ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #48 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Enigma wish(1) (Part7)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      35
      14 มิ.ย. 65

    Title: Candied dream : Enigma wish (1)
    Pairing: All x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 7/20

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


















    ตำนานแต่โบราณกาล กล่าวไว้ว่ามีสมบัติอยู่ชิ้นหนึ่งที่กว่าจะได้มานั้นแสนยากเย็น... 

    แต่สมบัติชิ้นนั้นจะนำมาซึ่งความปรารถนาที่เป็นจริงของผู้ถือครอง... 

    สมบัติที่เปี่ยมไปด้วยความน่าหลงไหลและน่าอัศจรรย์ใจ 

    สมบัติชิ้นนั้นที่ผู้คนต่างหมายปอง คือสิ่งใดกันแน่...?

     

     

     

     

    “ ร้อนนนนน!! ” 

     

    เสียงเล็กโวยวายเมื่อพื้นเรียบใต้เท้าของตนเกิดเพิ่มอุณหภูมิขึ้นมากระทันหัน ตั้งแต่ถูกแสงสีเขียวๆนั่นกลืนไป รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีเสียงเสียดสีของอะไรบางอย่างที่บาดแก้วหูเหลือเกิน หลังจากนั้นพื้นก็ร้อนจนไม่อาจจะยืนนิ่งอยู่เฉยๆได้ 

     

    นี่มันอะไรกันเนี่ย... 

     

    ลูฟี่ทำได้แค่กระโดดโหยงเหยงไปมา เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่ใด รอบข้างถึงได้มีแต่กำแพงล้อมรอบ แต่ถ้าลองสังเกตดีๆก็จะเห็นรูเล็กๆเหมือนกับหน้าต่างอยู่เหนือศีรษะของเขาไปมากโข... เอาล่ะ ทีนี้จะปีนขึ้นไปยังไงดี 

     

    ภูตวิเศษเอย... จงตอบรับคำร้องขอของข้า... 

    ภูติวิเศษเอย... หากท่านมีตัวตนอยู่จริง ขอจงปรากฏแก่ข้า... 

     

    เสียงหนึ่งดังกังวานอยู่ในหัวไม่หยุดหย่อน เป็นเสียงทุ้มของผู้ชายที่ฟังแล้วกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณโดยรอบ แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่งสัมผัสเย็นวาบจะตีเข้ามาท่ามกลางความร้อนระอุของพื้น 

     

    ลมเย็นๆนี่พัดมาจากไหนอีกล่ะเนี่ย... 

     

    “ เหวอออออ!! ” พาลลำไส้ก็พากันปั่นป่วนไปหมด เมื่อร่างทั้งร่างล่องลอยตรงไปยังช่องว่างบนกำแพงสูงที่มองเห็นมาตั้งแต่เมื่อครู่ 

     

    นี่มันเรื่องอะไรกันแน่... อยู่ๆปลายเท้าก็สูงขึ้นจากพื้นมากขึ้นทุกที 

     

    ไหนจะสายลมแปลกๆที่ไม่รู้จุดหมายว่าจะนำพาเขาไปที่ไหนกันแน่.... ถ้าไม่ฝันอยู่ ลูฟี่คิดว่าตัวเองคงเผลอกินอะไรแปลกๆเข้าไปแน่ ถึงได้เห็นภาพหลอนบ่อยเกินไปขนาดนี้ 

     

    โครม!! 

     

    สิ่งนั้นเหมือนจะช่วยย้ำเตือนว่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่ฝัน ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เหมือนกับหลุดเข้ามาอยู่ในอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่รู้จัก ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะแลนดิ้งลงกับสิ่งที่เหมือนกับพื้นดินได้ไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนัก... 

