เอวบาง ร่างน้อย เพรียวไปทั้งตัว ขนสีน้ำตาลแดงแซมเทานิดๆ
หางและปีกเป็นสีดำเงางาม ปลายหางเป็นสีขาว
นั่นคือนกกางเขนตัวเมีย
(มันออกจะแปลกไปจากนกกางเขนทั่วไปสักหน่อย ถ้าใครถามว่า "นกกางเขนบ้านไหนเป็นแบบนี้" ก็ต้องบอกว่าบ้านทีซีนี่แหละค่ะ)
ล้างจานอยู่ดีๆ มันก็บินมาลงอ่าง............
น้ำดื่มของน้องหมา ลงไปแช่ทั้งตัว สบัดปีกสะบัดตัวอยู่หลายครั้งจนมั่นใจว่าสะอาด ก็ขึ้นมาเกาะขอบอ่าง แล้วเช็ดๆขัดๆจะงอยปากจนสะอาดเอี่ยมอ่องและเรียบเนียน และแล้วก็บินจากไป
เป็นภาพที่หาดูได้ยาก เพราะสัตว์มันมักจะอายคน (หรือมันเห็นว่าทีซีไม่ใช่คนหว่า)
เรื่องแอบดูสาวอาบน้ำน่ะ ก็มองผ่านหน้าต่างในบ้านมาเห็นพอดี ตั้งชื่อไดให้มันแปลกๆกำกวมๆไปงั้นแหละ ใครผิดหวังก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ(ฮั่นแน่ คิดอะไรอยู่ล่ะซี่ อิอิ)
มันก็มีอยู่แค่นี้แหละ สั้นไปหน่อยเนอะ เด๋วเอาความรู้ไปให้ประดับสมองเล่นๆละกัน
****************************************************
บินหลา..นกรักถิ่นเสียงไพเราะดั่งเครื่องดนตรี
กางเขนหรือกางเขนดง เรียกกันตามภาษาชาวบ้านอีกชื่อ ว่า...บินหลาดง
...และบินหลาควน มีชื่อสามัญ White-rumped Shama ชื่อวิทยาศาสตร์ Copsychus malabaricus อยู่ในวงศ์ TURDIDAE
...เป็นนกกินแมลงขนาดกลางที่มีหางยาว ลำตัวยาว 22-23 เซนติเมตร ตัวผู้มีหางสีดำขอบขาว ยาว 6 เซนติเมตร หลังและอกมีสีดำเหลือบน้ำเงิน อกตอนล่างสีน้ำตาลแดง ลักษณะของนกกางเขนตัวผู้กับตัว เมีย มีความแตกต่างกันมาก เช่น ตัวผู้มีสีเข้มมากกว่าตัวเมีย
สำหรับตัวเมียมีหลังและอกออกสีเทา ใต้ท้องสีน้ำตาลอ่อนกว่าและหางสั้นกว่าตัวผู้ ลูกอ่อน อายุน้อยๆจะมีจุดสีน้ำตาลเหลืองบนขนคลุมปีก ส่วนมากอาศัยอยู่ในป่าไผ่ริมลำน้ำและในป่าดงดิบที่ไม่ทึบจนเกินไป
มนุษย์รู้จักนกกางเขนหรือ... เจ้าบินหลา...เป็นอย่างดี!!
ปกตินกกางเขนจะร้องเสียงดัง "แช็ก แช็ก" ในตอนเช้าและบ่าย และมีการเปลี่ยนทำนองต่อเนื่องไปนานหลายนาที ...เสียงร้องของตัวผู้นั้นว่ากันว่า...ใสและไพเราะเสนาะหู... ราวกับเสียงของเครื่องดนตรีชั้นเยี่ยมที่มีราคาแพงเลยทีเดียว โดยยังมีพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ 1 ไว้ว่า...
...กางเขนจับแคแล้วร่อนร้อง ช่างทองจับกระทุ่มส่งเสียงโคกม้าจับโมกมองเมียง นกเอี้ยงจับเอื้องเยื้องกราย...
หากเปรียบ เทียบอาชีพ...ของนกกางเขนก็คือ... ชาวสวน เพราะนกกางเขนจะคอยจิกหนอน หรือแมลง ที่มาอาศัย กัดกินต้นไม้ในบ้าน บางครั้งก็หากินอยู่ในกอไผ่ขนาดใหญ่ และสวนผลไม้ค่อนข้างรก... แม้กระทั่งจิ้งจกมันก็ไม่ละเว้น...
ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ มีเกษตรกรบางราย ที่ปลูกผักกางมุ้งปลอดสารพิษ... มักนำเอานกกางเขนเข้าไปใส่ในมุ้งผัก... เพื่อจะให้มันคอยช่วยจับหนอนและแมลงที่รุกล้ำเข้าไปในมุ้งผักให้หมดสิ้นไป...
ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน จะเป็นฤดูทำรังและวางไข่ ลักษณะของรังนกชนิดนี้ไม่มีลวดลายหรือซับซ้อนมาก เพียงแต่จะชอบวางไข่ตามซอก หรือตามโพรงไม้ขนาดเล็ก
ความเป็นจริงแล้วเพราะนกกางเขนมีอยู่ทั่วไปทั้งตามบ้าน, กลางเมือง, ในสวน หรือป่าเขา มีความเป็นนกรักถิ่นมาก หากได้ ปกครองในพื้นที่อาศัยจุดไหนแล้ว จะไม่ยอมให้นกตัวอื่นมารุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของตนอย่างเด็ดขาด จะคอยไล่จิกนกตัวอื่นให้ออกจากอาณาเขตทันที...
บางครั้งอาจจะอาศัยอยู่ตามซอกตึก ซอกหลังคาบ้าน ในศาลพระภูมิเจ้าที่ ซึ่งมันเป็นนกที่ดัดแปลงชีวิตให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเข้ากับวิถีของสังคมมนุษย์ได้เป็นอย่างดี... ทำให้มันมีชีวิตอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้...
****************************************************
ส่วนรูปที่โชว์อยู่เป็นรูปนกฮัมมิ่งตัวผู้นะคะ
สามารถฟังเพลงบินหลาได้ที่ :
http://music.siamza.com/music.php?k=64K&id=1288
ความคิดเห็น
ได้ฟามรู้ ดีจัง ^^ วันหลังจามาอ่านอีกนะคะพี่พ
กูอยากกาตืบเจ้าของกาทู้โว้ย