pppttt
ดู Blog ทั้งหมด

ตะลอนทัวร์ใต้

เขียนโดย pppttt
ไม่ได้เข้ามาอัพบลอคนานมาก 

วันนี้เลยได้ฤกษ์มาอัพเดทข่าวกันซะที ^^"

ตะลอนทัวร์แจ่มใส-อัมรินทร์ ภาคใต้ ถูกยกเลิกแบบเหนือความคาดหมาย

สาเหตุเพราะพายุเข้า+น้ำท่วมในตัวเมืองภาคใต้หลายจังหวัดนั่นเองจ้า

อันที่จริงตอนแรกทุกคนก็พอจะรู้ก่อนออกเดินทางแล้ว ว่าวันที่ 1-3 พ.ย. จะมีพายุเข้าที่ภาคใต้

แต่ก็ไม่มีใครคิดว่ามันจะรุนแรงถึงขั้นน้ำท่วมสูงขึ้นมาเป็นเมตรแบบนี้

ก็เลยคิดว่าไปได้ไม่น่ามีปัญหา

...

...

ตอนรถออกจากทม. ยังไม่มีวี่แววอะไรเลยแม้แต่น้อย

พอเย็นๆ หน่อยเข้าเขตสุราษฎร์ฝนก็เริ่มลงนิดหน่อย

จนกระทั่งไปถึงพัทลุงตอนค่ำๆ ฝนก็เริ่มลงหนักขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย

ตอนนั้นทุกคนก็ยังคงลั้ลลา ไปแวะกินข้าวที่ที่พัก

ระหว่างกินข้าวฝนก็เริ่มตกหนัก + ลมพัดแรงมาก

เรียกได้ว่ากินข้าวท่ามกลางละอองฝนกันเลยทีเดียว 55+

ประมาณสามทุ่มหลังกินข้าวเสร็จก็เริ่มขนกระเป๋าเข้าที่พัก...

ตอนนี้แหละที่มันเริ่มส่อเค้าลางร้าย T^T

เพราะฝนเริ่มเทลงมาหนักมาก แล้วก็ไม่มีใครเตรียมร่มมาเลยสักคน(เพราะไม่คิดไงว่าฝนมันจะตกแรงขนาดนี้

ประมาณว่าคิดเข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์ ว่าฝนมันคงไม่ตกหนักตรงที่ที่เรามาพักแน่ 55+)

และด้วยความที่เราต้องการบรรรยาสุนทรีในการนอนหลับพักผ่อน

บ้านที่เราไปพักกันก็เลยมีน้ำรายล้อมซะด้วย

ในรูปที่ตรงที่มืดๆ ทึบๆ ด้านขวามือนั่นคือน้ำทั้งหมดเลย แล้วบ้านพักก็อยู่ริมน้ำ ยกสูงขึ้นมาจากพื้น

ส่วนด้านซ้ายมือนั่นเป็นราวกั้นสะพานกันตก


  

แต่...

ใครจะไปรู้ว่าไอ้น้ำที่รายล้อมเราเพื่อสร้างบรรยากาศสนุทรีเนี่ยมันจะมาสร้างความหลอกหลอนให้ในตอนกลางคืน =[]=;

...

...

...


เที่ยงคืนหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมจะนอนกันแล้ว 

ก็เริ่มมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง (แอบกลัวผี 55+)

มือดันสั่นอีกรูปเลยเบลอชวนจิ้นหลอน

 

แต่พี่กก(ปราณธร) พี่นักเขียนแนวครสด.ที่ไปด้วยกันไม่กลัว

พอพี่เค้าไม่กลัวก็เลยรู้สึกเข้มแข็งตามไปด้วย ฮ่าๆ (ถูกโน้มน้าวง่ายมาก)


ก่อนจะปิดทีวีนอน ก็เห็นข่าวในทีวีบอกว่าน้ำท่วมสงขลาแล้ว

แ่ต่ก็ยังคงเฉยๆ กันอยู่ เพราะคิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าน้ำมันคงลง =[]=

และคิดแต่ว่าเดี๋ยววันรุ่งขึ้นจัดกิจกรรมที่พัทลุงเสร็จ

ก็นอนอีกคืนแล้วเดี๋ยวเตรียมแพคของไปหาดใหญ่ต่อ

แต่ละคนวางแผนกันเรียบร้อยว่าไปถึงหาดใหญ่จะซื้ออะไรกลับไปกันบ้าง

นอนคิดไปถึงตลาดกิมหยง มองเห็นภาพตัวเองซื้อชอคโกเลตและของฝากสารพัดอย่าง (ในสมองคิดแต่เรื่องกิน 55+)

ระหว่างที่กำลังนอนคิด (ตอนนั้นปิดไฟปิดทีวี เหลือแต่ไฟที่หัวเตียงพอให้ห้องไม่มืดมากเกินไป และเตรียมจะนอนกันแล้ว) ฝนก็เริ่มลงหนักขึ้นเรื่อยๆ

