ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายปรวาณ...

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 147
      1
      10 พ.ค. 58

    ปฐมบท

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

                    ซ่าๆ เสียงห่าฝนสาดซัดลงมาราวกับท้องฟ้าจะถล่ม อุณหภูมิที่เย็นยะเยือกจนผู้คนต้องรีบหาที่หลบฝนเป็นการใหญ่ บนท้องถนนมีรถราจราจรไปมาถึงแม้จะติดขัดไปบ้างเนื่องด้วยประชากรที่มากล้น ทุกชีวิตดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ตื่น ทำงาน แล้วก็นอน แต่ยังมีอีกบุคคลหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เด็กวัยรุ่น ควรจะเป็น...

     

                    “ฮึกๆ ทำไมต้องเป็นแบบนี้.... เสียงอันสั่นเครือของชายหนุ่มอายุยังไม่ทันได้สิบแปดขวบดีดังออกมาจากซอกตึกหลังหนึ่ง

     

                    เรารึก็อุตส่าห์ทำแต่ความดี เข้าวัดฟังธรรม ปฏิบัติตนในศีลห้า ทำความดีแทบทุกอย่างตามที่พ่อกับแม่เคยสอน ทำไม...ทำไม พวกท่านถึงใจร้ายก็ผมขนาดนี้!” เสียงตวาดกร้าวดังออกมา ร่างโปร่งกระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเอง

     

                    โบราณว่าไว้ทำดีได้ดี แต่ทำไมผมและครอบครัวไม่เห็นจะได้ดีบ้างเลยล่ะ..... ร่างโปร่งเปลี่ยนท่าจากกอดเข่ามานอนขดตัวอยู่ในกล่องลังขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นที่กำบังฝน อุณหภูมิที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจห้าม

     

                    เวรกรรมอะไรกันที่ส่งผลถึงครอบครัวเราขนาดนี้... เสียงทุ้มกล่าวตัดพ้อจนเผลอหลับไปในที่สุด

     

                    เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกของนายตำรวจใหญ่ที่มีทั้งความสามารถและคุณธรรม แต่ด้วยคดีนักการเมืองใหญ่ที่พ่อของเด็กคนนี้รับผิดชอบอยู่นั้นทำให้ทั้งครอบครัวของเด็กหนุ่มพบกับจุดจบอย่างคาดไม่ถึง เพียงเพราะพ่อของตนพยายามกระชากหน้ากากนักการเมืองจอมปลอมที่ทำการคอรัปชั่นต่างๆให้ทั่วแผ่นดินได้รับรู้ เพียงแค่อยากให้ประเทศชาติปลอดจากคนที่เห็นแก่ตัวพวกนี้ เพียงแค่จะทำความดีชดใช้ชาติ...

     

                    ด้วยเหตุผลเหล่านี้นั่นเองนักการเมืองคนดังกล่าวจึงใช้อำนาจที่มีอยู่ฆ่าล้างครอบครัวพร้อมใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนาๆมายังเด็กหนุ่มที่ตอนเกิดเหตุฆ่าล้างครอบครัวนั้นออกไปทำบุญที่วัดจึงทำให้เด็กหนุ่มรอดตายจากคนพาล แต่ด้วยคำใส่ร้ายต่างๆและการสร้างสถานการณ์ขึ้นของคนพาลพวกนั้นทำให้จากเด็กหนุ่มผู้ฝักใฝ่ธรรมกลายเป็นฆาตรกรผู้บ้าคลั่งฆ่าล้างครอบครัวตัวเอง ทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆแต่กลับโดนตามล่าแทบพลิกแผ่นดิน....

     

                    ไม่แปลกที่เด็กหนุ่มจะสาปแช่งชะตาชีวิตตัวเอง...