     

    “ เจ็บๆๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ” ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อยๆหลังใช้เป็นอวัยวะแรกที่สัมผัสพื้น กลิ่นของความชื้นจากบรรยากาศภายนอกตีเข้าสู่จมูกและผิวหนัง 

     

    เหมือนกับถ้ำมืดๆที่มีเชิงเทียนคอยให้แสงสว่างอยู่เป็นระยะ เพชรนิลจินดาและข้าวของเครื่องใช้วางเกลื่อนกลาดอยู่รอบตัว ดูท่าแล้วคงจะเป็นถ้ำที่มากไปด้วยสมบัติซึ่งลูฟี่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร ก่อนที่ดวงตาสีนิลคู่นั้นจะต้องเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อพบร่างของใครอีกคนยืนอยู่ใกล้ๆกัน 

     

    “ ในที่สุดก็พบแล้ว... ” น้ำเสียงทุ้มที่คล้ายกับเสียงที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้เอ่ยขึ้น ในคามมืดสลัวๆของถ้ำ มีแสงจากเชิงเทียนคอยให้ความสว่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มองเห็นรายละเอียดของชายหนุ่มตรงหน้าได้ชัดเจน 

     

    ใบหน้าคมจัดเรียงด้วยองค์ประกอบที่เข้าที่ ดวงตาที่เหมือนกับคนเบื่อหน่ายทั้งโลกในเวลานี้กลับพราวระยับยามจ้องมองมายังเด็กหนุ่มร่างเล็ก ริมฝีปากอิ่มเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ไรหนวดบริเวณคางน้อยๆที่ส่งให้ใบหน้านั้นดูน่าดึงดูดมากขึ้น ผมสีทองที่จัดเรียงอยู่บนศีรษะชี้อย่างไม่เป็นทรง ชวนให้รู้สึกเหมือนกับสับปะรดยังไงชอบกล 

     

    ร่างกายท่อนบนสวมใส่เสื้อแขนกุดที่ไม่ได้ติดกระดุมใดๆ เผยให้เห็นแขนที่กำยำสมส่วนกับหน้าท้องที่ขึ้นมัดกล้ามเหมือนคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ท่อนล่างสวมกางเกงที่บริเวณขาพองออกทั้งสองข้าง พันรอบเอวด้วยผ้าไหมโปร่งบาง และรองเท้าพื้นเรียบเป็นด้ายสานพันรอบข้อเท้า 

     

    แต่งตัวประหลาดชะมัด... นั่นคือสิ่งที่เด็กหนุ่มคิด 

     

    “ นายเป็นใคร ” ลูฟี่เอ่ยถามออกไป ก่อนที่จะได้รับรอยยิ้มจากคนตรงหน้ามาเป็นคำตอบ 

     

    “ ข้าคือผู้ที่จะมาทวงพรสามประการจากเจ้า... ” 

     

    “ หือ...? ” 

     

    เขาไม่เข้าใจความหมายนั้น... แต่ด้วยความไม่คิดอะไรจึงหันมองซ้ายมองขวาก่อนเดินออกมา ผู้คนที่นี่มักพูดเหมือนกับเขาเป็นตัวอะไรซักอย่างอยู่เสมอ ปลายเท้าข้างหนึ่งสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างจนเกือบจะล้มหน้าคะมำ ทำให้ได้สังเกตเห็นบางสิ่งบริเวณข้อเท้าที่กำลังส่องแสงแวววับยามต้องกับแสงของเชิงเทียน 

     

    กำไลข้อเท้า...แถมยังทั้งสองข้าง

     

    ดวงตากลมโตก้มลงมองชุดที่สวมใส่อยู่ด้วยความสับสน เมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้แต่งตัวแตกต่างไปจากผู้ชายคนนั้นเลย ต่างออกไปก็ตรงร่างกายบอบบางเกินกว่าผู้ชายปกติ กับผิวขาวเนียนละเอียดน่าสัมผัสที่ชวนให้ไม่อยากละสายตาออกไปนี้เท่านั้น 

     

    ได้ยังไงกัน... ตั้งแต่เมื่อไร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังใส่กระโปรงขาดๆอยู่แท้ๆ 

     

    กึก... 

     

    ท่อนแขนแข็งแกร่งผ่านใบหน้าของร่างนั้นไปสู่กำแพงด้านข้างแทบจะทันที รู้สึกตัวอีกที ลูฟี่ก็อยู่ในอาณาเขตของอ้อมแขนที่ร่างนั้นกักเอาไว้ มืออีกข้างชูตะเกียงลวดลายวิจิตรในมือให้เห็น ใบหน้าคมก้มลงมาพูดกับคนที่ส่วนสูงน้อยกว่าจนระยะห่างเหลือไม่ถึงคืบ คนตัวเล็กมองตามอย่างไม่เข้าใจนัก 

     

    ตะเกียงนี่มีอะไรหรือเปล่า... 

