเงา ใบหน้าเล็กออกไปทางหวานมีแต่รอยปากกาเมจิกที่เป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ที่ถึงแม้จะส่องกระจกอยู่ ตัวอักษรก็ยังคงอ่านได้ความหมายเดิมตามปกติ

      

    ...คนเขียนตั้งใจจะเขียนตัวหนังสือกลับด้านตั้งแต่แรกเพื่อให้อ่านง่าย...เป็นคำสั้นๆแต่มีความหมายชัดเจน

     

     'รัก'

     

     รัก...คำๆนี้ถูกเขียนอยู่เต็มไปหมดตามใบหน้าของเขา... จังหวะหัวใจค่อยๆเริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

     

            และมีเพียงประโยคหนึ่งตรงแก้มด้านขวาที่ไม่ได้มีการกลับด้านเขียนแต่อย่างใด... เพื่อให้คนอื่นที่ผ่านมาเห็นใบหน้านี้ได้เข้าใจความหมายของมัน

     

     'มังกี้ ดี ลูฟี่ เป็นของฉันคนเดียวนะโว้ยยยย

     เขียนโดย ทราฟลาก้า ลอว์ '

      

    แสดงความเป็นเจ้าของเรียบร้อย... ไม่ได้ถามความสมัครใจของคนถูกเขียนเลยซักนิด...

     

     เพิ่งมารู้ว่าเขาเดินไปไหนมาไหนตั้งหลายที่ด้วยใบหน้าที่ถูกเขียนคำพวกนี้เอาไว้... ต่อหน้าคนตั้งหลายคน...

      

    “ ชิชิชิ ฉันไม่ใช่ของซักหน่อยนะ ”

     

            ริมฝีปากบางของลูฟี่ฉีกยิ้มกว้างพร้อมๆกับพวงแก้มนิ่มที่ขึ้นสีเรื่อๆ หัวใจที่อยู่ในอกมันรู้สึกพองโตขึ้นมา จะเรียกว่ากำลังรู้สึกดีใจมากๆก็คงจะได้อยู่... ปลายเท้าเล็กหมุนตรงไปยังห้องน้ำอีกครั้ง กับรอยยิ้มที่ไม่อาจจะหุบลงได้ง่ายๆ

      

    บนโต๊ะที่อยู่ไม่ห่างออกไปจากปลายเตียงนัก... ยังคงมีฉลากใบเดิมที่ถูกเก็บเอาไว้วางอยู่...

      

    กับข้อความที่คนทั้งยิมอาจจะพากันเข้าใจผิดไปแล้วก็เป็นได้...

     


     

     

    ข้อตกลง สามารถใช้โทรศัพท์ต่อสายโดยตรงได้ หรือจะเรียกให้มาตรงนี้เลยก็ได้

     

    'บอกความรู้สึกกับคนที่ชอบต่อหน้าคนทั้งโรงยิม'

     

     

     

    ฉันจะรอก็แล้วกัน วันที่นายจะบอกความรู้สึกกับฉันบ้าง... '

     

    ชิชิชิ เหมาไปเลยก็แล้วกัน...

     

     ตอบรับแล้วนะ...โทราโอะ

     

     ความรู้สึกของนายน่ะ :)

     

     

     

     

     

     

    (แถมอีกนิดดด)

     

            วันนี้ยอมรับ...ว่าตัวเขาเองกลายเป็นคนดีผิดกับปกตินัก ที่ยอมมาช่วยเพื่อนในห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆหลังกิจกรรมเฉลยพี่รหัสจบลง เพื่อนในห้องไม่น้อยที่มักจะทำท่าทางประหม่าเวลาเจอหน้าเขา

      

    วันนี้ลอว์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ... รู้สึกอย่างกับตัวเองกำลังลอยขึ้นไปบนฟ้า 

     

    บอกรักพี่รหัสหรอ... ถ้านั่นมาจากใจจริงของนายก็พอแล้ว 

     

    เพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เทฉลากออกมาจากกล่อง กำลังนั่งเปิดฉลากสำหรับลงโทษดูทีละใบ ท่าทางวุ่นวายกับความแปลกใจบนใบหน้าเรียกเอาความสนใจไปจากคนร่างสูงที่กำลังนั่งรื้อของตกแต่งออกจากผนังได้ไม่น้อย 

     

    “ ยังเหลือฉลากบอกรักพี่รหัสอยู่ตรงนี้นี่นา... ทำไมฉลากมันถึงได้ซ้ำกัน 2 ใบล่ะ ” 

     

    นั่นคือฉลากที่เด็กน่ารักนั่นจับได้... ทำไมจะจำไม่ได้ 

     

    “ บ้าน่า... ใครเป็นคนเขียนล่ะเนี่ย ...ดูดีๆสิ ว่ามีใบไหนที่หายไปหรือเปล่า! ”

      

    “ บางทีพวกรุ่นน้องอาจจะเนียนเปลี่ยนบทลงโทษตัวเองไปก็ได้นะ ” 

     

    กลุ่มคนที่อยู่บริเวณนั้นพากันควานหาฉลากกันให้ควั่ก จนกระทั่งได้ต้นฉบับที่บทลงโทษต่างๆถูกเขียนเอาไว้มาเช็ครายชื่อที่หายไปทีละใบ และได้ข้อสรุปสุดท้าย... 

     

    “ รู้แล้วล่ะ... ฉลากที่หายไปนั่นน่ะมัน...! ” 

     

    ลอว์เงี่ยหูฟังบทสนทนาข้างต้นอย่างใจจดใจจ่อ ทุกเสียง ทุกตัวอักษร และทุกประโยคถูกร้อยเรียงเข้าสู่โสตประสาทของร่างสูง เผยให้ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มกว้างออกมา เป็นรอยยิ้มที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้ทันสังเกตเห็น... 

     

    เข้าใจแล้วล่ะลูฟี่...

      

    หลังจากนี้ไปฉันจะไม่ปล่อยนายไปง่ายๆแน่...

      

     

    น้องรหัสที่น่ารักของฉัน...

     

     

     

     

     

    END





















    เดินทางมาถึงตอนจบกันแล้วววว

    โฮกกกกก ในที่สุดก็แต่งจนจบได้ซักทีค่ะ

    ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้มากๆเลยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×