สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าถึงประสบการณ์การไป"แคมป์ปิ้ง"ของเราเองค่า
ขอเกริ่นก่อนว่า เรานั้นเป็นคนที่ชอบการไปนอนเต๊นท์ แคมป์ปิ้งอยู่กับธรรมชาติมากๆค่ะ เรียกได้ว่า หลงใหลมีpassion กับมันมากๆ
แต่สำหรับสถานที่ที่เราจะมาเล่าประสบการณ์ในครั้งนี้ นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก นั่นเองค่ะ บางคนอาจจะไม่คุ้น หรือไม่เคยได้ยินชื่ออุทยานแห่งชาตินี้มาก่อน แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการแคมป์ปิ้ง ต้องมีคนรู้จักอยู่บ้างแน่ๆค่ะ ^^
สำหรับวันแรกของการเดินทาง เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล เราจึงออกเดินทางกันประมาณ 9.00 น. และได้แวะซื้อผัก ซื้อผลไม้กันที่ตลาดดอยมูเซอกันก่อนค่ะ เป็นตลาดขายผัก ผลไม้ หรืออื่นๆมากมาย ใครที่จะเดินทางไปแม่สอด ก็ต้องผ่านตลาดนี้แน่นอน
ภายในตลาดมีของขายเยอะแยะมากมายเลยค่ะ ทั้งสตรอว์เบอร์รี่ อะโวคาโด แคปหมู มีหลายร้านให้เลือกเยอะมากๆ
หลังจากที่เราได้จับจ่ายซื้อของกันเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อเลย!!
ผ่านมาหลายชั่วโมงสำหรับการเดินทางอันยาวนานนะคะ5555
เราจึงได้แวะสถานที่ท่องเที่ยว ที่ถือได้ว่าเป็น UNSEEN THAILAND เลยค่ะ
สถานที่นี้ก็คือ ถ้ำแม่อุสุ นั่นเองค่า!!
สำหรับถ้ำแม่อุสุนะคะ เราสามารถเดินเข้าไปชมภายในถ้ำได้ค่ะ ทางสถานที่จะมีน้องๆเด็กๆที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นและคุ้นชินกับเส้นทางในถ้ำ มาเป็นไกด์ให้ค่ะ (ค่าใช้จ่ายเราสามารถให้ตามสะดวกของเราเลยค่ะ) แต่ในช่วงหน้าฝนจะไม่สามารถเข้าในถ้ำได้ เพื่อความปลอดภัยนะคะ การเดินทางเข้าไปในถ้ำแน่นอนค่ะ เราต้องใช้การเดินเท้าเข้าไปค่ะ55555 และในช่วงแรกๆจะต้องเดินลุยน้ำก่อน พอถึงจุดที่ไม่มีทางน้ำไหลแล้ว ก็จะเป็นพื้นดินปกติเลยค่ะ
หลังจากเดินไปเรื่อยๆ แต่ละจุดๆก็จะเจอหินงอกหินย้อยเป็นรูปต่างๆ ไกด์ของเราก็จะคอยแนะนำเราอยู่ตลอดค่ะ และแล้วก็ถึงจุดไฮไลท์ของถ้ำนี้แล้วค่ะ
ทำไมถึงเรียกได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์ นั่นก็เพราะว่า บริเวณนั้นจะมีช่องของถ้ำที่ทะลุออกไปด้านนอกทำให้แสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านช่องนี้พอดี เมื่อถ่ายภาพออกมา สวยมากๆเลยค่ะ 
แนะนำให้มาที่นี่เลย
หลังจากที่ออกจากถ้ำมาเจอโลกภายนอกแล้ว เราจึงเดินทางกันต่อ เพื่อไปให้ถึงอุทยานแห่งชาติแม่เมย จุดหมายปลายทางของเราค่ะ (ต้องรีบทำเวลาแล้วค่ะ ในช่วงนี้เดี๋ยวกางเต๊นท์กันไม่ทัน จะมืดซะก่อน55555)
เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยานแล้ว ก็ได้จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าพักต่างๆกับทางเจ้าหน้าที่ค่ะ และสำหรับอช.แม่เมยนั้น ที่นี่มีหลายจุดที่เราสามารถไปกางเต๊นท์ได้ค่ะ ที่แรกก็คือ บริเวณที่ทำการอุทยานค่ะมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสะอาดให้บริการค่ะ แต่สำหรับเราจะไปนอนกันที่ ม่อนครูบาใส ค่ะ ไปกันเล้ยย!!
พอมาถึงม่อนครูบาใสเรียบร้อย ก็รีบจัดแจงเตรียมกางทาร์ป กางเต๊นท์ จัดแจงของที่เราจะต้องใช้ แน่นอนค่ะว่าเราขนของกันมาเยอะมากๆ5555555
พอจัดแจงเตรียมของเสร็จ ก็ได้เวลาเย็นพอดี สำหรับม่อนครูบาใสแล้ว จะสามารถมองเห็นวิวทิวเขาฝั่งพม่าได้เลยค่ะ เรียกได้ว่าสวยสุดๆ และยังชมพระอาทิตย์ตกได้จากม่อนนี้ค่ะ
มืดแล้ว!! ได้เวลาจุดตะเกียง!! สายแคมป์ไม่พลาด เพราะมันได้ฟีลจริงๆค่ะ5555
เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้กกกก!!!
หลังจากที่นอนหลับกันภายใต้หลังตาเต๊นท์ เราจึงตื่นมาชมทะเลหมอก (ที่เหลือเป็นแอ่งๆ ทะเลหายไปแล้ว5555)
ตื่นมาสูดอากาศตอนเช้า หมอกบางๆ อากาศเย็นๆ วิวสวยๆ ฟินใช่มั้ยคะ
หลังจากนั้นของก็ไม่ได้เก็บ เราจึงขับรถต่อขึ้นไปที่ม่อนอื่นๆ เช่น ม่อนพูนสุดา ม่อนกิ่วลม ค่ะ
ม่อนแต่ละม่อนก็จะมีวิวที่แตกต่างกันไปค่ะ อย่างม่อนกิ่วลมแม้จะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก แต่เราจะได้เห็น พระอาทิตย์ในตอนเช้าค่ะ ^^
หลังจากชื่นชมวิวสวยๆเสร็จ กลับมาเก็บของกลับกันต่อค่ะ 5555555 เหน็ดเหนื่อยกันสุดๆ แต่เราว่ามันก็เป็นเสน่ห์ของการมาแคมป์ปิ้งอย่างนึง เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ใช้กับครอบครัว คนรัก และเพื่อนฝูงน่ะค่ะ
สุดท้ายสำหรับใครที่อยากจะมากางเต๊นท์แคมป์ปิ้งแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนเราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ได้แวะเที่ยวไปด้วย และเส้นทางในการเดินทางสวยมากๆ
ตอนนี้เราก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า 
บ๊ายบายยยย
ความคิดเห็น