     

    “ ประการแรก ขอให้ข้า มัลโก้ผู้นี้ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ บัดนี้เลย... ” น้ำเสียงนั้นถูกเอ่ยขึ้นพร้อมกับแววตาพราวระยับ ยิ่งส่งให้ลูฟี่สับสนมากกว่าเดิม คนๆนี้กำลังต้องการอะไรจากเขา... หรือคำขอนี่จะถูกส่งมาถึงตัวเอง ? 

     

    “ มัลโก้...? ของแบบนั้นฉันให้นายไม่ได้หรอก ” 

     

    ใบหน้าหวานเคลือบไปด้วยความงุนงง เขาไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรแบบนั้นซักหน่อย... 

     

    แต่อีกฝ่ายกลับเผยรอยยิ้มประหลาดๆกลับมา หลังจากนั้นร่างนั้นจึงค่อยๆผละออกไป 

     

    “ จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ... ” 

     

    “ ...ฉันอยากออกไปจากที่นี่แล้ว ” เขาขมวดคิ้วยุ่งอย่างไม่เข้าใจ ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกโล่งใจที่ไม่รู้เหตุผลว่าโล่งใจด้วยเรื่องอะไรเหมือนกัน... เหมือนคนที่ไม่ฟังอีกฝ่ายพูด แต่ความจริงแล้วเขาแค่กำลังไม่เข้าใจต่างหากว่าคนตัวสูงกำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่ 

     

    “ งั้นก็เดินตามข้ามาก็แล้วกัน... ” 

     

    ประโยคสนทนาทั้งหมดถูกจบลงที่ประโยคนั้น ลูฟี่ได้แต่เดินตามคนที่สูงกว่าออกไปเรื่อยๆ จนเริ่มเห็นแสงสว่างจากภายนอก นอกจากถ้ำหินมืดๆนี่ ทางออกก็ยังติดต่อกับเมืองเก่าๆที่มีต้นไม้รกทึบ ...เมื่อไรกันนะที่เขาจะได้กลับไปสู่ที่ที่จากมาเสียที 

     

    เรื่องเก่ายังไม่ทันได้เข้าใจ เรื่องใหม่ก็ประดังเข้ามาอีกครั้ง เมื่อเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่กำลังตรงมาที่เด็กหนุ่มและชายผมทองที่เดินนำหน้า กลุ่มของผู้ชายที่สวมใส่ชุดเกราะ ในมือมีดาบและโล่ห์เป็นของตัวเอง สายตาทุกคู่นั้นจ้องตรงมายังชายตัวสูงในเสื้อแขนกุด พลันวินาทีนั้น ดวงตาของลูฟี่เหลือบไปเห็นมือเรียวที่รีบนำตะเกียงลายวิจิตรใบเก่าซ่อนเอาไว้ในย่ามที่เพิ่งหยิบติดตัวมาเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะตั้งท่าป้องกัน 

     

    “ ท่านนักเดินทาง โปรดเอ่ยนามของท่านมา ” คนในชุดเกราะเอ่ยขึ้น ดวงตาเช่นคนเบื่อโลกของผู้ถือครองตะเกียงหรี่ลงเล็กน้อยเหมือนต้องการระแวงระวัง ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะคว้าร่างเล็กของเด็กหนุ่มข้างๆกันมายืนด้านหลัง ตัดสินใจเอ่ยชื่อออกไป แต่ก็ยังไร้ซึ่งความไว้วางใจ 

     

    “ ...มัลโก้ ” 

     

    พลันท่าทางของผู้ชายจำนวนมากมายตรงหน้าก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาโค้งตัวให้ความเคารพแก่มัลโก้ดั่งผู้สูงศักดิ์ ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ผู้ฟังต้องตกใจไปตามๆกัน 

     

    “ เรียนท่านมัลโก้... ขณะนี้ท่านได้รับแต่งตั้งจากองค์ราชาให้เป็นอุปราชแล้วขอรับ ” 

     

    “ หา...? ” 

     

     

     

     

     

