ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นขยันเขียน

    ลำดับตอนที่ #1 : ได้ยินไหม....Can you here me ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 351
      1
      18 ต.ค. 56

     

    เรามาเป็นแฟนกันนะ “

     

    เอาสิน่าสนุกดี”

     

    ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอเป็นแฟนกับผม หลังจากเรามาเป็นเพื่อนกันกว่าห้าปี

    แล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า

    คำตอบคือ ไม่มี เธอชอบผมจริงๆหรือเปล่านะ เธอแค่อยากลองดู หรือเพียงแต่  มัน ....จะเป็นแค่เรื่องน่าสนุกสำหรับเธอ
    หากผมขอพรจากพระเจ้าได้ มีเพียงข้อเดียว ที่ผมอยากจะขอ ผม
    ....อยากอ่านใจใครซักได้เหลือเกิน

    ผมมองดูผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา นอกกระจกร้านอาหารที่ผมกำลังรอคอยเธอ ทันใดนั้นใครซักคนก็จับหัวไหล่ผม ก่อนจะตบเบาๆ ผมหันไปดูก็เห็น เธอ ….. เธอมีรูปร่างบอบบางจนมองดูเหมือนว่าลมพัดแรงๆมาทีเดียว เธอจะถูกพัดปลิวไปตามแรงลม ผมยาวที่ดูยุ่งเหยิงดูทำให้เธอเหมือนเด็กๆ

     

    ไง ..รอนานไหมวะแก “หัวไหล่บอบบางของเธอมีกระบอกใส่งานเขียนแบบ ที่ผมให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อหลายปีก่อน สีน้ำเงินเข้มดูซีดจางลงเป็นสีฟ้าตามกาลเวลา ก่อนที่จะทิ้งลงนั่งลงตรงที่ตรงกันข้าม    ไม่ใช่ตรงด้านข้างที่ขยับไว้ให้ ผมส่งยิ้มบางๆไปให้ก่อนจะเอ่ย

    อยู่เฉยๆนะ “

    ผม เอื้อมมือเอากระดาษทิชชู่ในมือ เช็ดที่ขอบปากของเธอ

    กินไอซ์ครีมมาล่ะสิ “
    สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นคือ ผมไม่ต้องปิดบัง แววตาที่บอกว่ารักเธอจนหมดหัวใจอีกต่อไปแล้ว

     

    รสช็อคโกแลตว่ะ อร่อยดีนะเจ้านี้ ” เธอส่งยิ้มทะเล้นมาให้ผม ก่อนจะค้นดูในกระเป๋าเธอหยิบหนังสือเล่มโตออกมา

    นี่ๆแกอ่านเรื่องนี้หรือยัง สนุกดีนะเว้ย “ เธอหันหนังสือมาให้ผมอ่านหน้าปกชัดๆ มันเป็นหนังสือนิยายหน้าปกการ์ตูนที่พวกผู้หญิงเค้าชอบอ่านกัน ชื่อเรื่องรักหมดใจยัยสาวห้าว ผมรับหนังสือก่อนจะดูผ่านๆที่ขั้นหนังสือตกมาอันหนึ่ง ก่อนผมจะหยิบมันขึ้นมา มือบอบบางของเธอก็คว้ามันไปก่อนจะหยิบไปใส่ในหนังสือ

    แกชอบพับขอบหนังสือ เอาไปใช้ซะ หนังสือฉันห้ามพับนะเว้ย “ ผมส่งยิ้มบางๆไปให้เธอ

     

    ไปดูหนังกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน “ผมเรียกพนักงานมาคิดเงิน ระหว่างทางเธอหยุดดูนั่นดูนี่ ความร่าเริงรอยยิ้มที่สดใส และชวนให้สบายใจเมื่ออยู่ใกล้ คือสิ่งที่ทำให้ผม...รักเธอ เมื่อก่อนเคยคิดไว้ว่า แค่ได้อยู่ใกล้ๆก็พอ
    แต่ยิ่งนานวัน ผมยิ่งอยากได้มากกว่านั้น

    มือของผมกระทบหลังมือของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมมองมือตัวเอง ก่อนจะบอกเธอ

     

    ...”ขอจับมือได้มั้ย “

     

    ตามใจแกสิ “ เธอดูตุ๊กตาร้านข้างทางอย่างไม่ใส่ใจ

    ผมกุมมือเล็กบอบบางเอาไว้

     

    ความอบอุ่นที่อยู่ในอก มันจะส่งไปถึงเธอมั้ยนะ ผมอยากรู้เหลือเกิน เสียงของหัวใจที่เต้นจนเกือบออกมาข้างนอกจะได้ยินไปถึงเธอหรือเปล่า ผมไม่กล้าถามเธอ....