     

                    คำกร่นด่าสาปแช่งตลอดการหลบหนีของเด็กหนุ่มร้อนถึงสวรรค์ชั้นฟ้าอันเป็นที่อยู่ของเหล่าเทพบุตรเทพธิดาเนื่องด้วยเด็กหนุ่มเป็นผู้มีบุญวาสนามากมาย แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในชาติปางก่อนจึงทำให้เด็กหนุ่มผจญชะตาชีวิตเช่นนี้

     

    ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อันเป็นที่ประทับของพระอินทร์

                    “เกิดเหตุอาเพสอันใดขึ้น ศิลาอาสน์ของเราถึงแข็งกระด้างเช่นนี้ บุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าที่งดงามสมชายชาตรี ร่างกายกำยำมีสีเขียวตั้งแต่ศรีษะจรดฝ่าเท้า มีสี่กร(แขน)แต่ละกรต่างถืออาวุธที่ใช้ปราบ พฤตาสูร(ผีร้าย)  แต่งองค์ทรงเครื่องที่ทำจากทองคำประดับประดาไปด้วยอัญมณีเก้าชนิดหรือที่เรียกว่า นพรัตน์ รอบกายมีนางฟ้านางอัปสรนับรวมได้ถึง 98 แปดตนมีนางอัปสรที่มีหน้าตางดงามหมดจดเด่นกว่านางอัปสรตนอื่นสี่ตนนั่งขนาบซ้ายขวาบนอาสนะที่ต่ำกว่าอาสนะของพระอินทร์

     

                    พระอินทร์จึงตัดสินใจส่องเนตรทิพย์ไปยังเบื้องล่างเห็นเด็กหนุ่มผู้มีวาสนาเปี่ยมล้นแต่กลับผจญความยากลำบากเพราะผลกรรมที่เกิดจากการผิดพลาดเพียงน้อยนิดเมื่อชาติปางก่อน

     

                    น่าเวทนา เพียงการพูดไม่คิดของตัวเองในชาติปางก่อนทำให้มีผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคนต้องตายตกอย่างเอน็จอนาจจนผลกรรมส่งมาถึงชาติภพนี้.... พระอินทร์ถอนหายใจเล็กน้อย

     

                    มาตุลีเทพบุตร เสียงทรงอำนาจดังก้องกังวานไปทั่วชั้นฟ้าเพื่อเรียกสารถีประจำพระองค์ หลังสิ้นเสียงเรียกเบื่องหน้าพระพักตร์ก็มีบุรุษผู้มีร่างกายสมส่วน ใบหน้าหล่อเหลามีรัศมีเปล่งประกาย ปรากฎในท่าคุกเข่า

     

                    ถวายบังคมพระเจ้าค่ะองค์อมรินทร์ มาตุลีเทพบุตรยกมือถวายบังคมเหนือหัว

     

                    เอาล่ะ ไม่ต้องมากพิธี เรามีเรื่องให้เจ้าช่วยหน่อย

     

                    ทรงรับสั่งเถิดพระเจ้าค่ะ กระหม่อมมีหน้าที่รับใช้พระองค์อยู่แล้ว เมื่อพระอินทร์เห็นมาตุลีเทพบุตรพูดเช่นนั้นจึงเริ่มตรัสเล่าสาเหตุที่ทำให้ศิลาอาสน์ของตนแข็งกระด้างจนนั่งไม่สบาย

     

                    จากที่เราเล่ามา เราได้ตรวจดูชะตาของมนุษย์ผู้นั้นแล้วด้วยกรรมที่ทำเอาไว้นั้นหนักนัก หากจะชดใช้ต้องยอมตายในชาตินี้ถึงแม้จะล้างกรรมได้ไม่หมดแต่ก็ทำให้ผลกรรมอ่อนลงได้ถึงกึ่งหนึ่ง เจ้าจงนำเรื่องนี้ไปบอกแก่มนุษย์ผู้นั้นเสีย หากมนุษย์ผู้นั้นยอมสละชีวิตเราจะส่งไปเกิดในอีกภพภูมิหนึ่งเพื่อให้มนุษย์ผู้นั้นได้ทำกุศลเพื่อชำระกรรมที่ทำไว้ตั้งแต่ชาติปางก่อน... พระอินทร์ทรงตรัสด้วยน้ำเสียงเวทนา เพียงเพราะพูดไม่คิดจึงทำให้เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ นี่แหละหนามนุษย์

     

                    รับทราบพระเจ้าค่ะ มาตุลีเทพบุตรรับคำสั่งเสร็จก็เหาะลงมาจากชั้นฟ้าเพื่อมาพบมนุษย์ผู้ที่ทำให้ศิลาอาสน์ของนายเหนือหัวตนแข็งกระด้าง