    ทุกอย่างดูง่ายดายดั่งถูกจับวาง ลาภยศอันยิ่งใหญ่ถูกส่งต่อมายังชายผู้เว้าวอนขอพรกับตะเกียงวิเศษ ในเวลานี้คำขอนั้นได้สัมฤทธิ์ผล จะเป็นความบังเอิญหรืออะไรก็ช่าง... แต่ภูตในร่างเด็กหนุ่มคนนั้นได้ประทานพรแก่เขาอย่างแท้จริง 

     

    เหตุผลเป็นเพราะเขาได้มาพบเจอกับถ้ำสมบัติที่ราชาของเมืองนี้ตามหามาทั้งชีวิต.... อะไรจะโชคดีขนาดนี้ 

     

    สายตาคมคู่นั้นไปหยุดที่ร่างหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ห่างออกไป โต๊ะตรงหน้าจัดวางไปด้วยจานอาหารจำนวนมากมายและเด็กหนุ่มที่กำลังรับประทานอาหารด้วยใบหน้าสุขใจ เพราะเหตุใดคนๆนั้นจึงต้องคอยปฏิเสธเขากันว่าตนนั้นไม่มีพรวิเศษอยู่เสมอกัน... 

     

    เหมือนร่างนั้นจะรู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่ ใบหน้าน่ารักนั้นจึงหันกลับมามอง เจ้าของตำแหน่งอุปราชเพียงแค่ขยิบตาให้ครั้งหนึ่งเหมือนต้องการทักทาย ส่งให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยังอุตส่าห์หันกลับไปสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ 

     

    ถึงจะน่าเสียดายที่เขายึดสมบัตินั่นไว้ในนามของตัวเอง แต่ในบทบาทของอุปราช เขาย่อมมีสิทธิ์ในสมบัตินั้นอยู่ดี มันก็ไม่ได้แย่เท่าไรนัก... 

     

    มือของเขาหยิบเอาตะเกียงที่ตนเก็บซ่อนเอาไว้ในย่ามขึ้นมามองอย่างพิจารณา ตะเกียงเครื่องหอมที่มีรูปร่างแปลกตา เนื้อของมันทำด้วยทองเหลืองทั้งอัน และลวดลายโดยรอบถูกตกแต่งด้วยเพชรพลอยนานาชนิดที่ส่งให้ดูงดงามอย่างหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ 

     

    สมบัติที่ผู้คนต่างปรารถนา สมบัติที่จะนำมาซึ่งความปรารถนาที่เป็นจริง ไม่มีใครเคยรู้ว่าสิ่งนั้นจะมาในรูปแบบใด เป็นเพียงแค่ภูตวิเศษที่สถิตย์อยู่ในสิ่งของล้ำค่าบางสิ่งเท่านั้น ...เขาเองก็เฝ้าเดินทางตามหาสิ่งนี้มานานแสนนาน

      

    วินาทีที่ภูตน้อยออกมาจากปากของตะเกียงวิเศษนี้ อดทำให้เขาตื่นเต้นไม่น้อย สมบัติชิ้นนี้น่าหลงไหล ทั้งในนัยของพรที่ปรารถนา และภูติเศษที่ดึงดูดสายตาจนไม่อาจละไปได้ รู้ตัวอีกทีความรู้สึกหลงไหลก็แล่นเข้ามาในจิตใจเสียแล้ว... 

     

    เวลาได้ล่วงเลยไปเกือบสองวัน หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งอันยิ่งใหญ่นี้ ภูตตนนั้นดูจะกระวนกระวายกับการอยู่ที่นี่ไม่น้อย เขาไม่ค่อยเข้าใจนักกลับคำว่า'กลับบ้าน'ของเด็กหนุ่มคนนั้น หลายครั้งที่ร่างเล็กพยายามเว้าวอนให้พาเขาหาทางออกไปจากที่นี่เพื่อกลับบ้านของตน แต่เขามักจะใช้เหตุผลเดิมๆในการรั้งให้คนๆนั้นยังคงอยู่ 

     

    'เจ้ายังให้พรข้าไม่ครบสามประการ' 

     

    หลังจากนั้นใบหน้าหวานก็จะมุ่ยเข้าหากันเสมอ เร่งเร้าให้เขาขอพรให้ครบทั้งสามประการ และมักจะบ่นกระปอดกระแปดว่าเขากำลังเข้าใจว่าเด็กหนุ่มเป็นตัวอะไรแปลกๆเข้าไปซะแล้ว 

     

    ใช่แล้ว... ลูฟี่กำลังคิดจะหนีออกไปจากที่นี่ แต่ตัวเองก็ดันเผลอกินอาหารไปซะเยอะและเผลอหลับไป รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่ของอีกวันเสียแล้ว เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าหากกลับไปยังโลกเดิมที่เขาจากมาแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง และเขาอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้วกันแน่... 