    แต่ผม.....

     

    อยากรู้เหลือเกิน.......

     

     

    แดดที่ร้อนจับใจ ของเวลาเที่ยงวัน ผู้คนและรถรามากมายที่ส่งเสียงดังเซ็งแซ่ กลิ่นเหม็นของไอเสียรถชวนให้เวียนหัว เงียบหายไป เมื่อผมเดินเข้ามาในร้านที่เงียบสงบ ราวกับอยู่คนล่ะโลก เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งที่ติดหน้าประตูส่งเสียง เมื่อมันสั่นไหวไปตามแรงเปิด  ผมสอดส่ายสายตาหาคนที่นัดเอาไว้ ไม่ถึงอึดใจผมก็มองเห็น

    "ไงวะเป้ " ผมทักมันที่กำลังยกกาแฟดื่ม และหมอนั่นยกมือขึ้นแทนคำทักทาย

    " เออ...ไม่เจอกันนาน ไปทำอะไรมาวะ ขาวขึ้นนะเอ็ง " หมอนั่นตอบกลับมา

    เป้ เป็นเพื่อนของผมที่ย้ายไปทางใต้เมื่อปีกลาย

    "อยู่แต่ห้องแอร์น่ะ แล้วเอ็งเป็นไงบ้างวะ "

    " ก็ดีว่ะ  สาวตาคมน่ารักๆเพียบเลยเพื่อน เสียอย่างเดียวฝนตกบ่อยเกิน  ว่าแต่แกกับเมย์มีลูกกี่คนแล้ววะ"

    แค่ก!!! กาแฟที่ผมกำลังยกจ่อริมฝีปากสำลักในลำคอทันที
    "ไอ้บ้าพูดอะไรวะ "

    "อ้าว ก็เห็นแกชอบเขาตั้งแต่ม.ปลายไม่ใช่รึไง ก่อนไปข้าก็บอกให้แกบอกเขา รึว่าแกไม่ได้บอกเขาวะ "

    " ตอนนี้เป็นแฟนกันอยู่ " แฟนเหรอ...เธอจะคิดเหมือนผมรึเปล่านะ

    "อ้าวก็ดีนี่หว่า แล้วทำไมทำหน้าเหมือนหมาโดนเตะ " เป้มองผมอย่างแปลกใจ
    ผมตัดสินใจเล่าความอึดอัดให้ หมอนั่นฟัง เรื่องที่ผมกลัว เรื่องที่ผมอยากรู้  และเรื่องที่ผมไม่แน่ใจ


    "อ๋อ...ตกลงมันเป็นอย่างนี้นี่เอง " เป้พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนนิ่งไปครู่หนึ่ง
    "เออ..ข้ามีวิธี ที่จะทำให้แกรู้ "

    "แกมีวิธีอะไร " ผมชะโงกหน้าเข้าไปหาด้วยความอยากรู้

    "แกลองทำตัวเหมือนเดิมดูสิ " มันส่งยิ้มแบบที่ผมไม่เข้าใจในความหมาย
    สีหน้าผมคงบอกได้เป็นอย่างดีเพราะมันพูดต่อว่า
    "แกลองทำเหมือนก่อนหน้านั้น ที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน คุยกับใครก็ได้ มองผู้หญิงคนอื่นบ้าง  ถ้าเขาชอบแก ต้องมีปฏิกริยาอะไรบ้างล่ะน่า ถอยห่างออกมา บางทีอาจมองอะไรได้ชัดเจนขึ้นนะเว้ย"


    "อย่างงั้นเหรอ " ความคิดนี้มันก็น่าลองนะ

    ............................................