     

                    ร่างโปร่งหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ในห้วงความฝันเด็กหนุ่มยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยวิ่งเล่นมากมาย ท้องฟ้าก็มีดวงดาวแข่งกันทอแสงอวดความงามให้เด็กหนุ่มได้เห็น ในตอนนั้นก็มีดาวตกสายหนึ่งพุ่งมาทางชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มตื่นกลัว ตกใจ กระสับส่ายทำตัวไม่ถูก มนขณะที่ชายหนุ่มหลับตาเพื่อรองรับแรงกระแทกกลับมีเสียงอันนุ่มทุ้มชวนฟังดังขึ้นมาเสียก่อน

     

                    ลืมตาขึ้นเถิดเด็กน้อย เมื่อเด็กหนุ่มเห็นว่าตนไม่รู้สึกเจ็บจึงลืมตาขึ้นตามเสียงเรียก เบื้องหน้าของชายหนุ่มเป็นเทพบุตรรูปงาม มีผิวกายละเอียดสีเนื้อรูปร่างกำยำแข็งแกร่ง มีรัศมีเปล่งออกมาอย่างน่าศรัทธาลอยตัวยิ้มอยู่เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูก

     

                    ไม่ต้องตกใจไปหรอกเด็กเอ๋ย เราได้รับคำสั่งมาจากนายเหนือหัวเราให้มาบอกข่าวแก่เจ้า.... เทพบุตรหนุ่มพูดออกมาเนิบนาบได้จังหวะน่าฟังไม่น้อย

     

                    ที่เจ้ามีชะตาชีวิตเช่นที่พบอยู่นั้นเป็นเพราะกรรมจากชาติปางก่อนของเจ้าส่งผลมาถึงชาตินี้ หากแม้นเจ้าต้องการจะชดใช้กรรมเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิตกรรมหนักจึงจะลดลงมาเหลือกึ่งหนึ่ง...เช่นนั้นแล้วเจ้าจงไตรตรองให้ดี มาตุลีเทพบุตรกล่าวบอกไม่หมดเพื่อที่จะลองใจของเด็กหนุ่มว่ามีคุณธรรมมากพอหรือไม่ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มยืนนิ่งรับฟังแต่โดยดีจึงเหาะกับสวรรค์ชั้นฟ้าไป

     

                    เฮือกก!...” เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นจากความฝันก็พบว่าตอนนี้นั้นเป็นเวลาเช้าแล้ว แต่ที่เด็กหนุ่มยังไม่ขยับไปไหนก็เพื่อไตร่ตรองถึงความฝันที่เพิ่งพบเจอ

     

                    นี่เราทำกรรมอะไรไว้กันนะ ถึงทำให้ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ เด็กหนุ่มกุมขมับด้วยความปลงตก

     

                    ในเมื่อเราต้องชดใช้ด้วยชีวิตกรรมถึงจะเบาลงบ้าง และตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ครอบครัวก็ไม่มี บ้านก็อยู่ไม่ได้ แผ่นดินก็ไม่ต้อนรับ หากชีวิตนี้สิ้นลงไปจะทำให้อะไรๆดีขึ้นบ้างเราก็ยอม ตอนนี้ดวงตาเด็กหนุ่มไม่มีแววตาของคนเศร้าเสียใจอีกแล้ว มีเพียงแววตาที่แสดงถึงความมุ่งมั่น เมื่อตัดสินใจได้ร่างดปร่งจึงเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อมอบตัว แน่นอนว่าศาลตัดสินให้ประหารชีวิตโดยการยิงเป้า....

