Conexion - ผู้สานต่อห้วงเวลา - นิยาย Conexion - ผู้สานต่อห้วงเวลา : Dek-D.com - Writer
×

    Conexion - ผู้สานต่อห้วงเวลา

    โดย tongfar

    เมื่อแมวเพียงตัวเดียวทำให้การดำเนินชีวิตต้องผิดเพี้ยนไป แล้วเราควรจะโทษคนหรือแมวกันแน่นะ ? // บทส่งท้าย โลกที่ถวิลหาและชีวิตที่มุ่งหวัง (จบแล้วจ้า)

    ผู้เข้าชมรวม

    138,703

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    24

    ผู้เข้าชมรวม


    138.7K

    ความคิดเห็น


    1.11K

    คนติดตาม


    1.02K
    จำนวนตอน : 62 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ย. 63 / 16:49 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    เรื่องย่อ

    'จิณณ์'เด็กหนุ่มพลังจิตลึกลับผู้หลอกลวงโลกทั้งใบเพื่อขอใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา แต่กลับได้พบเด็กสาวผู้รังแต่จะสร้างปัญหา 'ความลับ' ถูกเปิดเผย ชีวิตไม่อาจหวนคืนสู่เส้นทางเดิมได้อีก เพราะตกเป็น 'เป้าหมาย' ของนักวิจัยจากต่างแดน องค์กรมืดของรัฐ และกลุ่ม 'ผู้ก่อการร้ายสมัครเล่น' สิ่งเดียวที่เขาต้องทำในตอนนี้คือ 'เอาตัวให้รอด'
     

    อ้าวลืมไป... ข้างบนนั่นล้าสมัยแล้วเพราะเป็นของภาค 1 ภาคสองอยู่ข้างล่างอ่ะ... (ฮา)
     

    จิณณ์ เด็กหนุ่มพลังจิตที่ไม่ลึกลับอีกต่อไป หลังจากความแตกงานก็งอกลุกลามข้ามชาติ ลงท้ายต้องทำตัวเป็นเบ๊ให้รัฐบาลของสองประเทศใช้งาน เพื่อจัดการแก้ไขเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ที่มีแต่ 'conexión' พ่วง 'god's eyes' อย่างเขาเท่านั้นที่สามารถทำได้... โดยมีอุปสรรคคือ 'กลุ่มบุคคลผู้เกลียดชังผู้ใช้พลังจิต' 'พวกคลั่งชาติ' 'พวกที่เกลียด god's eyes เป็นทุนเดิม' และ... 'กลุ่มผู้รัก god's eyes…???'




    ประกาศ

    เนื่องจากทาง hinovel มาขอลิขสิทธิ์เพื่อนำไปลงแอพ ผมจึงรีไรท์ใหม่ให้เหมาะสมกับเวลาที่ล่วงเลย...

    หากใครสนใจรบกวนตามไปอ่านต่อในแอพของ hinovel ตามลิงค์ข้างล่างครับผม

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ห้องรับวิจารณ์นิยาย :]"

    (แจ้งลบ)

    ความน่าสนใจ ชื่อเรื่อง คำอธิบาย และพล็อตเรื่องโดยรวมน่าสนใจมากค่ะ กะทัดรัดได้ใจความ ถือว่าดีทีเดียว ความสวยงาม ในเรื่องของหน้หลักบทความยังไม่มีการตกแต่งเลย ถ้างั้นสรจะแนะนำให้แล้วกันนะคะ - ควรหาคาแร็กเตอร์ของตัวละครหลักมาแปะไว้ที่หน้าบทความ พร้อมอธิบายลักษณะเด่นๆของตัวละครเหล่านั้นด้วย - ลองไปสั่งแบนเนอร์มาแ ... อ่านเพิ่มเติม