                      วันรับน้องปีหนึ่ง ผมที่ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟ คอยแจกน้ำให้เด็กๆปีหนึ่ง จึงต้องแบกของพะรุงพะรังมาจากท้ายรถ ของที่ผมถือมีเยอะมาก จนมองทางแทบไม่เห็น  ว่าแต่เพื่อนผมมันหายไปไหนกันหมดล่ะเนี่ย ช่างเถอะผมขี้เกียจจะคิด ไว้เจอหน้ามันค่อยด่าก็แล้วกัน

    "ให้หนูช่วยมั้ยคะ " รอยยิ้มเล็กๆมีเขี้ยวที่มุมปาก ถูกส่งมาให้ผม น้องแป้งดาวคณะปีนี้นี่นา คนจีบกันเต็มเลยล่ะ ผมตั้งใจจะปฏิเสธเธอ เพราะรู้ถึงสิ่งที่เธอคิดกับผม   ใบหน้าใครสักคนลอยขึ้นมา  ผมไม่อยากให้ใครคนนั้นเข้าใจผิด แต่ไม่รู้ทำไม คำพูดของเป้ ถึงถึงได้ลอยเด่นเข้ามาในหัว แกลองทำตัวเหมือนเดิมดูสิ ประโยคนี้ยังคงติดตรึงอยู่ในใจ ทุกครั้งผมจะหลีกเลี่ยงการคุยกับเธอ แต่หนนี้ ผมตั้งใจจะลองอะไรบางอย่าง

    น้องแป้งเป็นคนคุยสนุกเรื่องที่เธอเล่าดูเหมือนจะไม่จบสิ้น  จบเรื่องนั้นเธอยกเรื่องนี้มาพูด
    ผมไม่รู้ตัวเลย จนกระทั่งผมถึงที่คณะ


    "ไง...ไปซะนานเลย หลงทางหรือไงวะ " เธอนั่นเอง เธอกำลังส่งยิ้มมาให้ผม

    "พอดีน้องเค้าคุยสนุกน่ะ  วันหลังต้องคุยด้วยบ่อยๆแล้ว" ผมหันไปทางน้องแป้ง ใบหน้าเธอ ขึ้นสีระเรื่อที่แก้มขาวใส
    " ได้ไหมครับ " สายตาผมแอบชำเลืองใบหน้าคนที่อยู่ข้างกาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    บางทีผมเป็นฝ่ายที่คิดไปเองฝ่ายเดียว ....สินะ

    ............

    วันเวลาผ่านไป

    จากวันนั้นที่ผมคุยกับน้องแป้ง ผมพบว่าเธอเป็นคนที่คุยสนุกดีทีเดียว ความสนิทสนมระหว่างเธอกับผมมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกันกับใครบางคน เธอไม่เคยพูดไม่เคยแสดงอาการไม่พอใจ ไม่เคยเลยสักครั้ง แววตาของเธอจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป


    วันนี้เป็นวันเกิดของผม เพื่อนๆต่างมาฉลองในร้าน ที่ผมเคยขอใครสักคนเป็นแฟน ที่ผมเคยปรึกษาเรื่องของเธอ  ผมไม่เคยนึกเลยที่เป็นที่เริ่มต้น จะกลายเป็นจุดจบไปด้วย

    "เอ้า ...ฉลอง วันชิงหมาเกิดเว้ย "

    เครื่องดื่มที่ทำให้ครื้นเครงถูกยกมาชนกัน  เสียงหัวเราะครื้นเครงทำให้ผมมีความสุขอยู่บ้าง ผมทิ้งตัวลงหลังนั่งบนโซฟาเนื้อนุ่มในร้าน ก่อนจะพบว่ากำลังนั่งทับอะไรบางอย่าง  ที่มีเหลี่ยมมุม  ผมหยิบมันออกมาจากกระเป๋าก็พบว่ามันคือหนังสือเล่มนั้น