     

                    พ่อแม่ครับ ผมกำลังจะไปหานะ และขอโทษด้วยที่ผมยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณเลย ชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตาพลางโดนเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังลานประหาร แน่นอนว่ามีประชาชนมาคอยมุงดูฆาตรกรที่ฆ่าครอบครัวตัวเองอย่างโหดเหี้ยมแน่นอนหนึ่งในนั้นมีต้นเหตุของการฆ่าล้างครอบครัวตนอยู่ด้วย เสียงก่นด่ามากมายดังมาให้เด็กหนุ่มได้ยิน แต่เด็กหนุ่มหาได้สนใจไม่ ในใจตอนนี้ปลอดโปร่งโล่งสบายราวกับว่ากำลังจะพ้นทุกข์

     

                    มีอะไรจะพูดก่อนโดนประหารหรือไม่เจ้าหน้าที่ลานประหารถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเวทนา เพราะดูจากสภาพแล้วไม่น่าที่จะก่อคดีร้านแรงขนาดนั้น ดูอย่างไรก็เป็นแพะแน่นอน แต่ทำอย่างไรได้ตนต้องทำตามหน้าที่แม้จะฝืนใจทำก็ตาม

     

                    มีครับ เด็กหนุ่มตอบก่อนสายตาจะตวัดไปมองยังนักการเมืองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด และยังเป็นผู้บงการในการฆ่าล้างครอบครัวของตนเอง

     

                    ผมอโหสิให้คุณ หากชีวิตผมจะสามารถหยุดเรื่องราวทั้งหมดลงได้ขอให้ผมและคุณอย่าได้พบอย่าได้เจออย่าได้ตามจองล้างจองผลาญทุกชาติไป....เวรกรรมมีจริง เด็กหนุ่มพูดออกไปด้วยใจที่ปลอดโปร่ง ทุกคำพูดล้วนกระแทกหูประชาชนที่มาชมการประหารทุกคนจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นแพะก็ได้ เพราะดูจากลักษณะไม่น่าใช่คนที่ก่อคดีใหญ่ขนาดนั้น

     

                    เมื่อชายหนุ่มพูดจบเจ้าหน้าที่ก็นำร่างของชายหนุ่มไปผูกกับหลักประหารโดยหันหลังให้ปืน ในใจสุดจะเวทนาเด็กหนุ่ม

     

                    อโหสิให้น้าด้วย เธอช่างเป็นเด็กที่มีจิตใจดีนักไม่น่าเจอเรื่องแบบนี้เลย เจ้าหน้าที่หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสุดจะเศร้าเสียใจ

     

                    ครับ ผมอโหสิให้น้าทำตามหน้าที่นิเนอะ รอยยิ้มสดใสที่ระบายอยู่บนหน้าของเด็กหนุ่มทำเอาน้ำตาของเจ้าหน้าที่หนุ่มถึงกับกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ นี่ตนต้องมาพรากชีวิตเด็กคนนี้จริงๆนะหรือ...

     

                    ขอให้ไปสู่สุขติ สู่ภพภูมิที่ดี จะอย่างไรตนก็เพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย ร่างในเครื่องแบบเดินไปยังปืนที่ตั้งศูนย์เล็งไปยังขั้วหัวใจพอดี

     

                    ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวด้านหลังเด็กหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นฉากกลั้นแน่นอน ตนไม่สามารถหันไปมองแหตุการณ์ด้านหลังได้เพราะถูกผูกตาเอาไว้ ได้ยินเพียงเสียงนับถอยหลังเมื่อสิ้นเสียงนับถอยหลังเมื่อใดนั่นถือว่าชีวิตตนได้จบลงแล้วเช่นกัน

     

                    หากชาติหน้ามีจริง ขอให้ผมได้เป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่อีกนะครับ เด็กหนุ่มพูดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เสียงลั่นไกจะดังขึ้นและสติก็ดับวูบไป

     

                    ปังงงง!!


     

     

     

    ๑๐๐%




    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    รีดอย่าว่าไรท์นะ ที่เปิดเรื่องใหม่อีกละ
    พอดีไรท์คิดพล็อตไรก็ลงนิยายเลยฮ่าๆ
    เรื่องเก่ายังไม่จบเนี่ยนะ คึคึ เอาน่าไรท์
    ไม่ทิ้งหรอกจะทยอยอัพอ่ะ ถ้าเรื่องไหน
    ไม่เวิร์คไรท์ก็ลบมิ้งเเค่นั้น เเต่ที่เเน่ๆ
    มีเวิร์คละเรื่องหนึ่ง เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

    1 เม้น= 1 กำลังใจ


    HaMs_TeR

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×