    ความน่าสนใจ ชื่อเรื่อง คำอธิบาย และพล็อตเรื่องโดยรวมน่าสนใจมากค่ะ กะทัดรัดได้ใจความ ถือว่าดีทีเดียว ความสวยงาม ในเรื่องของหน้หลักบทความยังไม่มีการตกแต่งเลย ถ้างั้นสรจะแนะนำให้แล้วกันนะคะ - ควรหาคาแร็กเตอร์ของตัวละครหลักมาแปะไว้ที่หน้าบทความ พร้อมอธิบายลักษณะเด่นๆของตัวละครเหล่านั้นด้วย - ลองไปสั่งแบนเนอร์มาแปะไว้ที่หน้าบทความ แล้วนำไปแลกกับบทความอื่นๆก็ได้ค่ะ - ใส่ ธีมสวยๆซักธีม ซึ่งเดี๋ยวนี้มีบทความแจกธีมสำเร็จรูปเยอะแยะ ก็ลองไปเปิดหาดูนะคะ สำหรับเรื่องนี้แนะนำธีมที่สีเข้มๆหน่อย หรือจะเป็นแบบสว่างไปเลย แต่ต้องเป็นแบบเรียบๆนะคะ - อาจใส่เพลงคลอเบาๆ ลงไปด้วย จะคลาสสิคมากๆเลย เนื้อเรื่อง การ บรรยายของเรื่องนี้แม้จะไม่ยืดยาวหรือละเอียดอย่างบางบทความแต่ก็ทำให้ผู้ อ่านเห็นภาพได้ และการบรรยายลื่นไหลดีค่ะ เพราะใช้คำกะทัดรัด เหมาะสม เนื้อเรื่องของเรื่องนี้จะเป็นแบบพลังจิต ความสามารถพิเศษ แต่ความรู้สึกนึกคิดของคนก็ยังมีความสมเหตุสมผล มีโอเวอร์มากจนเกินไป การใช้คำพูด ก็คมคาย น่าติดตาม เร้าความอยากรู้ของผู้อ่านอย่างมาก คำผิดมีน้อยค่ะ แต่ส่วนมากมักจะพิมพ์ตกมากกว่า สรเลยอยากให้ลองอ่านดูอีกที เนื้อ เรื่องน่าติดตามมาก เพราะมีความแปลกใหม่ เป็นโลกหลังจากที่เกิดภัยพิบัติ จึงเกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นแต่ก็ยังคงลักษณะนิสัยของคนปกติไว้ สรุปผล และแนะนำโดยรวม เรื่อง นี้เป็นนิยายแฟนตาซีที่สรอ่านแล้วอยากติดตามที่สุดเลยค่ะ นักเขียนมีฝีมือการแต่งที่ดีอยู่แล้ว ถึงยังมีจุดที่ต้องแก้ไขบ้าง แต่ก็ยังมีการพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆได้อีก และถ้าลองตกแต่งหน้าบทความให้สวยๆและไปแลกแบนเนอร์เยอะๆ รับรองว่าเรื่องนี้ต้องเป็นที่รู้จักของนักอ่านนิยายแฟนตาซีในไม่ช้าแน่นอน ค่ะ ^^ สำหรับคะแนนเต็มสิบคะแนน สรอยากให้ 10 มากๆเลย แต่ยังขาดความสวยงามไปนิด เรื่องนี้เลยถูกหักคะแนนไป 1 คะแนนค่ะ สรุปเรื่องนี้คะเต็มสิบคะแนน เรื่องนี้ได้ 9/10   อ่านน้อยลง

    NIHONGO | 6 ธ.ค. 53

    • 21

    • 4

    "((รับวิจารณ์นิยายเเบบอ่านจริงไม่เม้นมั่วBY MONKEY'FRIEND))"

    (แจ้งลบ)

    1. การใช้ภาษา ใช้ภาษาได้ลื่นไหลและมีเสน่ห์ดีมากค่ะ ผู้วิจารณ์ยังอ่านลื่นเกินไปหลายจุดทำให้ต้องกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบเลย ประโยคสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ บอกถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ดีเลยทีเดียว แต่ก็อาจจะมีอ่านไปแล้ววงงบ้างในบางส่วนซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก อ่านทวนอีกครั้งก็จะสามารถเข้าใจได้ อีกทั้งผู้เขียนยังมีลักษณะการเขียนที่กระชับ ไม่ยื ... อ่านเพิ่มเติม