    กระดาษสี่เหลี่ยมจตุรัสร่วงหล่นลงมา  ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใครซักคนที่รักในหนังสือจนไม่อยากให้พับขอบมุม
    ผมหยิบที่ขั้นหนังสือขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามี ตัวอักษรซ่อนอยู่เขียนไว้ด้วยดินสอบนพื้นสีดำของที่ขั้น ถ้าผมสะท้อนแสงไฟในมุมที่พอเหมาะผมน่าจะเห็นมัน     ให้ตายเถอะ ทำไมผมไม่สังเกตมาก่อนนะ

    อยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป

    นั่นคือคำที่ที่อยู่ในนั้น
    ผมหยิบหนังสืออีกเล่มที่ผมยืมเธอมาและที่คั่นทุกอัน ก็มีคำที่ซ่อนอยู่
    บางอันเป็นอันที่ผมได้มาตั้งแต่ผม พึ่งเริ่มรู้จักกับเธอ


    ไม่โทรมาบ้างเลย

    อยากอยู่ใกล้ที่สุด

    คิดถึงนะ

    และอันสุดท้าย
    ฉันรักนาย
    .......
    ....เธอบอกรักผมแต่ทำไมผมไม่สังเกตุ
    ทำไมผมมองไม่เห็น ทุกอันมันคือคำที่เธอบอก และบางอันผมได้มาตั้งแต่ผมเพิ่งเริ่มรู้จักกับเธอ
    เหตุผลที่ แววตาเธอไม่เคยเปลี่ยนไป
    เพราะเธอมองผมแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น
    .....

    และอันล่าสุดที่เธอให้ผมมา

    นายรักฉันหรือเปล่า.....

    นี่ผมทำอะไรลงไป ตลอดเวลาเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน
    ไม่ได้การแล้ว ผมต้องบอกเธอ
    ผมลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา

    "ว้าย!!!"  พอดีกับที่น้องแป้งเดินเข้ามาใกล้  ผมชนเธอก่อนที่จะเสียหลักล้มลงบนตักผม

    "พี่ขอโทษที "ผมจับไหล่เธอตั้งใจจะให้เธอลุก เพราะผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว

    "ไงกำลังสนุกกันใหญ่.... เลยนะ " เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง เธอกำลังยืนถือห่อของขวัญ

    "ผมรีบลุกไปหาเธอ แต่ความคับแคบของสถานที่ทำให้ผมลุกไม่ถนัด ทันที่ผมก้มมองทาง
    ห่อของขวัญก็ลอยมากระทบหน้าผมอย่างจัง  

    เสียงเฮฮา ของทุกคนเงียบกริบลง

    และเธอกำลังร้องไห้ ....
    .....เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งที่สุดที่ผมรู้จัก
    ...เธอไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แม้แต่วันที่เธออ่อนแอที่สุด
    ผมเคยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มี วันทำให้เธอร้องไห้ และจะปกป้องเธอจากทุกคนที่จะทำให้เธอเสียน้ำตา
    แต่วันนี้ผมกลับทำมันซะเอง

    นี่ผมทำอะไรลงไป

    เธอหันหลังวิ่งออกไปจากร้าน....ผมตั้งใจจะรีบวิ่งตามเธอไป เธอออกจากประตูไปแล้ว ร่างบอบบางเล็กนั่นกำลังเสียใจ  ผมอยากให้เธอหายเสียใจเร็วขึ้นวินาทีเดียวก็ยังดี  แต่ติดที่ทางออกที่คับแคบแล้ว....

    ผมก็ได้ยินเสียง

    เอี๊ยด!!! โครม!!! 
    " ว้ายมีคนถูกรถชน "

    ไม่จริงใช่ไหม

    .....................