     

    ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์อะไรนัก... แต่ก็พอจะเดาๆได้ว่า สิ่งที่รั้งให้เขาไปไหนไม่ได้ก็คือพรอะไรซักอย่างจากผู้ชายคนเดิม ถึงจะพยายามปฏิเสธไปซักกี่ครั้งว่าไม่ใช่ผู้วิเศษอะไรทำนองนั้น 

     

    ไม่ไหวแล้วสิ... อยากกลับบ้านจังเลย 

     

    หลังจากที่ร่างสูงก้าวเท้าออกไปจากห้องเพราะติดธุระอะไรบางอย่าง ลูฟี่ก็รีบคว้าเอาอาหารที่มีคนเข้ายกมาวางให้ทุกมื้อโกยใส่ผ้าห่มผืนใหญ่ในห้องก่อนมัดเป็นปม โดยพื้นฐานแล้ว ก่อนการเริ่มต้นทำอะไรซักอย่างของเด็กหนุ่ม กระเพาะนั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด 

     

    แต่นั่นก็นานพอจะทำให้เจ้าของห้องนั้นเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง ร่างสูงมองการกระทำของเด็กหนุ่มอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ร่างเล็กก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจใดๆ ยังคงคว้าเอาอาหารที่มียัดใส่ย่ามชั่วคราวต่อไป แม้อีกคนจะมายืนอยู่ข้างหลังเขาเรียบร้อยแล้ว 

     

    “ เจ้ากำลังทำอะไรงั้นหรือ ” มัลโก้เอ่ยถามขึ้น ได้ยินเสียงเล็กตอบกลับมาโดยที่ใบหน้าหวานไม่ได้หันกลับมามอง 

     

    “ ฉันก็กำลังตุนอาหารไว้กินตอนเดินทางน่ะสิ “ คราวที่แล้วตอนออกมาจากปราสาทของเจ้าเสือนั่นไม่ได้ถืออะไรติดมือกลับมาเลย เล่นเอาหิวแทบแย่ แต่จะไม่มีทางบอกไปเด็ดขาดว่าเขากำลังจะหนีไปในอีกไม่ช้านี้ ท้องฟ้าภายนอกเริ่มมืดลง หลังจากที่ลูฟี่นั่งรอให้ผู้ชายคนนี้ขอพรข้อที่สองมานานแสนนาน ตัดสินใจแล้วว่าจะหนีออกไป... 

     

    “ แล้วเจ้าจะทำเช่นนั้นทำไม... ” 

     

    ดวงตาคมหรี่มองอย่างนึกสงสัย ยกมือขึ้นกอดอกพิจารณา ภารกิจในวังพอมีให้เขาทำอยู่บ้าง ถึงแม้จะน้อยนิด แต่ก็ทำให้ยุ่งพอที่จะไม่ได้สังเกตว่าภูตน้อยตนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่... หรือว่าคิดจะหนีออกไปจากที่นี่ 

     

    “ ฉันก็จะออกไปจากที่นี่น่ะสิ ” ใบหน้าใสซื่อตอบกลับมาอย่างไม่คิดอะไร ในที่สุดเจ้าตัวก็เผลอหลุดจุดประสงค์ออกมาจนได้ ริมฝีปากได้รูปเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างรู้ทัน ก่อนเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มของตน 

     

     

    เสียใจด้วยพ่อหนุ่มน้อย... ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าหนีไปจากข้าแน่นอน... 

     












     

    ขอโทษที่มาช้าค่าาาา
     
    นังไรท์อัพ2ตอนรวดชดเชยที่หายไปนานเลยนะคะ;-;
    ขอโทษจริงๆค่าาา แต่มาอัพแล้วน้าาาT^T
     
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×