    1. การใช้ภาษา ใช้ภาษาได้ลื่นไหลและมีเสน่ห์ดีมากค่ะ ผู้วิจารณ์ยังอ่านลื่นเกินไปหลายจุดทำให้ต้องกลับมาอ่านซ้ำอีกรอบเลย ประโยคสนทนาก็ดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ บอกถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ดีเลยทีเดียว แต่ก็อาจจะมีอ่านไปแล้ววงงบ้างในบางส่วนซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก อ่านทวนอีกครั้งก็จะสามารถเข้าใจได้ อีกทั้งผู้เขียนยังมีลักษณะการเขียนที่กระชับ ไม่ยืดเยื้อ จึงทำให้ผู้อ่านไม่เบื่อที่จะอ่านต่อไปเรื่อยๆค่ะ คะแนน : 8.6/10 2. เนื้อเรื่อง+ตัวละคร เนื้อเรื่องนี่ก็ถือว่าดีเลยนะคะ เป็นการวางพล็อตและผูกเรื่องที่ดีและดูเป็นหลักเป็นฐานไม่ออกอ่าว การเปิดตัวในบทแรกนั้นก็ถือว่าทำได้ดีมากเลยค่ะ เพราะในตัวบทมีความน่าสนใจและมีแรงดึงดูดที่ทำให้ผู้อ่านอยากเปิดบทต่อไปอ่านอีก ซึ่งผู้เขียนจะได้เปรียบในเรื่องการใช้ภาษาอยู่แล้ว ดังนั้นเวลานำเรื่องที่วางเอาไว้มาเขียนในบทต่างๆนี่จะช่วยเสริมให้เรื่องของผู้เขียนน่าอ่านและดูมีเสน่ห์มากขึ้นค่ะ อีกทั้งเรื่องนี้ยังมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือการใช้แมวเป็นสื่อในการที่ทำให้เรื่องดำเนินไปในเค้าโครงของมัน ซึ่งแมวตัวนี้แหละที่ดูเหมือนจะทำให้เรื่องผู้สานต่อห้วงเวลามีความพิเศษมากจริงๆ ส่วนในเรื่องของตัวละครนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ดูละครค่อนข้างที่จะดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ และมีจุดยืนของตัวเองที่แน่ชัด จะมีก็แต่ตัวละครบางตัวที่โผล่มาแบบงงๆนิดๆเท่านั้นเองค่ะ คะแนนเนื้อเรื่อง : 4.6/5 คะแนนตัวละคร : 4.8/5 3. ความคิดสร้างสรรค์/น่าสนใจน่าติดตาม ผู้เขียนเรื่องนี้มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมากค่ะ สามารถนำจุดเล็กและจุดใหญ่มารวมกับจุดต่างๆให้เป็นจุดเชื่อมและทำให้เรื่องลงตัวได้ดีค่ะ มีการริเริ่มเรื่องจากจุดที่น่าสนใจ และทมีความน่าติดตามในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะค่ะ คะแนน : 9.7/10 4. การจัดหน้า+ตกเเต่งหน้าบทความ การจัดตกแต่งหน้าของบทความก็ไม่ได้มีปัญหาควรติแต่อย่างใดค่ะ เพราะว่าใช้ธีมหลักของทางเวปไซต์อยู่แล้ว ดังนั้นสีของตัวหนังสือหรือพื้นหลังต่างๆก็ดำเนินไปอย่างปกติค่ะ แต่ผู้วิจารณ์ขอแนะนำว่าถ้าผู้เขียนตกแต่งหน้าบทความให้สวยงามก็จะสามารถดึงดูดผู้อ่านได้มากขึ้นจากเดิมด้วยนะคะ เพราะการตกแต่งหน้าบทความของเราก็เหมือนกับการตกแต่งหน้าเค้ก ถ้าตอนนี้ผู้เขียนมีเค้กอร่อยๆอยู่ในมือแล้วก้อนหนึ่ง แล้วเปรียบเค้กอร่อยๆนั้นให้เป็นเรื่องของผู้เขียน หากคนที่ไม่เคยชิมเค้กนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าเค้กนั้นจะอร่อยแค่ไหนนอกจากจะชิมมัน(ลองอ่าน) แต่ถ้าเขาไม่ชิมล่ะคะ? เราก็ต้องเพิ่มสีสันให้เค้กก้อนนั้นดูสดใสและดูอร่อยมากยิ่งขึ้น มันก็จะยิ่งเพิ่มความดึงดูดให้เค้กก้อนนั้นของผู้เขียนน่าลองชิมมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ในด้านการจัดหน้านั้น ส่วนในรูปแบบของตัวอักษรและขนาดของตัวอักษรนั้นอ่านง่ายสบายตาดีค่ะ แต่ผู้เขียนอย่าลืมย่อหน้านะคะ เพราะถ้าหากไม่ย่อหน้าแล้วมันจะทำให้อ่านยากขึ้นค่ะ คะแนนการจัดหน้า : 3.5/5 คะแนนการตกแต่งบทความ : 4.1/5 5. ข้อนี้จะวิจารณ์ตามประเภทนิยายค่ะ+คะเนนพิเศษ คะแนนพิเศษ! ในหัวข้อนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ สำหรับแฟนตาซีเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ น่าติดตามและชวนลุ้นได้ดีเหลือเกิน อีกทั้งผู้วิจารณ์ยังชอบไสตล์การเขียนของผู้เขียนมากๆอีกด้วย เพราะมันไม่ยืด อ่านแล้วเข้าใจง่าย เรื่องนี้ยังเป็นแฟนตาซีที่มีกลิ่นอ่ายของแฟนตาซีสุดๆเลยค่ะ มีการเริ่มต้นจากจุดเวลาที่ค่อนข้างจะแปลกจากเรื่องอื่นๆสักหน่อย อีกทั้งยังมีการใช้พลังจิตเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการเขียนเรื่องนี้ด้วย ทำให้เรื่องยิ่งน่าสนใจและดูเป็นเหตุเป็นผลมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ คะแนน : 9.9/10 6. ภาพรวม(ทั้งหมด) + คะเเนน เต็ม100 เป็นภาพรวมที่ดีทั้งในด้านวรรณศิลป์ ความคิดริเริ่ม และเสน่ห์ของเรื่องที่ดีค่ะ คะแนน : 90.4/100 ลงชื่อผู้วิจารณ์(นามปากกา ) : A.m.Onsky ***ขอขอบคุณในการรับฟังการวิจารณ์ของผู้วิจารณ์นะคะ หวังว่าคำวิจารณ์เล็กๆน้อยๆนี้คงจะช่วยเป็นประโยชน์แก่ผู้เขียนไม่มากก็น้อยค่ะ อาจจะพล่ามไปหน่อยแต่ก็ออกมาจากใจค่ะ   อ่านน้อยลง