    สิบปีต่อมา


    ผมเฝ้ามองดูรูปถ่ายในวันเกิดตัวเองเมื่อสิบปีก่อน ผมอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อ เห็นแววตาและสีหน้าที่มีความสุขของทุกคน ภายในห้องรับแขกที่เธอเคยบอกผม เอาไว้ว่าอยากมีห้องรับแขกแบบนี้  เธอชอบแสงแดดที่ส่องสว่าง
    ผ่านกระจกสีชา เธอเคยบอกผมว่ามันจะทำให้ห้องดูนุ่มนวลขึ้น 
    ผมคิดถึงเธอ

    "พ่อ...โน๊ตกลับมาแล้วครับ "  เด็กชายตัวเล็ก วิ่งเข้ามากอดเอวผม  ด้านหลังของเด็กน้อย มีหญิงสาวสวยสมกับที่เคยเป็นดาวมหาลัยมาก่อน

    " เป็นไงบ้างแป้ง ไอ้ตัวเล็กดื้อหรือเปล่า "  ผมส่งยิ้มมาให้เธอ

    " ไม่ดื้อเลยค่ะ  แต่ทำเอาแป้งปวดหัวนิดหน่อยแค่นั้นเอง  "  เธอส่งยิ้มมีเขี้ยวเล็กๆมาให้

    ผมอดยิ้มไม่ได้ก่อนจะบอก
    "  รบกวนหน่อยนะ แล้วนี่ สามีเราจะกลับมาเมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย "

    "คงเย็นน่ะๆค่ะ แล้วอีกอย่าง ไม่ได้รบกวนอะไรเลยค่ะ  แป้งต้องไปรับหนูนิดหน่อยอยู่แล้วด้วย " เธอก้มมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เกาะอยู่ข้างเอว อย่างรักใคร่  ลูกสาวเธอหอมแก้มเธอกลับมาเช่นเดียวกัน

    "อ้าว ว่าไงแป้ง มาถึงเมื่อไหร่ล่ะเนี่ย "  เธออยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ที่ผมซื้อให้

    "คุณแม่ !!...." เจ้าลูกชายผมวิ่งเข้าไปกอดเอวเธอ

    "สวัสดีค่ะพี่เมย์ แป้งพึ่งมาถึงเมื่อกี้เองค่ะ " แป้งหันไปยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า ก่อนจะพาลูกสาวของเธอไปทำเช่นเดียวกัน

    หลังจากอยู่คุยครู่หนึ่งแขกก็ขอตัวกลับ และหลังจากผมส่งตัวยุ่งเข้านอนแล้ว
    เธอกำลังหวีผมที่ยาวสลวยถึงที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลัง
    ก่อนจะกอดร่างบอบบาง เอาไว้แนบอก 

    "มีอะไรคะ " แม้เธอจะดูงงๆอยู่บ้างแต่เธอก็เอนศรีษะได้รูปมาซบที่อกผม

    ผมมองดูแสงไฟสีส้มบนเพดาน พลางนึกถึงวันนั้น


    เอี๊ยด!!!โครม!!!  "ว้ายมีคนถูกรถชน "

    ไม่นะ หรือว่าจะเป็นเธอ ใจผมคิดอะไรไม่ออก หัวสมองผมว่างเปล่า
    ผมพุ่งพรวดออกไปนอกประตู

    ก่อนจะแหวกไทยมุงที่กำลังมองดูคนเจ็บ

    นั่นไม่ใช่เธอ เป็นใครก็ไม่รู้

    รู้แต่ว่าไม่ใช่เธอ

    เมื่อผมหันไปก็พบว่าเธอกำลังอยู่นั่งที่พื้นด้านข้างร้าน ในมือของเธอมีส้นสูงที่หัก

    "อูย....ไอ้ส้นสูงบ้า มาหักอะไรตอนนี้เนี่ย " เธอบ่นทั้งน้ำตา
    ผมคุกเข่าลงไปใกล้เธอ ก่อนจะกอดร่างบอบบาง ด้วยกลัวว่าภาพที่เห็นอยู่จะเป็นแค่ภาพลวงตา
    "ปล่อยนะ แกมากอดอะไรฉันเนี่ย ไปกอดน้องแป้งอะไรนั่นไป  "

    ผมไม่สนแล้ว ว่าเธอจะบอกรักผมหรือเปล่า
    หรือจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
    รู้แต่ว่าผมอยากอยู่อย่างนี้นานที่สุด
    ตลอดไป

    "ผมกระซิบที่ข้างหูเธอ

    "ฉันรักเธอได้ยินมั้ย " ผมบอกทั้งหมดด้วยหัวใจที่มี


    ...........

    วันนี้

    คุณบอกรักใครดังๆแล้วหรือยัง








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×