และเริ่มแอดวานซ์ถึงขั้นมีเอฟเฟคต์ประกอบเหมือนในหนังที่เค้าวิ่งหนีพายุกัน =[]=;

เสียงฝนสาดกระทบหลังคาดังมากจนเริ่้มกลัวว่าหลังมันจะถล่มลงมาใส่หัว

คราวนี้ก็เลยลุกขึ้นมานั่ง แบบว่าไม่กล้านอนแล้ว กลัวหลังคามันถล่มใส่หัว

ลืมคิดไปว่าอันที่จริงถ้าหลังถ้ามันถล่ม จะนั่งหรือนอนมันก็ถ่ลมลงมาโดนหัวอยู่ดีนั่นแหละะ 55+

สักพักเสียงบนหลังคาดังมากจนรู้สึกเหมือนหลังคามันจะพังลงมาจริงๆ

คราวนี้แหละ! ไม่มีใครกล้านอนกันแล้ว ลุกขึ้นมาทั้งคู่ (ฝ้ายกับพี่กก)

แล้วก็เริ่มคุยกันว่านี่เรากำลังนอนอยู่ท่ามกลางพายุกันใช่มั้ยเนี่ย 55+

จริงๆ ก็กลัวนะตอนนั้น แต่ใจก็คิดว่าเราคงไม่ดวงกุดขนาดจะต้องมาเจออะไรร้ายแรงที่นี่อย่างแน่นอน

คือพยายามคิดบวกตลอดเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ


จากนั้นไม่นานไฟก็ดับ คราวนี้ดับแบบดับยาวเลย

ห้องมืดสนิททั้งห้อง มืดแบบมองไม่เห็นอะไร ต้องอาศัยไฟจากหน้าจอมือถืออย่างเดียว

แต่ด้วยความที่กลัวว่ามือถือแบตจะหมดแล้วเดี๋ยวติดต่อกับพี่ๆ ทีมงานไม่ได้ เลยไม่ค่อยกล้าเปิดไฟหน้าจอค้างไว้นานๆ

ก็เลยตัดสินใจนั่งฟังเสียงลมพายุด้านนอกไปเงียบๆ (แต่ในใจนี่คิดไปสารพัดแล้ว 55+)


ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย ตกเป็นชั่วโมงๆ ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีหนึ่งกว่าๆ

เสียงฝนสาดกระทบกบแพงด้านนอกดังมาก และลมก็แรง (รู้เพราะกำแพงด้านนอกจะมีเสียงของปลิวมากระแทกกำแพงบ้านตลอดเวลา T^T)

และสักพักบ้านก็เริ่มสั่นสะเทือน 

แบบรู้สึกได้เลยฐานรากของบ้านมันเริ่มทนรับแรงลมไม่ไหว

เห็นพี่ทีมงานบางคนบอกว่าเค้าได้ยินเสียงน้ำมันตีอยู่ข้างใต้พื้นบ้านด้วย เพราะบ้านมันสร้างยกระดับจากผิวน้ำขึ้นมานิดเดียวเอง)

และด้วยความที่ห้องมันมืดสนิท แล้วต้องมาฟังเสียงลมตีอยู่ด้านนอกมันก็เลยยิ่งหลอน

รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกจำเลยรักที่ถูกเอามากักตัวที่กระท่อมริมทะเลที่กำลังมีคลื่นพายุหนัก 55+


สักพักใหญ่ๆ พี่ทีมงานที่ไปด้วยกันก็โทรมาบอกว่าเดี๋ยวรอให้ฝนซาลงกว่านี้ และตีห้าจะตีรถกลับกทม.เลยเพราะกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้เดียวถนนจะขาดแล้วกลับกทม.ไม่ได้

หลังวางสายเท่านั้นแหละฝ้ายกับพี่กกก็ลุกขึ้นมาเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อ(เป็นชุดเตรียมวิ่งหนีน้ำ 55+)

แล้วก็นอนทั้งชุดนั้นเลย คือคิดล่วงหน้ากันประมาณว่าถ้าน้ำมันมาจริงๆ ล่ะก็เราก็จะได้ลุกจากเตียงแล้ววิ่งออกไปเลย (ฮา) 

...

...

...


ฝนหยุดตกไปตอนตีสาม

แต่ก็ยังออกไปไม่ได้ทันที เพราะที่รีสอร์ทเขาบอกว่าที่พายุเข้าต้นไม้ใหญ่มันหักล้มลงมาขวางทางออก

ก็เลยต้องนอนรอท่ามกลางความมืดไปก่อน

ตอนเกือบจะตีสี่ก็เคลิ้มหลับไปเพราะก่อนหน้ายังไม่ได้นอนเลยสักตื่นเดียว

(คิดดูว่าสถานการณ์แบบนี้ยังหลับลงไปได้ เพราะคิดบวกแบบนาตาลีว่าเราจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน 55+)

...

...

...

ตีห้าตรงเป๊ะ ปรากฏว่า

ยังออกไปไม่ได้ืัทันที เพราะว่ายังเคลียร์ต้นไม้ออกจากถนนในรีสอร์ทไม่เสร็จ

พอออกจากที่พักจะเดินไปที่ลานจอดรถก็ปรากฏว่ามีต้นไม้ใหญ่หักล้มลงมาขวางทางบนสะพาน (ตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ) ทำให้ต้องหาทาง Survival ปีนข้ามต้นไม้ออกไปพร้อมกับหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางอย่างทุลักทุเลกันพอสมควรเลยทีเดียว


 


พอตีห้าครึ่งก็ได้ฤกษ์เดินทางกลับกทม.

ระหว่างทางกลับจากพัทลุงเนี่ยแหละถึงได้เห็นว่าถนนขาออกต้นไม้มันล้มลงมาขวางทางเต็มไปหมด

ทำให้ต้องไปวิ่งสวนเลนกับรถขาเข้าแทน ด้วยการใช้วิธีเปิดไฟกระพริบแล้วก็วิ่งสวนกับรถสิบล้อที่วิ่งมาด้วยความเร็วไม่ปรานีกันเลย T^T

ตอนนั้นในรถทุกคนไม่มีใครพูด แบบว่ายังอึ้งๆ กันอยู่ 55+

ระหว่างทางยังเห็นรถเก๋งบางคันโดนน้ำท่วมขึ้นมาเกือบถึงป้ายทะเบียน แต่พอดีว่าของเราเป็นรถตู้เลยฝ่าออกไปได้ (ยังคงมีความโชคดีเหลืออยู่ ^O^v)


ขับไปได้สักพักพี่ๆ ทีมงานไปด้วยกันก็เริ่มบอกพี่คนขับรถว่าให้เร่งความเร็วหน่อย

เพราะทีมงานที่กทม.โทรมาบอกว่า มีข่าวเตือนออกมาว่าเดี๋ยวจะมีพายุอีกลูกเข้าชุมพร

เพราะถ้าพายุเข้าหนักๆ คาดว่ารถก็คงจะไปต่อไม่ได้อาจจะต้องจอดพักข้างทาง

แต่สุดท้ายก็ดวงดีอีกตามเคย หนีพายุทัน YOY

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องยกเลิกงานตะลอนทัวร์ภาคใต้

เพราะเวลาพายุเข้าจะอันตรายมาก เพราะฉะนั้นจึงต้องรักษาชีวิตของทีมงานเอาไว้ก่้อนนั่นเอง T^T


คราวนี้ถือเป็นประสบการณ์หนีพายุ+น้ำท่วมที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต

ทำให้เข้าใจความรู้สึุกของคนที่ต้องไปติดอยู่ในรัศมีของพายุมากๆ เลย T^T

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่ทางภาคใต้ และทุกๆ ภาคที่ต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมกันด้วยนะคะ

และก็อยากจะบอกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ให้เข้าใจกันด้วยค่ะ

ว่าถึงพื้นที่ที่จัดกิจกรรมน้ำอาจจะไม่ท่วม

แต่ว่าเส้นทางที่ใช้้เดินทางไปยังที่จัดกิจกรรม

บางทีมันก็ท่วมแล้วก็เดินทางไปไม่สะดวกและค่อนข้างอันตรายด้วยค่ะ

และพวกเราก็ไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าระหว่างการเดินทาง

และที่จุดที่เราไปพักกันจะมีพายุเข้าแรงๆ แบบนี้อีกหรือเปล่า

ก็เลยต้องตัดสินใจเดินทางกลับกทม.เพื่อความปลอดภัยของทีมงานทุกๆ คนค่ะ

เสียดายมากจริงๆ ที่กิจกรรมต้องถูกยกเลิกไปคราวนี้

แต่ยังไงความปลอดภัยก็ต้องมาก่อนค่ะ

คิดว่าหลังน้ำลดลงแล้ว อาจจะมีโอกาสได้ไปจัดกิจกรรมกันนะคะ

แต่ก็ยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มออกมาอย่างเป็นทางการ

ก็ได้แต่คาดการณ์กันไปก่อนเท่านั้นค่ะ

หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปเจอกันสักครั้งนะคะ

เป็นกำลังใจใ้ห้ทุกๆ คนค่า ^^







ความคิดเห็น

Cute_Girl
Cute_Girl 4 พ.ย. 53 / 13:27
ถ้าเค้าอยู่ในเหตุการณ์นี้คงสติแตกอ่ะ T^T
แต่ดีแล้วที่พี่ๆทุกคนปลอดภัย
ก็ขอให้ภาคไหนที่น้ำท่วมก็ขอลดระดับน้ำลงจนกลับมาปกติสุขโดยเร็ว
เอาใจช่วยค่ะ ^^
ความคิดเห็นที่ 2
โอ น่ากลัวแฮะ

หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้ทั่วไทยเนอะ
ความคิดเห็นที่ 3
785สเร่รสนเส