    A.m.Onsky | 13 ธ.ค. 53

    • 20

    • 4

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "บทวิจารณ์ Conexion - ผู้สานต่อห้วงเวลา"

    (แจ้งลบ)

    นิยายแฟนตาซีพลังจิตของ tongfar เรื่อง Conexión – ผู้สานต่อห้วงเวลา ที่จบภาค 1 แล้ว ในภาคนี้มีทั้งสิ้น 20 ตอน (ไม่นับบทนำและบทสรุป) ซึ่งเป็นเรื่องราวของ จิณณ์ บัล เดซาร์ หนุ่มน้อยที่มีพลังจิตในตำนาน ผู้ซึ่งปกปิดความสามารถนี้ของตนไว้เป็นความลับ แต่เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เขามาพบกับปิญชาน์ หรือ ปิ่น สาวน้อยพลังจิตที่เข้ามาทำร้ายเพร ... อ่านเพิ่มเติม

    นิยายแฟนตาซีพลังจิตของ tongfar เรื่อง Conexión – ผู้สานต่อห้วงเวลา ที่จบภาค 1 แล้ว ในภาคนี้มีทั้งสิ้น 20 ตอน (ไม่นับบทนำและบทสรุป) ซึ่งเป็นเรื่องราวของ จิณณ์ บัล เดซาร์ หนุ่มน้อยที่มีพลังจิตในตำนาน ผู้ซึ่งปกปิดความสามารถนี้ของตนไว้เป็นความลับ แต่เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้เขามาพบกับปิญชาน์ หรือ ปิ่น สาวน้อยพลังจิตที่เข้ามาทำร้ายเพราะคิดว่าเขาคิดจะรังแกลูกแมวสีดำ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตของเขาก็ต้องเปลี่ยนไป ความลับที่ถูกปิดมาแสนนานก็ถึงคราวที่ต้องเปิดเผย ขณะเดียวกันชีวิตที่เคยสงบสุขก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ นานาในหลากหลายรูปแบบ หากถามว่าเมื่ออ่านเรื่องนี้มาจนจบภาค 1 แล้ว อะไรคือจุดเด่นของนิยายเรื่องนี้ ประการแรกคงต้องยอมรับว่า tongfar สามารถนำชื่อเรื่องโดยเฉพาะคำว่า Conexión มาใช้ได้ในหลากหลายลักษณะ ในเบื้องต้น ถ้าพิจารณาความหมายโดยตรงของศัพท์คำนี้ หากจะให้เดาก็น่าจะมาจากภาษาสเปนเช่นเดียวกับคำศัพท์อื่นๆที่ปรากฏในเรื่อง ซึ่งคำนี้สามารถเทียบเคียงกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า connection ที่แปลว่า การเชื่อม ต่อเนื่อง หรือ เกี่ยวกัน โดยส่วนตัวเห็นว่าคำๆ นี้มีความเกี่ยวเนื่องกับจิณณ์ ใน 3 ลักษณะ คือ ลักษณะที่หนึ่ง แสดงถึงความสามารถในการใช้พลังจิตว่า จิณณ์ มีพลังจิตที่เรียกว่า Conexión ระดับ SS ลักษณะที่สอง แสดงให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะที่โดดเด่นของจิณณ์ เพราะเขามักจะดึงดูดหรือเป็นตัวเชื่อมให้ทุกคนมารุมล้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู และในเรื่องก็ยังย้ำให้เห็นอย่างหนักแน่นด้วยคำพูดที่เกี่ยวกับจิณณ์ของอาจารย์ใหญ่ที่พูดกับคาซีเมื่อเขามาเยี่ยมโรงเรียนก็ช่วยยืนยันลักษณะพิเศษของจิณณ์ได้ชัดเจนขึ้นว่า “จิณณ์เป็นเด็กไม่เก่งอะไรสักอย่าง แต่กลับดึงดูดคนอื่นรายรอบให้คล้อยตามเขาได้เสมอ ... แปลกดีไหม” และ ลักษณะสุดท้าย แสดงให้เห็นถึงความหมายแฝงของกลวิธีการเขียนที่ tongfar ใช้จิณณ์เป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งหมด ซึ่งจะเห็นได้ว่าจิณณ์เป็นโครงหลักของนิยายเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ จุดเด่นประการที่สองคือ การสร้างตัวละคร จะพบว่าแม้มีตัวละครกว่า 20 ตัวในเรื่องทว่าตัวละครแต่ละตัวนอกจากจะมีบุคคลิกลักษณะที่โดดเด่นไม่ซ้ำกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะ เช่น ลุซ ผมสีชา ตาสีคราม หรือ จิณณ์ ผมไม่เป็นทรงสีกาแฟแก่ ตาสีน้ำตาลเข้ม และในแง่ของอุปนิสัยใจคอก็เช่นกัน จะเห็นว่าปิญชาน์หรือปิ่น สาวน้อยแสนน่ารักที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเธอบอบบาง อ่อนหวาน แต่ตัวจริงเธอห้าวและกล้าแกร่งไม่แพ้ใคร ในขณะที่มิกิเป็นสาววู่วาม เลือดร้อน แต่รักพวกพ้อง และวอซเองก็เป็นหนุ่มอารมณ์ร้อน แต่รอบคอบ อีกทั้งพลังจิตของแต่ละตัวก็ยังต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นปิ่นใช้พลังแรงดึงดูด อลาเบโอใช้พลังบิดเบือน หรือ ปารย์ที่ใช้พลังเทเลพาธี ความชัดเจนของการสร้างตัวละครในที่นี้นับเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้อ่านชื่นชอบและติดตามอ่านเรื่องราวของตัวละครกลุ่มนี้ว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดต่อไป จุดเด่นประการที่สามคือ ปมปัญหาหรือความลับต่างๆ ที่เปิดไว้ในเรื่อง นับเป็นองค์ประกอบประการสำคัญที่ช่วยให้เรื่องน่าติดตาม ขณะเดียวกัน tongfar ก็ไม่ลืมที่จะค่อยๆ ปิดปมปัญหาและคลี่คลายความลับต่างๆ เหล่านั้นได้ทั้งหมดก่อนจบภาค ไม่ว่าจะเป็นความไม่เข้าใจกันระหว่างจิณณ์กับพ่อ อะไรคือกล่องสมบัติลับแห่งมีเทร์ที่ลุซขโมยออกมาจากองค์กร ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มของลุซกับคาซี และ ความลับเกี่ยวกับพลังที่แท้จริงของจิณณ์ จุดเด่นประการสุดท้าย คือ นิยายเรื่องนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปในทิศทางใด เพราะขณะที่ผู้อ่านคาดว่าเรื่องจะต้องเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ tongfar ก็จะหักมุมให้เรื่องต่างไปจากที่คาดไว้เสมอ ด้วยการเพิ่มตัวละครใหม่ๆเข้ามา และตัวละครที่เพิ่มเข้ามาส่วนใหญ่ก็มักจะมีพลังพิเศษในระดับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็สร้างสีสันและความเข้มข้นให้กับเรื่องอยู่เสมอ นับได้ว่าสิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความอยากรู้ของผู้อ่านจนต้องเฝ้าติดตามเรื่องว่าจะดำเนินไปในทิศทางใดและตอนจบจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่น่าคิดก็คือ หากภาคต่อไป tongfar ยังใช้วิธีการเช่นนี้มาดำเนินเรื่องอีก ก็ทำให้นึกสงสัยว่าตัวละครในภาคต่อไปนั้นจะเป็นผู้ที่มีพลังพิเศษเพิ่มขึ้นจนถึงระดับใด เพราะในช่วยท้ายๆของภาคนี้ ผู้อ่านก็เห็นแล้วว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษได้พร้อมกันถึง 4 อย่าง และแม้แต่ตัวของจิณณ์เอง นอกจากจะมีพลัง Conexión ในระดับ SS แล้ว เขายังมีพลังเทเลพาธี ระดับ SS ที่ได้รับมาจากพ่อซึ่งเป็นผู้ชายในตำนานที่ได้รับสมญานามว่า God’s eyes ระดับ SS อีกด้วย ในขณะที่อ่านต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ายังไม่สามารถที่จะจินตนาการตามเรื่องได้ทันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากการต่อสู้ด้วยการใช้พลังพิเศษต่างๆ ของตัวละคร นั่นอาจเป็นเพราะโดยส่วนตัวไม่คุ้นกับเรื่องในทำนองนี้มากนัก จึงทำให้กว่าที่จะเข้าใจว่าพลังพิเศษแต่ละชนิดเป็นอย่างไร และมีวิธีการใช้พลังอย่างไร บางครั้งก็ต้องพบการใช้พลังแบบเดิมๆ อย่างน้อย 2 ครั้งจึงจะเริ่มจับทางได้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อใดก็ตามที่เป็นฉากที่เพิ่มตัวละครตัวใหม่ที่มีพลังพิเศษชนิดใหม่ๆเพิ่มเข้ามา หรือฉากการต่อสู้ระหว่างพลังพิเศษหลายๆ ชนิดพร้อมกันก็จะมีความรู้สึกว่าสับสนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากที่พวกของลุซต่อสู้กับพวกของคาซี ในบทที่ 12 ตอน ศึกจอมคนลวงโลก ที่มีตัวละครเพิ่มใหม่เข้ามาพร้อมกันหลายตัว และมีพลังพิเศษใหม่อีกหลายชนิดเพิ่มเข้ามาด้วย ประกอบกับการต่อสู้ในครั้งนี้ยังมีการใช้การสร้างภาพลวงตาเสริมเข้าไปอีก จนทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่าผู้ที่กำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้เป็นตัวละครใดกันแน่ นอกจากนี้ การบรรยายฉากการต่อสู้ในช่วงนั้น tongfar ก็บรรยายสั้นกระชับเพื่อสร้างความตื่นเต้น การบรรยายเช่นนี้อาจจะดีและเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังจิตเหล่านี้มาอยู่ก่อนแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เลยต้องยอมรับเลยว่าเมื่ออ่านฉากต่อสู้ตอนนี้จบลงก็ยังงงๆและสับสนอยู่มาก ในประเด็นนี้หาก tongfar สามารถหาสมดุลระหว่างการเล่าเรื่องให้ผู้ที่รู้และไม่รู้สามารถที่จะสนุกไปกับเรื่องราวได้พร้อมๆ กันได้ก็จะดี แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องผ่านเรื่องราวของจิณณ์ เด็กชายชั้นมัธยมปลายคนหนึ่ง แต่เรื่องราวที่ได้อ่านก็ไม่ได้เป็นไปตามรูปแบบของนิยายแฟนตาซีแนวโรงเรียนที่นิยมกันอยู่ ที่เป็นเช่นนี้เพราะ tongfar นำเสนอและสอดแทรกสาระความคิดไว้ในหลายหลายมิติ ทั้งมิติระดับบุคคล ที่นำเสนอมิตรภาพระหว่างผองเพื่อนว่าจะมั่นคงเพียงไร โดยใช้เรื่องราวของจิณณ์เป็นบททดสอบว่า เมื่อเพื่อนรู้ว่าเขาหลอกลวงและปกปิดพลังและตัวตนที่แท้จริงไว้ เพื่อนจะยังคงให้อภัยและคบเขาเหมือนเดิม หรือว่าจะเลิกคบเขาไปเลย และยังมีเรื่องราวของมิตรภาพที่สร้างขึ้นใหม่ระหว่างพวกของจิณณ์ พวกของลุซ และพวกของคาซี ขณะเดียกกันก็สอดแทรกเรื่องราวความรัก ทั้งความรักระหว่างพี่น้องผ่านเซียงผู้เป็นพี่ชายที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อหาวิธีรักษามิเรียน้องสาวของเขาให้หายจากโรคร้าย และความรักของหนุ่มสาวระหว่างจิณณ์กับปิ่นที่เริ่มต้นจากเพื่อนพัฒนาไปสู่ความผูกพันและความรักในที่สุด อีกทั้งยังมีนำเสนอความรักของพ่อแม่ที่พร้อมจะสละชีวิตของตนเพื่อปกป้องลูก ในกรณีของ God’s eyes กับจิณณ์ ลักษณะต่อมาก็คือมิติระดับครอบครัว ที่นำเสนอปมปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างจิณณ์กับพ่อมาเป็นอุทาหรณ์ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ปิ่นได้เรียนรู้ เข้าใจ และนำไปปรับใช้กับปัญหาของตนด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังนำเสนอมิติที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือมิติทางสังคม ที่สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องราวความวุ่นวายใหญ่โตนี้เกิดขึ้นจากความโลภและเห็นแก่อำนาจของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดียังมีข้อสงสัยอีกประเด็นหนึ่งคือ ในช่วงท้ายเรื่องที่จิณณ์และปิ่นบุกเข้าไปทลายศูนย์วิจัยของโอโซเน่ ผู้เป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวายต่างๆ ขึ้นนั้น พวกเขาพบสมองมนุษย์ที่อยู่ในหลอดทดลองทั้งหมด 4 อัน ซึ่งเท่ากับจำนวนความสามารถที่ชายชุดดำใช้ คำถามที่เกิดขึ้นเมื่ออ่านมาถึงตอนนี้คือ หนึ่งในพลังที่ชายชุดดำใช้ต่อสู้กับพวกจิณณ์คือ พลัง “หยุด” ซึ่งเป็นพลังพิเศษของลูกสาวลุซ เมื่อบรรยายเกริ่นไว้เช่นนี้ก็แสดงว่าหนึ่งในสมองที่เห็นนั้นก็น่าจะเป็นของลูกสาวลุซ ซึ่งก็เท่ากับว่าเด็กคนนี้ตายแล้วใช่หรือไม่ แต่ต่อมาเรื่องกลับกลายเป็นว่าจิณณ์และปิ่นสามารถที่จะช่วยชีวิตและพาลูกสาวลุซออกมาได้ จึงทำให้เกิดคำถามว่าสมองที่บรรยายในช่วงต้นเป็นของใครกันแน่ และที่บอกว่าความสามารถของลูกลุซ นับว่าเป็นสิ่งที่หายาก จนเธอได้รับยกย่องให้เป็นสมบัติลับแห่งมีเทร์ ก็น่าหมายความว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้พลังนี้ได้ ซึ่งก็เท่ากับว่าสมองที่กล่าวถึงไว้ในตอนต้นน่าจะเป็นของเธอด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่น่าจะรอดชีวิตมาได้ ในกรณีนี้เพื่อให้เหตุการณ์ตอนนี้ชัดเจนขึ้นก็ควรจะเปลี่ยนจากพบสมอง 4 อันในหลอดทดลอง เป็นพบคน 4 คนที่ถูกเชื่อมต่อพลังของพวกเขาไปยังแหล่งส่งทอดพลังเพื่อให้ชายชุดดำนำไปใช้อีกต่อหนึ่ง เช่นเดียวกับที่บรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นกับซิลเวียและผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ ก็น่าช่วยให้การฉากนี้มีสมจริงมากขึ้น ท้ายที่สุดเพื่อให้นิยายเรื่องนี้มีความถูกต้องสมบูรณ์มากขึ้น จึงอยากจะกล่าวถึงคำผิดที่พบเพื่อที่นักเขียนจะนำไปเป็นข้อมูลในการปรับแก้ต่อไป คำผิดที่พบในเรื่องนี้ คือ หา หรือ ฮะ เขียนเป็น ห๊ะ กะพริบตา เขียนเป็น กระพริบตา ล่อกแล่ง เขียนเป็น ลอกแล่ก อเนจอนาถ เขียนเป็น เอน็ดอนาถ มั้ย เขียนเป็น ไม๊ กระตือรือร้น เขียนเป็น กะตือรือร้น สังเกต เขียนเป็น สังเกตุ มั้ย เขียนเป็น ม๊าย คลุ้มคลั่ง เขียนเป็น คลุ่มคลั่ง กะทัดรัด เขียนเป็น กระทัดรัด ตาลุกโพลง เขียนเป็น ตาลุกพลง สิงสถิต เขียนเป็น สิงสถิตย์ และ สนธยา เขียนเป็น สนทยา ------------------------   อ่านน้อยลง

    bluewhale | 10 ก.พ. 54

    • 12

    • 1

    "แวะมาเยี่ยมค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    นิยายแนวแฟนตาซี ขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าอาจจะไม่ใช่แนวมากนักแต่ว่าด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านก็เลยอ่านได้ ส่วนจะวิจารณ์แล้วเกิดประโยชน์กับท่านหรือไม่ก็ให้พิจารณาเองก็แล้วกันนะคะ -คำผิด มีเล็กน้อย เช่น "อเนจอนาถ" ใช้คำนี้ค่ะ ไม่ใช่ "เอน็ดอนาถ" ถ้าอย่างไรก็ลองส่องดูก็แล้วกันนะคะ -การการจัดย่อหน้าและระยะห่างของบรรทัดทำได้ดีค่ะ อ่านง่าย สบายตา - ... อ่านเพิ่มเติม

    นิยายแนวแฟนตาซี ขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าอาจจะไม่ใช่แนวมากนักแต่ว่าด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านก็เลยอ่านได้ ส่วนจะวิจารณ์แล้วเกิดประโยชน์กับท่านหรือไม่ก็ให้พิจารณาเองก็แล้วกันนะคะ -คำผิด มีเล็กน้อย เช่น "อเนจอนาถ" ใช้คำนี้ค่ะ ไม่ใช่ "เอน็ดอนาถ" ถ้าอย่างไรก็ลองส่องดูก็แล้วกันนะคะ -การการจัดย่อหน้าและระยะห่างของบรรทัดทำได้ดีค่ะ อ่านง่าย สบายตา -การบรรยาย ถือว่าใช้ได้ค่ะ แต่ chapter1 "น้ำกระป๋องหกเละเทไปหมด" ใช้คำนี้จะเหมาะกว่าไหมคะ "น้ำกระป๋องหกเลอะเทอะไปหมด" หรือจะใช้คำว่า "เลอะ" คำเดียวก็ได้นะคะ ประโยคนี้ "เธอเขวี้ยงกระป๋องเปล่า" ถ้าในการบรรยายน่าจะใช้ "เธอขว้างกระป๋องเปล่า" มากกว่านะคะ เขว้ยง เอาไว้เป็นภาษาพูดได้ค่ะ -การดำเนินเรื่องน่าติดตามค่ะ ถือว่าเป็นการแต่งแฟนตาซี ชื่อไทย แต่มีศัพย์แสงที่ไม่ถึงกับเข้าใจยากมาแต่งรวมกันได้ดี ถ้าเป็นคะแนน คงให้ 80% ค่ะ อีก 20% สำหรับปรับปรุงที่กล่าวมาแล้วเพื่อให้เต็มร้อยสำหรับเป็นหนังสือนะคะ หวังใจว่าจะได้เห็นแฟนตาซีน่าอ่านเรื่องนี้เป็นรูปเล่มค่ะ   อ่านน้อยลง

    สุรางค์สิริ | 8 ก.พ. 54

    • 13

    • 4

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น